แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 391 ฉันต้องการดูแลเขาด้วยตัวเอง

แต่งรักมัดใจบอส

ประวีร์เพิ่งจะลงจากเครื่อง ก็ได้มาที่โรงพยาบาล เขาได้ข่าวว่าชลธีเกิดอุบัติเหตุ แม้แต่งานประชุมที่สำคัญหลายงานก็ไม่ได้ไปประชุม ก็ได้รีบกลับมาเลย อยากจะดูสักหน่อยว่าตกลงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

มาถึงโรงพยาบาลก็เห็นเงาร่างเบื้องหลังที่บอบบางนั้นของมุกดาเข้า เขาก็ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดใจอย่างอธิบายออกมาไม่ถูกออกมาเหมือนกัน

“มุก เธอต้องเข้มแข็งสักหน่อย ในเมื่อชลสามารถสละชีวิตเพื่อเธอได้ เธอก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ให้ดี ดูแลเขาให้ดี!” ถึงแม้ว่าตัวเองก็สามารถสละชีวิตเพื่อมุกดาได้เหมือนกัน แต่ว่านี่ก็ให้ชลธีชิงนำหน้าไปก่อนแล้วกัน มุกดามีคนที่รักใคร่ทะนุถนอมอย่างนี้ เขาก็วางใจเหมือนกัน

“จริงสิ อีกฝ่ายเป็นยังไงบ้าง?” มุกดาร้องไห้อยู่ จู่ๆก็ได้เช็ดน้ำตาแล้วนึกเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ มัวแต่เป็นห่วงชลธีอยู่ตลอด แต่กลับไม่ได้ถามถึงคนที่ขับรถจี๊ปคนนั้นเลยว่าเป็นยังไงบ้าง

“ตายแล้ว ตอนที่ชลชนเข้าไป ก็ได้ชนเข้าไปที่ช่วงเอวของรถคันนั้นพอดี ทำให้คนคนนั้นถูกชนตายคาที่ ความเร็วของรถที่ชลขับมันเร็วเกินไป เขาใช้แรงกระแทกเข้าไปอย่างแรงนั้นชนเข้าไปที่รถจี๊ป ไม่อย่างนั้นแล้ว คนที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบก็จะเป็นรถของชลเอง” อนุชิตได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ประวีร์ฟังมาก่อนแล้ว คนที่ตายไปคนนั้นก็เป็นคนที่ทุกคนต่างก็รู้จักกันทั้งนั้น

“ตายแล้ว? แล้วรู้หรือเปล่าว่าเป็นใคร?” มุกดาพอได้ยินว่าอีกฝ่ายได้ตายไปแล้ว เธอก็อยากรู้มากกว่าใครกันที่มันเสียสติได้ขนาดนี้

“อุไรภัสร์!” ในตอนที่ประวีร์พูดชื่อนี้ออกมา มุกดาก็ได้ตะลึงงันไปแล้ว สองพี่น้องนี้ช่างยึดติดกับความเกลียดชังมากเกินไปจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะต้องการจะเอาชีวิตเธอ!

“ใช่ เขาตายคาที่ ชลยังดีที่ได้ช่วยเอาไว้ ผมได้ดูตัวบ่งชี้ในแต่ละรายการของเขาดูแล้ว ถึงแม้ว่าจะอันตรายอยู่บ้าง แต่พื้นฐานร่างกายของเขานั้นดี คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก” ประวีร์เอ่ยปลอบมุกดาออกไป

คิดไปถึงว่าชลธีนั้นเพื่อตนแล้วแม้แต่ชีวิตของตัวเองเอาแล้ว มุกดาก็ได้รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง

เรื่องที่ชลธีเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าจะมีการรายงานข่าวอยู่บนสถานีวิทยุ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทั้งสองฝ่ายเป็นใคร เพียงแค่บอกว่าทั้งสองรายเป็นเพศชายด้วยกันทั้งคู่ อนุชิตกับประวีร์ในตอนนี้ได้วางแผนเรื่องทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นแล้วที่ในพระนครนอกจากพวกเขาเพียงแค่ไม่กี่คนแล้ว คนอื่นๆก็ไม่รู้เรื่องที่ชลธีได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกันเลย

ในสามวันนั้นก็เหมือนกับได้ทนมาสามปีก็ไม่ปาน ในสามวันที่เสี่ยงอันตรายที่สุดของชลธี มุกดาไม่เคยได้นอนหลับไปด้วยจิตใจสงบเลย ได้อาศัยความสัมพันธ์ของประวีร์กางเตียงสนามอยู่ที่หน้าประตูห้องไอซียู ตัวเองอยู่บนเตียงไม่นั่งก็นอนไป ตอนที่ง่วงที่สุด ก็ได้หรี่ตาลงไปสักพักหนึ่ง

ประวีร์กับอนุชิตก็ได้ส่งของกินมาให้เธอบ้างนิดหน่อยเหมือนกัน เกี่ยวกับเรื่องที่ชลธีได้รับบาดเจ็บนั้น แม้แต่พ่อแม่ของตัวเองมุกดาก็ไม่เคยบอก กลัวว่าพวกเขาจะเสียใจกัน

ตอนที่มาถึงวันที่สี่ ขอบตาดำคล้ำของมุกดาได้ดำเข้มไปหมดแล้ว แต่ว่าเธอก็ยังนอนไม่หลับ

พอถึงเวลาเช้าตรู่ ประวีร์ได้พาคุณหมอเข้าไปทำการตรวจดูอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องให้กับชลธีไปชุดหนึ่ง

ในทุกๆนาทีทุกๆวินาทีนั้นได้ทำให้หัวใจของมุกดาบีบรัดแน่นไปหมด ชลธีนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยมาโดยตลอด เพียงแต่มีพยาบาลกำลังพลิกตัวให้กับเขา เขาไม่มีสติไปโดยสมบูรณ์

ผ่านการตรวจดูอาการไปอย่างตั้งอกตั้งใจแล้ว ตอนที่ประวีร์ออกมาเป็นคนสุดท้าย ได้ถูกมุกดาที่รออยู่ที่ข้างนอกมาโดยตลอดดึงแขนเอาไว้ เธอได้ถามอาการของชลธีออกไปด้วยความร้อนใจ

“พ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะฟื้นขึ้นมา อีกเดี๋ยวผมจะย้ายเขาไปที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี แล้วจะให้คุณเป็นคนคอยดูแลเขา คุณจำเอาไว้ว่าในใจของเขามีเพียงแค่คุณ คุณต้องพูดกับเขาให้เยอะๆ ให้เขารู้ว่าคุณคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาอยู่ตลอด” ประวีร์กำชับมุกดาออกไป

“อืมๆ ได้ๆ” มุกดารีบตอบรับออกไปทันที

ได้ยินว่าชลธีไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว มุกดาก็วางใจ เพราะถึงยังไงเรื่องต่อจากนี้ก็ต้องพึ่งการพักรักษาตัวแล้ว ขอเพียงแค่ชลธียังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่ว่าก็มีความหวังแล้วหรือไง?

ย้ายชลธีไปที่ห้องผู้ป่วย มุกดาก็ได้ขับรถกลับไปเอาของ เธออยากจะดูแลคนรักของตัวเองด้วยตัวเอง

“คุณแม่ ไม่เป็นอะไรแล้ว ชลได้ดีขึ้นแล้ว ฉันจะไปดูแลเขา คุณแม่วางใจเถอะค่ะ” ตอนที่มุกดากลับไป ก็ได้ไปรายงานกับนีรชา

“งั้นพรุ่งนี้แม่จะไปเยี่ยมเขาสักหน่อย” นีรชาปล่อยวางจากลูกชายของตัวเองไม่ได้

“คุณแม่ คุณแม่อย่าเพิ่งไปเลยได้หรือเปล่า? รอให้ถึงตอนที่สามารถไปได้แล้ว ฉันจะโทรหาคุณแม่อีกที” ชลธีในตอนนี้ดูไม่ดีเป็นอย่างมาก แม้แต่ตัวเขาก็ยังดูไม่ออกเลยว่าเป็นใคร มุกดากลัวว่านีรชาเห็นเข้าจะยิ่งเสียใจขึ้นกว่าเดิม

“ก็ได้ งั้นก็รบกวนหนูแล้ว มุก หนูก็อย่าให้เหนื่อยล้าเกินไปล่ะ แม่จะจัดคนที่มือเท้าว่องไวสักคนไปช่วยหนูแล้วกัน?” นีรชาเห็นสภาพที่ดูโทรมของมุกดาแล้ว เธอเองก็รู้สึกสงสารเป็นอย่างมากเหมือนกัน

ลูกสะใภ้ไม่ให้เธอไปดูลูกชาย จะต้องเป็นเพราะว่าสภาพในตอนนี้ของลูกชายค่อนข้างที่จะแย่เลยทีเดียวแน่ๆ แต่ขอเพียงแค่มีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว นีรชาถึงแม้ว่าจะอยากจะไปดูสักหน่อยว่าลูกชายมีสภาพเป็นยังไงบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกที่จะเชื่อฟังลูกสะใภ้

“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแม่ สาเหตุที่ชลเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะฉัน ถ้าฉันไม่ดูแลเขาด้วยตัวเอง ในใจของฉันก็จะรู้สึกผิดต่อเขามากเลย” มุกดายืนกรานที่จะไม่ให้คนอื่นไป เธอต้องการจะดูแลชลธีด้วยตัวเอง

เอาของมาเรียบร้อยแล้ว มุกดาก็ได้ไปดูอักลี่ลูกชายของตัวเองสักหน่อย อักลี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อของตัวเองได้รับบาดเจ็บ เขายังคงเหม่อลอยอยู่กับรูปภาพของตัวเอง

“อักลี่” มุกดาตะโกนเรียกชื่ออักลี่ออกไปคำหนึ่ง

อักลี่หันหน้าไปมองเห็นแม่ ก็ได้อ้าแขนกระโจนเข้ามา

“คุณแม่ คุณแม่ไปไหนมา ผมคิดถึงคุณแม่มากเลย” หลายวันมากแล้วที่ไม่ได้เจอแม่ อักลี่ได้ถามนีรชาไปหลายครั้งมาก แต่นีรชาเพียงแค่บอกว่าแม่ออกไปทำงานที่ต่างเมืองเท่านั้น

“แม่ออกไปทำงานที่ต่างเมือง แต่ว่าตอนนี้แม่ก็ต้องออกไปทำงานที่ต่างเมืองอีก อักลี่อยู่บ้านก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของคุณย่านะเข้าใจมั้ย?” มุกดาอุ้มอักลี่ขึ้นมา จูบลงไปบนใบหน้าของเขาทีหนึ่ง

“อืม ผมเข้าใจแล้ว ผมจะเชื่อฟัง ทำไมคุณแม่ถึงต้องออกไปทำงานต่างเมืองอยู่เรื่อยเลยล่ะ?” อักลี่เองก็ได้ยื่นมือออกไปจับไปที่บนใบหน้าของมุกดาด้วยเหมือนกัน

“เพราะว่างานช่วงนี้มันค่อนข้างเยอะเลย แม่ก็เลยต้องออกไปทำงานที่ต่างเมือง คุณพ่อของลูกเองก็กำลังออกไปทำงานที่ต่างเมืองด้วยเหมือนกัน อักลี่ลูกต้องจำเอาไว้นะว่าอย่าไปกินของที่คนอื่นให้ซี้ซั้ว และก็จะเดินตามคนอื่นไปมั่วๆไม่ได้นะ”

มุกดาเข้าไปพูดที่ข้างๆใบหูลูกชายของตัวเอง

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” อักลี่พยักหน้าออกมา ใบหน้าสวยของเขาลดความอ่อนต่อโลกลงไปเล็กน้อยแต่กลับได้เพิ่มความมากประสบการณ์ออกมามากขึ้น

มุกดาได้กำชับเรื่องบางอย่างให้กับนัทธ์เอาไว้อีก แล้วก็เตรียมออกเดินทางไป

“คุณนาย คุณจะไปไหน? ดิฉันอยากจะคุยกับคุณสักหน่อย” รวินท์ได้กลับมาแล้ว เธอได้ข่าวว่าช่วงนี้มุกดากับชลธีต่างก็ไม่อยู่บ้านกัน เธอจึงคิดว่าโอกาสของตัวเองได้มาถึงแล้ว

“ฉันต้องออกไปทำงานที่ต่างเมือง เธอมีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ” มุกดามองรวินท์ บนร่างของเธอเหมือนกับว่าจะสวมเสื้อผ้าแบรนด์อะไรสักอย่างอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แพง แต่มันก็ไม่ใช่ของที่คนอย่างเธอจะมีปัญญาสวมได้

“ดิฉันอยากจะพาอักลี่ออกไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อยได้มั้ยคะ? เด็กต้องออกไปเดินเล่นข้างนอกบ่อยๆ ถึงจะสามารถมองเห็นโลกได้เยอะ” รวินท์พูดกับมุกดา

“อ้อเหรอ? ออกไปข้างนอก? งั้นเธอก็พานัทธ์กับคุณย่าของเขาไปด้วยก็สามารถออกไปได้แล้ว ถ้าเขาไปคนเดียว ไม่ได้เด็ดขาด!” มุกดาปฏิเสธคำแนะนำของรวินท์ออกไปตรงๆ

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท