แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 63 ช่วยเหลือชายชรา

แต่งรักมัดใจบอส

พอมุกดากับโธรณีลงมาแล้ว ก็ได้ยินเสียงคนพูดกระแนะกระแหน ไม่ต้องคิด ก็รู้ว่าคือกัลยกร

กัลยกรใส่ชุดทำงานสีดำทั้งตัว แต่กลับแก้เสื้อให้ขนาดเล็กลง จนรัดติ้วทั้งตัว ทำให้คลื่นลมกระเพื่อมขึ้นมาเป็นระลอก

เธอยืนกอดอกอยู่ตรงประตูหน้าห้องเลขานุการ เธอก็เห็นว่ามุกดาได้มีการพูดคุยกับประวีร์แล้วด้วย ในใจของเธอนั้นยิ่งเกรี้ยวกราดหนักกว่าเดิม ทำไมผู้ชายที่แสนยอดเยี่ยมเหล่านั้นถึงได้ชอบเสวนากับผู้หญิงคนนี้กัน ตาบอดไปแล้วจริงๆ หรือยังไง?

“อืม ลงมาแล้ว ยังดี ไม่ได้มีอะไรที่ผิดพลาด” มุกดาไม่อยากต่อความกับกัลยกร พลางเดินผ่านตัวเธอเข้าไปในห้องเลขาฯทันที

“อารมณ์ไม่เบาเลยนะ ก็ดี ครั้งนี้ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดไปก็เท่ากับว่าฉันไม่ได้เสนอพวกคุณไปเสียเปล่า วันนี้ประธานชลธีน่าจะดีใจมาก” กัลยกรได้ยินคนอื่นพูดมาแล้ว วันนี้ประธานของบริษัทสตรอมแมนพอใจมาก คนคนนั้นเธอเป็นคนเสนอขึ้นไป ทางเจ้านายย่อมพอใจมากแน่นอนฉะนั้นก็เท่ากับว่าเธอก็มีผลงานไปด้วย

ดังนั้นวันนี้ท่าทางการแสดงออกของกัลยกรในวันนี้ถือว่าดีมาก อีกเดี๋ยวเธอต้องไปหาธินิดาเพื่อพูดยกหางให้ตัวเองซะหน่อย ตอนนี้ธินิดากลับมาแล้ว แบ็คของเธอกัลยกรก็เป็น คนหนุนหลังที่เส้นใหญ่ขึ้นตั้งเยอะเลย

มุกดากับโธรณีกลับไปนั่งลงที่ตำแหน่งเดิม พลางได้รับข้อความของจันวิภา

“พวกแกไม่เป็นไรใช่ไหม ได้ข่าวว่าพวกแกถูกเรียกขึ้นไปข้างบน ฉันก็เป็นห่วงอยู่ตลอดเลยเนี่ย?”

ความรู้สึกการมีคนคอยถวิลหาอยู่มันยังไม่เลวจริงๆ เลย มุกดาตอบกลับจันวิภาทันที บอกว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี

ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย นัทธ์ก็โทรศัพท์มาหามุกดา เพื่อให้เธอรอเขาอยู่ที่หน้าประตูหลังเลิกงานแล้ว วันนี้เขาจะมารับมุกดา บอกว่ามีธุระ

มุกดาพลางตอบตกลงทันที โดยปกติแล้วนัทธ์เป็นคนที่เป๊ะเจ้าระเบียบมาก แต่สำหรับมุกดาแล้วถือว่าสบายมากทีเดียว เธออยากจะไปเที่ยวเล่นข้างนอกก็ไม่ได้พูดว่าอะไร วันนี้ดูจากท่าทางแล้วต้องมีเรื่องสำคัญแน่นอน

หลังจากเลิกงานแล้ว โธรณีก็ขอตัวกลับก่อน เธอรู้ว่าวันนี้มีธุระแน่ๆ เธอก็เลยต้องรีบหลีกเลี่ยงให้เร็วๆ หน่อย

จันวิภาอยากจะไปส่งมุกดา แต่ก็โดนมุกดาปฏิเสธกลับมาแทน แถมยังบอกว่าวันนี้คนที่บ้านของสามีจะมารับด้วยตนเอง

จันวิภาก็ไม่ได้ดื้อรั้นต่อ มุกดาคอยพูดอยู่เสมอว่าคนที่บ้านของสามีนั้นดีกับเธอมากอยู่ตลอด ดังนั้นเธอเลยวางใจแล้ว

ตอนที่มุกดาลงมานั้น นัทธ์ก็รออยู่ที่ประตูแล้ว เมื่อเห็นว่ามุกดาลงมาจากชั้นบนแล้ว ก็รีบเปิดประตูรถรอทันที เพื่อให้เธอขึ้นรถ

“ลุงนัทธ์ วันนี้มีเรื่องอะไรหรือคะ ทำไมต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้ด้วย?” มุกดาใส่ชุดกระโปรงสูทยาวสีดำ ทว่ามองแล้วดูเป็นทางการมาก

“ญาติผู้ใหญ่ของคุณชายต้องการจะพบคุณ คุณต้องระวังตัวสักหน่อย แต่ว่าเขาก็เป็นคนดีมากคนหนึ่งเลย คุณนายก็เป็นคนดีอยู่แล้ว เขาจะชอบคุณแน่” นัทธ์ครุ่นคิดอยู่ แถมยังพูดกำชับกับมุกดาเล็กน้อย เพื่อให้เธอได้เตรียมใจเอาไว้ก่อน มิเช่นนั้นพอเห็นหน้ากันแล้วก็จะเกิดเคร่งเครียดขึ้นมาแทน

“ผู้ใหญ่ต้องการเจอฉันเหรอคะ? ลุงนัทธ์ ฉันกับคุณชายของพวกคุณเรามีสัญญาการแต่งงานแค่ 2 ปีเองนะ ถึงเวลานั้นฉันก็จะหย่าร้างกับเขาอยู่ดี การที่ฉันจะต้องไปเจอครอบครัวของเขาไม่ค่อยเหมาะสมมั้ง?” มุกดากังวลเรื่องบางอย่างอยู่ ถึงเวลานั้นก็ต้องหย่าร้างกันอยู่แล้ว เช่นนั้นคนในครอบครัวจะไม่รู้สึกเคอะเขินมากกันไหม

“ไปพบเจอกันหน่อยเถอะ เรื่องต่อจากนี้ค่อยว่ากันใหม่” นัทธ์รู้สึกว่าตอนนี้ทัศนคติของคุณชายแปลกพิลึกพิลั่นไปมากแล้ว ความรู้สึกของเขานั้นคุณนายไม่หย่าร้างกับคุณชายแน่ๆ ถ้าคนในวันนี้พึงพอใจมุกดาขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นก็ยิ่งไม่สามารถหย่าร้างมากกว่าเดิมเสียอีก

“แต่ว่า …” มุกดาไม่อยากทำร้ายครอบครัวของอีกฝ่าย เธอไม่อยากจะไปเจอเลย

“คุณนาย คุณก็ทำความปรารถนาของผู้ใหญ่ให้เป็นสมปรารถนาเถอะ” นัทธ์ก็ทำได้พูดแค่นี้เอง

มุกดาไม่ได้พูดอะไรต่อ คำพูดที่ลุงนัทธ์พูดออกมานั้น เธอถือว่าฟังอยู่ ถึงขั้นที่ผู้ใหญ่อยากเจอหน้าเจอตาแล้ว ตนเองก็ต้องผสมโรงแล้วแหละ

“อืม ได้” มุกดาพยักหน้า

นัทธ์พูดชื่อห้องรับรองออกมา เขาไม่ได้เดินขึ้นไป มุกดาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดระเบียบเสื้อผ้าสักหน่อย พร้อมทั้งมัดทรงผมเป็นหางม้ารวบตึง การทำแบบนี้ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เธอรู้สึกว่าผู้หลักผู้ใหญ่ชอบเด็กสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่

“โอ๊ย” ตอนที่มุกดาเพิ่งเดินออกมาจากประตูมานั้น ก็เห็นชายชรากำลังใช้ไม้เท้าค้ำยันอยู่ และนั่งลงอยู่บนพื้นตรงประตู เหมือนจะมีท่าทางอาการบาดเจ็บมากๆ ด้วย

คนที่อยู่รอบๆ เดินไปเดินมา แต่กลับไม่มีคนประคองเขาขึ้นมา ชายชราดูท่าทางน่าสงสารมาก

มุกดาเดินเข้าไปหาและถามชายชราว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

“ฉันปวดมาก” ชายชราพูดแบบนี้ออกมาหนึ่งประโยค พลันกดลงตรงบริเวณท้องของตนเอง

มุกดายื่นมือออกไปพลางประคองชายชราขึ้นมา อยากจะประคองชายชราขึ้นมา แต่ทว่าในเวลานั้นเองกลับมีคนหลายคนเตือนมุกดาอยู่ข้างๆ

“โอ้โห สาวน้อยคนนี้ช่างกล้าหาญจริงๆ ไม่กลัวเกรงหาเรื่องใส่ตัวเลย”

“การที่คอยประคองขึ้นมาก็เป็นเรื่องของตัวเองแล้วนะ อีกเดี๋ยวครอบครัวของชายชรามา นั่นก็เท่ากับว่าคุณเป็นคนผลักเอง ชั่วชีวิตนี้คุณก็ไม่สามารถแก้ตัวได้แล้ว”

ทว่ามุกดากลับไม่คิดลังเลเลย เธอประคองชายชราขึ้นมา พร้อมทั้งให้เขาเทน้ำหนักมาที่ตัวเอง พลางเดินไปยังห้องโถงใหญ่ เพื่อให้เขาได้นั่งลงก่อน

จากนั้นเธอให้พนักงานเอาน้ำอุ่นมาเสิร์ฟให้กับชายชรา เพื่อให้ชายชราได้ดื่มลงไป

“คุณปู่ค่ะ ท่านลองดูสิว่าตอนนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ถ้าไม่ไหว หนูจะส่งตัวท่านไปที่โรงพยาบาลค่ะ หรือไม่ก็แจ้งให้ครอบครัวของท่านทราบดีไหมคะ?” มุกดาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นไรแล้ว หนูช่างเป็นเด็กดีเสียจริงๆ เลย ฉันยังคิดว่าวันนี้ฉันต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่แล้ว” หลังจากคุณปู่ดื่มน้ำอุ่นแล้ว สติสัมปชัญญะก็ดีขึ้นมามากแล้ว ราวกับว่าในน้ำนั้นมันมียาวิเศษชั้นเลิศเช่นนั้น

“ไม่หรอกค่ะ คุณปู่ยังมีชีวิตอยู่ต่ออีกนานเลยค่ะ แต่ว่าหนูยังอยากจะโทรศัพท์หาครอบครัวของคุณปู่ เพื่อให้พวกเขามารับตัวคุณปู่ คุณปู่อยู่ที่นี่คนเดียวหนูไม่ไว้ใจ” มุกดายังคงยืนกรานที่จะโทรศัพท์หาครอบครัวของชายชรา

ทว่าในแววตาของชายชราปรากฏรอยยิ้มออกมา เขายื่นมือออกไปจับมุกดาเอาไว้

“ไม่ต้องหรอก ฉันดีขึ้นแล้ว หนูไปทำธุระหนูเถอะ” การที่ชายชราพูดออกมาเช่นนี้ มุกดาก็ยิ่งไม่ไว้ใจหนักกว่าเก่า พลางทำให้เธอนึกถึงบิดาของตนเองขึ้นมา

“งั้นหนูก็ประคองฉันไปที่ห้องละไมเถอะ” ชายชราลุกขึ้นยืน เพื่อให้มุกดาประคองตนเองไปยังห้องที่จองไว้แล้ว

“ได้ค่ะ หนูจะพาตัวคุณไปส่งที่ห้องละไม” มุกดาประคองชายชราต่อ และค่อยๆ เดินไปยังห้องรับรอง ประตูห้องเขียนตัวอักษรละไมอยู่สองคำ

เมื่อผลักประตูห้องเข้าไป ในห้องกลับไม่มีคนเลยสักคน มีเพียงโต๊ะตัวใหญ่ที่อาหารเสิร์ฟอาหารยำที่เป็นเครื่องเคียงบ้างแล้ว

“พอแล้วแหละ คนในครอบครัวของฉันเดี๋ยวก็จะมาแล้ว เด็กน้อยเอ๋ยหนูมีเรื่องต้องทำก็ไปทำเถอะนะ” ชายชรานั่งลง

มุกดาเห็นว่าชายชราได้นั่งลงรอคนในครอบครัวอยู่ในห้องรับรองเรียบร้อยแล้ว เธอพูดกำชับกับพนักงานเหล่านั้นอยู่เล็กน้อย จากนั้นเธอก็เดินออกไป

ตอนที่เธอไปจากนั้นยิ่งทำให้ชายชราแปลกใจมาก หรือว่าตนเองไม่ได้บอกนัทธ์ให้ชัดเจนหรือยังไงกัน?

มุกดาเดินออกจากละไมมา เธอก็มุ่งหน้าเดินออกไปข้างนอก พลางคิดว่าตอนนี้ชายชราคงไม่มีอะไรแล้ว เธอถึงวางใจได้

ละไม ละไม เอ๋ นัทธ์บอกชื่อห้องให้ตนเองเหมือนจะชื่อว่าละไมเลย

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท