ชลธีกวาดตามองทุกคนด้วยแววตาที่เย็นชา ทุกคนเงียบไปหมด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก
“ฉันรู้สึกหิวแล้ว พวกนายไม่รู้สึกบ้างเลยเหรอ?” ทันใดนั้นชลธีก็พูดขึ้น ทุกคนต่างก็หัวเราะกันใหญ่ ชลธีผู้ที่เย็นชามาตลอดก็มีวันที่ตลกกับเขาเป็นด้วยเหรอ
“อ้อ ฉันลืมไปเลย เดี๋ยวฉันไปทำอาหารให้ทุกคนนะ” พี่สาวชาวประมงมองดูทุกคนกลับมาแล้ว เธอก็ดีใจไปด้วย พอดีใจก็ลืมเรื่องทำอะไรไปเสียสนิทเลย
“เดี๋ยวฉันช่วยค่ะ” มุกดารีบออกไปกับพี่สาวคนนั้นทันที
“ฉันไปช่วยด้วย” ชลธีเกาหัวตัวเองเบาๆ จากนั้นก็ตามมุกดาออกไป
“เป็นทาสภรรยาจริงๆเลยนะ ต่อไปจะทำยังไงล่ะนั่น” อนุชิตส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ
“นายคิดว่านายไม่เป็นหรือไง!” ทศพรไม่พอใจ ทาสภรรยาแล้วยังไง? ทาสภรรยาก็มีความสุขแบบทาสภรรยา เขาน่ะชอบจะตายไป!
อนุชิตเห็นว่าตัวเองพูดขัดใจทาสภรรยานี่อีกแล้ว ก็เลยหุบปากเงียบไม่พูดอะไรอีก แต่ก็ทำให้เอาประวีร์หัวเราะออกมา
ทศพรรีบโทรหาจันวิภาทันที โทรไปรายงานว่าตัวเองยังสบายดี ทุกคนก็สบายดีเหมือนกัน และช่วยมุกดาได้แล้วด้วย
“เสร็จแล้ว มากินข้าวได้แล้ว” มุกดาตะโกนเรียก จากนั้นทุกคนก็รีบกระโดดออกมาทันที หลังจากที่ออกแรงมากเยอะ พวกเราก็หิวมากจริงๆ
บนโต๊ะอาหารมีปูหนึ่งจานใหญ่ มีปลาน้ำแดงรวมกันหลายชนิด ยังมีกุ้งกับผัดผักกับข้าวเปล่า
กับข้าวที่น่ากินนั้น ทุกคนเห็นแล้วก็ต่างกลืนน้ำลายกันอึ้กๆ มุกดาตักข้าวจนเต็มทุกถ้วย แล้วแบ่งให้ทุกคน
ไม่นานข้าวก็กินหมดแล้ว ผักก็กินเร็วมากเหมือนกัน เหลือแค่ซุปเล็กน้อย
“ไอ๊หยา อิ่มจังเลย ฉันยังไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย ต่อไปพวกเรามีเวลาต้องมากินข้าวที่บ้านพี่สาวแล้วล่ะ” อนุชิตตีสนิทภรรยาของชาวประมง อาหารหรูหรากินมาเยอะแล้ว พอได้กินอาหารธรรมดาแล้วก็ดูอร่อยไปอีกแบบ
“นั่นสิ ถ้าพวกเธอมีเวลาว่างก็มาได้ทุกเมื่อเลยนะ เดี๋ยวฉันทำของอร่อยให้กินเอง” คุณสาวชาวประมงตอบตกลงทันที
ทุกคนกินอย่างมีความสุข และพูดคุยกันสนุกสนาน
“เอาล่ะ นี่ก็ถึงเวลาแล้วล่ะ พวกเราก็ควรกลับได้แล้ว ถ้ายังไม่ไปอีกล่ะก็ ธีรเมทคงตามมาจับถึงที่นี่แน่” ประวีร์ดูนาฬิกา พวกเขาเสียเวลามามากแล้ว ถ้าตอนนี้ยังไม่ไปอีกล่ะก็ อาจจะถูกธีรเมทจับตัวได้ก่อน
“ใช่แล้ว พวกเราต้องกลับแล้วล่ะ แต่พี่ชาวประมง ไปกับพวกเราเถอะ ไปหลบหน้าก่อน เรื่องที่พวกเรามาอยู่บ้านพี่ต้องมีคนเห็นแล้วแน่เลย ถ้าปากโป้งไปบอกธีรเมท มันได้พาคนมาเล่นงานพวกพี่แน่” ทศพรค่อนข้างที่จะรอบคอบ
“ไม่หรอก พวกเรามาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ไม่มีใครไปฟ้องหรอก พวกเธอไปเถอะ เอาอาหารแห้งไปด้วย พวกเราก็ไม่ไปแล้วล่ะ” ชาวประมงปัดมืออย่างไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร เขาคงทำใจออกจากผืนแผ่นดินที่เลี้ยงดูตัวเองไม่ได้หรอก
“งั้นก็ได้ครับ พวกเรากลับก่อนแล้วนะครับ ไม่รบกวนพวกพี่แล้ว ถ้าเกิดมีคนมาถาม พวกพี่ก็บอกว่าไม่เคยเจอพวกเรามาก่อนนะครับ” ทศพรก็ทำได้แค่กำชับพวกเขาแบบนี้
ทั้งห้าคนจากไปด้วยความเสียดาย ครอบครัวชาวประมงออกมาส่งไกลมากกว่าจะกลับไป
“เห้อ ชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตเรียบง่ายจริงๆ ถ้าครั้งนี้ไม่ได้พี่ชาวประมงช่วยไว้ล่ะก็ พวกเราคงได้ถูกขังตายในคุกน้ำนั่นแน่ ธีรเมท เจ้าหมอนี่มันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานจริงๆ!” อนุชิตสบถด่า รอเขากลับไปแล้ว จะต้องนำกำลังคนมาจัดการเกาะนี้ให้ราบคาบแน่
“เธอ เธอ เธอกลับมาแล้วเหรอ?” ตอนที่ธีร์ธวัชเห็นมุกดากลับมา ก็ทำอย่างกับเห็นผี ไหนว่าผู้หญิงคนนี้กลับมาไม่ได้แล้วไง?
“ใช่แล้วค่ะ ฉันกลับมาแล้ว พี่รองรู้สึกตกใจมากเลยเหรอคะ?” มุกดาเห็นสีหน้าท่าทีของธีร์ธวัช ทำท่าอย่างกับกินแมลงวันเข้าไปอย่างไงอย่างนั้น
“ไม่หรอก ไม่ใช่อย่างนั้น มุก พี่รองไปไม่ได้น่ะ ไม่งั้นก็คงไปช่วยเธอแล้ว ใครกันแน่ที่ลักพาตัวเธอไป?” ตอนนี้เองธีร์ธวัชก็ทำท่าเหมือนเป็นห่วงเป็นใยขึ้นมา
“ฉันเห็นหน้าคนลักพาตัวไม่ค่อยชัดน่ะ” มุกดาพูดจบก็กลับหลังหันเดินออกไป
ธีร์ธวัชมองดูแผ่นหลังของมุกดา เขาตกใจจนแผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อ ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ขนาดนี้แล้วยังหนีออกมาได้
ธีร์ธวีชกลับหลังหันควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กำลังจะโทรหาใคร แต่พอเขาเงยหน้าก็เห็นคนยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง พอเขาเห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ตกใจจนโทรศัพท์ตกลงพื้นไป
“ชล ชล ชลธี?” ธีร์ธวัชตกใจจนพูดติดอ่าง เช้านี้มันวันอะไรกันเนี้ย คนที่ตัวเองไม่อยากเจอก็มาปรากฏตัวกันหมดเลย
“พี่รอง อรุณสวัสดิ์?” ชลธีอมยิ้มแล้วทักทายธีร์ธวัช แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ธีร์ธวัชขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“อะ อรุณสวัสดิ์” ขาธีร์ธวัชเริ่มอ่อนลง
“ที่รักคะ! ชลธี? นายยังไม่ตายเหรอ?” ตอนนี้เองนาราก็พุ่งออกมา แต่พอเธอเห็นชลธีอยู่ด้วย ก็ตกใจจนชะงักไปทันที
“ต้องขอบคุณทุกคนนะ ฉันยังไม่ตาย แถมยังมีสุขภาพแข็งแรงด้วย ตอนนี้ฉันก็รับหน้าที่ประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปได้แล้ว” ชลธีพูดจบก็เดินไปทางที่ภรรยาตัวเองไป
เหลือเพียงธีร์ธวัชและนาราที่ยังยืนอึ้งอยู่กับที่ ไหนว่าตัวเองเป็นประธานได้ไง? ไหนว่าตัวเองเป็นภรรยาของประธานได้ไง? ตอนนี้สองคนนั้นก็กลับมาแล้ว งั้นทุกอย่างก็จบสิ้นแล้วน่ะสิ
“ที่รัก จ้างคนลักพาตัวมุกดาอีกครั้งดีไหม?” นารารู้สึกอิจฉาที่มุกดาเป็นภรรยาของประธานได้
“อย่าพูดซี้ซั้วนะ เรื่องนี้ทำได้แค่ครั้งเดียว ถ้าทำอีกก็ไม่มีความหมายแล้ว ไปที่ห้องทำงานฉันกันเถอะ โทรหาธีรเมทก่อน เขาเป็นอะไรไป แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เฝ้าไว้ไม่อยู่!” ตอนนี้ธีร์ธวัชรู้สึกโมโหมาก ธีรเมทกำลังล้อเล่นกับเขาอยู่หรือไง ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำไมถึงปล่อยออกมาได้
“ไม่ ไม่ ไม่ดีแล้วครับ คุณชาย!” ตอนที่ธีรเมทเพิ่งกลับมาเกาะ ก็ได้ยินคนมารายงานข่าวร้าย
“ทำไม? พวกนายมีเรื่องกันทุกวันเลยหรือไง?” ธีรเมทมองลูกน้องตัวเองอย่างไม่พอใจ
ลูกน้องเห็นธีรเมทแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี
“พูดมาๆ!” ธีรเมทรู้สึกอารมณ์เสียมาก มุกดาหนีออกไปได้จากการควบคุมของเขา เขายังไม่มีปัญญาไปตามหากลับมาได้อีก ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
“ก็คือว่า คือว่าสามคนที่ขังอยู่ในคุกน้ำหายไปแล้วครับ!” ลูกน้องรายงานไปตามความจริง
“ว่าไงนะ? สามคนนั้นหนีไปแล้วเหรอ?” ธีรเมทรู้สึกสมองตัวเองจะแตกอยู่แล้ว สามคนนั้นเป็นบุคคลที่สามารถเปลี่ยนฟ้าดินได้เลย ถ้าหนีออกไปจากที่นี่ได้ งั้นชีวิตหลังจากนี้ของเขาก็คงลำบากยิ่งขึ้นไปอีกแน่ๆ
“ครับ วันนี้ตอนเช้าตอนที่ผมไปให้อาหารพวกเขา พวกเขาก็หายไปแล้วครับ” ลูกน้องรายงานไปด้วยและคอยสังเกตสีหน้าของธีรเมทไปด้วย
ที่จริงเขาไปส่งอาหารตอนกลางวัน ธีรเมทไม่อยู่ เขาก็เลยแอบขี้เกียจ
“หาแล้วหรือยัง?” ธีรเมทแทบจะคำรามออกมาอยู่แล้ว
“หาแล้วครับ บนเกาะไม่มีเลย อาจจะหนีออกไปได้แล้ว” ลูกน้องเห็นท่าทีของธีรเมทที่จะกินคนได้แล้ว ก็ตกใจจนไม่กล้าหายใจ