มุกดาใช้น้ำเขียนตัวอักษรบนโต๊ะชา จันวิภาเห็นแล้วก็รีบปัดมือพูดว่า “ไม่สิ ไม่ จะเป็นไปได้ยังไง ฉันจะชอบเขาได้ยังไงกัน ก็แค่คุณชายหน้าหม้อคนหนึ่ง ฉันชอบผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวต่างหาก” ในหัวใจของจันวิภามีแค่เขาคนนั้นเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน
มุกดาเห็นจันวิภาส่ายหัวอย่างเด็ดขาด ก็ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงอะไรกับเธออีก จันวิภาเป็นคนที่เก็บความลับไม่เก่งเสียเท่าไหร่ แต่มีบางครั้งที่เธออาจจะสับสนบ้าง ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองก็เท่านั้น
พูดแค่ไม่กี่คำ ก็มีคนมาเยี่ยมมุกดาอีกแล้ว บุคคลที่มาครั้งนี้เป็นคนสำคัญมาก นั่นก็คือนีรชากับโธรณี สองแม่ลูกมาเยี่ยมมุกดาด้วยกัน
“อุ๊ยตายแล้ว ลูกรักของแม่ เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ เป็นเจ้านายประสาอะไรของพวกเธอกัน?” นีรชาเข้ามาก็ดึงตัวมุกดาและตรวจสอบรอบๆตัว ยังดีที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
“แม่ พูดอะไรที่ดีหน่อยไม่ได้หรือไง?” โธรณีเตือนนีรชา ตอนนี้นีรชาก็พึ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เจ้านายของมุกดาก็คือลูกชายของตัวเอง
แต่ว่าจะต้องเป็นยัยธินิดาที่แอบทำอะไรไม่ดีแน่ ผู้หญิงคนนี้พอกลับมาก็ไม่เคยหยุดไม่เคยหย่อนเลย
“ก็ได้ มุกอย่ากังวลไปเลยนะ เลี้ยงไข้ดีๆ หายแล้วค่อยไปทำงานก็ได้!” นีรชานั่งลงข้างๆมุกดา เธอมองมุกดา จนเกือบจะร้องไห้ออกมา มีผู้หญิงคนไหนเจอเรื่องแบบนี้แล้วไม่กลัวบ้างล่ะ ยิ่งเป็นในช่วงที่หมดหนทางอีก
มุกดาพยักหน้า นีรชาพูดจบก็มองมือมุกดาที่ตอนนี้ไม่มีอะไรใส่อยู่ กำไลที่ตัวเองให้กับเธอ เธอไม่ได้สวมมันในตอนนี้
“เด็กโง่ กำไลที่น้าให้ทำไมไม่ใส่มันล่ะ? กำไลนั้นเอาไว้ปกปักรักษาให้เธอปลอดภัยนะ จำไว้ด้วยล่ะ จะต้องใส่ไว้ที่ข้อมือตลอด เข้าใจไหม?” นีรชาพูดได้อย่างมีเหตุผล
พระเจ้ายังไม่สนใจฝ่ายไหนมาเฟียฝ่ายไหนยุติธรรม ขอแค่เห็นกำไลมรดกสืบทอดของตระกูลสุวรรณเลิศ จะต้องเห็นใจและช่วยแน่นอน พอรู้ว่าเป็นของของตระกูลสุวรรณเลิศ ตระกูลของเราไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะแตะต้องได้ง่ายๆ
“นั่นสิ มุก เดี๋ยวพรุ่งนี้น้าไปเอากำไลที่บ้านเธอมาให้นะ นั่นเป็นเครื่องรางเชียวนะ จะบอกให้ เธอไปไหนมันก็จะปกป้องเธอให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุได้” คำพูดของนีรชาสองแม่ลูกล้วนแล้วแต่ต่อต้านพวกฝ่ายมาเฟียและฝ่ายยุติธรรม แต่มีคนจำพวกหนึ่งที่ไม่เชื่อ
กำไลนั่นก็เกือบทำให้มุกดาตายแล้วเหมือนกัน
“นี่คือหนูจันทร์สินะ เป็นเด็กดีมากเลย แถมยังสวยมากอีกด้วย” นีรชาพูดกับมุกดาเสร็จแล้ว ก็หันไปมองจันวิภา เธอเคยได้ยินลูกสาวของตนพูดถึงเด็กสาวคนนี้ บอกว่าเป็นคนตรงไปตรงมา เธอน่ะชอบแต่เด็กผู้หญิงอยู่แล้ว แต่กลับมีลูกเป็นผู้ชายตั้งสองคน ยังดีที่คนสุดท้องเป็นลูกสาว
“คุณน้าคะ คุณน้าเป็นแม่ของแสนดีสินะคะ?” จันวิภาได้ยินนีรชาชมตัวเอง เธอก็รู้สึกเขินเล็กน้อย
“ใช่แล้ว น้าเป็นแม่ของแสนดี และเป็นแม่ของพวกเธอด้วย พวกเธอสามคนเป็นลูกสาวของน้าทั้งหมดเลยได้ไหม?” นีรชาดีใจจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามีลูกสาวสามคนละก็ เธอก็คงมีความสุขตายเลย
“ได้อยู่แล้วค่ะ งั้นคุณน้าก็เป็นแม่ของพวกเราแล้วนะ” จันวิภาเห็นนีรชาครั้งแรกก็ชอบในความสวยสง่าในแบบผู้ดีของเธอ
พวกเธอคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเพียงมุกดาที่ได้ยินพวกเธอพูดแล้ว ก็ฉีกยิ้มแค่บางครั้งเท่านั้น
ในตอนที่ทั้งสี่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น ชลธีก็กลับมาพอดี
เขาเห็นผู้หญิงในห้อง ก็แอบขมวดคิ้วบางๆ แม่และน้องสาวตัวเองชอบมาร่วมสนุกอยู่ตลอด ยิ่งเป็นแม่นะ ชอบลูกสาวจนแทบอยากให้เด็กผู้หญิงทั้งโลกเรียกตัวเองว่าแม่แล้ว ทำเหมือนกับว่าตัวเองกับน้องรองเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงยังไงอย่างนั้น
“อุ๊ยตายแล้ว นั่นใครมาน่ะ? ทำไมทำหน้าบึ้งตึงขนาดนั้น” นีรชาเห็นลูกชายตัวเองมา เธอกลับหน้าบึ้งขึ้นมาทันที ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยด้วยซ้ำ คงจะถูกยัยสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ธินิดาเรียกไปล่ะสิ
ไม่มาเฝ้าภรรยาตัวเอง แต่กลับไปหานังนั่น นีรชารู้สึกโกรธมาก
“ทุกคนมาเยี่ยมมุกกันหมดเลย ขอบคุณมากนะครับ คุณเป็นแม่ของมุกสินะครับ ผมเป็นประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปครับ” ชลธีพูดแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
เขาทำตัวเป็นทางการแบบนี้ นีรชาก็พูดอย่างเป็นทางการขึ้นมาบ้าง
“อ้อ คุณก็คือประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปสินะคะ? ถึงว่าทำไมหน้าคุ้นขนาดนี้ คุณดูสิพนักงานคุณเข้าโรงพยาบาลแบบนี้แล้ว คุณเป็นเจ้านายประสาอะไรกัน? ไม่มาเฝ้าอยู่ที่นี่ ยังมีกะจิตกะใจออกตระเวนไปทั่วอีกเหรอ?”
นีรชากำลังจะระบายความแค้นในใจออกมา ขอแค่ชลธีกับธินิดาอยู่ด้วย ก็ทำให้เธอไม่สบายใจแล้ว
ชลธีก้มหน้ารับฟังคำสั่งสอนจากแม่ตัวเอง คนในบ้านไม่ชอบธินิดา เรื่องนี้เขารู้ดีอยู่แล้ว เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าทุกคนมีอคติ ตัวเองก็ไม่เชื่อ และดันทุรังอยากคบกับธินิดาให้ได้
แต่ตอนนี้มีมุกดาแล้ว ความรู้สึกที่ตนมีต่อธินิดาก็น้อยลงไปมาก
“รู้ตัวว่าผิดหรือยัง? อย่าคิดว่าเป็นประธานแล้ว จะไม่มีใครคุมคุณได้ คุณต้องดูแลพนักงานบริษัทตัวเองดีๆสิ อย่าเอาแต่คิดอย่างอื่น” นีรชาด่าจนหน่ำใจ
มุกดากับจันวิภาที่เห็นแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น กลัวว่านีรชาออกไปแล้ว ชลธีจะเอาความโกรธมาลงที่พวกเธอแทน
ด่าจนเหนื่อยและคอแห้งแล้ว ชลธียังต้องเทน้ำให้นีรชาอีก
นีรชารับน้ำมาดื่มเสร็จก็เช็ดปากตัวเอง
“เอาล่ะ พวกเราจะไปกันแล้ว ประธานชลธี สายตาผู้ชมอย่างพวกเราสว่างกว่าใคร ดูแลพนักงานตัวเองให้ดีด้วย” นีรชาทำท่าเตรียมตัวจะไปแล้ว ให้เวลาสองคนนี้ได้พูดคุยและพัฒนาความสัมพันธ์กันหน่อยดีกว่า
“หนูจันทร์ พวกเราไปกันเถอะ ให้ประธานชลธีของพวกเธอดูแลมุกดาเอง น้าจะบอกให้นะว่า มีร้านไอศกรีมหนึ่งอร่อยมาก เดี๋ยวน้าพาไปกินนะ” นีรชาทำเหมือนกำลังพูดกับเด็ก มือสองข้างของเธอจับพวกเธอไว้คนละข้าง และดึงโธรณีกับจันวิภาลุกขึ้นมา
มุกดาอยากตะโกนเรียกพวกเธอ จะให้ประธานชลธีดูแลตัวเองที่นี่ได้ยังไงกัน มันไม่ใช่หน้าที่เลยนะ
แต่ผู้หญิงทั้งสามคนเหมือนถูกไอศกรีมดึงดูดไว้ เดินออกไปโดยไม่หันหน้ากลับมามองเลย
“ดูสิ ใช่ว่าฉันอยากจะอยู่ต่อ เป็นน้าเธอต่างหากที่ให้ฉันอยู่ที่นี่ เมื่อกี้ฉันก็ไม่ได้ไปที่ไหนไกลมาก แค่ไปหาหมอเก่งๆที่มีความสามารถคนหนึ่ง ส่งไปที่บ้านตระกูลยืนนานก็เท่านั้นเอง” ชลธีพูดอธิบายกับมุกดา
เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องอธิบายกับมุกดา มุกดาเองก็รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายอะไรเลย เขาอยากทำอะไร เธอเป็นแค่พนักงานจะเข้าไปยุ่งได้ยังไงกัน
ทุกวันต้องฉีดของเหลวเข้าร่างกายเยอะมาก มุกดากินอะไรไม่ได้เลย โภชนาการที่ร่างกายต้องการก็พึ่งพาแต่ของเหลวพวกนี้ส่งเข้าร่างกาย
ตอนเช้าตรู่ หมอกับพยาบาลก็มากันแล้ว และเริ่มให้น้ำเกลือมุกดา
ชลธีตื่นมานานแล้ว เขาช่วยพยาบาลจับมือมุกดาไว้ มองดูมือที่ขาวบริสุทธิ์นั้นถูกเข็มอันแหลมคมทิ่มแทงเข้าไป ก็เหมือนกับแทงเข้าในใจของเขาเลย
พอเสร็จทั้งหมดแล้ว มุกดาก็นอนต่อ เมื่อวานคนมาเยี่ยมเธอเยอะเกินไป ทำให้เสียพลังงานในสมองไปมาก ดังนั้นเธอเลยรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ
ชลธีช่วยมุกดาห่มผ้าให้ดี เขายกเก้าอี้มาแล้วนั่งอยู่ข้างๆมุกดา เฝ้าดูของเหลวหยดเข้าสู้ร่างกายมุกดาทีละหยดๆ