คำขอนี้ของโธรณีนั้นทำให้มุกดาเก้อเขินเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นน้องสาวของชล ถ้าตัวเองยกโทษเธอไปแบบนี้ ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แค่คำขอนี้หรอ ได้สิ อันนี้สนองให้เธอได้อย่างเต็มที่เลย” ชลธีเห็นว่าน้องสาวของตัวเองมีคำข้อเพียงเท่านี้ เขาก็หัวเราะขึ้นมา
“มุก เธอไม่ควรโกรธแสนดีนะ” ชลธีจับมือของมุกดาไว้แล้วพูดกับเธอ
มุกดามองเขาทีหนึ่ง ชลธีคนนี้เป็นคนที่แยกแยะถูกผิดออกมาโดยตลอด วันนี้เป็นอะไรไป เห็นน้องสาวของตัวเองแล้วก็ไร้หลักการอะไรแล้วหรอ?
“เธอฟังที่ฉันพูดนะ มุก แสนดีเป็นสายลับที่ฉันส่งออกไป วันนั้นที่มีคนส่งระเบิดมาที่บ้านฉัน ไม่ใช่ว่ามีคนส่งกระดาษข้อความมาให้เธอหรอ?แล้วก็ที่ตอนเธอถูกธีรเมทพาไปบนเกาะ ก็เป็นแสนดีที่ชี้ทางให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่มีทางหาเธอเจอได้อย่างแม่นยำขนาดนั้นหรอก เกาะของธีรเมท แม้แต่พวกเราก็ไม่มีใครรู้เลยนะ”
ชลธีบอกหน้าที่ความยากลำบากของโธรณีให้กับมุกดา
“แสนดีตั้งใจทะเลาะกับเธอ แบบนั้น แสนดีถึงจะได้รับความเชื่อมั่นจากอีกฝ่าย เมื่อก่อนเป็นเวลานานที่ธินิดาไม่เชื่อใจแสนดี ถ้าไม่มีแสนดี ธินิดาก็ไม่มีทางถูกจับเข้าไปได้เร็วขนาดนี้” ชลธีมองน้องสาวของตัวเอง เธอต้องแบกรับความไม่เป็นธรรมมากแค่ไหน
มุกดาฟังคำพูดของชลธีไป เธอก็โปร่งขึ้นมาทันที ก็ว่าทำไมถึงมีคนคอยช่วยเหลือตัวเองอยู่ที่ลับๆ บ่อย ที่แท้ก็คือแสนดี
“แล้วก็ แล้วก็ พี่ยังพูดไม่จบเลย ก็คือที่ฉันแกล้งเป็นบ้าผู้ชายแล้วไปชอบธีรนัยน์เด็กโง่คนนั้น ทำให้เธอตกใจแทบตาย ฮ่าฮ่าฮ่า!” โธรณีที่สะเพร่าก็ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้คนในบ้านหัวเราะกันใหญ่
มุกดาหัวเราะจนน้ำตาจะไหลแล้ว เธอนึกถึงสายตาที่ธีรนัยน์รังเกียจโธรณีก็อย่างหัวเราะ เธอเดินเข้าไป จับมือของโธรณีไว้ แล้วได้ดึงเธอเข้าอ้อมกอดของตัวเองอย่างจริงจัง
“ขอบคุณนะ แสนดี เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันตลอด น้องสาวที่ดี!”
“ขอบคุณอะไรล่ะ ยังไงฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว แม่ยังบอกเลยว่าฉันไม่งานเอาการอะไรเลย ไปทำเรื่องแบบนี้บ้างก็สนุกดีเหมือนกัน” โธรณีไม่มีทางพูดถึงอันตรายที่ตัวเองเจอมามากมาย และยังถูกคนล้อมตีไปหลายรอบ ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นหมดแล้ว เธอเองก็ไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว
เห็นว่าทั้งสองคนได้คลายข้อสงสัยครั้งก่อนต่อกันแล้ว ชลธีและนีรชาเองก็วางใจแล้ว แต่ว่าเรื่องที่ลูกสาวตัวเองไปเป็นสายลับนี่ นีรชาไม่รู้ ตอนนี้เธอก็เลยได้ไปกอดมุกดาและโธรณีไว้ด้วย
“แนดีของแม่ก็โตแล้ว รู้เรื่องแล้ว” นีรชาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เธอขอแค่คนในครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างสันติก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
“แม่ ชลธีคนนั้นมีชีวิตกลับมาอีกแล้ว และยังกลับมาเป็นคู่อีกด้วย ส่วนธีรเมทเสียชีวิตแล้ว แม่ว่าตอนนี้ผมควรทำยังไงดี?หรือว่าจะปล่อยมันไป แล้วตั้งใจทำงานอยู่ในบริษัทก็พอแล้ว ผมเองก็สามารถเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเราได้” ธีร์ธวัชที่อ่อนแอได้พูดกับผู้หญิงสองคนในบ้าน
นาราและสิริกรมองธีร์ธวัชอย่างทำอะไรไม่ได้ และไม่มีวิธีอะไรแล้ว
“แล้วแค้นของพี่นายจะไม่แก้แค้นแล้วใช่ไหม?” สิริกรไม่ค่อยเต็มใจ ลูกชายคนโตของตัวเองเสียไปอย่างนั้นเลยหรอ
“แล้วแม่จะทำยังไงต่อล่ะ หลายปีมานี้ วิธีอะไรก็ใช้หมดแล้ว พวกเราก็ยังทำอะไรชลธีทั้งบ้านได้เลย แม่ก็ไม่ต้องบังคับธวัชแล้ว” นาราเห็นท่าทางที่ทุกข์ของผู้ชายตัวเอง ก็เจ็บใจมาก เธอชอบธีร์ธวัชจริงๆ
“นั้นแหละ แม่ พวกเราไม่ไหวหรอก ไม่ว่าจะเป็นIQหรือว่าEQ ก็สู้พวกเขาไม่ได้ แม่ก็ดูสิธินิดาที่เข้าคุก และการเสียชีวิตของธีรเมท แล้วก็ฟิลลิปคนนั้นตอนนี้ก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย พวกเรายังเหลืออะไร?พวกเราจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่น?” ธีร์ธวัชคิดว่าคนที่เก่งกว่าตัวเองก็ไม่เหลือแล้ว เขารู้สึกหนาวกระดูกสันหลังขึ้นมา
“ก็ได้ ก็ได้ ลูกอยากจะทำยังไงก็แล้วแต่เถอะ แม่ก็ไม่บังคับลูกแล้ว” สิริกรเห็นว่าตัวเองเหลือเพียงลูกชายคนเดียวที่เป็นแบบนี้ ถ้าลูกชายคนนี้ก็ไม่มีอีก ชีวิตนี้ของเธอก็ถือว่าจบแล้ว
เห็นแม่ของตัวเองไม่ได้บังคับตัวเองอีกแล้ว ธีร์ธวัชก็วางใจแล้ว เขายังดีที่ไม่ได้เรื่องชั่วๆ อะไรขนาดนั้น ตอนนี้ไปทำดีต่อชลธี น่าจะยังได้อยู่
“คุณชาย คุณชายสองพาเมียน้อยมาเยี่ยมแล้ว” นัทธ์พูดกับชลธี
“ธีร์ธวัชพาเมียน้อยของเขามาทำอะไร?” โธรณีที่ฟังอยู่ข้างๆ รู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก ผู้หญิงของธีร์ธวัชไม่มีคนไหนที่เธอชอบเลยสักคน
“ให้เขาเข้ามา ที่นี่ก็เป็นบ้านของเขาเหมือนกัน” ชลธีเห็นแก่ความเป็นพี่น้องอยู่
ธีร์ธวัชและนาราหิ้วของมาเต็มไม้เต็มมือบวกกับอุ้มลูกของตัวเองแล้วเดินเข้ามา
“เรียกย่า คนนี้ก็เป็นย่าของลูก คนนี้เป็นอาสาม อาสะใภ้สาม อาน้อยของลูก” ปากของนาราหวานมาก เธอให้ลูกชายของตัวเองกล่าวทักทายทุกคนในบ้านไปจนหมดรอบหนึ่ง เด็กคนนี้ก็ฉลาด
“อุ้ย เด็กนี้โตขนาดนี้แล้วหรอ มาที่ย่านี่มา” นีรชาเดิมทีก็ดีต่อธีร์ธวัชสองพี่น้องอยู่แล้ว ได้ทำเหมือนกับว่าเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสิริกรพูดเป่าหูอยู่ ธีร์ธวัชก็จะไม่ได้รู้สึกรำคาญนีรชาขนาดนั้น
เด็กก็สวยอยู่ เขาเห็นนีรชาเรียกตัวเอง ก็ได้เดินเข้าไปในอ้อมกอดของนีรชา
นารายังกลัวว่านีรชาจะไม่ชอบลูกชายของตัวเอง ตอนนี้ดูแล้ว นีรชารักลูกชายของเธอมากกว่าสิริกรอีก ในใจของเธอก็รู้สึกดีต่อนีรชา
“หลังจากที่พวกเรากลับมาก็เอาแต่ยุ่งอยู่ตลอดเลย ไม่มีเวลามาเยี่ยมแม่กับพวกนาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะ” ธีร์ธวัชเอาของวางไว้ข้างโต๊ะชา เขาก็ได้เริ่มทำการตีสนิทต่อทุกคน
“พี่สอง ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ พวกเราโตมาด้วยกันนะ ใครจะไม่รู้นิสัยของอีกฝ่ายล่ะ” ชลธีจับมือของมุกดาไว้ตลอด
“ใช่ ใช่ ฉันก็รู้สึกว่าพวกเราเป็นคนบ้านเดียวกัน ก็ควรเดินเที่ยวหากันให้มาก ตอนนี้พี่ใหญ่ก็ไม่อยู่แล้ว เหลือแค่เพียงพวกเราสามพี่น้อง แต่การที่เป็นพี่น้องได้นั้นมันก็เป็นบุญมาจากชาติที่แล้วไม่ใช่หรอ?” ธีร์ธวัชมองรอบๆ ไปทีหนึ่ง ไม่เห็นอักลี่
“อักลี่ล่ะ?” ธีร์ธวัชอยากจะให้ลูกชายตัวเองเล่นกับพี่อักลี่
“อ๋อ อักลี่เมื่อวานหลังจากเลิกเรียนแล้วก็ไปที่บ้านตากับยายนู้นแล้ว” ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น นีรชาก็เลยเอาอักลี่ไปไว้ที่ธาราวดีกลัวว่าตัวเองจะดูแลไม่ไหว
“อย่างนี้นี่เอง ฉันว่าจะให้อักลี้เล่นกับน้องหน่อย!” ธีร์ธวัชผิดหวังเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร พวกนายกลับมาบ่อยๆ ก็จะเจออักลี่เอง ที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกนายนะ” ชลธีพูดกับธีร์ธวัช เดิมทีที่คฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศก็เป็นของทุกคนอยู่แล้ว
“พวกเราจะมาเป็นประจำได้ไหม?” นาราเองก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อก่อนตัวเองใส่ร้ายมุกดาขนาดนั้น แต่ว่าพวกเขากลับยังดีต่อตัวเองขนาดนี้ เธอเงยหน้ามองมุกดาด้วยหน้าที่แดงอย่างรู้สึกผิด