ชลธีคอยคีบอาหารให้มุกดาอยู่ตลอดเวลา จนในถ้วยของมุกดามีกับข้าวเป็นกองพะเนิน จนเธอต้องเร่งกินอย่างอดไม่ได้
การกินอาหารของมุกดาดีมาก กินแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่เลือกอาหาร ของอะไรเข้าปาก ก็กินได้อย่างเอร็ดอร่อย
นีรชามองลูกสะใภ้ของตนเองแล้ว พอมองไปที่ลูกสะใภ้คนอื่น จนปากยู่ขึ้นมาทันที ลูกสะใภ้ของตนเองเป็นคนตรงไปตรงมา อยากจะกินอะไรก็กิน ส่วนผู้หญิงเหล่านั้น กินนิดหน่อย กลัวจะอ้วน จนตอนนี้วางตะเกียบลงแล้ว
“ถือว่ามุกดาของเราดีมาก อยากกินก็กิน แถมรูปร่างยังดีมากด้วย” นีรชาให้คนตักน้ำซุปตุ๋นยาจีนให้มุกดาหนึ่งถ้วย
เมื่อมุกดาได้ยินเสียงของนีรชา เธอถึงได้สนใจว่าทั้งโต๊ะ มีแค่ตนเองกับโธรณีซึ่งเป็นผู้หญิงสองคนกำลังกินข้าวอยู่ ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ นั้นต่างมองพวกเขาแล้ว
แสนดีถือว่าชินแล้ว เพราะว่าเป็นบ้านของตนเอง ยังไงก็ต้องกินให้อิ่ม
มุกดารู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย เธอกวาดตามองไปรอบๆ ผู้หญิงเหล่านั้นต่างใช้สายตารังเกียจจ้องมองมาที่ตนเอง
ไม่อยากกินแล้วแหละ แต่ยังกินไม่อิ่มเลย ถ้าจะกินต่อ เหมือนว่าจะไปทำผิดต่อคนอื่นอีกนะสิ ตะเกียบที่อยู่ในมือของเธอเริ่มเกิดอาการลังเลจนตัดสินใจไม่ถูกขึ้นมาแล้ว
“กินได้ถือว่ามีความสุขแล้ว หนูมุก หนูอยากกินก็กินไปเลย ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นเขา” ปู่ปรัณหน้าเครียด เขาชอบเด็กผู้หญิงที่กินเก่ง
มุกดาเห็นปู่ปรัณพูดออกมาแบบนี้แล้ว จึงไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นอีกแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าการอิ่มท้องแล้ว
“หนูมุก ฉันมีเรื่องหนึ่งต้องคุยกับหนูนะ” ปู่ปรัณวางตะเกียบลง
“ค่ะ คุณปู่สั่งการมาได้เลยค่ะ” มุกดารีบวางตะเกียบลงทันที พร้อมทั้งจ้องปู่ปรัณ เพื่อมองว่าปู่ปรัณต้องการจะพูดอะไรกับตนเอง
“ไม่ใช่การออกคำสั่ง แต่เป็นการพูดคุยกันเฉยๆ หนูก็แต่งงานกับชลธีของพวกเราแล้ว แต่เจ้าหมอนี่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย จนไม่ได้จัดงานแต่งงานที่ควรจัดให้กับหนู ตระกูลสุวรรณเลิศอันเก่าแก่ของพวกเราไม่สามารถทำร้ายลูกสะใภ้ของตนเองแบบนี้ตลอดได้ตลอด” ปู่ปรัณพูดจบแล้ว ก็จ้องตาชลธีเขม็ง
ชลธีเองก็รีบก้มหน้าทันที เรื่องนี้เขาก็รู้สึกละอายใจกับมุกดาเช่นเดียวกัน ไม่คิดเลยว่าคุณปู่จะพูดออกมา
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลยค่ะ” มุกดารีบโบกมือปฏิเสธอย่างร้อนรน ตอนนี้มันคือสัญญาแต่งงานกัน และตนเองไม่เคยคิดว่าต้องมีงานแต่งงานอะไรด้วยอยู่ในหัวเลย
“ไม่ได้ เรื่องนี้พวกเราปล่อยผ่านไม่ได้ งานแต่งงานครั้งนี้ต้องจัดงานแต่งใหม่ เอาตามนี้นะ หาวันมา พวกเราจะไปบ้านหนู ไปคุยกับคนในครอบครัวของหนูเพื่อปรึกษาหารือกันสักหน่อย ประเพณีที่ควรทำ ก็ทำกันไปแล้ว เรื่องงานแต่งงานก็ยกให้แม่แกกับพี่สะใภ้รองแล้วกัน เธอเป็นผู้หญิงที่มากความสามารถและมีมารยาทสำหรับทุกคน แถมยังคอยช่วยแม่ของแกจัดการเรื่องในบ้านด้วย” นายท่านใหญ่สุวรรณเลิศได้จัดการวางเรียงคนให้ทำงานหมดแล้ว
แม้ว่าในใจของวรรณวิมลจะไม่รู้สึกยินดีด้วยเลยก็ตาม แต่ว่าก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ เธอยิ้มตอบตกลงทันที
“วันนี้กลับมาแล้ว ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว อีกเดี๋ยวอยู่เล่นไพ่เป็นเพื่อนฉันนะ บัว แกไปจัดการด้วย จัดการเก็บกวาดห้องเก่าของตาชลสักหน่อย วันนี้พวกเขาจะพักที่นี่กัน” ปู่ปรัณจัดแจงเรื่องทุกอย่างเสร็จสรรพ
“ค่ะ คุณพ่อ คุณพ่อก็คิดได้รอบคอบจริงๆ เลย เดี๋ยวพวกเราเล่นไพ่กัน ฉันจะบอกให้นะ มุกหนูต้องคอยระวัง คุณปู่เล่นไพ่เก่งมาก” นีรชาเห็นว่านายปู่ปรัณดีกับลูกสะใภ้ของตนเองมาก จนเธอสบายใจสุดๆ
ครอบครัวลูกคนที่สองก็ไม่ต้องพูดถึงเลย นิตย์รวีร์ยังไม่ได้แต่งงาน เขาเลยไม่สนใจเรื่องในครอบครัวสักนิด
ธีร์ธวัชเป็นผู้ชายเลยไม่ได้สนใจกับเรื่องพวกนี้เลย ทว่าวรรณวิมลกลับไม่เหมือนกัน คุณท่านไม่ได้เล่นไพ่มานานแล้ว พอมุกดามา ก็จะให้เล่นไพ่เป็นเพื่อนซะงั้น ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตนเองเช่นนี้เลย
“ธวัช คุณดูนะ อยู่ในตระกูลสุวรรณเลิศมีชีวิตอยู่อย่างไร พออยู่ในบริษัทฮอนดากรุ๊ปก็เป็นผู้จัดการต๊อกต๋อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่มีอำนาจใดๆ เลย อยู่ที่บ้านก็ไม่ได้รับความรัก ที่ฉันต้องมาแต่งงานกับคุณถือว่าเป็นเรื่องที่โชคร้ายซวยซ้ำซวยซ้อนที่สุดในชีวิตแล้ว” วรรณวิมลดึงธีร์ธวัชเข้าห้อง จากนั้นก็เริ่มกราดเกรี้ยวใส่
ในใจของธีร์ธวัชไม่ใช่แสร้งแบบทำเรื่องมั่วซั่วพวกนั้น เขาเป็นผู้ชายนี่ ถ้าจะทำก็ต้องทำเรื่องใหญ่ๆ ไปเลย
“พอแล้ว พอแล้ว คุณอย่าได้เอาแต่โทษไปเลย ในบ้านสิ่งที่คุณควรมีก็ให้คุณหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?” ธีร์ธวัชพูดปลอบใจวรรณวิมล
“อะไรที่พูดว่าให้ฉันหมดแล้วเหรอ? แม่ของคุณถ้าไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องนั้นขึ้นมานีรชาจะเข้ามาอยู่ในตระกูลสุวรรณเลิศได้ไหมล่ะ? ตอนนี้ดีแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นของครอบครัวของพวกเขาไปหมดแล้ว ส่วนพวกเรากลายเป็นคนนอกไปแล้วเนี่ย” ตอนที่เมธพรแต่งงานกับธีร์ธวัชนั้น ยังรู้สึกว่าการที่ตนเองแต่งเข้าตระกูลสุวรรณเลิศได้ถือว่าบุญหล่นทับมากๆ
แต่พอแต่งเข้ามาถึงได้รู้ว่า ในตระกูลสุวรรณเลิศนั้นนีรชาเป็นคนเข้ามาจัดการเรื่องในบ้าน ส่วนแม่ของธีร์ธวัชไม่มีสิทธิ์เลยสักนิด
“อย่ารีบร้อนไป ที่รัก ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะ ถึงตาพวกเรา พวกเราต้องเอาคืนมาให้หมด” ธีร์ธวัชไม่พูดอะไรมากกับวรรณวิมล ผู้หญิงแหละ เอาใจสักหน่อยก็ได้แล้ว เพราะว่าเอาใจง่ายไวจะตาย
“แถมยังให้ฉันไปเตรียมจัดงานแต่งงานให้พวกเขาอีก แถมยังมาใช้เงินในตระกูลของพวกเราตั้งเยอะแยะ ฉันเจ็บใจ แต่งงานก็แต่งกันแล้ว ยังจะมีทำอะไรอีก ผู้หญิงคนนี้ ฉันได้ข่าวมาว่าถูกคนเขี่ยทิ้งไสหัวมา ก็มีแค่ตระกูลสุวรรณเลิศเท่านั้นแหละที่ยกเธอเป็นสมบัติล้ำค่า!” วรรณวิมลรู้เรื่องมุกดา เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของตนเอง
“นี่ ใช่แล้ว วันไหนฉันว่างจะบอกคุณปู่กับคุณแม่สักหน่อยดีกว่า มุกดาคนนี้เป็นแม่หม้ายแต่งงานมาแล้ว ดูสิว่าพวกเขาจะยกเธอเป็นสมบัติล้ำค่าไหม!” วรรณวิมลคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เธอดีใจขึ้นมาทันที
“อะไรนะ? ผู้หญิงคนนี้แต่งงานมาแล้วเหรอ? งั้นก็เป็นแม่หม้ายมีผัวสองคนแล้วนะสิ? ฮ่าๆๆ ชลธีนี่เก่งกว่าฉันทุกอย่างเลย แต่เมียของมันไม่ได้เก่งกว่าเมียของฉันเลย เมียของผมกับผมถือว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน!” ธีร์ธวัชได้ยินแล้ว มักจะมีตรงไหนสักที่นี่แหละ ที่ชลธีไม่สามารถทัดเทียมตนเองได้
“โอ๊ย หนูมุกกินเรียบอีกแล้ว! หนูมุก นี่มือดีอะไรขนาดนี้เนี่ย วันนี้ทำให้พวกเราขาดทุนกันย่อยยับหมดท่า” ปู่ปรัณยู่ปาก พร้อมทั้งเอากล่องใส่เงินที่วางไว้ด้านหน้าของตนเองเอาออกมาให้ทุกคนดู ว่ามันว่างเปล่าไม่มีเหลือเลยสักแดงเดียว
ส่วนชลธีที่คอยนั่งสอนอยู่ข้างๆ มุกดานั้น เขาภูมิใจมากจนเอากล่องเงินของมุกดาให้ทุกคนดู จนเห็นว่ายัดไม่เข้าแล้ว
“หรือว่าวันนี้เล่นไพ่เสร็จ ฉันคงต้องไปถอนเงินมาแล้วมั้ง? นี่คือชื่อเสียงอันเลื่องลือตลอดชีวิตของฉันเลยนะ!” ปู่ปรัณทำหน้าเครียด
“งั้นฉันเอาเงินคืนให้กับพวกคุณก็ได้นะ” มุกดาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวันนี้มือดีมากได้ขนาดนี้ เหมือนว่าอยากได้อะไรก็จัดมาให้ทันที บวกกับคำชี้แนะของชลธีด้วยแล้ว ก็เหมือนกับขึ้นไปคอยเก็บเงินมาอย่างนั้นเลย
พอพี่สะใภ้รองได้ยินว่าจะคืนเงินเท่านั้นแหละ ใบหน้าของเธอถึงกลับเปล่งประกายทันที เพราะว่าแพ้จนจ่ายไปแล้วหมื่นกว่าบาท เดี๋ยวกลับไปทำได้แค่ดื่มน้ำชาได้แค่นั้นแล้วแหละ เพราะปกติไม่ค่อยปวดใจอะไร เรื่องเล่นไพ่นกกระจอกแพ้เนี่ย แต่พอมาแพ้ให้กับคนในครอบครัวของตนเองแล้วเนี่ย เธอไม่สบายเอาใจเลย
“คืนอะไรล่ะ หนูใช้ความสามารถของตนเองทั้งนั้น ไม่ได้ไปแย่งชิงของใครเขามา ตกลงกันแล้วนะว่าจะเล่นกันถึงห้าทุ่ม ยังมีอีกตั้งชั่วโมงกว่า ใครไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ!” ปู่ปรัณให้พ่อบ้านเอาเงินมาให้ตนเองเพิ่ม