ในขณะที่มุกดากำลังพูดคุยกับแม่นม ในตอนนั้นธีรเมทก็เดินเข้ามา เขาจับมือของมุกดาเอาไว้และเริ่มดึงเธอออกไปข้างนอก
“ธีรเมท ปล่อยนะ คุณจะทำอะไรเนี่ย” มุกดาคิดว่าธีรเมทจะพาเธอไปที่ห้องหอ เธอเลยขัดขืนสุดแรง
“ไปกับผม เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เราต้องย้ายบ้านทันที” ธีรเมทนั้นแข็งแกร่งมาก เขาดึงมุกดาไว้ จนทำให้เธอไม่มีแรงที่จะดิ้นจนหลุด
“แม่นม เธอก็เก็บข้าวของ และตามรถคันข้างหลังมา พวกเราจะไปก่อนนะ” ธีรเมทดึงมุกดาไว้โดยที่ไม่หันกลับไปมองเลย เขาไม่ยอมให้มุกดาขัดขืน เขาเลยดึงมุกดาเข้าไปในรถทันที
“เราจะไปไหนกัน?” มุกดาถามธีรเมท ถ้าธีรเมทต้องการย้ายบ้าน ก็แสดงว่าชลธีหนีไปได้แล้ว ในเวลานี้มุกดาก็ไม่รู้เป็นกังวลอีก ถ้าธีรเมทต้องการจะเข้าห้องหอไปพร้อมกับเธอ ยังไงเธอก็จะไม่ยอมเขาแน่ๆ
ธีรเมทมองไปที่มุกดา ตอนนี้จะไปที่ไหน ยังไงเขาก็จะไม่บอกเธออย่างแน่นอน คนฉลาดอย่างมุกดาเธอคงรู้แล้วว่าชลธีนั้นหนีไปแล้ว แต่เขาไม่มีทางเลือก ชลธีนั้นก็ทึกเอามากๆ เขาโดนทุบตีจนเป็นอย่างนั้น แล้วเขาก็ยังจะหนีรอดไปได้อีก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ธีรเมทคาดไม่ถึงเลย
“ตอนนี้พวกเราต้องออกไปกันก่อน แต่ในไม่ช้าเราจะกลับมา” ริมฝีปากของธีรเมทยิ้มอย่างเยือกเย็น ใบหน้าของเขาที่ดูค่อนข้างอ่อนโยนในตอนนี้กลับดูเคร่งขรึมมากๆ
ชลธีจะต้องตาย! มีเพียงแค่ทำให้ชลธีตายไปเท่านั้น หัวใจของมุกดาถึงจะมีแค่ตัวเขา
นั่นคือสิ่งที่ธีรเมทคิด เขาส่งคนไปไล่ฆ่าชลธีแล้ว เขาเสียใจมากที่เขาไม่ได้แทงชลธีให้ตายในครั้งเดียว ตอนแรกเขาคิดที่จะทรมานเขาเล่น แต่ เขาก็ปล่อยให้ชลธีหนีไปจนได้
เมื่อมุกดาเห็นว่าตัวเองไม่สามารถจะถามอะไรได้เลย เธอก็นิ่งเงียบ รอให้มีโอกาสแล้วลงมือนี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการที่จะตาย แต่ถ้ามันไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ เธอก็ไม่มีหนทางอะไรแล้ว
ธีรเมทขับรถไปรอบๆ บนภูเขา ไม่รู้ว่าเขากำลังจะไปไหน มุกดาก็ไม่คุ้นเคยกับที่นี่เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงต้องไปตามธีรเมท ต่อให้เธออยากจะจดจำเส้นทางก็ทำไม่ได้ ถนนเส้นนี้ทั้งขรุขระและยาวมากๆ ที่สำคัญก็มีทางแยกอยู่มากมาย มุกดาก็เลยยอมแพ้
หลังจากการรักษาอย่างพิถีพิถันของประวีร์ บาดแผลของชลธีก็ได้รับการรักษาแล้ว แต่เขายังมีไข้สูง ไม่รู้เลยว่าคนเหล่านั้นทำอะไรกับเขาบ้าง ถึงทำให้ร่างกายที่แข็งแรงของเขานั้นตกอยู่ในสภาพที่แย่มากแบบนี้
“ประวีร์ เมื่อไหร่เขาจะฟื้น” อนุชิตและทศพรก็อดใจรอไม่ไหวแล้ว นี่ก็ผ่านไปสองวันแล้ว ชลธีก็ยังไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมา
“ฉันก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปกติแล้ว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไงก็ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์เขาถึงจะฟื้นขึ้นมาได้ แต่จิตสำนึกในการเอาชีวิตรอดของเขานั้นแข็งแกร่งมาก ฉันเดาว่าน่าจะใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น” ประวีร์ได้ทำการตรวจเช็คร่างกายให้ชลธีอีกครั้ง
“งั้นเราก็รออยู่ที่นี่ มารอดูว่าชลธีจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน หลังจากที่เขาตื่นแล้ว เราถึงจะสามารถไปตามหามุกดาได้ จากนั้นก็จะปล่อยให้ทางกฎหมายลงโทษกับคนที่ลักพาตัวมุกดาไป” ทศพรมองไปที่ใบหน้าของชลธี ใบหน้าเขาดูไม่สงบเลย แสดงให้เห็นว่าในใจของเขายังเป็นห่วงมุกดามาก
“พี่ใหญ่ พี่ชลเป็นยังไงบ้าง เขาฟื้นหรือยัง” ธีรนัยน์และณฐวรเดินเข้ามา
“ยังเลย แต่น่าจะมาในเร็วๆ นี้ เขายังเป็นห่วงมุกมากๆ ณัฐ อย่าบอกเรื่องของชลธีกับคุณโจนส์และภรรยาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นร่างกายของพ่อนายอาจจะรับไม่ไหวอย่างแน่นอนธีรนัยน์เธอก็ไปอยู่เป็นเพื่อนน้าบัวบ่อยๆ เธอก็บอกไปว่าพวกเรามีเบาะแสแล้ว” ทศพรออกคำสั่งกับเด็กสองคน
“อืม พวกเราเข้าใจแล้ว มีอะไรให้เราช่วยไหม?” ณฐวรและธีรนัยน์พยักหน้า
“แน่นอนว่ามี หน้าที่ของพวกเธอตอนนี้คือการดูแลผู้สูงอายุของทั้งสองครอบครัว อย่าทำให้พวกเขาเศร้าเกินไป หน้าที่ของพวกเธอนั้นสำคัญมากๆ” อนุชิตพูดกับน้องสาวของตัวเองและณฐวร
“งั้นพวกเราก็จะดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างดี เรื่องอื่นๆ ก็คงต้องรบกวนพวกพี่แล้ว” ณฐวรรู้สึกขอบคุณพวกพี่เขามากๆ ที่บ้านของเขาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาที่เป็นน้องชายก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย ก็เป็นพวกพี่พวกนี้ที่คอยช่วยเหลือ
ณฐวรและธีรนัยน์เฝ้าชลธีอยู่พักหนึ่ง เมื่อเริ่มดึก พวกเขาก็ถูกผลักออกไป เขาบอกให้รีบกลับไปและอย่าให้ผู้สูงอายุเป็นห่วง
ในช่วงกลางดึก ทุกคนไม่สามารถทนต่อไปได้อีก พวกเขานอนหลับไปบนโซฟา มือของชลธีค่อยๆ ขยับ และเปลือกตาของเขาก็กระตุกอย่างแรง
ในที่สุดก็สามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางบางอย่างมาได้ ชลธีค่อยๆ ลืมตา ก่อนจะพูดออกมากด้วยน้ำเสียงที่แหบ “มุก”
คนสามคนที่เพิ่งจะผล็อยหลับไป เมื่อได้ยินเสียงของชลธี พวกเขาก็รีบลุกขึ้น และก็รีบไปอยู่ข้างกายชลธีทันที
“ชล นายตื่นแล้วเหรอ นายตื่นแล้วเหรอ” ทั้งสามคนมองไปยังชลธีที่ค่อยๆ ลืมตา พวกเขาตื่นเต้นมาก โชคดีที่ชลธีไม่มีอะไรผิดปกติ
“เทน้ำให้เขาสักแก้วก่อน ดูสิว่าริมฝีปากของเขาแตกแล้ว” ไม่เสียแรงที่ประวีร์เป็นหมอ สิ่งที่เขาพูดตรงกับสิ่งที่ชลธีต้องการ เขากระหายน้ำ และหิวมาก เขาหิวมาหลายวันแล้ว
หลังจากได้ดื่มน้ำไปแล้ว แต่เสียงของชลธีก็ยังคงแหบแห้งมาก
“ไปช่วยมุก ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน” หลังจากที่ชลธีได้ดื่มน้ำแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย เขาต้องการแค่ไปช่วยมุกดา และสมองของเขาก็รู้เรื่องทุกอย่าง
“ไม่ต้องรีบ นายทานโจ๊กก่อน โจ๊กนี้วางไว้ตรงนี้นานแล้ว ยังอุ่นอยู่เลย นายหนีออกมา ถ้าคนคนนั้นจับตัวนายไม่ได้ ยังไงพวกเขาก็ต้องย้ายหนีไปแล้ว” ทศพรวิเคราะห์
พวกเขาครุ่นคิด และดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
“แต่ฉันเป็นห่วงมุก ทศพร พยุงฉันให้ลุกขึ้นหน่อย” ชลธีรู้จักทุกคนในที่นี่
“ไม่ต้องรีบ คนคนนั้นคือธีรเมทใช่ไหม?” ทศพรถามชลธี
“อืม ก็เขานั่นแหละ คนที่เขาอยู่ที่นี่คือตัวแทนของเขา ดังนั้นคนที่เรามองเห็น นั้นเป็นตัวปลอม” ชลธีกลืนน้ำลายลงคอ และท้องของเขาก็ร้องออกมา
“ทานโจ๊กก่อนเถอะ นายหิวมาหลายวันแล้ว ไม่สามารถทานของเลี่ยนได้” ประวีร์เติมโจ๊กและวางไว้ข้างหน้าชลธี
ชลธีรับโจ๊กไว้ เขาทานไม่กี่คำก็หมด เขาเป็นห่วงมุกดามาก และเขาไม่สามารถจะทำให้จิตใจสงบลงได้เลย
“เราไปที่เดิมกันก่อนก็ได้ บางทีเราอาจจะหาเบาะแสได้บ้าง” ชลธียืนขึ้น ขาของเขาอ่อนแรงเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ ดังนั้นเขาจึงอดทนไว้ตลอดเวลา
“ก็ดีเหมือนกัน พวกเราไปดูกันเถอะ” อนุชิตพยุงชลธี ทั้งสามคนลงไปชั้นล่าง และทำตามคำแนะนำของชลธี พวกเขาไปยังบ้านพักของธีรเมท