วรกัญญาคิดว่าอนุชิตมีแผนอะไร เธอเลยไม่ได้สนใจอนุชิต
อนุชิตรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย เขาคนนี้น่าเชื่อถือใช่หรือไม่ แต่เรื่องที่เขามาบอกวรกัญญาในวันนี้เป็นความจริงที่เขาสอบถามมาอย่างรอบคอบแล้วถึงจะรู้
“มุก ที่ผมพูดเป็นเรื่องจริง หลายบริษัทที่คุณร่วมมือด้วยในครั้งนี้แม้ว่าจะมีบริษัทแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ว่าสถานภาพทางการเงินของพวกเขามีปัญหา ได้รับการสอบสวนในสหรัฐอเมริกาแล้ว คุณต้องยกเลิกสัญญาโดยเร็วที่สุด” อนุชิตรีบพูดออกมา
“อนุชิต คุณหมายความว่ายังไง เป็นเพราะฉันไม่ร่วมมือกับอมรถิรจินดากรุ๊ปของคุณงั้นหรอ? บริษัทเหล่านั้นฉันได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหา ฉันจะบอกคุณอีกครั้ง ไม่มีปัญหา คุณไม่ต้องมาพูดกับฉันอีกได้มั้ย?” วรกัญญายังคงไม่เชื่ออนุชิต เพราะว่าความน่าเชื่อถือของอนุชิตต่ำมาก
อนุชิตไม่รู้จะพูดยังไงถึงจะทำให้วรกัญญาเชื่อตัวเอง
“ธีรนัยน์ คุณช่วยผมพูดหน่อย เรื่องครั้งนี้เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยจริงจังมากนัก แต่ว่าครั้งนี้ไม่ใช่จริงๆ” อนุชิตได้แต่หันไปขอร้องธีรนัยน์แล้ว
ธีรนัยน์เข้าใจอนุชิตเป็นอย่างมาก เพียงแต่ปกติเขาไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ แต่ว่าธีรนัยน์กลับเชื่อเขา
เพราะว่าอนุชิตแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยสนใจผลประกอบการของบริษัทเหล่านั้นเลย ถ้าหากว่าใครถูกหลอก เขาก็จะหัวเราะเยาะซ้ำแน่นอน แต่ว่าวันนี้เขาจริงจังแบบนี้ พอเชื่อถือได้จริงๆ
“ประธานวรกัญญา ผมคิดว่าที่คุณชายอนุชิตพูดมาก็มีความน่าเชื่อถืออยู่นะครับ คุณจะต้องระวังหน่อย ฟิลลิปคนนั้นเป็นเพียงนักลงทุนที่คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสดึงเข้ามา ทำไมเขาถึงดีกับคุณขนาดนั้น แนะนำคุณให้รู้จักกับบริษัทมากมาย” อันที่จริงธีรนัยน์ก็เคยสงสัยในเรื่องนี้มาก่อน แต่ว่าตัวเองเพิ่งมา เลยไม่ค่อยรู้เรื่องขอบเขตความสัมพันธ์ของวรกัญญามากนัก
ได้ยินคำพูดของธีรนัยน์ วรกัญญายังคงไม่ตื่นขึ้นมา เธอคิดว่าธีรนัยน์เองก็ถูกอนุชิตสะกดให้หลงเชื่อด้วยใช่มั้ย ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงดีใจ คำเตือนของทุกคนเลยฟังไม่เข้าหูชั่วคราว
“งั้นฉันจะตรวจสอบอีกรอบละกัน” วรกัญญาไม่ค่อยใส่ใจธีรนัยน์ แต่ธีรนัยน์รับรู้ถึงอารมณ์ของวรกัญญา เขาเป็นเพียงผู้ช่วยคนหนึ่งก็หมดหนทาง การตัดสินใจของประธานเขาทำได้แค่ทำตาม
“มุก ผมคิดว่าคุณควรรีบตรวจสอบอีกครั้งให้เร็วที่สุด ตอนนี้เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด” อนุชิตพูดต่อ
“ฉันรู้แล้ว คุณชายอนุชิต ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรแล้ว ขอเชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันจะทำงานแล้ว” เห็นท่าทางอนุชิตอยากจะพูด วรกัญญาก็รู้สึกอึดอัดมาก
“งั้นก็ได้ มุก คุณจะต้องไปตรวจสอบนะ ต้องทำนะ” อนุชิตก็มีเรื่องต้องจัดการพอดี เขาเลยพูดเตือนวรกัญญารวดเดียว
ตอนที่เดินไปถึงประตู อนุชิตยังเตือนธีรนัยน์อีกรอบ ให้เขาเร่งรัดวรกัญญาให้ไปตรวจสอบให้ได้
ธีรนัยน์พยักหน้า เขาก็เคารพวรกัญญามาก เพราะวรกัญญาปฏิบัติต่อตัวเองดีมาก เรื่องอะไรก็ไม่ได้ปิดบังตัวเอง เห็นตัวเองเหมือนเป็นคนกันเอง ธีรนัยน์แค่หวังให้มีคนปฏิบัติกับตัวเองแบบนี้
พอส่งอนุชิตไปแล้ว ตอนที่ธีรนัยน์กลับมาที่ห้องทำงานของวรกัญญา วรกัญญาก็เริ่มทำงานแล้ว ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เลย
ธีรนัยน์ก็ไม่กล้าพูดขึ้นมาอีก เขาก็เตรียมจะถอยออกมาเหมือนกัน
“ธีรนัยน์ นายกับรณรัตไปตรวจสอบสักหน่อยเถอะ ในเมื่ออนุชิตมาพูดเรื่องนี้กับฉันตั้งแต่เช้าได้แบบนี้ จะต้องมีเหตุผลแน่ๆ” วรกัญญาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ก็รู้ว่าธีรนัยน์อยู่หน้าประตูแล้ว
ที่แท้วรกัญญาก็ฟังเข้าไปแล้ว ธีรนัยน์ก็นึกว่าวรกัญญาไม่เชื่อคำพูดของอนุชิตซะอีก
“ครับ ผมจะไปตรวจสอบกับรณรัตเดี๋ยวนี้” เห็นวรกัญญาออกคำสั่งแล้ว ธีรนัยน์ก็วางใจ
ธีรนัยน์กับรณรัตนำข้อมูลของบริษัทอเมริกาเหล่านั้นออกมาทันที เริ่มลงมือตรวจสอบไปเรื่อยๆ
การตรวจสอบต้องใช้เวลา แต่ว่าเวลานี้ฟิลลิปกลับเริ่มเร่งสินค้าแล้ว
ไม่มีทางเลือก วรกัญญาได้แต่ต้องจัดเตรียมสินค้า นำเข้าวัสดุจำนวนมากจากว่องประเสริฐการกรุ๊ป เซ็นสัญญากับบริษัทฮอนดากรุ๊ป เลยสั่งวัสดุอีกชนิดหนึ่ง แต่ว่าบริษัทฮอนดากรุ๊ปตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการเลือกตั้งใหม่ เลยทิ้งความร่วมมือกับวรกัญญาไว้อีกด้าน
วรกัญญาเร่งรัดชลธีจากบริษัทฮอนดากรุ๊ปอย่างรีบร้อน ชลธีก็ไปเร่งโรงงานของตัวเองเหมือนกัน แต่ว่าพนักงานของโรงงานต่างถูกนิตย์รวีร์ปล่อยให้หยุดกลับไปพักผ่อน รอจนเลือกตั้งใหม่เสร็จแล้วถึงจะให้พวกเขากลับมาทำงานต่อ
บริษัทฮอนดากรุ๊ปยินดีชดใช้ค่าผิดสัญญาและไม่ขอส่งมอบวัสดุให้ ทำให้วรกัญญารับมือไม่ทัน ในเวลานี้จะให้ไปหาวัสดุมากมายขนาดนั้น ทั้งพระนครก็ไม่มีแล้ว
“ทำยังไงดี? บริษัทฮอนดากรุ๊ปในเวลานี้กลับผิดสัญญาซะแล้ว ไม่ส่งมอบวัสดุให้เรา ตอนนี้เราจะไปหาบริษัทที่มีกำลังผลิตมากขนาดนี้ได้ที่ไหน?” วรกัญญารีบร้อนจนไม่ได้กินข้าวทั้งวัน เธอโทรหาบริษัทหลายแห่ง ต่างก็มีกำลังผลิตเพียงแค่ครึ่งเดียว
แต่ครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณภาพจะไปถึงคุณภาพที่อีกฝ่ายต้องการได้ ครั้งนี้วรกัญญาปวดหัวจริงๆแล้ว
วรกัญญาก็คิดที่จะหาบริษัทหลายแห่งเพื่อผลิตอุปกรณ์เสริมด้วยกันมาแล้ว แต่บริษัทใหญ่เหล่านั้นยังไม่สามารถทำคุณภาพให้ถึงที่ต้องการได้ ถ้าหากว่าซับซ้อนมากไป คุณภาพก็ยิ่งไม่รับประกันมากขึ้น
เผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ตอนนี้วรกัญญาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้วจริงๆ เธอแม้แต่เวลานอนก็เกือบจะใช้ไปกับการคิดถึงเรื่องพวกนี้หมดแล้ว
“ประธานวรกัญญา อย่าพึ่งรีบร้อนครับ เราจะต้องมีวิธีแน่นอน” ธีรนัยน์ปลอบใจวรกัญญา ริมฝีปากของวรกัญญาต่างเป็นตุ่มขึ้นแล้ว เขาเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจ แต่ว่าเขาก็หมดหนทางจริงๆ
“ชลธี ในเวลาแบบนี้มาแก้แค้นฉัน เรื่องพวกนั้นที่เขาทำกับฉัน ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลยนะ!” วรกัญญาพูดเองเออเอง ในเวลานี้เธอไม่ได้สังเกตเห็นธีรนัยน์จริงๆ เธอจมอยู่กับโลกของตัวเองไปหมดแล้ว
“ประธานวรกัญญา ประธานชลธีคนนั้นทำอะไรไว้กับคุณหรอครับ? ทำไมคุณถึงเกลียดเขาขนาดนี้?” ธีรนัยน์ก็คิดว่าการตายของชุติภาสในตอนนั้นเกี่ยวข้องกับวรกัญญา
“เหอะ ไม่พูดแล้ว ฉันจะจดจำที่เขาทำกับฉันไว้ทั้งหมดแน่นอน” วรกัญญาเกลียดจนเข็ดฟันหมดแล้ว
ดีมาก ชลธีในตอนนี้ไม่ใช่กำลังแก้แค้นตัวเองอยู่หรือไง? ถ้างั้นเธอก็ไม่ต้องไว้หน้าอีกแล้ว มาดูกันตกลงว่าใครจะดีกว่ากัน
“ประธานวรกัญญา ผมคิดว่าประธานชลธีไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก เขาน่าจะไม่มีทางจัดการคุณแน่นอน” ธีรนัยน์พูดกับวรกัญญา
“ไม่ต้องพูดแล้ว คุณไม่รู้ว่าตอนนั้นและตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว ธีรนัยน์ ฉันยกรีสอร์ตให้คุณจัดการ ทางนั้นฉันไม่มีกะจิตกะใจจะไปจัดการแล้ว ฉันเชื่อใจคุณ!” วรกัญญาคิดว่าในเวลานี้ตัวเองไม่ควรจะฟุ้งซ่านอีก เธอต้องยกรีสอร์ตให้กับคนที่ตัวเองไว้ใจจัดการ
“ได้ครับ ถ้างั้นผมไปเก็บของสักครู่ เตรียมไปรีสอร์ต ประธานวรกัญญา ตรงนี้คุณก็ต้องระวังตัวเองด้วยนะครับ!” ธีรนัยน์ไม่มีวิชาแยกร่าง รีสอร์ตก็เป็นเลือดเนื้อของวรกัญญาเช่นกัน ในเวลานี้เขาก็สามารถช่วยได้เท่านี้แหละ