The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1329 – แดนเทพโบราณ

ตอนที่ 1329 - แดนเทพโบราณ

ตอนที่ 1329 – แดนเทพโบราณ

  นางเงือกตัวน้อยกลัวมากส่วนนางเงือกอีกคนที่อายุมากกว่าจ้องซือหยูอย่างเย็นชา นางพูดบางอย่างที่แปลกออกไป

   แปลกนักนี่มันภาษาเทพโบราณหายาก ภาษานี้หายจากธารดาราไปนานมากแล้ว 

  ซือหยูคิดเขาตอบกลับด้วยภาษาเงือก เขาได้รู้ภาษามากมายจากหยุนหยาซือรวมถึงภาษาที่หายไปแล้วด้วย

  นางเงือกผงะนางไม่คิดว่าซือหยูจะพูดภาษาของนางได้

   ฆ่าพวกเราซะ!เราไม่มีวันยอมให้เจ้าหรอก 

  ซือหยูลูบคาง

   มีคำว่า‘คนเลว’ เขียนอยู่ที่หน้าผากข้าหรือข้าดูเหมือนคนเลวงั้นหรือ? 

  ซือหยูหล่อเหลาทั้งยังเฉลียวฉลาดแต่นางเงือกที่กำลังกลัวดูจะไม่ทันสังเกต   ไม่ต้องมาเสแสร้ง!เผ่ายักษ์ส่งเจ้ามาจับพวกเราให้ไปแต่งงานด้วยใช่ไหม? พวกข้าขอตายดีกว่า! 

  นางพูดเสียงแข็ง

  ซือหยูส่ายหน้า

   เผ่ายักษ์คืออะไรกัน?แต่ข้าไม่สนใจหรอก ที่นี่มันคือที่ไหนกันแน่? 

  นางเงือกทั้งสองมองหน้ากันด้วยความสงสัย

  เงือกน้อยพูด

   ท่านพี่เขาน่าจะไม่ได้มาจากเผ่ายักษ์นะ เขาดูดีกว่าพวกยักษ์ 

  ซือหยูหน้าหมอง

   ถึงข้าจะไม่รู้ว่ายักษ์หน้าตาเป็นแบบไหนข้าก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้ 

   อย่ารังแกนางมองมาที่ข้า! 

  เงือกอีกคนมองตรงมาที่ซือหยู

   ที่นี่คือน่านน้ำของเผ่าเงือก     ข้าพูดถึงที่ใหญ่กว่านั้น 

  นางสับสน

   ที่ใหญ่กว่า…เจ้าพูดถึงอาณาจักรมืดรึ? 

   ข้าพูดถึงทุกที่พวกเจ้าเรียกโลกนี้ว่าอะไรกัน? 

  นางตกตะลึง

   ถามอะไรของเจ้า?ที่นี่คือแดนเทพโบราณ 

  อะไรนะ?

  ซือหยูใจสั่นเขาเสียการควบคุมพลังเทพ พลังห้าธาตุเริ่มปั่นป่วนจนทำให้เขาสำลัก

   เจ้าพูดว่าที่นี่คือที่ไหนนะ? 

  นางตอบด้วยสีหน้างุนงง

   แปลกพิลึก!เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อแดนเทพโบราณเลยรึ? 

  ฟู่ว………

  ซือหยูหายใจเข้าลึก

  ที่นี่คือ…แดนเทพโบราณ!   ตำนานแดนเทพโบราณแห่งธารดาราที่ว่ามีสุดยอดนักรบมากมายอยู่น่ะรึ?

  ใต้สระสวรรค์มีแหล่งอารยธรรมโบราณที่ซ่อนเอาไว้และสูญหายมานาน!

  กว่าซือหยูจะใจเย็นลงได้ก็กินเวลาไปนาน

  ซือหยูมองนางเงือกทั้งสอง

   ไม่ต้องกลัวข้าไม่ได้มาทำร้ายพวกเจ้า ข้ามาที่นี่ได้โดยบังเอิญ ข้ากำลังรวบรวมข้อมูล 

  เขาปล่อยนางเงือกทั้งสองจากโซ่ห้าธาตุในขณะที่อธิบาย

  หลังจากได้พูดคุยกันนางเงือกทั้งสองรู้แล้วว่าซือหยูไม่ได้คิดร้าย

  เงือกน้อยซ่อนตัวหลังเงือกอีกคนและยื่นหัวออกมา

   จริงๆ แล้ว ท่านพี่กับข้าไม่ได้ซ่อนตัวจากเจ้า 

   หืม?ถ้าไม่ได้ซ่อนจากข้า แล้วเจ้าซ่อนจากอะไรกัน? 

  ซือหยูถาม

   เทพต่างถิ่นเก้าหัว 

  เงือกคนพี่พูดด้วยความกลัว

  ซือหยูคิดถึงเงาลึกลับที่แล่นผ่านหัวเขาเมื่อครู่และใจสั่น

  ในขณะที่ไม่มีเทพคนใดที่คอยช่วยเหลือเขาถ้าหากเขาได้เจอกับเทพสักคน ซือหยูจะยังคงรับมือได้

  แต่เทพต่างถิ่นคืออะไรกัน?

  ทันใดนั้นเองได้เกิดร่องรอยความเคลื่อนไหวด้านนอกซากเมืองอีกครั้ง

  สีหน้าเงือกทั้งสองเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเงือกคนพี่กล่าว

   แย่แล้วจิตเฝ้าสุสาน! หนีเร็ว! 

  นางคว้ามือเงือกน้อยที่กำลังจะหนี

  ก่อนที่จะไปนางหันกลับมามองซือหยูและพูดด้วยความลังเล   เจ้าไม่น่าจะคุ้นเคยกับที่นี่ไปกับพวกเรา เราจะพาเจ้าไปยังที่ปลอดภัย 

  จิตเฝ้าสุสานรึ?มันอะไรกัน?

  สุดท้ายซือหยูก็ตัดสินใจตามทั้งสองคนไป

  เงือกเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากในน้ำไม่นานซือหยูก็ถูกทั้งสองทิ้งระยะ

  ซือหยูพยายามใช้พลังห้าธาตุทั้งหมดเป็นพลังวารีปกคลุมกายและสร้างกระแสน้ำช่วยเขาเดินทาง

  ความเร็วของเขาพุ่งขึ้นสูงจนตามเงือกทั้งสองทัน

  เงือกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเงือกพี่สาวอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

   เจ้ามันตัวอะไรกัน?ทำไมถึงว่ายน้ำเร็วเช่นนี้? 

  ซือหยูขมวดคิ้วคำพูดของเงือกน้อยทำให้เขาไม่พอใจเท่าใดนัก

   หยุดพูดซะจิตเฝ้าสุสานเร็วต่อเสียง!    เงือกคนพี่พูดเบาๆ

  ซือหยูหนีกับทั้งสองผ่านซากเมืองใต้น้ำในหนึ่งวัน ทั้งสามก็หนีกินระยะเท่าโลกหนึ่งใบ

  ซือหยูแปลกใจที่ซากเมืองนั้นไม่ได้เสียหายเลยในทุกที่ที่เขาผ่านมา

  เห็นได้ชัดว่าที่นี่นั้นเคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

   เกือบถึงแล้ว! 

  เงือกคนพี่กล่าว

  ซือหยูมองออกไปและเห็นวัตถุมืดอยู่ตรงหน้าเขามองมันไม่เห็นชัดนักเพราะไกลมาก

  ขนาดของมันไม่ใช่น้อยมันมีขนาดหนึ่งในสิบของโลกหนึ่งใบ!

  เมื่อเข้าใกล้ขึ้นมันคือเรือลำยักษ์ที่จมอยู่

  เรือทั้งลำมืดมิดมันปลดปล่อยพลังกดดันออกมา

  มีสัญลักษณ์ซับซ้อนมากมายเขียนเอาไว้บนเรือแต่จะสัญลักษณ์นั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หายไปจากธารดารา!

  ที่ข้างเรือลำยักษ์มีช่องมืดมากมายซึ่งภายในช่องคือปืนใหญ่ที่กระบอกขนาดใหญ่มาก

  ปืนใหญ่เก่าแก่รูปร่างเหมือนกับหัวมังกรมันดูยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

  ซือหยูมองปืนใหญ่และสั่นไปถึงกระดูกเขาถาม

   นี่มันอะไร? 

   เรือสวรรค์เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อนรึ? 

  นางเงือกคนพี่ถาม

  เรือสวรรค์…มันคือสิ่งที่มีเพียงในแดนเทพโบราณไม่ใช่หรือไงกัน?

   เรื่องแค่นี้เจ้าก็ไม่รู้… 

  เงือกคนน้องหัวเราะ

  ในตอนนั้นเองคลื่นน้ำเคลื่อนไหวมาจากด้านหลัง

  เงือกคนพี่ชักสีหน้า   มีบางอย่างตามเรามา!จะต้องเป็นจิตเฝ้าสุสานแน่ ๆ! 

  ซือหยูขมวดคิ้ว

   มันไม่ได้มาแค่หนึ่งมันมาหลายพันเลยล่ะ… 

  ซือหยูระบุจำนวน

  ในด้านสัมผัสซือหยูเหนือกว่าเงือกทั้งสอง

   เจ้าบอกข้าเรื่องจิตเฝ้าสุสานที่พูดถึงกับข้าได้หรือไม่? 

  ซือหยูถามเขาหนีมานานแล้วแต่ก็ไม่ได้พบสิ่งที่พวกนางพูดถึงเลย

  เงือกคนพี่ตกใจกับความไม่รู้อะไรเลยของซือหยู

   จิตเฝ้าสุสานเกิดจากสุสานโบราณของนักรบเทพแห่งฟ้าดินไม่ว่าสุสานของนักรบเทพแห่งฟ้าดินจะอยู่ที่ใด ที่นั่นจะต้องมีจิตเฝ้าสุสาน! พวกมันโหดร้ายน่ากลัว หลังจากออกจากสุสาน พวกมันจะอยู่รวมกับเป็นฝูงเพื่อกินทุกอย่างที่มันเห็น 

   พวกมันหน้าตาแบไหน? 

  ซือหยูถามเขานึกถึงบางอย่างที่คุ้นหู

   พวกมันไม่เหมือนกันเลย 

  เงือกคนน้องทำท่ามือ

   พวกมันอัปลักษณ์ดีกว่ายักษ์แค่นิดเดียวเท่านั้น 

  ซือหยูจ้องนางเมื่อครู่ นางเพิ่งจะพูดกับเขาอย่างเดียวกัน

  แต่ซือหยูเคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อนเขาเริ่มคิดภาพในใจ

   แย่แล้ว!เราหนีไม่รอดแล้ว! 

  เงือกคนพี่สัมผัสการเปลี่ยนกระแสน้ำอย่างรวดเร็วได้นางใจหาย

  นางหันไปมองซือหยูและกัดฟันผลักเงือกคนน้องให้ซือหยู

   เจ้าว่ายเร็วกว่าข้าโปรดพาน้องข้าหนีไป ข้าจะรับมือกับพวกมันเอง!    เงือกคนน้องขยับหางนางหันไป

   ไม่นะท่านพี่ ไม่มีทางที่จะรับมือพวกมันได้หรอก! พี่ป้าหยียังถูกพวกมันกินเลย 

   ไม่มีทางอื่นแล้ว!ถ้าเจ้าสองคนไม่หนีไป จะไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว! 

  เงือกคนพี่ตะโกน

  ในตอนนั้นเองซือหยูใช้แขนแต่ละข้างรัดเอวของเงือกแต่ละคนเอาไว้

   พวกเราหนีไปด้วยกันไม่ดีกว่ารึ? 

  เงือกคนพี่หน้าแดงระเรื่อนางไม่สบายใจกับการใกล้ชิดเช่นนี้ แต่สถานการณ์กำลังอันตราย นางรีบพูด

   เจ้าหนีไปกับพวกเราสองคนไม่ได้หรอก 

  ซือหยูยักไหล่เขาจับทั้งสองและว่ายน้ำไปอย่างรวดเร็ว

  เรือลำยักษ์ที่อยู่ไกลนั้นต้องใช้เวลาราวหนึ่งชั่วยามในการว่ายน้ำ  ผ่านไปครึ่งชั่วยามจิตเฝ้าสุสานไล่ตามพวกเขาทัน มันเป็นกลุ่มก้อนดำมืดที่ไล่ตามมาจากด้านหลัง

   เหมือนกับที่เจ้าพูดแบบ! 

  เขาอ้าปากค้าง

  ใบหน้าเงือกทั้งสองมีแต่ความสิ้นหวัง!

  เงือกคนพี่โกรธแค้น

   ข้าบอกแล้วว่าถ้าเจ้าพาข้ามาด้วยเจ้ากับน้องข้าจะหนีไม่รอด…นี่ ทำอะไรของเจ้า ทำไมเจ้าถึงหยุดล่ะ? 

  ซือหยูปล่อยเงือกทั้งสอง

   เจ้าพูดเองไม่ใช่รึถ้าหนีไม่รอด แล้วจะหนีไปทำไมกัน? 

   นี่เจ้า… 

  เงือกคนพี่โมโหน้ำเสียงสบายใจของเขาแต่เมื่อนางคิดดูแล้ว มันจะต่างอะไรระหว่างหนีกับไม่หนีเล่า?

   เจ้าสองคนรออยู่ก่อนข้าจะกลับมาให้เร็วที่สุด! 

  ซือหยูพูดเขาหันกลับและว่ายน้ำออกไปอย่างรวดเร็ว!

   อ๊าา!เจ้าบ้าไปแล้ว! 

  เงือกทั้งสองตกตะลึง

  สวบ!

  ไม่นานหลังจากนั้นกลุ่มก้อนโลหิตได้แพร่กระจายออกมาจากฝูงจิตเฝ้าสุสานที่อยู่ด้านหลัง

  จิตเฝ้าสุสานนับพันถูกสังหารในเกือบจะทันที

  โลหิตจำนวนมากและเนื้อที่ฉีกขาดถูกพัดพามาพร้อมกระแสวารีต่อหน้าเงือกทั้งสอง

  หัวจากศพลอยผ่านหน้าทั้งคู่ไปไร้ซึ่งความดุร้ายบนใบหน้าไร้วิญญาณ

   เอาล่ะเรียบร้อยแล้ว 

  ทันใดนั้นก็มีคนเดินออกมาจากกระแสโลหิตด้วยใบหน้าผ่อนคลายเขายิ้มบาง ๆ   พวกนี้ก็แค่สัตว์ป่าไม่ได้ต่างจากที่ข้าคิดเท่าใดนัก 

  จิตเฝ้าสุสานสิ่งที่กลืนกินทุกสิ่งในสายตาคือฝูงสัตว์ป่าที่คล้ายกับพวกที่อาศัยอยู่ในธารดารา

  ปัญหาก็คือพวกมันเกิดมาจากสุสานของนักรบเทพแห่งฟ้าดิน

  แล้วพวกที่อยู่ในธารดารากำเนิดมาจากที่ใดเล่า?หรือว่าจะมาจากสุสานของนักรบเทพด้วย?

  เงือกทั้งสองจ้องซือหยูราวกับมองสัตว์ประหลาด

   นี่เจ้า…เจ้าฆ่ามันหมดเลยรึ? 

  ซือหยูตอบ

   ไม่ใช่หรอก 

  เงือกคนพี่ตัวแข็งทื่อหรือว่าจะมีคนแปลกหน้ามาสังหารพวกมัน? โลหิตเหล่านั้นมาจากไหน?

   มีสองสามตัวที่หนีไปได้น่ะ    ซือหยูพูดต่อ

  เงือกคนพี่อ้าปากค้าง

  เงือกคนน้องหายใจเข้าลึกนางตกใจถึงขีดสุด

   เจ้าฆ่าพวกมันเองรึ?แม้แต่พี่ป้าหยีก็ทำแบบนั้นไม่ได้! 

   ช่างมันเถอะน่าไปกันได้แล้ว 

  ซือหยูพูดแต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว เขาก็หยุดและหันกลับไปมอง เขาขมวดคิ้วแน่น

   น่ารำคาญเหลือเกินยังเหลือพวกมันอีก! 

  เงือกทั้งสองคนใจเย็นลง

   เจ้าฆ่ามันได้ไหม? 

  ซือหยูส่ายหน้า

   ข้าเคยฆ่ามันได้ตามใจนึกแต่ตอนนี้คงยากล่ะนะ 

  เงือกทั้งสองสับสนเขาดูน่ากลัวเมื่อครู่ก่อน แต่เขาฆ่าพวกมันอีกไม่ได้แล้วรึ?    ข้าไม่อยากจะสู้กับจิตเฝ้าสุสานระดับเทพในตอนนี้ 

  ซือหยูพูดเบาๆ เขาคว้าตัวเงือกทั้งสองว่ายน้ำไปยังเรือยักษ์อีกครั้ง

  อะไรนะ?จิตเฝ้าสุสานระดับเทพรึ? สองเงือกตัวแข็งทื่ออีกครั้ง

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท