สัตว์อสูรอ้าปากกว้างและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เทพตำราเคลื่อนไหวพร้อมกันเขาบุกมาพร้อมกับสัตว์อสูร
เมื่อเทพสองคนจู่โจมพร้อมกันต่อให้มีภูเขาห้าธาตุสองลูกเทพปีศาจก็มิอาจปกป้องตัวเองได้
ซือหยูถอนหายใจอย่างหมดหวัง
ไม่มีทางอื่นแล้วข้าต้องเปิดมันอีกครั้ง!
ที่ระหว่างคิ้วของซือหยูเริ่มกระตุกราวกับมีอะไรอยู่ภายในจากนั้นก็เกิดรอยแยกดำสนิท ลูกตาสีเงินปรากฏออกมา
มันเป็นดวงตาอันดุร้ายและหิวกระหาย
เนตรนั้นดูเก่าแก่มันราวกับเป็นของสัตว์โบราณ
เมื่อเนตรเปิดออกทุกสิ่งในเมืองชมทะเลตัวสั่นด้วยความกลัวและตกใจราวกับตกเป็นเหยื่อของบางอย่างที่ชั่วร้าย
แม้แต่เหล่าเทพที่มองดูการต่อสู้อยู่ก็มิอาจรักษาพลังของตัวเองไว้ได้เขาเกือบจะเปิดเผยตัวออกมาอยู่แล้ว
สัตว์อสูรของเทพตำรานั้นมิอาจเทียบกับเนตรดวงนี้ได้เลย!
สัตว์อสูรที่กระโจนเข้ามาด้วยความหิวกระหายหยุดนิ่งเมื่อเนตรนี้เปิดออกมันหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้
เทพตำราผงะ
เนตรเทาเทียกึ่งโตเต็มที่ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วหนึ่งครั้งรึ?
เทาเทียเป็นตำนานเก่าแก่ที่ทุกคนรู้อยู่ในใจถึงความน่ากลัวของมัน
ซือหยูเงียบเนตรเทาเทียเปิดออกแล้ว เนตรสีเงินมีวายุจุดดำขนาดเล็กที่ตรงกลาง ภายในวายุนั้นไร้ที่สิ้นสุด มันเงียบไร้เสียง
พลังดูดกลืนอันยิ่งใหญ่แผ่ออกมาจากวายุนั้นปกคลุมเทพตำราและสัตว์อสูรระดับเทพเอาไว้
ภายใต้พลังดูดกลืนนี้พลังเทพทั้งหมดไร้ผล มันถูกฉุดรั้งเข้าไปช้า ๆ โดยพลังอันยิ่งใหญ่
หากเป็นเนตรเทาเทียที่เติบโตแล้วมันจะกลืนกินทุกสิ่งตรงหน้าเข้าไปโดยตรงแทนที่จะดูดเข้าไปช้า ๆ
เทพปีศาจ!
ซือหยูตะโกนเทพปีศาจพุ่งไปที่ด้านหลังเทพตำราในพริบตาพร้อมกับภูเขาห้าธาตุในมือ ภูเขาขยายขนาดไม่หยุดจนถึงพันศอกและกำลังจะซัดเทพตำรา
พลังนี้มากพอที่จะทำลายกายาเทพของเทพตำราเมื่อพลังเทพทั้งหมดไร้ผล
เทพตำราขบริมฝีปากกัดลิ้นอีกครั้งงเขาพ่นโลหิตเทพออกมาอีกสองร้อยหยด
เมื่อโลหิตเทพสัมผัสร่างสัตว์อสูรมันได้รวมตัวกันเป็นโซ่ทองคำ
โซ่ดึงร่างสัตว์อสูรเทพขนาดมหึมาออกมาขวางระหว่างภูเขาห้าธาตุ
ปั้ง!
สัตว์อสูรเทพปะทะกับภูเขาห้าธาตุจนร่างแตกสลาย!
ดวงวิญญาณที่หนีออกมามิอาจต้านทานแรงดูดของเนตรเทาเทียได้มันถูกกลืนกินเข้าไปในเสี้ยววินาที
เมื่อกลืนกินดวงวิญญาณเทพจนอิ่มหนำเนตรเทาเทียหลับไปอีกครั้ง
เทพตำราใช้โอกาสนี้เรียกพลังเทพออกมาเขาอดทนความเจ็บปวดที้ใช้โลหิตไปมากมายพุ่งเข้าใส่ซือหยู
เทพปีศาจต้องช่วยไม่เหลือเวลาให้คิดแล้ว
บัดซบ!
เทพตำราร้องคำรามอย่างไม่สมกับเป็นเขาเขาใช้โลหิตไปสามในสิบแล้ว ต้องใช้เวลาอย่างน้อยร้อยปีในการฟื้นคืนโลหิตกลับมาและยังต้องกดพลังของเทพกาลกิณีเอาไว้อีก เทพตำราไม่คิดจะจับซือหยูทั้งเป็นอีกแล้ววันนี้เขาจะต้องฆ่าซือหยูให้ได้
คลื่นพลังเทพเปล่งประกายหนึ่งพุ่งเข้ามาในขณะที่ซือหยูกำลังจะถูกจับตัว
พลังเทพอันแข็งแกร่งนี้หล่นมาจากสวรรค์และระเบิดร่างเทพตำรา
เทพตำราไม่ต่างจากศรหมดแรงเคลื่อนเขาจะทนรับพลังเต็มที่จากเทพได้ยังไง?
ฉั่วะ!
ร่างเทพตำราล้มลงกับพื้นโลหิตเทพกระจายจนทั่ว
เขาเงยหน้า
เทพอสูรเนตรม่วง!เจ้า…
เทพอสูรเนตรม่วงบินมาที่ข้างซือหยู
ข้ากลับมาแล้วอสูรขนนกพูดถูก เจ้าคิดดึงตัวข้าออกไป แต่เจ้าไม่ได้คิดจะทำอะไรที่เมืองเนตรม่วง
หากข้ากลับเมืองไปจริงเจ้าจะลงมือ ข้าก็เลยกลับมาหลังจากที่เจ้าลงมือ
ทุกการกระทำของเจ้าอยู่ในการคาดการณ์ของอสูรขนนก…
เทพอสูรเนตรม่วงเหลือบมองซือหยูและแอบตัวสั่น
‘ชายคนนี้คืออัจฉริยะตัวจริงแห่งมนุษยชาติ’
แม้จะไม่มีพลังมองทุกสิ่งได้ทะลุปรุโปร่งเช่นเขาปัญญาของซือหยูก็น่ากลัวและมิอาจมีใครเทียบ
เทพตำราหน้าดำมืดราวกับวารีลึกเมื่อถูกหลอกอีกครั้งเขาถูกซือหยูหลอกอีกครั้งได้ยังไง?!
แต่เทพตำราก็เด็ดขาดมากเขาคิดบางอย่างที่ชั่วร้าย มันแสดงออกผ่านแววตา เขาเรียก ‘บันทึกธารดารา’ ออกมาอีกครั้ง
ทันทีที่เห็นตำราเทพอสูรเนตรม่วงใช้พลังเทพชิงตำราออกมาจากมือของเทพตำราในทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เขาปลดปล่อยสัตว์อสูรเทพออกมาอีก
เทพตำราถอนหายใจแรงด้วยความเย็นชาและก้าวพริบตาหนีไปในเวลาเดียวกัน
แต่ทันทีที่เขาจะหนีเทพปีศาจก็จู่โจมเข้ามาจากด้านหลังอีกครั้งด้วยภูเขาห้าธาตุ เทพตำราถูกบังคับให้หลบและมิอาจใช้บันทึกธารดาราได้
เทพอสูรเนตรม่วงจู่โจมเต็มกำลังกับเทพปีศาจเพื่อพันธนาการไม่ให้เทพตำราได้มีทางหนี
เทพอสูรเนตรม่วงนั้นแข็งแกร่งและมีพลังพอจะสังหารเทพตำราเทพตำราถูกจู่โจมสามครั้งและบาดเจ็บหนัก เหลือเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้นก่อนที่เขาจะแตกดับ
เทพตำราโกรธถึงขีดสุดหากเป็นเช่นนี้ การจับตัวซือหยูก็เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เขาได้แต่รอโอกาสหน้า!
เทพตำราจะก้าวพริบตาหนี
แต่พริบตาเดียวกิเลนทมิฬที่ขนาดเท่าภูเขาพันศอกก็ได้ปรากฏตัว มันกระทืบเท้าอย่างแรง เทพตำรามิอาจก้าวพริบตาหนีได้!
ปั้ง!
เทพตำรากระอักโลหิตเทพเมื่อหันไปมองเขาก็เบิกตากว้าง
นี่เจ้า…เทพกิเลนแห่งจิวโจวในอดีตรึ?เจ้าฟื้นพลังแล้ว…ถึงกับสร้างกายาเทพคืนมาได้!
กายหยาบของเทพกิเลนถูกเก็บเอาไว้ในหอคอยร้อยชั้นมาโดยตลอดไม่เหมือนกับเทพปีศาจที่เสียกายหยาบไปทั้งร่าง
ซือหยูให้จิตวิญญาณเทพกับเทพกิเลนอย่างสม่ำเสมอเขาได้ฟื้นพลังมาเป็นว่าที่เทพขั้นกลางซึ่งมากพอที่จะควบคุมกายาเทพในอดีตของตนเองได้ แม้จะพลังน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่มันก็แข็งแกร่งพอ ๆ กับเทพปีศาจ
หลังเทพกิเลนกระทืบเท้าเทพตำราร่างอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม เขากำลังจะตาย
เทพอสูรเนตรม่วงเทพปีศาจ และเทพกิเลนรวมพลังสามประสานปิดทางหนีของเทพตำรา
นี่คือแผนไม้ตายของซือหยู
ครั้งนี้เทพตำราจะต้องจ่ายด้วยชีวิต
พ่ายแพ้หมดรูปเช่นนี้…ไม่เหมือนกับที่โลกเสี้ยววิญญาณหรอกรึ?
แม้กระนั้นเทพตำราก็ยังคงสีหน้าเย็นชาเอาไว้
ซือหยูเจ้าคิดว่าเจ้าชนะงั้นรึ? ข้าประมาทในครานี้ แต่เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอนในคราวหน้า!
เมฆาอสูรเจ้ารออะไรอยู่?
ตู้ม!
จากสรวงสวรรค์เบื้องบนพลังเทพอันน่าสะพรึงกลัวบังเกิดขึ้น พลังอันยิ่งใหญ่นี้เทียบได้กับเทพพ่อค้าผู้เป็นเทพอันดับสองแห่งพันธมิตรบูรพา
พลังเทพเกิดเป็นวายุรุนแรงพัดพาเทพอสูรเนตรม่วงเทพปีศาจ และเทพกิเลนที่กำลังจะปิดทางหนีของเทพตำรา
ซือหยูแววตาเยือกเย็น
คิดจะหนีรึ?
ดวงตาของเขาเปล่งแสงสามสีออกมาพร้อมกันมันคือแสงแทนพลังเวลา มิติ และดวงวิญญาณ มันสร้างมิติเอกเทศขึ้นมาขังเทพตำราเอาไว้
เทพตำราที่กำลังจะหนีเมื่อมีวายุมาช่วยถูกกักขังอีกครั้ง
เทพอศูรเนตรม่วงและเทพอีกสองคนกลับมาได้สติและร่วมมือจู่โจมพร้อมกัน!
ฮื่ม!
เสียงอันเยือกเย็นดังมาจากสวรรค์เบื้องบน