The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1292 – ตระกูลกงซุน

ตอนที่ 1292 - ตระกูลกงซุน

ตอนที่ 1292 – ตระกูลกงซุน

   ไม่นะ!ข้าไม่อยากอยู่ใกล้ไฟ ข้าไม่อยากโดนย่าง! อย่าทำข้า! 

   ถ้าอย่างนั้นเจ้าอยากโดนข้ากินแบบไหนกัน? 

   โอ้ยข้าไม่อยากโดยกิน ปล่อยข้าไปเถอะนะ! 

   อืม…ไม่ใช่ว่าปล่อยเจ้าไปไม่ได้แต่ข้าอยากจะชิมสักคำ 

   ไม่กินข้าเลยไม่ได้เรอะ? 

   ไม่ได้! 

   ก็ได้…ก็ได้อยากกินข้าตรงไหนล่ะ? 

  กงซุนหวูซื่อยังคงไม่กล้ามองซือหยูนางเอาแขนปิดอกแบนราบโดยไม่รู้ตัว

   เจ้ากินตรงนี้ไม่ได้ตรงนี้ไม่มีอะไรให้กิน ถ้าเจ้ากินไป มันจะไม่โตขึ้นอีกแล้ว 

  ซือหยูแอบหัวเราะในใจต่อให้เขาไม่กินมันก็คงจะไม่ใหญ่ขึ้นมากนักใช่ไหม?

   แล้วถ้าข้ากินนิ้วเจ้าสักนิ้วล่ะ? 

   ได้…ได้แต่แค่นิ้วเดียวนะ อย่างที่เจ้าพูดนั่นแหละ แค่นิ้วเดียว! 

  กงซุนหวูซื่อยื่นนิ้วชี้ออกมาทั้งที่ตัวยังสั่นแต่นางก็เปลี่ยนใจและยกนิ้วก้อยออกมาแทน

   กินนี่ซะ 

  ซือหยูแอบหัวเราะเขาก้มหน้า วางริมฝีปากที่นิ้วก้อยนาง และอ้าปากจะกัด

   อ๊าาา!!!เจ็บ! มันเจ็บนะ! 

  กงซุนหวูซื่อกรีดร้องออกมาทันทีน้ำตาไหลพรั่งพรู นางกรีดร้องเสียงดังลั่น

  ซือหยูหยุดกัดและอดหัวเราะออกมาไม่ได้

   ข้ายังไม่ได้เริ่มกินเจ้าด้วยซ้ำเจ้ากลัวขนาดนี้เลยหรือ? หวูซื่อ ถ้าข้ากัดเจ้าจริง ๆ มันจะเจ็บขนาดที่เจ้าร้องออกมาเลยรึ? 

  กงซุนหวูซื่อที่ดิ้นรนจากความเจ็บปวดที่ยังมาไม่ถึงถามกลับทันควัน

   เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?เจ้ารู้ชื่อข้าได้ยังไง? 

  นางจำไม่ได้ว่าบอกชื่อกับเจ้าอสูรนี่

  แล้วทำไมเสียงของอสูรคนนี้ถึงคุ้นนัก?และน้ำเสียงยังทุ้มต่ำกว่าที่เคยได้ยิน มันเป็นน้ำเสียงที่จงใจปลอมขึ้นมา…

  ดวงตาที่ปิดแน่นค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยความกลัว นางกลัวว่าอีกฝ่ายจะกัดนิ้วนาง

  ในช่องว่างระหว่างเปลือกตานางได้เห็นจมูก ปาก และโครงหน้าของอีกฝ่ายที่ไม่ชัดเจนนัก

   ข้าคุ้นหน้าเจ้า 

  กงซุนหวูซื่อลืมตากว้างขึ้นอีกเล็กน้อยสุดท้ายเมื่อเห็นทั้งใบหน้า นางก็จ้องมองแววตาของซือหยู

   อ๊ะ!เจ้าคือ…เจ้าคือ… 

  นางตกตะลึงจนพูดไม่ออกนางพยายามจะอ้าปากเรียกชื่อซือหยู

  แม้กระนั้นนางก็เปล่งคำว่าซือหยูออกมาไม่ได้เสียงกลายเป็นเสียงสะอื้นในลำคอ นางกลืนคำพูดลงคอไปและร้องออกมาจริง ๆ

  ซือหยูอารมณ์ดีเขาลูบหลังนางช้า ๆ ให้นางใจเย็นลง

  กงซุนหวูซื่อร้องไห้อยู่นานพอหยุดร้องก็มองซือหยูด้วยความโมโห นางอ้าปากเล็ก ๆ กัดไหล่ซือหยูอย่างแรง

   กล้าดียังไงมาขู่ข้ากล้าดียังไงมาขู่ข้า! ข้าจะกัดเจ้าด้วย! 

  งั่ม!

  ซือหยูผลักนางออกนางทิ้งรอยฟันไว้ที่ไหล่ของเขา

   นี่เจ้าถึงกับกัดข้าเลยรึ! 

   ใครใช้ให้เจ้ามาแกล้งข้ากันเล่า! 

  กงซุนหวูซื่อสวนกลับนางหน้าแดงเมื่อคิดถึงการแสดงของซือหยูเมื่อครู่ นางอยากขุดหลุมไปซ่อนตัวเสียให้ได้  มันน่าอายเหลือเกิน!

   เจ้าสองคนเล่นจูบกันแบบนั้นมันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วหรือ? 

  องค์หญิงสองพูดแทรก

  กงซุนหวูซื่อมองรอบๆ ด้วยใบหน้าซีด

   ทุกคนที่นี่เป็นอสูรหมดเลย!ซือหยู ทำไมพวกมันไม่กินเจ้าล่ะ? 

  องค์หญิงสองจ้องนาง

   เจ้าเห็นอสูรเป็นตัวอะไรกัน? 

  อสูรในแดนอสูรกับธารดาราต่างกันไม่มากนัก

  พวกที่กินสิ่งอื่นยเป็นอาหารจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดรับใช้ศาลอสูร

  เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของกงซุนหวูซื่อองค์หญิงสองพูด

   สบายใจได้พวกข้าไม่กินเจ้าหรอก! พวกข้าต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ซือหยูไม่กินพวกข้า แล้วพวกข้าจะกินเจ้าไปทำไม?    กงซุนหวูซื่อเบิกตากว้าง

   อ๊ะ!ซือหยู เจ้ากินคน…เจ้ากินอสูรรึ! 

  ซือหยูที่หมดทางแก้ตัวใช้มือขวาทาบอกเรียกเลือดอสูรออกมาจากร่างการแปลงกายเป็นอสูรค่อย ๆ หายไป เขากลับมาเป็นเหมือนเผ่ามนุษย์อย่างรวดเร็ว

   อสูรพวกนี้คือคนของข้า 

  กงซุนหวูซื่อชี้องค์หญิงหก

   นางด้วยรึ?นางไม่น่าจะใช่เซียนนะ? 

   เซียน…อืมนางไม่นับน่ะ 

  ซือหยูไม่รู้จะตอบอย่างไร

   แล้วนางล่ะ?นางก็ไม่ใช่เซียนเหมือนกันไม่ใช่รึ? 

  กงซุนหวูซื่อชี้องค์หญิงสอง

   ไม่ใช่ 

   แล้วเขาล่ะ? 

   แล้วทุกคนล่ะ? 

   ไม่ใช่หรอก…    ซือหยูตอบ

  กงซุนหวูซื่อลุกขึ้นนางเชิดคอราวกับนกยูง

   นี่มันอะไรกัน?เจ้าทำข้ากลัวแทบแย่! ทุกคนที่นี่เป็นแค่อสูรตัวจ้อย! ไม่มีใครเป็นเซียนด้วยซ้ำ! 

  กงซุนหวูซื่อสะบัดกำปั้นนางแสดงพลังเซียนออกมา

   เจ้าเห็นหรือไม่?เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร? มันคือพลังแห่งเซียนยังไงล่ะ ข้าบดขยี้เจ้าทุกคนเป็นผุยผงได้ไม่ยาก! 

  เหล่าเทพรวมถึงองค์หญิงหกได้แต่กลั้นหัวเราะ

  เพราะพวกนางไม่เหมือนเทพอื่นที่ปลดปล่อยแสงเทพออกมาตลอดเวลา

  กงซุนหวูซื่อไม่คิดว่าเหล่าอสูรจะเป็นเทพเพราะสิ่งที่ตาเห็นนางจึงคิดว่าอสูรเหล่านี้เป็นกลุ่มไร้พลังในโลกอสูร

   ฮื่ม!กล้าดียังไงมาหัวเราะเยาะข้า? พวกอสูรไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! 

  กงซุนหวูซื่อยิ้มแยกเขี้ยว

  แต่ท่าขู่ของนางกลับทำให้เหล่าอสูรหัวเราะมากขึ้น

   เอาเถอะรีบไปพันธมิตรประจิมกันดีกว่า 

  ซือหยูเองก็หัวเราะแต่เขารู้ว่ากงซุนหวูซื่อไม่ได้คิดร้าย

  เหล่าเทพแยกย้ายกลับไปจัดการภาระของตัวเอง

   นี่พวกเจ้าควรจะรู้สึกโชคดีที่พี่ซือหยูช่วยชีวิตพวกเจ้า 

  กงซุนหวูซื่อพูดราวกับนางอยู่ในตำแหน่งสูง

  ซือหยูมองนาง

   เจ้าบ่มเพาะรวดเร็วจนเป็นเซียนแล้วสมุนไพรอมตะในร่างเจ้าเสียพลังไปแล้วหรือยังล่ะ?    กงซุนหวูซื่อใบหน้าขมขื่นนางชี้ร่างตัวเองที่ยังคงเป็นเด็กสาว

   เจ้าคิดว่ามันหายแล้วรึไง? 

   ดูเหมือนจะไม่นะ 

  ซือหยูตอบ

  กงซุนหวูซื่อเศร้าใจอย่างหนัก

   ไม้เท้าเซียนมณีที่พีซือหยูให้ข้ามาล้างพลังสมุนไพรออกไปส่วนหนึ่งข้าจึงไม่เป็นภูติระดับเก้าอีกแล้ว พอท่านพ่อชี้แนะการบ่มเพาะให้ข้า ข้าก็บ่มเพาะจนกลายเป็นเซียนได้ แต่ก็ไม่มีอย่างอื่นที่ดีขึ้นเลย 

  ซือหยูเข้าใจนางเขาคิดถึงเรื่องของนางอีกครั้ง

   อืมแล้วเจ้ามาเป็นนักโทษประหารได้ยังไง? พ่อเจ้าล่ะ? 

  ซือหยูไม่คิดเลยว่าเมื่อถามออกไปใบหน้าเล็ก ๆ ของกงซุนหวูซื่อจะปวดร้าว แววตาเต็มไปด้วยหมอกวารี ไม่นานก็กลั่นเป็นน้ำตา  นางโผเข้าสู่อ้อมแขนของซือหยู

   ท่านพ่อ…ท่านพ่อตายแล้ว! 

  จ้าวผาบั่นภูติตายแล้วรึ?ซือหยูตกใจ แต่เขาไม่ได้เสียใจนักเมื่อได้ข่าว

  เพราะตราบเท่าที่ยังเหลือเสี้ยวพลังบนโลกการฟื้นคืนชีพก็เป็นเรื่องง่าย

  คำถามก็คือมันจะเกิดปัญหามากเพียงใดในการฟื้นคืนชีพคนตายขึ้นมา

  เขาต้องคิดเรื่องนี้ในภายหลัง

   พ่อเจ้าตายยังไง?พวกเจ้าอยู่ที่พันธมิตรบูรพา ทำไมจู่ ๆ ถึงมาอยู่ที่พันธมิตรประจิมได้ล่ะ? 

  กงซุนหวูซื่อร่ำไห้อยู่นานกว่าจะตอบ

   ท่านพ่อเป็นชาวประจิมคนในตระกูลมาจากตระกูลปราบอสูรสิบอันดับแรก ถึงจะไม่ใช่ลูกหลานเทพ แต่ก็สืบสายโลหิตมาจากเทพ 

  ซือหยูไม่แปลกใจอีกแล้ว  ตอนที่เขาอยู่จิวโจวจ้าวผาบั่นภูติมักจะทำให้เขารู้สึกถึงความแปลกมาโดยตลอด เขาให้ความรู้สึกประหลาดในหลายเรื่อง

  เมื่อแดนจิวโจวถูกเคลื่อนไหวตัวตนที่บอกว่าเขาไม่ใช่ชาวจิวโจวก็เผยออกมา

  ในวันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกแล้วที่ตัวตนแท้จริงของเขาจะเป็นบุตรหลานแห่งตระกูลเทพ

   ท่านพ่อถูกตระกูลกลั่นแกล้งจนต้องออกมาจากพันธมิตรประจิมท่านพ่อมาซ่อนตัวในจิวโจวก่อนจะกลับธารดารา กลับสู่พันธมิตรประจิม 

  ซือหยูขมวดคิ้ว

   เจ้าถูกกลั่นแกล้งรึ?เจ้าถึงได้มาที่นี่เพื่อแก้แค้น แต่เจ้ากลับถูกจับเป็นนักโทษ? 

   ไม่ใช่! 

  กงซุนหวูซื่อส่ายหน้า

   ท่านพ่อรู้อยู่แล้วว่าล้างแค้นตัวเองไม่ได้ท่านพ่อแค่อยากจะตั้งรกรากในพันธมิตรเพื่อ  ตอนที่เขาอยู่จิวโจวจ้าวผาบั่นภูติมักจะทำให้เขารู้สึกถึงความแปลกมาโดยตลอด เขาให้ความรู้สึกประหลาดในหลายเรื่อง

  เมื่อแดนจิวโจวถูกเคลื่อนไหวตัวตนที่บอกว่าเขาไม่ใช่ชาวจิวโจวก็เผยออกมา

  ในวันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกแล้วที่ตัวตนแท้จริงของเขาจะเป็นบุตรหลานแห่งตระกูลเทพ

   ท่านพ่อถูกตระกูลกลั่นแกล้งจนต้องออกมาจากพันธมิตรประจิมท่านพ่อมาซ่อนตัวในจิวโจวก่อนจะกลับธารดารา กลับสู่พันธมิตรประจิม 

  ซือหยูขมวดคิ้ว

   เจ้าถูกกลั่นแกล้งรึ?เจ้าถึงได้มาที่นี่เพื่อแก้แค้น แต่เจ้ากลับถูกจับเป็นนักโทษ? 

   ไม่ใช่! 

  กงซุนหวูซื่อส่ายหน้า

   ท่านพ่อรู้อยู่แล้วว่าล้างแค้นตัวเองไม่ได้ท่านพ่อแค่อยากจะตั้งรกรากในพันธมิตรเพื่อบ่มเพาะพลัง 

  ซือหยูแปลกใจ

   แล้วพ่อเจ้าตายได้ยังไง?เจ้าถูกเนรเทศจากพันธมิตรมาเป็นนักโทษประหารได้ยังไง? 

   พันธมิตรบูรพาส่งพวกเราในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้พันธมิตรประจิม! 

  กงซุนหวูซื่อพูดด้วยความเกลียดชัง

   ใครตัดสินใจเรื่องนี้กัน? 

  ซือหยูตกใจ

   พวกเทพที่นั่นตัดสินว่าคนร้ายที่พันธมิตรประจิมต้องกาตัวทุกคนจะต้องถูกส่งกลับไปท่านพ่อกับข้าถูกพันธมิตรบูรพาจับกุมและส่งไปพันธมิตรประจิมในไม่นาน พอท่านพ่อถูกส่งตัวมาถึงก็ถูกทำร้ายจนตาย ข้าถูกพวกมันจับตัวและกลายเป็นนักโทษประหารที่ต้องมาทำภารกิจเสี่ยงตาย! 

  ซือหยูขมวดคิ้วแน่น

   พันธมิตรบูรพาทำแบบนี้ทำไมกัน?ถ้าหากอยากจะจัดการเจ้าก็คงจะทำได้ตั้งนานแล้ว ทำไมต้องทำเช่นนั้น? 

   ข้าได้ยินว่ามันเป็นการทำเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรพวกมันจึงสละเราเป็นของขวัญแก่พันธมิตรประจิม 

  ซือหยูคิดตาม

   เจ้าเป็นอาชญากรอันดับต้นๆ ของพันธมิตรประจิมรึ? 

   ข้าไม่ได้สูงนักท่านพ่อเองก็นับว่าเป็นอาชญากรระดับหกเท่านั้น ต่ำกว่าพวกระดับสูงหลายขั้น! 

  กงซุนหวูซื่อพูดต่อ

   ศัตรูของพวกเราในพันธมิตรประจิมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในพันธมิตรบูรพาพวกมันไม่ได้เรียกตัวพวกเราผ่านพันธมิตรบูรพาเลย ท่านพ่อกับข้าไม่ได้สำคัญอะไรเลยต่อพันธมิตรทั้งสองฝ่าย พวกเราไม่รู้เลยว่าทำไมถึงออกมาเป็นแบบนี้! 

   พวกที่ถูกเนรเทศออกมาพร้อมกันล้วนเป็นอาชญากรอันดับต้นๆ มีแค่ท่านพ่อกับข้าที่เป็นระดับหก 

  ซือหยูรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง

   เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนสั่งเนรเทศพวกเจ้า? 

  กงซุนหวูซื่อส่ายหน้า

   เราไม่มีรากฐานใดในพันธมิตรบูรพาข้าจะหาข่าวได้ยังไง? พวกเราถูกจับอย่างรวดเร็วจนไม่มีเวลาให้ถาม มันดีพออยู่แล้วที่รู้ว่าเทพเป็นคนตัดสินชะตาเรา 

  ซือหยูรู้แล้ว

  พ่อลูกคู่นี้ถูกจงใจเนรเทศ

   พันธมิตรบูรพาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ 

  ซือหยูพูดเบาๆ สถานการณ์ในพันธมิตรบูรพาเปลี่ยนไปมากแม้เขาจะจากมาเพียงแค่สองปี

  ในขณะนี้เขาไม่ได้สนใจสถานการณ์ในพันธมิตรบูรพามากนัก เขาต้องไปที่พันธมิตรประจิมเสียก่อน

  ไม่ใช่เพียงเพื่อมอบความยุติธรรมให้ตระกูลกงซุนแต่เขายังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องทำ

  การรุกรานกำลังใกล้เข้ามานี่เป็นเวลาที่สองพันธมิตรใหญ่จะต้องร่วมมือต่อสู้กับอสูรด้วยกัน

  ซือหยูกำลังสงสัยว่าพันธมิตรบูรพาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มามากเพียงใดแล้ว

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท