พอได้ยินว่าจะให้มุกดาจัดการเรื่องนี้ ย่านิ่มก็มองโธรณีด้วยแววตาที่ร้องขอ หลานสาวน่าจะช่วยตัวเองได้นะ? เธอฟังไม่ออกจริงๆว่าตอนนี้โธรณีอยู่ข้างใครกันแน่
“คือว่า มุกไม่ต้องจัดการอะไรแล้วล่ะ เธอคงลำบากใจอยู่ ฉันต้องขอโทษมุกแทนตัวฉันและคุณย่าด้วยนะ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก การตีคนเป็นเรื่องที่ผิด ฉันไม่ทันคิดไปเอง” ชุติภาสเปลี่ยนความคิดกะทันหัน เขายอมรับผิดกับมุกดา
“แต่ว่า เรื่องการตีคนฉันยอมรับผิดได้ แต่ฉันอยากจะถามว่า เรื่องในหนังสือพิมพ์วันนี้มันเป็นยังไงกันแน่ พวกเธอก็ต้องอธิบายกับพวกเราเหมือนกัน” ชุติภาสเปลี่ยนประเด็นชี้ไปทางมุกดา
เขายอมรับผิดได้ แต่เรื่องข่าวอื้อฉาวในหนังสือพิมพ์นั่น จะมองเป็นเรื่องเล็กๆไม่ได้ ผู้หญิงแบบนี้เขาไม่เชื่อหรอกนะว่าลูกชายตัวเองจะให้ความสำคัญขนาดนี้
“ฉันอยากจะบอกกับทุกคนที่อยู่บ้านเลยว่า มุกอยู่ด้านนอกนั้นเหนื่อยแค่ไหน วันนี้เธอจะไปเซ็นสัญญากับคุณนายโรสและคุณยูริส ทุกคนรู้หรือเปล่าการที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาสองคนมันหมายความว่ายังไง?” ชลธีดึงมุกดาให้นั่งลง ภรรยาของเขาคงมีแต่เขาที่รักสินะ
“ว่าไงนะ? คุณนายโรสกับคุณยูริส มุกดาจะเซ็นสัญญากับพวกเขา นายอย่ามาคุยโวหน่อยเลย” ชุติภาสเบะปากมองมุกดา บริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้จะเป็นชลธีก็คงจัดการไม่ได้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฮอนดากรุ๊ปของตัวเองหรอก
ชุติภาสในตอนนั้นก็คงพยายามมาแล้ว แต่คุณนายโรสไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ
ตอนนี้สาวน้อยที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม จะเซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่ๆแบบนี้ได้ยังไงกัน
“พ่อครับ พ่อทำไม่ได้ ผมทำไม่ได้ มันไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำไม่ได้นะครับ มุกดาทำได้แล้ว เธอไม่เพียงแต่ทำได้แล้ว และยังเป็นการเซ็นสัญญากับทั้งสองบริษัทระยะยาวด้วย สัญญาฉบับนี้ทุกคนรู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง?” ชลธีมองดูย่านิ่มกับสิริกร
ชลธียังไม่ทันได้พูดอะไร ชุติภาสก็พูดขึ้นก่อนว่า “สัญญาสองฉบับนี้ พิสูจน์ได้ว่าบริษัทฮอนดากรุ๊ปของเราถึงแม้ว่าจะไม่เซ็นสัญญากับบริษัทอื่น พวกเราก็จะมีเงินใช้ตลอดชีวิต” ชุติภาสพูดความจริงออกมา
การเซ็นสัญญานี้ ทำให้ตำแหน่งในพระนครของพวกเขาบริษัทฮอนดากรุ๊ปหนักแน่นขึ้น แน่นอนว่าเทียบกับโจนส์กรุ๊ปที่มาจากต่างประเทศไม่ได้
ย่านิ่มกับสิริกรอ้าปากค้าง พวกเธอไม่ได้ดีใจเพราะเรื่องนี้ แต่รู้สึกตำแหน่งในบ้านนี้ของมุกดาคงจะสูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเธออยากไล่หล่อนออกไปก็คงทำไม่ได้แล้ว
ชุติภาสได้ยินข่าวนี้ ก็ทำดีกับมุกดาจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
การขอโทษก็ดีขึ้นมามาก เขาขอโทษต่อมุกดาอีกครั้งอย่างจริงใจ ยัยหนูคนนี้ดูธรรมดาและปกติ แต่กลับเซ็นสัญญากับโรสกับยูริส
“มุก วันนี้พ่อผิดเอง พ่อเข้าใจเธอผิดเอง เอาแบบนี้ แค่ขอโทษคงแสดงออกมาไม่ได้ถึงความรู้สึกผิด พ่อเอาอันนี้ให้เธอแล้วกัน” ชุติภาสเอาพัดไม้หนานมู่เนื้อทองในห้องทำงานของตัวเองออกมา
มุกดาเห็นแล้วก็ไม่รู้ว่ามันเอาไว้ทำอะไร สำหรับเธอแล้วมันแค่เอาไว้พัดเฉยๆ
“คุณพ่อคะ ไม่ต้องหรอกค่ะ มีเรื่องเข้าใจผิดพูดให้เข้าใจก็พอแล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ” มุกดาปฏิเสธ เธอไม่ถนัดเรื่องของเล่นโบราณและภาพเขียนเสียเท่าไหร่
“รับไว้เถอะ เธอว่าเป็นพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก แม่เธอก็ให้กำไลแล้ว ตอนนั้นฉันไม่อยู่ด้วย เลยไม่ได้ให้ของอะไรกับเธอ ก็เอาอันนี้ให้เธอแล้วกัน” ชุติภาสดึงดันที่จะให้มุกดา
“พ่อคะ หนูต้องบอกกับพ่อก่อนนะคะ ผู้ชายคนที่ถ่ายรูปกับหนูคือพี่ประวีร์ วันนั้นคุณนายโรสนัดหนูไปเล่นโบว์ลิ่ง แต่ฉันเล่นไม่ค่อยเก่งเลยถูกคนเอาโบว์ลิ่งกระแทก โชคดีที่พี่ประวีร์อยู่ด้วย เขาช่วยหนูไว้ รูปนั้นก็ถ่ายในตอนนั้นเลยค่ะ มีคนอยู่ในเหตุการณ์เยอะมากด้วยค่ะ แต่แค่ถูกเบลอไปหมด” มุกดารู้สึกว่าตัวเองต้องอธิบายเรื่องภาพนั้นให้ชุติภาสเข้าใจเสียก่อน
ส่วนวันนี้ตอนเช้า เธอก็ไม่อธิบายแล้วกัน ทุกคนก็อยู่และเห็นกันหมด และไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเยอะด้วย
“อืม เอาล่ะ พ่อรู้แล้ว พวกเธอไปพักผ่อนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวตอนกินข้าวแล้วค่อยเรียกพวกเธอนะ” ชุติภาสปัดมืออย่างอ่อนแรง เขาก็รู้สึกว่าเหนื่อยกับการต้องใช้ชีวิตในบ้านนี้เหมือนกัน
เมื่อก่อนตอนที่แม่ยังไม่มา นีรชาจัดการบ้านได้อย่างเรียบร้อย ตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรและสบายใจมากด้วย
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขารู้สึกทุกวันนี้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในการวางแผน แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ภรรยาก็กลับบ้านตัวเองไม่กลับมาอีกแล้ว สายตาที่ลูกชายและลูกสะใภ้มองเขาไม่มีความเคารพเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
เขาชุติภาสทำไมถึงมีชีวิตที่ล้มเหลวแบบนี้กัน? เขาให้ลูกชายและลูกสะใภ้กลับไป โธรณีก็ไปแล้ว อยู่กับคนพวกนี้ เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน ในห้องรับแขกก็เหลือเพียงชุติภาส ย่านิ่มและสิริกรสามคน
“แม่ครับ แม่ก็อายุมากแล้ว ผมรับแม่มาที่นี่ก็เพื่อให้แม่ได้มีความสุข และสบายในวัยชรา แม่ก็ไม่ต้องยุ่งเรื่องในบ้านมากหรอกครับ ฟ้า เธอก็ดูแลแม่ดีๆ ต้องการอะไรก็บอกฉันได้” ชุติภาสก็รู้สึกเหนื่อยมากเหมือนกัน เขาเลยกลับไปที่ห้องของตัวเอง
“ตายจริง ฉันตกใจมากเลย ฟ้า คนพวกนี้ชักจะเก่งเกินไปแล้ว พวกเราจะต้องระวังให้ดีกว่าเดิมนะ ไม่คิดว่าที่นี่จะมีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่ ช่างเถอะ พวกเรารออ่อนกลับมาค่อยว่ากันแล้วกัน ในบ้าหลังนี้แทบจะไม่มีจุดยืนของพวกเราแล้ว” ย่านิ่มถูกชุติภาสสั่งสอน ในใจเธอก็ไม่พอใจอย่างมาก สามีตัวเองตายแล้ว พวกเขาก็เลยรังแกตัวเองแบบนี้หรือไง?
“แม่คะ พวกเราจะต้องฟังที่อ่อนพูด เธอฉลาดและประสบการณ์เยอะกว่า พวกเราเพิ่งกลับมาจากชนบท ที่นี่มีหลายเรื่องที่เราไม่เข้าใจ จัดการพวกเขา จะต้องใช้เวลาและวางแผนในระยะยาวค่ะ” สิริกรพูดเอาใจย่านิ่ม
“แม่กลัวเธอจะน้อยใจไง? เธอดูแลแม่มานานหลายปี ตำแหน่งนายหญิงในบ้านก็เลยถูกยัยสุนัขจิ้งจอกนั่นแย่งไปได้ แม่ไม่พอใจ แม่อยากจะช่วยเธอ ฟ้า ในใจเธอยังคงรักชุติภาสใช่ไหม?” ย่านิ่มจับมือสิริกรไว้
“แม่คะ แม่พูดอะไรกันคะ ในใจหนูมีแค่ชุติภาสคนเดียว ไม่งั้นหนูคงแต่งงานใหม่ไปแล้วค่ะ” ในใจสิริกรมีเพียงชุติภาสคนเดียวอยู่แล้ว ในโลกนี้จะมีใครเทียบกับชุติภาสได้
แต่ชุติภาสไม่เคยชอบเธอเลย ย่านิ่มต้องใช้ฝีมือถึงจะได้ลูกชายสองคนมา ไม่งั้นชุติภาสไม่มีทางแตะสิริกรด้วยซ้ำ
“ขอแค่ในใจเธอยังมีชุติภาสก็ดีแล้ว เธอดีกับฉัน ฉันจำได้ทั้งหมด ดังนั้นแม่จะช่วยเธอให้ได้ วางใจได้เลยนะฟ้า สุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นจะต้องถูกไล่ออกจากตระกูลสุวรรณเลิศให้ได้” ย่านิ่มสัญญากับสิริกร