“ชลธี นี่คือข้อตกลงความร่วมมือกับว่องประเสริฐการกรุ๊ป ฉันเซ็นเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คุณอ่านจบแล้วส่งไปให้ด้วยนะ” หลังจากกลับประเทศแล้ววรกัญญาก็จริงจังกับงานมากขึ้น ท่าทีของเธอที่มีต่อชลธีก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“อืม ครับ ผมจะอ่านเดี๋ยวนี้เลย” ชลธีรับข้อตกลงความร่วมมือกับว่องประเสริฐการกรุ๊ปมา เขาต้องตรวจสอบอีกครั้ง ถึงจะส่งไปได้
“ใบเตย ช่วยนัดประวีร์ให้ฉันหน่อย ให้เขารอฉันที่เดิม” วรกัญญาพูดกับเลขาใบเตย
“ได้ค่ะ” ใบเตยรับโทรศัพท์แล้วก็ไปจัดการให้
วรกัญญาเปิดโครงการร่วมมือกับบริษัทฮอนดากรุ๊ป เธออ่านไปแล้วหลายรอบ แต่ว่าเธอยังคิดไม่ออกว่าจะร่วมมืออย่างไร
“ประธานวรกัญญา ผมอ่านเรียบร้อยแล้ว ข้อตกลงอันนี้ไม่มีปัญหาอะไร” ชลธีอ่านข้อตกลงจบอย่างอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าด้านในนอกจากการเข้มงวดกับว่องประเสริฐการกรุ๊ปมากแล้ว กลับไม่มีปัญหาใหญ่อะไร
“ไม่มีปัญหาก็ส่งไป” วรกัญญาพูดกับชลธี
ชลธีหยิบเอกสารแล้วไปส่งที่ว่องประเสริฐการกรุ๊ป ธีรเมทคนนี้ยังไงกันนะ ทำเอาซะตัวเองไม่ได้รับเงินแม้แต่น้อย เขาเพื่อหาโอกาสใกล้ชิดกับวรกัญญามากขึ้นงั้นหรอ?
คิดถึงตรงนี้ ชลธีก็คิดหาวิธีป้องกันวรกัญญาจากธีรเมท ถึงแม้เขาจะช่วยวรกัญญาได้ แต่ว่าหากเขาไม่ทันสังเกต กลัวว่าวรกัญญาจะถูกธีรเมทหลอกเอา
“อ้อ นี่คือชลธี? ฮ่าๆ ๆ ชลธี คุณไม่ใช่สามีของกานต์หรอ? ทำไมถึงมาเป็นผู้ช่วยเธอได้ล่ะ? ผู้ช่วยคนนี้เห็นทีจะทำงานคล่องเชียว?” ธีรเมทนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง มองชลธี ในคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก
“นี่มันเกี่ยวอะไรด้วย? ผมเป็นสามีของเธอ ก็เป็นผู้ช่วยเธอได้ เรื่องของเราสามีภรรยา ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาใส่ใจ ผมเพียงแค่ไม่เข้าใจธีรเมท ข้อตกลงร่วมมือกันระหว่างคุณกับโจนส์กรุ๊ปทำไมถึงเสียเปรียบได้ถึงขั้นนี้?” ชลธีพูดกับธีรเมทอย่างไม่นอบน้อม
“ผมขอแค่ได้ร่วมมือกับโจนส์กรุ๊ปก็พอแล้ว ไม่สำคัญหรอกว่าจะเสียเปรียบไม่เสียเปรียบ คุณเข้าใจความหมายของผมนะ ปีนั้นผมเองที่ไม่ได้คว้ากานต์เอาไว้ ผมรู้สึกผิดต่อเธอ ดังนั้นตอนนี้ผมจะต้องทำดีกับเธอ ผมจะค่อยๆ เอาเธอกลับมา” ธีรเมทก็ไม่เกรงใจเช่นกัน เขาพูดความคิดของตัวเองให้ชลธีฟัง ในคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความท้าทาย
“คุณเนี่ยนะ? ฝันจริงๆ ปีนั้นคุณนั่นแหละที่ทำร้ายเธอ คุณคิดว่าเธอจำทำผิดซ้ำอีกครั้งงั้นหรอ? ตอนนี้เธอคือภรรยาของผม คุณอย่าเสียเวลาเลย ผมขอเตือนคุณธีรเมท หากคุณกล้าอะไรกับกานต์ ผมจะทำให้คุณอยู่ไม่เป็นสุขแน่” ชลธีก็ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับธีรเมท ผู้ชายแบบนี้มันก็คือคนเลว
พูดจบ ชลธีก็หันหลังเดินจากไป เขาออกจากประตูมาก็เจอกับดิษย์ดนุช
“เอ๋ นี่ไม่ใช่ประธานชลธีหรอ? ทำไมคุณถึงว่างมาที่ว่องประเสริฐการกรุ๊ปของเราได้?” ดิษย์ดนุชเจอกับชลธีเข้า ก็รู้สึกประหลาดใจ ชลธีเป็นบุคคลที่อยู่ระดับสูง ทำไมถึงมาเยือนที่ว่องประเสริฐการกรุ๊ปของตัวเองได้
“ประธานดิษย์ดนุช ผมเพียงแค่มาส่งเอกสาร ขอโทษทีนะครับ ผมยังมีธุระต่อ ผมขอตัวก่อนครับ” แสดงออกอย่างมีมารยาท ชลธียังกล่าวทักทายดิษย์ดนุชเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เดินจากไป
ดิษย์ดนุชมองดูแผ่นหลังของชลธี สายตาของเขาลึกล้ำ ไม่รู้ว่าในหัวคิดอะไรอยู่
“พี่ประวีร์ มาค่ะ เชิญนั่งค่ะ” วรกัญญาเห็นประวีร์มาถึงแล้ว เธอลุกขึ้นยืนทันที ต้อนรับเขา
ประวีร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มน้อยๆ นั่งลง จู่ๆ เขาก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
“ประธานวรกัญญา เมื่อกี้คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?” ประวีร์ถามวรกัญญา
“พี่ประวีร์ พี่ไม่ต้องเรียกฉันว่าประธานวรกัญญาแล้ว เอาเหมือนเมื่อก่อน เรียกฉันว่ามุกเถอะค่ะ” วรกัญญาช่วยรินชาให้ประวีร์จนเต็ม
“มุก? มุกเธอฟื้นความทรงจำแล้วหรอ?” ประวีร์ลองถาม เพราะว่ามีแค่มุกดาในปีนั้นเท่านั้นที่จะเรียกแทนตัวเองแบบนี้
“อืม แต่ว่าพี่ประวีร์ ฉันไม่ได้บอกใคร ตอนนี้มีแค่เราสองคนที่รู้ ฉันยังจำได้ว่าปีนั้นพี่เป็นคนช่วยฉันครั้งสุดท้าย ขอบคุณนะคะ คำขอบคุณนี้ก็ผ่านมาห้าปีแล้ว ฉันถึงพึ่งจะพูดออกมา” น้ำเสียงของวรกัญญาสะอึกสะอื้น เธอคิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายที่ช่วยตัวเองเอาไว้ นอกจากบิดาของตัวเองแล้ว ยังมีพี่ประวีร์
“พูดอะไรล่ะนั่น? ยังไงฉันก็เป็นพี่ประวีร์ของเธอตลอดกาลนั่นแหละ มุก เธอฟื้นความทรงจำแล้วกลับไม่ใช่เรื่องดีเลย ฉันยังหวังว่าเธอจะไม่ต้องฟื้นมันไปตลอด เธอฟื้นมันได้ยังไง?” ประวีร์ถามวรกัญญาอย่างสงสัย
“ตอนอยู่ที่ซูริก ฉันได้เห็นเรื่องในปีนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งด้วยตาของตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าใครจงใจทำแบบนั้น แต่ว่าฉันกลับได้รับการกระตุ้น เลยฟื้นความทรงจำ ฉันจำได้ทุกอย่างแล้ว ตอนนั้นที่ทำให้ฉันนิ่งค้างไป ก็เพราะชลธีกับธินิดาอยู่ด้วยกัน รักกันมาก ฉันจำตอนนั้นในปีนั้นได้ ธินิดาตั้งท้อง แต่ว่าชลธีกลับบอกกับฉันซ้ำๆ ว่าครั้งนั้นเป็นแผนการอย่างหนึ่ง ฉันก็เชื่อเขา แต่ตอนนี้ฉันถึงพึ่งรู้ ว่าฉันมันโง่แค่ไหน”
วรกัญญาดื่มชาอึกหนึ่ง ความโกรธในใจนั้นทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว
“เรื่องมันเป็นยังไง? มุก เธออย่ารีบร้อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ประวีร์ก็จะช่วยเธอเอง” ประวีร์เห็นวรกัญญาที่โกรธจนมือสั่นเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกเสียใจมาก ในปีนั้นสาวน้อยคนนี้ผ่านอะไรมา?
“พี่ประวีร์ เรื่องในปีนั้นเป็นแบบนี้ค่ะ” วรกัญญาค่อยๆ เล่าเรื่องในปีนั้นให้ประวีร์ฟังรอบหนึ่ง
คิ้วของประวีร์ยิ่งขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นตอนที่เขาไปถึง ก็เห็นแค่วรกัญญาที่กำลังเสียใจแนบอยู่บนร่างของณิชพนร้องไห้ ด้านหน้าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้เห็น
“ทำไมเป็นแบบนี้? มุก ตอนนี้มารดาของธินิดาที่แทงพ่อของเธอป่วยจนเสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว ธินิดาก็หายตัวไปช่วงหนึ่ง นี่มันไม่ตรงกับที่เธอพูดเลยนะ ถ้าหากชลธีคบกับเธอ ทำไมธินิดาถึงหายตัวไปล่ะ? อีกอย่างตอนนี้ยังแต่งงานกับฟิลลิป?” ประวีร์แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในปีนั้น แต่เขารู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
ชลธีไม่ได้แต่งงานกับธินิดา ธินิดาก็หายสาบสูญจากพระนครไปห้าปี พึ่งจะกลับมาในปีนี้เหมือนกัน นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
“เพราะว่าตอนนั้นตระกูลสุวรรณเลิศเจอวิกฤติการเงิน ธินิดาเลยอาสาช่วยชลธีระดมเงิน ทำให้ตระกูลสุวรรณเลิศคลายความกดดันด้านการเงิน ฉันตรวจดูแล้ว ปีนั้นมีเงินลึกลับจำนวนหนึ่งเข้ามาในตระกูลสุวรรณเลิศ นี่น่าจะเป็นความพยายามของธินิดา พวกเขาสองคนสมคบคิดกัน ตอนนี้ยังต้องการจะรวมกับโจนส์กรุ๊ปของเราอีก ทะเยอทะยานไม่น้อย” ตอนที่วรกัญญาพูดเรื่องพวกนี้ ใจของเธอก็เจ็บมาก ตัวเองในปีนั้นตาบอดแค่ไหน ถึงแต่งงานกับชลธี
ประวีร์แม้จะคิดว่าปัญหานี้มีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน
“มุก เธอรู้ได้ยังไง?” ประวีร์ถามวรกัญญา
“พี่ประวีร์ พี่ดูนี่นะ” วรกัญญารู้สึกว่าในเวลานี้คนที่ตัวเองสามารถไว้ใจได้มีเพียงแค่ประวีร์เท่านั้น