The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1326 – ความตายของเทพอสูรหกวิถี

ตอนที่ 1326 - ความตายของเทพอสูรหกวิถี

ตอนที่ 1326 – ความตายของเทพอสูรหกวิถี

  หนอนวิญญาณมรณะที่ถูกฟันปีกขาดไม่ได้ตายมันร้องเสียงแหลมแสบแก้วหูออกมา

  แม้คนรอบข้างจะไม่เข้าใจภาษาของมันทุกคนก็รู้ว่าเจ้าหนอนกำลังคลั่ง

  หลังจากกรีดร้องเสียงแหลมแล้วดวงตามันได้เปล่งแสงสีแดง

  แสงแล่นผ่านทั้งฟ้าดินเทพอสูรหกวิถีเจ็บปวดในหกราวกับหัวใจอสูรอีกหลายดวงของเขาถูกทำลายไป

  ทุกคนได้เห็นแสงสีแดงนั้นทะลวงอกของเทพอสูรหกวิถี

  เทพอสูรหกวิถีร้องคำรามอีกครั้งในครั้งนี้ ฝ่ามือของเขาที่กุมอกเอาไว้ก็ถูกแสงสีแดงทะลวงผ่านจนกลายเป็นฝุ่นผง

  หัวใจอสูรอีกดวงจากไปแล้ว

  เกิดแผ่นดินไหวบนฟ้าดินแล่นมาถึงอกของเขา  จากนั้นก็เป็นดวงที่สามสี่ ห้า…

  แสงสีแดงยังคงทะลวงอกของเทพอสูรหกวิถีต่อไป

  เพียงสิบลมหายใจแสงสิบสายก็แล่นทะลวงหัวใจเทพอสูรไป

  เทพอสูรหกวิถีมิอาจต่อต้านเขาทำได้แต่มองหัวใจของตัวเองที่ถูกทำลายไปทีละดวง

  จนสุดท้ายเหลือเพียงหัวใจของเขาเองเพียงดวงเดียวมันเป็นหัวใจสีแดงเข้มกว่าหัวใจอสูรดวงอื่น

  เมื่อหนอนวิญญาณมรณะกลายเป็นแสงทะลวงและพยายามจะทะลุผ่านหัวใจของเทพอสูรหกวิถีนั้นหัวใจมิได้ถูกทำลายในทันที วิถีเทพของมันได้แสดงอานุภาพออกมาแทน

  เทพอสูรหกวิถีเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

  หนอนวิญญาณมรณะกรีดร้องมันคิดจะปิดฉาก แต่ร่างของมันกำลังจะสลาย ร่างของมันโปร่งใสไปแล้ว  ชีวิตของมันมาถึงจุดจบแล้ว

  ถึงอย่างนั้นหนอนวิญญาณมรณะก็ยังพุ่งตรงไปที่เทพอสูรหกวิถี

  ความเร็วของมันลดน้อยลงเรื่อยๆ แสงในตัวหม่นหมองลงไปทุกที สุดท้ายมันก็กลายเป็นลูกไฟที่ดับหน้าเทพอสูรหกวิถีเพียงคืบเดียว

  เทพอสูรหกวิถีเหงื่อไหลไปทั้งกายถ้าหากหนอนวิญญาณมรณะตายไปช้ากว่านี้ เขาจะต้องตายในวันนี้เช่นเดียวกัน

  ตู้ม!

  เช่นเดียวกันชีวิตของซือหยูมาถึงจุดจบแล้ว

  ทุกคนเสียโอกาสในการรอดชีวิตไปแล้ว

  แม้เทพอสูรหกวิถีจะเสียหัวใจไปหลายดวงเขาก็สังหารทุกคนได้ในคราเดียว

  เทพอสูรหกวิถีไม่อวดดีอีกต่อไปเขาจ้องซือหยูด้วยจิตสังหารอันเข้มข้น

  อันตรายเกินไป!   ซือหยูผู้นี้อันตรายมากอันตรายเสียยิ่งกว่าที่มเหสีหยุนเซี่ยคิดเอาไว้!

  มันต้องตาย!

  ช่างหัวสามรัชทายาทแต่ไม่ใช่ซือหยู ซือหยูต้องตาย เทพอสูรหกวิถีรู้สึกว่าซือหยูสามารถนำพาความวิปโยคมาสู่ทั้งโลกอสูรได้ในอนาคต!

  ฟึ่บ!

  เทพอสูรหกวิถีมุ่งไปสู่หัวใจของซือหยู

  การสังหารครั้งนี้ใช้พลังอสูรทั้งหมดของเขา!

  กระบี่อสูรขององค์ชายหนึ่งฟันมาข้างหน้าองค์หญิงสองและองค์หญิงหกเองก็พยายามป้องกัน

   ไสหัวไป! 

  เทพอสูรหกวิถีเสียงดังดั่งฟ้าผ่ารัชทายาทกระเด็นไปข้างหลัง

  จิตสังหารของเทพอสูรหกวิถีพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด  ไม่มีใครต้านทานเขาได้อีกแล้ว

  ซือหยูที่ใช้เกือบทุกอย่างที่มีไม่เหลืออะไรเพื่อป้องกันตัวเองต่อเทพอสูรหกวิถีที่แข็งแกร่งไร้ใครเทียมได้เลย

  แต่ก่อนที่เขาจะตายเทพอสูรเนตรม่วงที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดได้ปล่อยแสงสีม่วงออกจากดวงตา

  แสงสีม่วงจะทวงท้องนภาอันมืดมิดปกคลุมทั่วทุกแห่งหน

  กายหยาบของเขาถูกแผดเผาไปด้วยเพลิงสีม่วง

   เขากำลังจะเผาวิถีเทพของตัวเอง! 

  องค์ชายหนึ่งตกใจ

  วิถีเทพคือรากฐานของเทพทุกคนการแผาวิถีเทพไม่ต่างกับการทำลายตัวเอง

  แม้มันจะช่วยให้ระเบิดพลังมหาศาลออกมาได้มันก็ไม่เคยถูกผู้ใดใช้พลังนี้นอกเสียจากกำลังจะตาย

   ฟ้าดินดั่งคุกคุมขัง!    เทพอสูรเนตรม่วงตะโกนแสงสีม่วงสองสายพุ่งจากเนตรไปยังก้นบึ้ง ราวกับว่าเขากำลังตามหาสิ่งที่ไม่มีใครมองเห็นจนไม่มีอยู่จริง

  เมื่อภาพสะท้อนกลับมามันตามมาด้วยพลังที่สวรรค์ซุกซ่อนเอาไว้

  การเผาวิถีเทพคือการทิ้งความปรารถนาที่จะเป็นเทพย่อมเลี่ยงไม่ได้จากกฎสวรรค์ที่จะตามมาถึง

  ฟ้าดินคุกคุมขังหล่นลงมาสะท้อนแสงสีม่วงแสงได้ซ้อนทันกันเป็นทรงขัง เทพอสูรหกวิถีติดอยู่ภายใน

   เทพอย่างเจ้ามันอ่อนแอ!คิดว่าเผาวิถีเทพแล้วจะหยุดข้าได้สินะ? 

  เทพอสูรหกวิถีตะโกนเขาคว้าแสงสีม่วงด้วยสองมือ พยายามจะสะบั้นมันให้ขาด

  กรงขังสั่นอย่างบ้าคลั่งมันกำลังจะพังไปจริง ๆ

  เพลิงสีม่วงของเทพอสูรเนตรม่วงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาหันไปมองซือหยู

   ข้าทำเพื่อเจ้าได้เพียงเท่านี้ดูแลศิษย์ข้าให้ดีด้วย 

  ขณะที่พูดเขาหันไปและมุ่งหน้าสู่สระสวรรค์พร้อมกับกรงขัง

   ไม่นะ! 

  เทพอสูรหกวิถีรู้ถึงความตั้งใจของอีกฝ่ายและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวแม้จะอยู่ในกรง เสียงกรีดร้องของเขาก็ดังมาจนถึงเทพอสูรเนตรม่วงจนตัวสั่น

  แต่มันมิอาจหลบเลี่ยงได้อีกแล้วเทพอสูรเนตรม่วงจมตัวเองลงสู่สระสวรรค์แล้ว

  แรงดูดดึงทุกสิ่งลงไปกรงที่อยู่ติดกับเทพอสูรเนตรม่วงถูกดูดลงไปอย่างรวดเร็ว

  เทพอสูรหกวิถีร้องคำรามด้วยความโกรธแค้นจนทั้งธารดาราสั่นคลอน

   ไม่!ข้ายังไม่อยากตาย! 

  เกิดคลื่นขนาดใหญ่ถาโถมเข้ามายังกรงที่ถูกดูดลงสู่สระสวรรค์เสียงของเทพอสูรหกวิถีดับลง

  พลุ่บ!

  เหล่ารัชทายาทที่ดูเหมือนกำลังจะหมดสติล้มลงกับพื้นราวกับวุ้น

  เทพอสูรเนตรม่วงสละชีวิตตัวเองลากเทพอสูรหกวิถีลงไปตายกับเขา

  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับเป็นความฝันมันดูไม่เหมือนจริงเลย

  ซือหยูใบหน้าโศกเศร้าเขายืนข้างสระสวรรค์และโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง

   ข้าจะดูแลศิษย์เจ้าให้เป็นอย่างดี 

  หากเทพอสูรเนตรม่วงไม่สละชีวิตพวกเขาจะมิอาจหนีความตายไปได้

  ซือหยูอยากให้เทพอสูรเนตรม่วงได้ใช้ชีวิตยามชราอย่างเป็นสุขเขาไม่เคยคาดหวังให้เทพอสูรเนตรม่วงต้องมาสละชีวิตเพื่อให้เขาเอาชนะเทพอสูรหกวิถี

  องค์หญิงหกมองซือหยูที่กำลังเศร้าหมองนางเข้าหาซือหยูและพูดอย่างอ่อนโยน   เทพอสูรเนตรม่วงมิได้มีมีชื่อเสียงยามมีชีวิตแต่กลับเอาชนะเทพอสูรสุดยอดยามตัวตาย ข้ามั่นใจว่าเขาต้องตายตาหลับ เทพอสูรเนตรม่วงยินดีที่จะตายเพื่อวันนี้แล้ว 

  ซือหยูหันกลับไปมองนางพลางพยักหน้าเบาๆ

   ขอบคุณนะ 

   เมื่อใดกันยามใดกันที่จะไม่มีใครต้องมาตายอีก? 

  ซือหยูมองไปยังความเวิ้งว้าง

  องค์หญิงหกตอบ

   ยามที่เจ้าได้กลายเป็นผู้สร้างฟ้าดินหากไม่ใช่วันนั้น พวกเราก็จะเป็นเพียงเศษธุลีในท้องนภากว้างใหญ่อยู่เสมอ ได้แต่เพียงขอความอ้อนวอนจากโชคชะตา 

  ซือหยูกำลังคิดถึงบางสิ่งบางอย่างเขามองไกลออกไป

  ถึงเทพอสูรหกวิถีจะตายไปแล้วเขาก็ผ่อนคลายจิตใจไม่ได้  ยังเหลือผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเทพอสูรหกวิถีอีกหลายขั้น

  จักรพรรดิอสูรรุ่นแรก!

  ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวสูงสุดในธารดารา

  วันใดวันหนึ่งจักรพรรดิอสูรจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นกลายเป็นสารอาหารสู่การเป็นมัธยเทพของตัวเอง

   แดนอสูรหากไม่มีมัน ธารดาราจะสงบสุขเพียงใด? 

  ซือหยูพูดด้วยใบหน้าอันเย็นชา

  ไม่ว่าจะเป็นเฉินหลงจิวโจว พันธมิตรบูรพา โลกเสี้ยววิญญาณ หรือพันธมิตรประจิม เคราะห์ร้ายทั้งมวลล้วนข้องเกี่ยวกับแดนอสูรทั้งสิ้น

  ตราบเท่าที่ยังมีจักรพรรดิอสูรรุ่นแรกธารดาราจะไม่มีวันสงบสุข

  ในแววตาเขามีประกาย

  เขารู้ว่าต้องทำสิ่งใด  เขาจะสร้างวันพรุ่งนี้และอนาคตสำหรับตัวเองและทุกคน!

  แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องทำอะไรบางอย่างให้ลุล่วง

   เทพตำราถ้าเจ้าซ่อนตัวอยู่ในโลกอสูร ข้าอาจทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่ถ้าหากเจ้าออกมาแล้ว เรื่องในอดีตจะได้ถูกสะสางเสียที! 

  ถ้าหากเทพเจิ้งมาไม่ทันเวลาซือหยูจะไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยหนอนวิญญาณมรณะ

  พลังของเทพตำราไม่ได้สูงนักแต่เทพตำราฉวยโอกาสทำร้ายเทพที่ตนเองจับมือด้วยได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ตนเองได้หนีออกไป

  ถ้าหากมีโอกาสซือหยูจะไม่แปลกใจเลยถ้าเทพตำรามีอันตรายพอ ๆ กับเทพอสูรหกวิถี

  องค์หญิงหกขมวดคิ้ว

   เทพตำราเจ้าเล่ห์ยิ่งนักเจ้าทำให้มันต้องเผชิญหน้ากับความตายหลายต่อหลายครั้งแต่มันก็ใช้ตำรามาตายแทน ถ้าหากเตรียมการไม่ได้ก็ยากที่จะสังหารมันได้ 

  ซือหยูตอบอย่างเยือกเย็น

   มันไม่มีโอกาสหนีอีกแล้วข้ารู้แล้วว่าเหตุใดมันถึงหนีไปได้ทุกครั้ง 

  เทพตำราใช้ตำรามาตายแทนหลายครั้งหลายครา

  ต่อให้ซือหยูโง่ซึ่งไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็สรุปได้

   ไปหาเทพเจิ้งเร็ว!ถึงเวลาสู้กับเทพตำราแล้ว! 

  ซือหยูตะโกน

  ฟึ่บ!

  เขากับพรรคพวกไล่ล่าตามเทพเจิ้งไป

  พวกเขาไม่รู้เลยว่าเมื่อจากไปแล้วเสาทมิฬสูงพันศอกได้กลิ้งออกมาจากส่วนหนึ่งของสระสวรรค์

  หากมองใกล้ๆ จะพบว่าเสายาวต้นนี้คือเส้นผม!

  ครึ่งวันต่อมา…

  ในขอบนภาอันห่างไกลเทพเจิ้งกำลังขวางทางเข้าของโลกที่แตกดับ

   เทพตำราเจ้าไม่ต้องซ่อนตัวอีกแล้ว เจ้าทำเรื่องชั่วร้ายมามากมาย ชะตาของเจ้าถึงจุดจบแล้ว! 

  ในโลกที่นางอยู่นั้นเงียบกริบและไร้เสียงตอบกลับจากเทพตำรา

  แต่เทพเจิ้งสัมผัสถึงพลังของเทพตำราได้

  เทพเจิ้งกัดฟันก้าวเข้าไปยังโลกด้วยความลังเล

   อย่าเข้าไป! 

  เสียงของซือหยูดังเข้ามา

  เทพเจิ้งหยุดนิ่งไปชั่วขณะจากนั้นนางได้เห็นซือหยูนำเหล่ารัชทายาทอสูรมาหานาง

  นางดีใจที่เห็นว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่แสดงว่าพวกเขาหนีจากอสูรตนนั้นมาได้สินะ?

   ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? 

  เทพเจิ้งถาม

  ซือหยูร่อนลงมองโลก

   ถ้าพวกข้าไม่มาพวกข้าก็ทำได้แค่รอเก็บร่างไร้วิญญาณของเจ้า! 

  เทพเจิ้งไม่พอใจ

   พลังเทพตำราต่ำกว่าข้าหลายขั้นเจ้าพูดแบบนี้กับข้า มัน… 

   เช่นนั้นก็ดูนี่… 

  ซือหยูชี้ไปยังจุดหนึ่งนอกโลกที่ถูกซ่อนเอาไว้โดยค่ายกล

  องค์ชายหนึ่งแกว่งกระบี่อสูรเพื่อทำลายค่ายกลนั้น

  ค่ายกลที่ถูกทำลายนั้นพร้อมใช้งาน

   ค่ายกลล้างโลก? 

  เทพเจิ้งผงะถ้าหากมันถูกใช้งาน โลกที่นางกำลังจะเข้าไปจะถูกทำลาย  ต่อให้เป็นนางก็ต้านทานพลังนี้ไม่ได้ไม่มีทางที่นางจะไม่บาดเจ็บ

  ถ้าหากเทพตำราใช้โอกาสนั้นจู่โจมนางโอกาสที่นางจะเสียตำแหน่งเทพจะมากถึงแปดในสิบ!

  เทพเจิ้งเหงื่อแตกพลั่ก

   พลังเทพตำราที่ข้าสัมผัสได้เป็นพลังลวงเพื่อล่อข้ามาติดกับสินะ? 

  ซือหยูพยักหน้า

   อาจจะเป็นอย่างนั้น 

  เขาตอบ

   ข้าเห็นมันเข้ามาที่นี่ข้าไม่น่าจะเข้าใจผิดได้ ไม่ใช่หรือ? 

  เทพเจิ้งแปลกใจ

   ข้าจับตามองมันจากด้านนอกถ้าหากมันหนี มันก็มิอาจรอดเร้นสายตาข้าไปได้เลย 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท