ถูกชลธีนวดให้วรกัญญาจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ช่วงไหล่และร่างกายของตัวเองผ่อนคลายลง เธอรู้สึกว่าสัมผัสจากคนคนนี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงขนาดนั้น
“ฉันเตรียมจะไปเช้าวันเสาร์ กลับมาวันอาทิตย์ ไปเที่ยวสองวัน ฉันขับรถไปเองก็ได้ คุณให้พวกเขารอฉันที่ไหนสักแห่งแล้วกัน ฉันจะไปรับพวกเขา” วรกัญญาหลับตาอย่างสบาย
“ได้ครับ แล้วจะให้เตรียมอะไรบ้างครับ คุณบอกผมได้เลยผมจะได้แจ้งพวกเขาให้” ชลธีอยากรู้ว่าวรกัญญาไปทำอะไร แต่ไปเที่ยวหรือว่ามีเรื่องอะไร และทำไมต้องเป็นที่ที่เด็กชอบ หรือว่า…ชลธีคิดมาถึงตรงนี้ ก็พลันส่ายหน้า มันเป็นไปไม่ได้หรอก
“ก็เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะต้องอยู่ข้างนอกทั้งวัน ส่วนที่เหลือฉันเตรียมเอง ไม่ต้องเอาอะไรไปอีก” เมื่อมุกดาพูดจบก็ลุกขึ้น
“เอาล่ะ ฉันทำงานเสร็จแล้ว ฉันจะกลับบ้านไปพักผ่อน คุณเองก็กลับได้แล้ว อย่าลืมแจ้งคุณนายจันวิภาด้วยนะ” วรกัญญาหยิบกระเป๋าถือแล้วออกจากห้องทำงานของตัวเองไป
ตอนที่วรกัญญากลับบ้านมา อักลี่หลับไปแล้ว วรกัญญาจูบลงบนแก้มเล็กของเขาแผ่วเบา
“คุณแม่ กลับมาแล้วเหรอครับ” อักลี่ตื่นขึ้นทันที เขาขยี้ตางัวเงีย เมื่อเห็นวรกัญญาเขาก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วกอดรอบคอของวรกัญญา
“จ้ะ หนูนอนก่อนเถอะ แม่จะไปอาบน้ำ แล้วเดี๋ยวจะมาอยู่เป็นเพื่อนหนู” วรกัญญาโอบกอดลูกชาย ลูบผมของเขา เส้นผมของอักลี่ค่อนข้างหยิกเป็นลอน และเป็นสีน้ำตาล ดูเหมือนกับเด็กต่างชาติทำนองนั้น
“ได้ครับ คุณแม่เหนื่อยแย่เลย” อักลี่จูบแก้มของแม่ ส่วนตัวเองก็มุดลงเตียง รอแม่กลับมา
ในคืนวันศุกร์ วรกัญญาตรวจสอบสิ่งของที่จะเอาไปด้วย เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เธอถึงได้เอาอักลี่มากอด
“อักลี่ พรุ่งนี้แม่จะพาหนูไปเที่ยวเล่น วันนี้หนูเข้านอนแต่หัวค่ำนะ พรุ่งนี้ออกแต่เช้า เราไปเที่ยวเล่นสองวันและค้างหนึ่งคืน รู้สึกตื่นเต้นไหม” วรกัญญาพูดกับลูกชาย
“เย้ ค้างคืนหนึ่งด้วยเหรอครับ เยี่ยมไปเลย” อักลี่ไม่เคยออกไปข้างนอกกับแม่เลย โลกภายนอกสำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่วิเศษมากๆ
“ที่นั่น แม่ได้ยินจากคุณลุงคนหนึ่ง ว่าเป็นสถานที่ที่สวยงามมาก เราสามารถปีนเขา แถมยังเล่นน้ำได้ แล้วก็ทานบาร์บีคิวได้ด้วยนะ” แม้วรกัญญาจะไม่ได้สนใจการทานบาร์บีคิวมากนัก แต่ถ้ามีกิจกรรมเยอะๆ เด็กน่าจะมีความสุขมาก
“คุณแม่ ผมตั้งตารอแล้วครับ มันดีมากจริงๆ คุณลงคนนี้หาสถานที่เก่งจังครับ” เมื่ออักลี่ได้ยินว่ามีกิจกรรมมากมาย ดวงตาของเขาก็ทอประกายความสุข
จนเช้าตรู่อักลี่ก็นอนไม่หลับ เขาแต่งตัวเองจนเรียบร้อย แล้วไปล้างหน้าล้างตา จากนั้นเขาก็วิ่งลงไปในครัว เข้าไปดูแม่ครัวทำอาหารเช้าและสิ่งที่วันนี้พวกเขาจะเอาไปด้วย
วรกัญญาให้แม่ครัวอบขนม ยังมีพาสต้า และต้มโจ๊ก เธอไม่ชอบทานอาหารข้างนอก โดยเฉพาะของที่ใส่สีแดง เธอเกลียดที่สุดเลย
ตอนที่วรกัญญาตื่น ก็ไม่เห็นลูกชายแล้ว รู้ว่าเจ้าตัวน้อยตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เธอจึงยิ้มครู่หนึ่ง แล้วใส่ชุดกีฬาสีดำ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็ลงไปหาอักลี่
“คุณแม่ครับ ยายเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว อยู่นี่ครับ” เมื่ออักลี่เห็นแม่ จึงชี้ไปยังสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะ
เค้กกับขนมปัง และยังมีขนมบางส่วนที่ทำจากข้าวเหนียวเตรียมเสร็จพร้อมสรรพ ดูน่าทานมาก
สองถังเก็บความร้อนเต็มไปด้วยโจ๊ก ถังเก็บความร้อนหนึ่งเป็นโจ๊กผลไม้ อีกหนึ่งเป็นโจ๊กธัญพืช พวกจานชามแบบใช้แล้วทิ้งก็เตรียมพร้อมเช่นกัน
หลังจากทานอาหารเช้า วรกัญญาก็พาอักลี่กับชุดอาหารกองใหญ่ไปรับคุณนายจันวิภาจันวิภา
จันวิภากับกระเป๋าสะพายหลัง ในมือถือสิ่งของนิดหน่อย โธรณีเดินกลับไปกลับมาหลายรอบ
คนพวกนี้ เคยเจอมุกที่กลับมาแล้ว มีแค่เธอที่ยังไม่ได้เจอ ไม่ยุติธรรมเลย ตอนนี้เธออยากเจอมุกดาใจจะขาดแล้ว
ในที่สุดมาเซราติสีแดงก็ขับมา จันวิภาจับโธรณีไว้ครู่หนึ่ง
“คนที่เธออยากเจอมาแล้ว อีกเดี๋ยวห้ามตื่นเต้นเกินไปนะ มันจะทำให้หล่อนตกใจกลัว ต้องเป็นว่าเราเริ่มต้นใหม่ เหมือนพบหน้ากันครั้งแรก รู้ไหม” จันวิภาเตือนโธรณีอีกครั้ง
เธอรู้นิสัยของโธรณีดี เป็นคนที่นิสัยใจร้อน ถ้าอีกเดี๋ยวทำให้มุกดาตกใจกลัว บางทีต่อไปมุกดาอาจจะไม่ไปเที่ยวเล่นกับพวกเขาอีก
“จ้ะๆ ฉันรู้แล้ว ฉันแค่กำลังท่องบทที่ควรพูดอยู่ในใจ พบกันครั้งแรก ต้องสุภาพหน่อย ห่างเหินนิด” โธรณีรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“และอีกอย่างพอไปถึงแล้ว ตอนที่เธอเห็นพวกพี่ชายเธอ ก็อย่าแสดงสีหน้าว่ารู้อยู่แล้ว ต้องไม่คาดฝัน ไม่คาดฝันมากๆ ได้ยินไหม” จันวิภารู้สึกว่าตัวเองกังวลใจสุดๆ เลย
“จ้ะ ฉันรู้แล้ว จำได้แล้ว” ทั้งคู่เพิ่งคุยกันจบ รถของวรกัญญาก็เปิดออก
“ประธานวรกัญญา อรุณสวัสดิ์ค่ะ” จันวิภาเอ่ยทักทายวรกัญญาอย่างเป็นทางการ
เวลานี้โธรณีเพียงแค่ยิ้มเอียงอายครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“นี่คือเพื่อนของฉันค่ะ โธรณี แสนดี นี่คือประธานวรกัญญา” จันวิภาแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน
“ประธานวรกัญญา สวัสดีค่ะ ดีใจที่ได้พบคุณนะคะ” โธรณียังคงแสดงตามบทเหมือนเดิม
“ค่ะ คุณโธรณี สวัสดีค่ะ คุณนายจันวิภา พวกคุณขึ้นรถเถอะ ฉันตั้งจีพีเอสเรียบร้อยแล้ว ไม่นานก็คงจะถึง” วรกัญญาหาสถานที่ไม่เจอ จึงอาศัยชลธีให้ตั้งจีพีเอสให้เธอ และทำตามคำแนะนำนั้นก็พอ
“ค่ะๆ งั้นก็รบกวนประธานวรกัญญาแล้ว” ทั้งสองพูดจบก็ขึ้นรถทันที
ยังไม่ทันได้นั่งดี ก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยจากเบาะข้างคนขับดังมา
“พวกคุณน้าสวัสดีครับ”
โธรณีมองหน้าจันวิภา จันวิภามองหน้าโธรณี นี่คือเสียงอะไรกัน หรือว่าเมื่อเข้ามาในรถจะมีเสียงแบบนี้
อักลี่ถูกยึดติดไว้กับเก้าอี้นิรภัย จึงมองไม่เห็น
“ประธานวรกัญญา รถของคุณค่อนข้างพิเศษจังเลยค่ะฮ่าฮ่า” ทั้งคู่ไม่พบอักลี่
“พวกคุณน้าสวัสดีครับ” น้ำเสียงน่าฟังดังขึ้นอีกครั้ง
“จ้ะ สวัสดีจ้ะ สวัสดีจ้ะ” โธรณีกับจันวิภารู้สึกว่าถ้าไม่ตอบ เสียงนี้คงจะดังไปตลอดหรือไม่ ดังนั้นจึงรีบตอบไป
เป็นไปอย่างที่คาด เสียงนั้นไม่ดังขึ้นมาอีกแล้ว วรกัญญาไม่รู้ว่าสองคนข้างหลังไม่เห็นอักลี่ ความสนใจของเธออยู่ที่จีพีเอส เธอไม่คุ้นเคยกับการเดินทาง ดังนั้นจึงตั้งใจเป็นพิเศษ
เห็นวรกัญญาไม่ได้พูดอะไร จันวิภากับโธรณีที่อยู่เบาะหลังจึงไม่พูดไปด้วย ตอนนี้มุกดาไม่เหมือนก่อนแล้ว แม้พวกเธอจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่จะรีบร้อนเกินไปอีกไม่ได้ มีเพียงเริ่มต้นเรื่องราวทุกอย่างใหม่