หืม?ไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงเร็วอย่างนี้ คิดว่ามันจะมาที่นี่หลังจากเทพอสูรเนตรม่วงกลับเสียอีก!
อสูรจันทร์ผ่องพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อมองเมฆาอสูรที่อยู่ไม่ไกล
อสูรจันทร์ผ่องคือหนึ่งในคนที่เขาเรียกมา
เมฆาอสูรกล่าว
เพราะเจ้าเรื่องตอนนี้ถึงได้ยุ่งยากนัก!
พลังของอสูรจันทร์ผ่องนั้นค่อนข้างสูงเป็นรองเพียงเมฆาอสูรในแดนจิงหยูเท่านั้น ดังนั้นจึงสามารถทำให้เทพอีกสามคนมาร่วมแผนการได้
เมฆาอสูรกำลังคิดถึงแผนที่อสูรจันทร์ผ่องบอก
หึหึ!แผนข้าก็เพื่อเราทุกคน! หากกระโตกกระตากเกินไป เราจะมีปัญหากับตระกูลราชวงศ์!
อสูรจันทร์ผ่องมิได้หงุดหงิดคำพูดเมฆาอสูรเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมฆาอสูรไม่ตอบอะไร
อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กันเลย!อีกสามวันจะถึงกำหนดรวมตัวที่นี่ แต่มันมาถึงก่อน เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกรึ?
อสูรอาทิตย์ส่องถาม
เทพคนอื่นเงียบไป
ถ้าพวกเขาถูกเชิญมาเช่นนี้พวกเชาย่อมเตรียมตัวมาเต็มที่ก่อนที่จะเดินทาง
แม้กระนั้นกลับดูเหมือนซือหยูมาถึงเมืองเมฆาอสูรล่วงหน้าเขากำลังตั้งหน้าตั้งตารอวันกำหนด
เมฆาอสูรพูดช้าๆ
ข้าได้ยินว่าชายคนนี้เจ้าเล่ห์เจ้าอุบายหากมาที่เมืองข้าล่วงหน้า เราก็ต้องระวังตัวจากมันเอาไว้ด้วย! อสูรจันทร์ผ่องเห็นด้วย
ใช่!ข้าเห็นการต่อสู้เมื่อเดือนก่อน มันเจ้าเล่ห์มาก! ข้าว่าเราส่งคนไปแอบสืบจะดีกว่า อย่างแรกคือต้องรู้ให้ได้ว่ามันมาทำอะไรที่เมืองนี้!
เมืองนี้เป็นของเมฆาอสูรจึงง่ายที่จะจับตาดูซือหยู
เมื่อวันแรกผ่านไปสายลับกลับมารายงาน
มันไปที่ไหน?มันเจอใคร? มันพูดอะไรบ้าง?
เมฆาอสูรถาม
สายลับตอบ
มันไปที่ชมจุดที่งดงามในเมืองเมฆาอสูรมันไม่ได้พบหรือพูดคุยกับใครเลย!
ชมทิวทัศน์งั้นรึ?เหล่าเทพตกใจกับรายงาน พวกเขาไม่คิดว่าซือหยูจะไปชมวิวในเมืองเมฆาอสูรโดยไม่กังวลความปลอดภัยของตัวเอง ข้าไม่คิดว่าเจ้าเมืองชมทะเลจะกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้!
เทพคนหนึ่งอุทาน
สอดส่องมันต่อไป!
เมฆาอสูรขมวดคิ้ว
ถ้าซือหยูกำลังระวังตัวในทุกฝีก้าวเมฆาอสูรก็คงไม่ระแวงนัก แต่ท่าทีไร้กังวลของซือหยูในตอนนี้ทำให้เขาสับสนโดยแท้
เมื่อวันที่สองผ่านไปสายลับกลับมารายงานอีกครั้ง
วันนี้มันทำอะไร?
เมฆาอสูรถาม
มันไปตระเวนกินตามร้านอาหารใหญ่ที่เมืองเรา!
เหล่าเทพพากันคิดหนักพวกเขาไม่คิดว่าซือหยูจะสงบได้ในเวลานี้
เทพทุกคนเริ่มระแวงเจ้าเมืองชมทะเลกำลังจะทำอะไรกันแน่? จับตาดูมันต่อไป…
เมฆาอสูรกล่าวด้วยความใจเย็น
เมื่อวันที่สามผ่านไปสายลับกลับมารายงานอีกครั้ง
นายท่านวันนี้มันไปที่โรงโสเภณีกลิ่นน้ำหอม มันเล่นสนุกกับโสเภณีหลายคน มันไม่ได้ไปที่อื่นเลย
เทพทุกคนเงียบกริบเมื่อได้ฟังคำตอบ
ซือหยูชมวิวทิวทัศน์ในวันแรกวันที่สองเขารื่นรมย์ตามร้นอาหาร ส่วนวันที่สามก็ไปเล่นสนุกกับโสเภณี!
มันไม่รู้ตัวเองเลยรึไง?หรือมันไม่สนใจอะไรเลย?
มันสบายใจยิ่งนัก!หรือว่ามันมีคนคอยพึ่งพาอยู่?
อสูรจันทร์ผ่องถามด้วยความระมัดระวัง
เทพอื่นยิ่งระแวง
เป็นไปได้สูงมากมิเช่นนั้นมันคงจะไม่ไร้กังวลเช่นนี้!
อย่าลืมว่าองค์หญิงเก้าอยู่ในมือมันหรือว่าถ้าองค์หญิงเก้านำกำลังเสริมมาจากตระกูลราชวงศ์เล่า?
เหล่าเทพเริ่มหมดกำลังใจ
ฮื่ม!เจ้ามันตาขาว!
เมฆาอสูรถอนหายใจแรง
เจ้านั่นก็แค่คนธรรมดา!มันจะได้กำลังเสริมจากตระกูลราชวงศ์ได้ยังไง? แล้วองค์หญิงเก้าที่ยังปกป้องตัวเองไม่ได้จะพากำลังเสริมมาให้เจ้าเมืองชมทะเลได้เรอะ?
ถูกแล้ว!เมฆาอสูรพูดถูก! พรุ่งนี้จะเป็นวันนัดหมาย เราจะได้รู้ว่ามันเอาความมั่นใจมาจากไหน!
วันต่อมาการประชุมที่จะตัดสินอนาคตแดนจิงหยูได้ถูกจัดขึ้นอย่างลับ ๆ ในตำหนักเมฆาอสูร
เทพเจ็ดคนอยู่ด้านในตำหนักด้านหลังยังมีอสูรอายุน้อยที่เป็นเลือดผสมอยู่ด้วยหนึ่งคน จะเริ่มหารือกันแล้วรับเจ้าเมืองชมทะเลเข้าห้องรับรอง!
เมฆาอสูรสั่งขณะที่เทพคนอื่นนิ่งเงียบ
อสูรจันทร์ผ่องตอบด้วยรอยยิ้ม
ถึงเวลาที่เราจะต้องไปที่นั่นแล้วไม่ใช่รึ?
ใยรีบร้อนนัก?
เมฆาอสูรพูดอย่างไร้อารมณ์
เราล้วนเป็นเทพที่มีเกียรติสูงส่งอสูรขนนกไร้หัวนอนปลายเท้าย่อมไม่เหมือนกับพวกเรา! ปล่อยให้มันรอไปก่อน แล้วมันจะเสียกำลังใจได้หากเราปล่อยให้มันรออย่างนี้ มันจะทำให้เราได้เปรียบ!
อสูรจันทร์ผ่องไม่ปฏิเสธเพราะคิดว่ามันมีเหตุผล
คนของเมฆาอสูรไปยังโรงโสเภณีกลิ่นน้ำหอมและขอไปยังห้องที่ซือหยูพักอยู่พวกเขาคิดว่าซือหยูกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่ แต่ซือหยูกลับตื่นขึ้นและดูรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา เขากำลังสวมชุดขาวจิบชาอย่างสบายใจ ซือหยูถามโดยไม่หันกลับไปมอง
จะเริ่มประชุมแล้วสินะ?
คนของเมฆาอสูรแปลกใจดูเหมือนว่าซือหยูจะรู้ตัวว่าเขาถูกจับตาดูในสามวันที่ผ่านมา
เรามาที่นี่เพื่อพาท่านไปตำหนักเจ้าเมือง!
ข้าไม่ไปบอกพวกมันว่าข้าอยากคุยกันที่นี่!
ซือหยูตอบด้วยความใจเย็น
อ๊ะ!คนของเมฆาอสูรงงุนงง
แต่งานประชุมจุดที่ตำหนักท่านเมฆาอสูรซึ่งเทพทั้งเจ็ดตกลงว่าจะไปที่นั่น!
ซือหยูเหลือบมองเขาและพูด
อย่างที่เจ้าพูดสถานที่ถูกยอมรับโดยเทพทั้งเจ็ด แต่ไม่ได้มีการถามความเห็นข้า! ข้าคิดว่าที่นี่เหมาะสมทีเดียว แต่…
คนของเมฆาอสูรพูดไม่ออกซือหยูนั้นเทียบกับเทพทั้งเจ็ดไม่ได้เลย! เขาไม่ควรจะปริปากต่อหน้าเทพทั้งเจ็ดด้วยซ้ำ
ไม่มีแต่!ข้าจะอยู่ที่นี่ชั่วยามเดียวเท่านั้น หากพวกมันไม่มาที่นี่ ข้าจะกลับเมือง!
ซือหยูพูดตัดบท
คนของเมฆาอสูรงุนงงและแอบก่นด่าในใจเจ้าเมืองชมทะเลเป็นคนโง่งั้นรึ? เขาไม่รู้จักชะโงกดูเงาตัวเองเลย เทพทั้งเจ็ดจะเห็นด้วยกับเขาได้ยังไง?
คนของเมฆาอสูรทำอะไรไม่ได้นอกจากกลับไปที่ตำหนักเมฆาอสูรด้วยความแค้นใจ
เทพทั้งเจ็ดยังไม่ไปที่ห้องรับรองเมื่อเห็นคนของเมฆาอสูรกลับมาพวกเขาก็คิดว่าซือหยูมาถึงแล้ว
เมฆาอสูรกล่าวด้วยความเหยียดหยาม
ไม่ต้องรีบ!อยู่ที่นี่กันก่อน! หารือเรื่องการต่อรองกับมัน เราจะได้เปรียบในระหว่างประชุม!
ท่านเจ้าเมืองเจ้าเมืองชมทะเล…
เมฆาอสูรโบกมือ
อืม!ข้ารู้! เจ้าออกไปได้แล้ว!
เหงื่อเย็นไหลออกจากหน้าผากคนของเขาเขาพูดอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
นายท่านเจ้าเมืองชมทะเล…
เมฆาอสูรหงุดหงิดและจ้องกลับด้วยความโมโห
ทำไมถึงชักช้านัก?ที่นี่มีเทพถึงเจ็ดคน! ใยเจ้าหยาบคายเช่นนี้?
เขารู้ดีว่าเมฆาอสูรจะอารมณ์เสียถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อไปแต่เขาก็รู้เช่นกันว่าเมฆาอสูรจะลงโทษเขาอย่างหนักถ้าหากเขาไม่บอกเรื่องที่ซือหยูพูดกับเทพทุกคนที่เหลือฃ
เจ้าเมืองชมทะเลปฏิเสธที่จะมาที่นี่!มันบอกให้ท่านและทุกคนที่เหลือไปหาที่โรงโสเภณีนั่น มันจะรอหนึ่งชั่วยาม แล้วมันก็จะกลับไป! เพื่อที่จะไม่ถูกขัดคนของเมฆาอสูรต้องพูดในลมหายใจเดียว
ทั้งห้องเงียบราวกับป่าช้า
เหล่าเทพมองหน้ากันด้วยความตกใจพวกเขาคิดว่าตัวเองหูฝาด
พวกเขาคิดจะทำให้ซือหยูประหม่าโดยการทิ้งให้ซือหยูรออยู่สักระยะแต่พวกเขาไม่คิดว่าซือหยูจะเปลี่ยนที่นัดพบและขอให้พวกเขาไปหาแทน
และพวกเขายังมีเวลาแค่ชั่วยามเดียว
ใครๆ ก็คิดได้ว่าซือหยูเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาคือคนสามัญที่น่าเวทนา
เทพทั้งเจ็ดตกตะลึงจนพูดไม่ออกเมฆาอสูรตะโกนด้วยโทสะ
บังอาจ!
คนของเขาคุกเข่าลงกับพื้นขอความเมตตา
ทุกคำที่ข้าพูดเหมือนกับเจ้าเมืองชมทะเลทุกประการ! เมฆาอสูรพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว
ทำไมเจ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้?
คนของเขาแอบคิดก็ท่านหยุดข้าไม่ให้รายงานยังไงล่ะ!
บอกมันว่ามันจะต้องเสียใจถ้าไม่มาที่นี่ภายในสิบห้านาที!
เมฆาอสูรไม่ชอบเรื่องนี้แม้แต่น้อยเขาตะโกนด้วยความดุร้าย ความอวดดีของซือหยูเกินกว่าจะชั่งตวง
ในตอนนั้นเองมีคนยืนขึ้นและกล่าว
นายเทพข้าไปที่นั่นเองจะได้หรือไม่? ข้าอยากจะเห็นว่าใครที่มาแทนที่พ่อของข้า!
เหล่าเทพมองเขาครู่หนึ่งพวกเขาตกลง
ก็ได้!ลี่หยิง เจ้าไปบอกให้มันมาที่นี่! พวกเราคือเจ้าดินแดน เป็นไปไม่ได้ที่จะไปหามัน!
ตามปรารถนา!
ลี่หยิงยิ้มอย่างมีเลศนัย อสูรจันทร์ผ่องขมวดคิ้ว
หากเจ้าคิดจะใช้กำลังก็ออมแรงด้วยล่ะอย่าให้มันอับอายมากนัก!
ตามปรารถนา!
ลี่หยิงพูดซ้ำ
เมื่อออกจากห้องลี่หยิงยิ้มอย่างเยือกเย็น
ฮื่ม!ตำแหน่งเจ้าเมืองชมทะเลเป็นของข้า! อสูรขนนกมันเป็นใคร! กล้าดียังไงมาชิงสิ่งที่เป็นของข้า? ฮื่ม!
หลังจากถึงโรงโสเภณีลี่หยิงเดินไปยังห้องของซือหยูช้า ๆ
เขาเตะประตูมองเข้ามาในห้อง
อสูรผมสีเงินทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาจิบชาพลางพูดด้วยความใจเย็น
เจ้าเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วยามเท่านั้น!
เหล่าเทพไม่ได้มาเขารู้ว่าคนที่มาจะต้องเป็นคนของเมฆาอสูรอีกคน
เจ้ามันอวดดี!กล้าดียังไงให้เทพมาพบเจ้า?
ลี่หยิงเดินมือไพล่หลังเข้าห้องเขาหยุดที่ด้านหลังซือหยู
เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกอวดดีมักจะตายก่อนวัยอันควร?
ซือหยูหันไปมองจากนั้นจึงหันหลังกลับและพูดด้วยความเย็นชา
กลับไปบอกพวกมันว่าเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วยามเท่านั้นเดี๋ยวข้าจะไปแล้ว!
ฮื่ม!ฮื่ม! เก็บความอวดดีของเจ้าไปแล้วไปกับข้า! มิเช่นนั้นคนของเจ้าก็ไม่รอด!
ลี่หยิงจ้องซือหยูอย่างเยือกเย็น
เขาพยายามจะทำให้ซือหยูไม่พอใจหากซือหยูกล้าจู่โจมเขา เขาจะใช้โอกาสนี้เอาชนะซือหยู!
นี่จะเป็นก้าวแรกในการชิงตำแหน่งเจ้าเมืองชมทะเลกลับมาเขาจะพิสูจน์ตัวเองได้ว่าแข็งแกร่งกว่าซือหยู
ซือหยูตอบด้วยความใจเย็น พวกมันไร้ประโยชน์เพราะว่าพวกมันยอมแพ้เจ้าเสียง่ายๆ เจ้ากำจัดพวกมันไปเถอะ!
ลี่หยิงตะคอก
เจ้าดูถูกข้าเรอะ!หึหึ! สุนัขทุกตัวย่อมมีวันของมัน! เจ้าลืมแล้วสินะว่าเจ้ามาจากที่ใด!