The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1313 -มีผู้ใดจะคัดค้าน?

ตอนที่ 1313 -มีผู้ใดจะคัดค้าน?

ตอนที่ 1313 -มีผู้ใดจะคัดค้าน?

   คิดดูอีกครั้งเถอะพันธมิตรประจิมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งจะใช้พลังเต็มที่เพื่อต่อสู้กับเผ่าอสูรได้หรือไม่? พวกเรายังต้องจับมือกับพันธมิตรบูรพา เราจะรับมือกับความขัดแย้งกับทั้งสองพันธมิตรอย่างไร? 

  คำถามสำคัญนี้แทงใจดำของพวกเขาเหล่าเทพครุ่นคิดอย่างหนัก

  ใช่แล้วพวกเขาแบ่งแยก แต่เหล่าอสูรเป็นหนึ่งเดียว

  พวกเขาต่ำต้อยกว่าอสูรในด้านของพลังถึงกระนั้นก็มิอาจทำให้คนฝ่ายเดียวกันเองต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันได้

  อีกสิบปีข้างหน้าจะเกิดการต่อสู้จนตัวตาอยู่แล้ว

  ฉ๊เหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางใคร่ครวญอย่างหนักในพันธมิตรประจิมแห่งนี้ การเลือกเทพคนใดให้เป็นเจ้าพันธมิตรคนใหม่ล้วนไม่แก้ปัญหา

  เวลากำลังจะหมดพวกเขาต้องขจัดความขัดแย้งให้หมดสิ้นโดยเร็ว

   ในความคิดเจ้าใครคือผู้ที่เหมาะจะเป็นเจ้าพันธมิตรที่สุดหรือ? 

  ฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางถามซือหยูกลับ

  แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดว่าซือหยูจะบอกนามใครกลับมาได้

  เทียบกับพวกเขาแล้วซือหยูนั้นไม่ได้คุ้นเคยกับพันธมิตรประจิม

   ก็ต้องข้าน่ะสิ! 

  ซือหยูพูดเบาๆ

  ทันทีที่เขาตอบทั้งธารดาราเงียบกริบราวกับถูกพลังที่ไม่รู้จักปกคลุม ทุกการหารือเงียบลงไปราวกับป่าช้า!

  เหล่าเทพกำลังสับสนพวกเขาคิดว่ากำลังโดนพลังบางอย่างเล่นกับจิตใจ  ยกเว้นแต่เทพหลินหลางเขาใจเย็นลงและถามด้วยความลังเล

   เทพสีเงินเจ้าหมายความว่ายังไง? 

  ซือหยูพูดอย่างใจเย็น

   เจ้าควรเลือกข้าเป็นเจ้าพันธมิตร! 

  ทั้งธารดาราระเบิดไปด้วยความวุ่นวาย

  เจ้าพันธมิตรประจิมคือตำแหน่งสูงสุดในทั้งธารดาราตำแหน่งนี้เทียบได้กับฑากิณีแห่งพันธมิตรบูรพาและจักรพรรดิอสูรแห่งแดนอสูร!

  ซือหยูเป็นเพียงเซียนขั้นสามอายุเพิ่งจะพ้นยี่สิบปีมาไม่กี่ปี ตำแหน่งเขาตอนนี้ก็ไม่มากไปกว่าตัวแทนเทพ แต่เขากลับกล้าอ้างให้ตัวเองเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นเจ้าพันธมิตรประจิมงั้นรึ?

  ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ยินกับหูก็คงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น

   เทพสีเงินเจ้ารู้ใช่ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?     เทพทุกคนที่นี่เหมาะสมกว่าเจ้าในการเป็นเจ้าพันธมิตรทั้งนั้น! 

   จากในด้านพลังเทพสีเงิน เจ้าไม่ควรจะกล้าคิดเช่นนั้น! 

  ถ้อยคำเหล่านี้เป็นเพียงคำพูดรักษาน้ำใจท่ามกลางคำพูดแรงๆ ของตระกูลอื่น

   ฮ่าๆๆๆน่าขันนัก เทพจากต่างแดน! แค่เพราะมีเทพที่แข็งแกร่งคอยรับใช้ก็คิดว่าจะเป็นเจ้าพันธมิตรประจิมได้งั้นเรอะ? 

   อะไรทำให้เจ้าคู่ควรกัน?ปัญญาของเจ้ารึ? 

   ถ้าหากเขาได้เป็นเจ้าพันธมิตรจริงๆ มันจะกลายเป็นเรื่องตลกในทั้งธารดารา! 

  …

  แม้แต่ฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางก็พูดไม่ออก

  คำแนะนำของซือหยูมัน…

  มันเป็นไปไม่ได้!   ซือหยูมองเหล่าเทพเขายิ้มเยาะ

   ทีแรกข้าก็ไม่สนใจตำแหน่งเจ้าพันธมิตรต่อให้พวกเจ้าเสนอให้ข้า ข้าก็จะไม่รับ แต่หลังจากงานแต่งงาน ข้าจึงคิดได้ว่าตำแหน่งนี้ไม่ควรอยู่ในมือพวกเจ้าเลย 

  นี่คือการตัดสินใจของซือหยู

  เขาจะต้องได้ตำแหน่งเจ้าพันธมิตรมาครอง!

  สุดท้ายก็มีเทพถามซือหยูตรงๆ

   เทพสีเงินใยเจ้าถึงต้องการตำแหน่งเจ้าพันธมิตรล่ะ? 

  เทพหลายคนคิดว่าซือหยูจะตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าเพื่อการผนึกกำลังต่อกรกับอสูร

  แต่ซือหยูได้พูดบางอย่างที่ทำให้พวกเขาสติแตกโดยสิ้นเชิง

   เพราะพวกเจ้ามันโง่!พวกเจ้าต้องมีคนฉลาดกว่าชี้นำ! 

  ทุกคนเงียบกริบไปสามลมหายใจจากนั้นพวกเขาก็ได้ระเบิดเสียง

   เจ้าพูดว่าใครโง่นะ?อวดดีนัก! 

   เทพสีเงินถอนคำพูดเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะถือว่าเป็นการดูหมิ่นพันธมิตร! 

  ความโกรธเกรี้ยวถาโถมดั่งคลื่นยักษ์

  แต่ซือหยูแสยะยิ้มมองเหล่าเทพด้วยความใจเย็น

   เจ้าคิดว่าข้าดูหมิ่นเจ้ารึ?ลั่วหวนบงการพวกเจ้าได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ ใครกันที่คิดขู่ฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่ใช้สมอง? หากข้าเป็นอสูรและพวกเจ้าสักคนได้เป็นเจ้าพันธมิตร ข้าจะหาทางหลอกพวกเจ้าให้ฆ่ากันเองเหมือนวันนี้! 

  เหล่าเทพโกรธแค้นคำพูดของซือหยูเสียดแทงในอกอย่างจัง แต่พวกเขาก็ยังต่อต้าน

   มันก็เพราะ…พวกเราเชื่อใจลั่วหวนมากเกินไป!พวกเราไม่ได้ไม่มีความคิด 

  ซือหยูหัวเราะเยาะ   เจ้าจะบอกว่าถ้าเกิดเรื่องคล้ายกันอีกพวกเจ้าจะรู้จักคิดแยกแยะได้รึ? 

  เมื่อถูกถามกลับเหล่าเทพสีหน้าหม่นหมอง

   เทพสีเงิน!เจ้าหัดรู้ขีดจำกัดของตัวเองเสียบ้าง พวกเราเหล่เาทพมีชีวิตอยู่หลายพันปี อย่ามาตัดสินพวกเราเพียงเพราะเหตุการณ์เดียว! 

  ซือหยูพูดเบาๆ

   ก็ได้! 

  ซือหยูสะบัดข้อมือลูกปัดส่งเสียงกระทบกัน

  พลังอสูรอันน่าสะพรึงกลัวเก้าแห่งกระจายออกมาในพริบตามันโอบล้อมธารดาราเอาไว้

  ร่างเทพอสูรเก้าคนที่ปกคลุมไปด้วยพลังอสูรปล่อยพลังสั่นคลอนทั้งธารดารา

  พลังมหาศาลทำให้เหล่าเทพตกตะลึง

   ทะ…เทพอสูร!     เก้าเทพอสูร! 

   แย่แล้วมีสามคนเป็นรัชทายาท! 

   อสูรพวกนี้…บุตรแห่งจักรพรรดิอสูร… 

   หนีเร็ว!เผ่าอสูรบุกแล้ว การรุกรานเริ่มขึ้นแล้ว! 

  ถ้าหากเจอกับอสูรธรรมดาพวกเขาคงจะไม่แตกตื่นเช่นนี้

  แต่อสูรเหล่านี้คืออสูรรัชทายาท!

  และด้วยความกล้าในคำพูดซือหยูพวกเขาหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ

  ความตื่นตระหนกแพร่กระจายดั่งโรคระบาดบางคนกรีดร้องด้วยความกลัวเมื่อทุกคนกำลังหนี เทพทั้งร้อยคนแตกกระจายด้วยความตกใจ

   ห้ามไปไหน!ข้าจะฆ่าทุกคนที่คิดหนี! 

  ฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางตะโกนพร้อมกัน

  พลังของทั้งสองปล่อยออกมายิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงคำรามของเหล่าเทพที่หวาดกลัวหยุดลง

  พวกเขาอดทนต่อความกลัวและจ้องมองเทพอสูรทั้งเก้าที่น่าสะพรึงกลัว

  ในประวัติศาสตร์ธารดาราไม่เคยมีเทพอสูรเก้าคนปรากฏตัวพร้อมกันมาก่อนและไม่เคยมีรัชทายาทสามคนมาพร้อมกันด้วย

  แค่เหล่ารัชทายาทก็มากพอแล้วที่ทำให้เหล่าเทพเข่าอ่อน!

   เทพสีเงิน…เทพสีเงินเป็นคนทรยศ!มันพาอสูรมาด้วย! 

   ไม่แปลกเลยที่มันจะรอดชีวิตมาจากโลกอสูรมัน…มันจะต้องยอมรับใช้พวกอสูร! 

   มันให้พวกเราเชื่อใจเพื่อให้อสูรโจมตีเรา! 

   อย่าไปกลัวพวกเรามีจำนวนมากกว่า มาร่วมมือกันเอาชนะเทพสีเงินก่อน แล้วค่อยสู้กับเทพอสูรด้วยกัน! 

  ท่ามกลางความวุ่นวายทุกคนได้พบเป้าหมายเดียวกัน!

   พอได้แล้ว!น่าอับอายยิ่งนัก!!!! 

  ฉีเหมินเจี้ยนตะโกนด้วยใบหน้าแดงก่ำ

  เทพหลินหลางเองก็จ้องมองอย่างเยือกเย็น

   พวกโง่เอ้ย! 

  ฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางตะโกนแสดงความอับอายของตน

  เหล่าเทพจึงได้เงียบลง

   แต่เทพสีเงินกับอสูรร่วมมื… 

   หุบปาก!ต้องอีกนานเท่าไหร่กว่าเจ้าจะใจเย็นลงได้? 

  เทพหลินหลางจ้องด้วยโทสะ

   ถ้าเขาร่วมมือกับเผ่าอสูรแค่ฆ่าพวกเจ้าทุกคนที่ติดพิษในงานแต่งงานก็พอแล้วไม่ใช่เรอะ? จะต้องทำทั้งหมดนี้เพื่ออะไร? 

  จริงด้วย!หลังจากฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางตำหนิเหล่าเทพ พวกเขาก็ใจเย็นลงเล็กน้อยและตระหนักได้ว่าที่พวกเขาคิดนั้นไร้เหตุผล

  หลังจากรอให้เทพทุกคนใจเย็นลงซือหยูแสยะยิ้ม

   นี่น่ะรึที่เจ้าบอกว่าบ่มเพาะมาพันปี?สุดท้ายพวกเจ้าก็มาได้แค่นี้! ไหนล่ะความสุขุมเยือกเย็นที่พวกเจ้าควรมี? 

  ซือหยูพูดเบาๆ ต่อหน้าเทพที่ยังระแวง

   แนะนำตัวเจ้าให้พวกโง่นี่ดูสิ 

   ตามบัญชานายท่าน! 

  เทพอสูรทั้งเก้าล้วนบินไปที่ด้านหลังซือหยูและเรียกเขาว่านายท่านด้วยสีหน้าเคารพนับถือ

  ทั้งธารดาราเงียบราวกับป่าช้าอีกครั้ง

  นานกว่าจะมีคนพูดอย่างไม่เชื่อสายตา

   ขะ…ข้าหูฝาดรึ?เทพอสูรพูดว่า ‘นายท่าน’ ! 

   เขาพิชิตเทพอสูรได้มากมายขนาดนั้นเลยรึ?กระทั่งรัชทายาทก็… 

  องค์ชายหนึ่งมองเหล่าเทพด้วยความอวดดี

   ข้าคือองค์ชายหนึ่งแห่งโลกอสูรจิงเฟยหยุน! 

  หา…

  เหล่าเทพอ้าปากค้างผู้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือองค์ชายหนึ่ง!!!

  เทพอสูรเหล่านี้คือรัชทายาทที่แข็งแกร่งที่สุด!

  เมื่อได้ยินคำแนะนำตัวแม้ฉีเหมินเจี้ยนกับเทพหลินหลางตัวสั่นด้วยความสะพรึงกลัว

  ว่ากันว่าพลังขององค์ชายหนึ่งจากโลกอสูรเป็นสองรองเพียงแค่จักรพรรดิอสูรและเทพแห่งความตาย

  เมื่อเทพทั้งสองมององค์ชายหนึ่งพวกเขารู้สึกถึงศรแหลมคมที่แทงดวงวิญญาณ ในใจเต็มไปด้วยความกลัว

   องค์หญิงหกแห่งแดนอสูรจิงเสวียน! จำเอาไว้ซะ เจ้าพวกโง่! 

  องค์หญิงหกพูดด้วยความหยิ่งยโสนางมองซือหยูด้วยตาเป็นประกาย

  ยิ่งติดตามซือหยูนานเท่าใดนางก็ยิ่งชื่นชมเสน่ห์ของเขา

  หากมองให้ถ่องแท้เทพที่อ้างตนว่าเป็นผู้ทรงปัญญาล้วนหม่นแสงต่อหน้าซือหยู

  ยิ่งองค์หญิงหกมองซือหยูเท่าใดหัวใจนางยิ่งเต้นเร็วขึ้นเท่านั้น

   องค์หญิงสองแห่งแดนอสูรจิงหยาน! ให้ตายสิ ทำไมข้าต้องทำแนะนำตัวให้พวกอ่อนแอโง่ ๆ นี่ด้วย? 

  องค์หญิงสองจ้องซือหยูตาเขม็ง

  ในบรรดารัชทายาทมีนางคนเดียวที่ไม่ได้ถูกบังคับให้ภักดีจากผนึก

  แต่น้ำเสียงของนางก็บอกได้ว่านางเป็นคนของซือหยู

   เจ้าเมืองเพลิงคลั่งจางฉุน!     เจ้าเมืองชิงหยวนจางเลี่ย! 

  …

  เทพอสูรทั้งเก้าแนะนำตัวและมองเทพหลายร้อยคนของพันธมิตรประจิมอย่างไม่แยแส

  สีหน้าที่มองมานั้นแตกต่างจากความยำเกรงที่มีให้กับซือหยูราวฟ้ากับเหว!

  เหล่าเทพไม่มีข้อสงสัยอีกแล้ว

  ซือหยูคือผู้เป็นนายของรัชทายาททั้งสามและอสูรเจ้าเมืองทั้งหก!

  สิ่งที่เขาทำนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ธารดารา!

  ซือหยูมองเหล่าเทพอย่างไม่แยแส

   ประวัติศาสตร์บอกว่าคนกลุ่มใหญ่มักทำตัวโง่เขลาเมื่อรวมตัวกันพวกเจ้าเป็นตัวอย่างได้อย่างดีทีเดียว! 

  เหล่าเทพหน้าแดงด้วยความละอายใจ

  พวกเขาเย่อหยิ่งเพราะการบ่มเพาะมานับพันปีของตนจนไม่ยอมรับคำตำหนิของซือหยู

  แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า…

  พวกเขาโง่เขลาและตื่นตระหนกต่อสิ่งที่ไม่เคยเจอไม่มีช่องว่างให้ใช้ความคิดอันเป็นเหตุเป็นผลเลยแม้แต่น้อย

  หากมีใครสักคนในกลุ่มนี้ได้เป็นเจ้าพันธมิตรอสูรบุกเข้ามาเมื่อใด ความสูญเสียคงมหาศาล

  เหล่าเทพยิ้มอย่างขมขื่นไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายซือหยูอีกแล้ว!

  ซือหยูมองเหล่าเทพอย่างเย็นชาเสียงของเขาดังสะท้อนทั่วธารดารา

   ข้าขอตำแหน่งเจ้าพันธมิตรด้วยตัวเอง!มีใครหรือไม่? ผู้ใดจะคัดค้าน? 

  ผู้ใดคัดค้าน…

  คัดค้าน…

  เสียงของเขาดังไปทั้งธารดาราอย่างยิ่งใหญ่ราวกับมันจะดังสะท้อนไปไม่รู้จบ

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท