The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1333 – ช่วยจักรพรรดิเงือก

ตอนที่ 1333 - ช่วยจักรพรรดิเงือก

ตอนที่ 1333 – ช่วยจักรพรรดิเงือก

   ข้าต้องการแบบคัดลอกอะไหล่ทุกชิ้น 

  ซือหยูขอตรงๆ

  หลูจูดูจะมีปัญหา

   เอิ่ม…เกรงว่ามันจะยากมากนอกจากจักรพรรดิเงือกจะอนุญาตข้า 

   พ่อข้ากำลังป่วยหนักตอนนี้ข้าทำอะไรไม่ได้หรอก 

  จักรพรรดิเงือกต้องอนุญาตนางสินะ?ซือหยูพยักหน้า

   ก็ได้พาข้าไปหาจักรพรรดิเงือก ข้าจะตรวจสอบดู 

   ไม่จำเป็นหรอกท่าน… 

  หลูจูกล่าวด้วยความเศร้า

   ท่านพ่อถูกพิษยักษ์พิษจะแก้ได้ด้วยมุกวิญญาณไร้สิ้นสุดจากต้นกำเนิดไร้สิ้นสุดเท่านั้น     มุกวิญญาณไร้สิ้นสุดจะออกดอกออกผลเพียงหนึ่งครั้งในพันปีต้องโชคดีอย่างมากถึงจะได้มันมา 

  ดูเหมือนว่าสององค์หญิงเงือกในวันก่อนจะไปเพื่อหามุกวิญญาณซึ่งทั้งสองไม่ได้โชคดีนัก

   พาข้าไปหาเขาก่อนเถอะเราจะได้รู้กัน 

  ซือหยูกล่าว

   เช่นนั้นก็ย่อมได้ 

  แววตาหลูจูหม่นหมองนางไม่กล้าหวังกับซือหยู แม้เขาจะมีพลังวิเศษ นางก็ไม่คิดว่าซือหยูจะล้างพิษที่แม้แต่เทพยังขจัดไม่ได้

  นางที่เป็นองค์หญิงสามารถเข้าออกตำหนักเงือกได้ตามใจ

  ลึกในตำหนักที่ล้อมรอบไปด้วยฟันเฟืองของเรือมีเหล่าเงือกสีเหลืองทองคุ้มกันอยู่

  ไม่เพียงแต่จะมีร่างกายกำยำเงือกเหล่านั้นยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย

  เงือกเหล่านี้คือองครักษ์ของราชวงศ์  ซือหยูเหลือบมองแต่ละคนด้วยตาเป็นประกาย

  เมื่อเข้าไปยังห้องพักซือหยูได้เห็นจักรพรรดิเงือกที่นอนอยู่บนเตียงที่สลักด้วยหยกขาว

  ชาววัยกลางคนที่มีความละม้ายคล้ายหลูจูผู้นี้หน้าตาดีผิดจากเงือกอื่น

  แต่สิ่งที่ซือหยูได้เห็นจากเขาคือจุดดำสนิททั่วทั้งร่างกาย

  มันแทบจะเน่าเปื่อยมันกัดกินรูปลักษณ์งดงามของจักรพรรดิเงือก

   กลิ่นเน่านี่… 

  ซือหยูขมวดคิ้วเขาคุ้นกลิ่นนี้

  หลูจูที่อยู่หน้าเตียงน้ำตาไหล

   เผ่าเงือกกับเผ่ายักษ์ต่อสู้แย่งดินแดนกันมาหลายปีแล้วไม่มีทีท่าว่าจะยุติศึกได้เลย 

   ปีก่อนเผ่ายักษ์แนะนำว่าเราควรสงบศึก เชิญพวกเราไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ใครจะไปคิดว่า…     เผ่ายักษ์ร่วมมือกับเทพของฝ่ายเราและใช้พิษกับพ่อข้า 

  ซือหยูไม่สนใจเรื่องสงครามระหว่างสองเผ่าเขาไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำไป

   ข้ารักษาจักรพรรดิเงือกได้แต่เจ้ายืนยันได้หรือไม่ว่าข้าจะได้สิ่งที่ข้าต้องการ? 

  หลูจูเบิกตากว้างนางมิอาจเชื่อหู นางตกใจ

   ท่านบอกว่าท่าน…ท่านช่วยพ่อข้าได้รึ? 

   ไม่ใช่เรื่องยาก 

  ซือหยูตอบ

  หลูจูน้ำตาไหลด้วยความดีใจนางจับไหล่ซือหยูอย่างใกล้ชิด นางเขย่าตัวเขา

   ท่านพูดจริงใช่ไหม? 

  ซือหยูพยักหน้า

   เจ้าสัญญากับข้าว่าจักรพรรดิเงือกจะตกลงได้หรือไม่?ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเขา     เอิ่ม… 

  หลูจูลังเลพิมพ์การสร้างเหล่านั้นคือสิ่งที่พ่อนางเก็บเอาไว้เอง มันเป็นความลับสุดยอด นางมิอาจยืนยันได้ว่าพ่อนางจะเต็มใจให้มันกับซือหยูเมื่อตื่นขึ้นมา

  หลูจูถอดไข่มุกสีแดงออกมาจากคอมันมีขนาดเท่าหัวแม่มือ นางให้มันกับซือหยู

   รับสิ่งนี้ไว้เมื่อพ่อข้าตื่น ท่านพ่อจะต้องตกลงแน่ 

  ซือหยูเหลือบมองมุกสีแดง…

   มุกเม็ดนี้จะทำให้เขาตกลงงั้นรึ? 

  แต่นางไม่น่าจะโกหกซือหยูตอบ

   ย่อมได้ข้าจะเริ่มรักษาเขา แต่ก่อนหน้านั้น จงสั่งองครักษ์ให้ออกไปข้างนอก 

   ไม่มีทาง!ถ้าหากสองทรราชย์รู้เข้าและใช้โอกาสนี้ยึดอำนาจล่ะ? 

  ซือหยูถอนหายใจ

   ข้าแค่กลัวว่าพวกมันจะรบกวนข้า     องครักษ์รึ?ไม่มีทาง ท่านพ่อฝึกฝนมากับมื… 

  แต่หลูจูก็ผงะ

  ซือหยูพยักหน้าช้าๆ

   ศัตรูที่ร้ายที่สุดก็คือมิตรที่เจ้าคิดไม่ถึงนั่นแหละ 

  หลูจูครุ่นคิดนางกัดฟัน

   ย่อมได้ 

  นางเดินออกไปไม่นานก็มีเสียงชุดเกราะดังห่างออกไปจากด้านนอก

  ซือหยูพยักหน้าเขาใช้ทรายดาราทางช้างเผือกขับพิษยักษ์ออกมาจากร่างจักรพรรดิเงือก

  พิษร้ายที่แม้แต่เทพมิอาจควบคุมถูกขับออกทีละน้อยต่อหน้าต่อตาหลูจูด้วยมือขวาของซือหยู

   สุดยอด!พ่อข้าปลอดภัยแล้ว 

  หลูจูตื่นเต้น  ซือหยูส่ายหน้าเบาๆ

   จะเป็นอย่างนั้นรึ?นี่คือเวลาที่อันตรายที่สุดสำหรับจักรพรรดิเงือกต่างหาก เตรียมสมบัติป้องกันตัวเดี๋ยวนี้ เพื่อที่เราจะหนีออกจากเรือได้ทันเวลา 

   ท่านพูดว่าหนีอย่างนั้นหรือ? 

   สามขุนพลมิใช่ฝ่ายเดียวกันเราหากพวกมันรู้ว่าจักรพรรดิเงือกถูกรักษา แล้วคิดว่าพวกมันจะทำอะไร? 

   รอให้จักรพรรดิเงือกตื่นแล้วมารายงานแผนการร้ายของพวกมันงั้นรึ?หรือจะเสี่ยงบุกเข้ามาเอาชีวิตจักรพรรดิเงือกดีล่ะ? 

  หลูจูตัวแข็งทื่อ

   เรื่องนี้มัน… 

   ทำตามที่ข้าพูดเดี๋ยวนี้! 

  ซือหยูตะคอก

  หลูจูผู้เป็นองค์หญิงเผ่าเงือกไม่เคยคิดฝันว่าจะถูกสั่งโดยคนนอกนางรีบตอบ   ข้าจะรีบเตรียมการเดี๋ยวนี้ 

  ซือหยูส่ายหน้าเมื่อมองนางเดินออกไป

   ใช้ชีวิตอย่างหรูหราสุขสบายทำให้เชื่องช้าต่อการคิดอ่านไม่เหมือนกับบนจักรวาลเลย! ข้าคงหวังอะไรจากนางมากไม่ได้ 

  หลูจูกลับเข้ามาหลังจากครึ่งวัน

   คนของข้าเตรียมครุฑซ่อนเอาไว้นอกตำหนักแล้วเราใช้มันหนีได้ทุกเมื่อ 

  ซือหยูพยักหน้าเขารักษาจักรพรรดิเงือกต่อไปอีกครึ่งวัน สีดำสนิทบนผิวกายจักรพรรดิเงือกหายไปช้า ๆ

  พลังเทพของจักรพรรดิเงือกเริ่มกลับมาไหลเวียนอีกครั้งมันกำลังรักษาจุดที่เน่าเปื่อยของร่างเขาเอง

  ในอีกครึ่งชั่วยามจักรพรรดิเงือกจะฟื้นตัวเต็มที่และได้สติกลับมา

  พลังของจักรพรรดิเงือกมากพอๆ กับเทพเจิ้งและเทพพ่อค้า หากฟื้นพลังกลับมา เผ่าเงือกจะกลับมามั่นคงอีกครั้ง  ในตอนนั้นเองมีเสียงเอะอะมาจากนอกตำหนัก หลูจูเองก็ได้ยิน แม้จะตกใจ นางก็อดยอมรับในการคาดเดาของซือหยูไม่ได้

  ทั้งสองเหลือบมองกันหลูจูตะโกน

   ข้าจัดการเอง! 

  นางยื่นมือวารีรอบ ๆ เย็นลงอย่างรวดเร็วจนเป็นน้ำแข็งหลายชิ้น

  ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!

  แท่งน้ำแข็งทะลวงผ่านประตูตำหนักไปยังด้านนอก

  เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดดังตามมาไม่ขาดสายแท่งน้ำแข็งได้แทงไปยังคนที่ซุ่มโจมตี

   ไปกันเถอะ! 

  หลูจูรีบออกจากตำหนักมือทั้งสองนางนั้นปิดอกเอาไว้ คลื่นเหนือตำหนักเริ่มปั่นป่วน สมบัติโลหะที่คล้ายปลาไหลปรากฏขึ้นมา

  ซือหยูคว้าตัวจักรพรรดิเงือกตามนางไป  หลูจูเข้าควบคุมยานและใส่พลังเซียนลงไป

  แต่หลูจูก็ต้องใจหายเมื่อมันไม่ตอบสนอง

   เกิดอะไรขึ้น?มันยังใช้ได้อยู่เลย 

  เหลื่อไหลออกมาจากหน้าผากหลูจูยานที่ควรจะช่วยให้ทั้งสองหนีเอาชีวิตรอดกลับใช้งานไม่ได้

  ซือหยูมองมันด้วยเนตรวิญญาณและส่ายหน้ากลไกส่วนหนึ่งใต้ยานถูกทำลาย

  สิ่งที่นางเรียกว่าครุฑที่เหมือนปลาไหลนี้ใช้การไม่ได้แล้ว

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท