ระหว่างที่สาวสวยสามคนกำลังรออาหาร กลับได้ยินคนเรียกชลธีที่หน้าประตู แต่เสียงที่อ่อนนุ่มนั้นไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นธินิดา
ธินิดาปล่อยผมยาวสีดำขลับลง แต่งกายด้วยชุดกระโปรงสีขาว ที่มีความสง่างาม ดูราวกับเป็นนางฟ้าลงมายังโลกมนุษย์
หากเป็นคนที่ไม่รู้จักกับธินิดามาก่อน ก็จะถูกรูปลักษณ์ภายนอกของเธอดึงดูดอย่างง่ายดาย เธอสวยมาก สวยราวกับนางฟ้าที่ตัดขาดจากโลกมนุษย์โดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อธินิดาเห็นทั้งสามคน เธอจึงยืนอยู่หน้าประตูอย่างไม่ขยับไปไหน
“น้ำผึ้ง ทำไมคุณไม่เข้าไป?” ชลธีเดินเข้ามาเห็นธินิดาที่ยืนอยู่ข้างประตู
“ชล ที่ของเราถูกคนอื่นนั่งแล้วค่ะ” ธินิดาพูดอย่างช้าๆ เธอมองไปที่ตำแหน่งที่เธอเคยชอบมากที่สุด ถูกผู้หญิงที่น่ารังเกียจทั้งสามนั่งเต็มแล้ว
“ออ งั้นพวกเราก็เปลี่ยนที่ ยังไงที่นี่คนก็ไม่ได้เยอะนี่” ชลธีก็เห็นมุกดา ตลอดเวลาที่เขากับธินิดาอยู่ด้วยกัน เมื่อเจอมุกดา เขาก็มีความรู้สึกเหมือนมีชู้แล้วโดนจับได้อย่าไงอย่างงั้น
“แต่ว่าฉันก็ชอบที่ตรงนั้นนี่นา ช่างเถอะ ชล ฉันตามใจคุณค่ะ” ธินิดาทำหน้าทำตาน้อยใจนิดๆ จากนั้นก็เปลี่ยนท่าทีเป็นว่านอนสอนง่าย
“ไม่งั้นเราเปลี่ยนไปกินอีกร้านไหม” ชลธีเห็นมุกดาเขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ชล คุณก็หิวแล้ว เราทานที่นี่เถอะ หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้มาทานอาหารร้านนี้ คิดถึงมาก!” สองคนนั้นเหมือนกำลังถ่ายละครอยู่ คุยกันอยู่หน้าประตูพักใหญ่ เห็นได้ชัดว่า ธินิดากำลังพยายามโอ้อวดอยู่ แต่มุกดาก็ไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิดเดียว
“เฮ้ พวกคุณมาแล้ว งั้นพวกคุณก็นั่งตรงนั้นเถอะ ที่ตรงนี้สวยดี แสงก็กำลังดี” เมื่อเถ้าแก่เนี้ยมาเสิร์ฟอาหาร ก็เห็นชลธีกับธินิดาสองคนยืนอยู่หน้าประตู
เธอก็รีบไปทักทาย แต่สายตาของเธอมองไปที่ชลธีแล้วมองไปที่มุกดา มองแล้วมองอีก แต่ไม่พูดอะไร ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะสื่ออะไร
“เถ้าแก่เนี้ย คุณยังจำฉันได้ไหม?” รอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธินิดา แล้วเธอก็เข้าไปทักทายเถ้าแก่เนี้ย
ท่าทีสะดีดสะดิ้งของเธอ กลับทำให้เถ้าแก่เนี้ยรู้สึกไม่สบายค่อยสบายใจ เมื่อก่อนเคยมาตั้งหลายครั้ง ทุกครั้งก็เป็นคนที่เย็นชาและเย่อหยิ่ง เหมือนกับไม่อยากเข้าหาคนธรรมดาทั่วไป
วันนี้มากลายเป็นคนที่ใส่ใจที่อยากจะเข้าหาทันที ทำให้คนอื่นไม่ชินเลยจริงๆ
“รู้จักสิ คุณก็คือแฟนสาวของประธานชลธีสินะ เมื่อก่อนเคยมาประจำ แต่เหมือนนานแล้วที่ไม่ได้มา” เถ้าแก่เนี้ยเป็นนักธุรกิจ สมองก็ตอบสนองรวดเร็วมาก
“เถ้าแก่เนี้ย ความจำดีจริงๆนะ ยังจำฉันได้ ขอบคุณนคะ” ธินิดาทำท่าทีตอแหลออกมาอีกครั้ง
“จำได้แน่นอนอยู่แล้ว คุณสวยขนาดนั้น ฉันเห็นเพียงครั้งเดียวก็จำได้แล้ว ไม่มีวันลืม พวกคุณนั่งก่อนสิ ยังเป็นเมนูเดิมไหมล่ะ?” เถ้าแก่เนี้ยพาทั้งสองไปที่นั่ง
“อืม เอาเป็นเมนูเดิมครับ” ชลธียังจำได้ว่ามุกดาก็ชอบอาหารที่ตัวเองเลือกเหมือนกัน
“ชล วันนี้ฉันอยากเปลี่ยน ทานแต่ของเดิมๆมันเลี่ยนจะตาย เถ้าแก่เนี้ย เอาเมนูที่คุณถืออยู่ตอนนี้เสิร์ฟมาก็ได้แล้ว ผักสามอย่างซุปที่หนึ่งก็ได้ละ” ธินิดาเห็นสามคนนั้นยังทานเมนูเดิมอยู่ ในใจของเธอมีความไม่พอใจ ตอนตัวเองไม่อยู่ ชลธีกลับพามุกดามาทานข้าวตรงนี้แล้ว ที่นั่งยังเป็นที่นั่งเก่าของพวกเขา ทานก็ทานเมนูเดิมของพวกเขา
การกระทำพวกนี้มันแปลว่าอะไรน่ะเหรอ นังจิ้งจอกมุกดาต้องการเกลี้ยกล่อม/ชักจูงชลธีน่ะสิ ยังดีที่พี่สาวโทรหาเธอ ให้เธอกลับมา
“ได้สิ ตามที่เธอบอกหมดเลยครับ” ชลธีพูดกับเถ้าแก่เนี้ยพร้อมรอยยิ้ม
“อืม ฉันไปเตรียมก่อน ทุกๆเดือนฉันก็จะมีเมนูเด็ดๆออกมาใหม่ ฉันจะเอาเมนูเด็ดใหม่มาให้พวกคุณด้วยแล้วกัน” เถ้าแก่เนี้ยก็เดินเข้าไปห้องครัว
ที่พิเศษสุดของครัวนี้คือ จานทุกจานผ่านการคิดค้นและทำออกมาเองโดยเจ้าของร้าน ถึงจะช้าหน่อยแต่รสชาติก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนมากินที่นี่กันเยอะ ดังนั้นการค้าขายเลยดีมากเช่นกัน
“มุก เธอดูซิ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? หล่อนเป็นแฟนสาวของประธานชลธีเหรอ? เมื่อก่อนไม่เคยเห็นเลย” จันวิภาไม่รู้จัก แต่ว่าจากใจลึกๆก็ไม่ชอบผู้หญิงนิสัยตอแหลอย่างนี้
“เป็นแฟนเก่าของเขาน่ะ แบกทางไปก็ห้าปีแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลับมาครั้งนี้จะมาทำอะไร” โธรณีตอบรับไปอย่างรวดเร็ว
มุกดากับจันวิภามองเธอ โธรณีเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากไปแล้ว
“พวกเธอไม่รู้เหรอ? นี่เป็นข่าวที่ดังมากในตอนนั้นเลยนะ โดยทั่วไปผู้คนในเมืองหลวงจะรู้ ว่าประธานชลธีน่ะ อกหัก” โธรณีก็อธิบายอย่างรีบร้อน
แต่ห้าปีจันวิภากับมุกดาอายุแค่สิบห้าปี แน่นอนว่าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเลยถูกโธรณีหลอกไปเสียแล้ว
เมื่ออาหารมาครบ ทั้งสามคนยังขอไวน์แดงมาขวดหนึ่ง เพื่อฉลองที่ทำงานอย่างเสร็จสมบูรณ์ ฉลองที่ทั้งสามคนได้พบเจอกัน ฉลองที่วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตามทั้งสามก็ได้นึกข้ออ้างขึ้นมาทั้งหมดแล้ว เลยสั่งเหล้ามากินกัน
“ผมไปห้องน้ำก่อนนะ” ชลธีเห็นมุกดาดื่มเหล้า เขาก็กังวลขึ้นมา เจ้าเด็กน้อยคนนี้ดื่มทีไรเกือบจะเกิดเรื่องทุกที ยังจะดื่มอีก เห็นดื่มหมดแก้วแล้วต่ออีกแก้ว
“อืม รีบไปรีบมานะคะ” ธินิดายิ้มอย่างหวานๆ
ชลธีก็ลุกขึ้นมา เดินไปหน้าโต๊ะสามคน
“วันนี้พวกคุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?” ประธานชลธีพูดเสียงเข้ม โชคดีที่ทั้งสามคนเป็นคนในบริษัทของตัวเอง
“พวกเราทำงานเสร็จแล้ว ออกมาผ่อนคลายนิดหน่อย ประธานชลธี คุณว่างมากเลยสินะ ยังมีอารมณ์อยู่กับแฟนเก่าของคุณอีก!” โธรณีกลอกตาขณะคุยกับชลธี
ตระกูลสุวรรณเลิศทั้งบ้านไม่ชอบธินิดา แน่นอนในนี้ไม่ได้รวมถึงชลธี
“ดื่มไวน์น้อยๆหน่อย” ชลธีถูกโธรณีสำลักใส่ เขาพูดแค่ประโยคเดียว แล้วเดินไปทางห้องน้ำ
แต่คำพูดของชลธีกลับไม่มีใครสนใจ ทั้งสามอยากดื่มลูกเดียว ในไม่ช้าไวน์แดงหนึ่งขวดก็ถึงก้นขวดเสียแล้ว
อาหารทั้งโต๊ะก็โดนทั้งสามจัดการจนหมดเกลี้ยง
“พอแล้ว ทานอิ่มแล้ว ฉันรู้จักร้านไอศกรีมร้านหนึ่งอร่อยมาก ไปกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” จันวิภาลุกขึ้น สะบัดกระเป๋าตน
“เลิศนะ ฉันชอบกินไอศกรีมที่สุดเลย ไปพวกเราไปกันเถอะ” สามคนยังไม่ได้เมา แต่เห็นหน้าธินิดารู้สึกไม่สบาย เลยอยากหาพื้นที่ผ่อนคลาย
“ชล ทำไมคุณทานข้าวเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คุณคิดไรอยู่?” ธินิดาเห็นชลธีคีบอาหารผิดหลายทีแล้ว
“ไม่ได้คิดอะไรหรอก คุณกลับมา ผมรู้สึกมีความสุขมาก ผมกำลังคิดว่าสักวันจะชวนเพื่อนสองสามคนออกมารวมตัวกัน” ชลธีรีบอธิบาย แต่เขาก็อยากจะเชิญพวกทศพรออกมากินข้าวด้วยกัน ก็จะไม่มีความรู้สึกแอบ/หรือหลบซ่อนแบบนี้อีกแล้ว
“ได้ค่ะ ฉันก็ไม่ได้เจอพวกเขามานานละ พวกเราต้องออกมาเจอกันหน่อยล่ะ” ธินิดาได้ยินว่าชลธีจะชวนคนอื่นๆมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการอยู่พอดี เธอแค่อยากให้ทุกคนรู้ ว่าชลธีเป็นของเธอ