ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 23 ข้ออ้างห่วยๆ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่ถิงเซียวกำลังโกรธ และพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึม : “ไปซะ!”

มู่นวลนวลที่อยู่ด้านนอกประตู อึ้งไปพักหนึ่ง ก็หันกลับออกไป

ผ่านไปพักหนึ่ง อารมณ์ของโม่ถิงเซียวก็กลับมาเป็นปกติ

ซือเย่เคาะประตูเข้ามา ในมือถือข้อมูลอยู่ปึกนึง

โม่ถิงเซียวกำลังคิดอะไรบางอย่าง และเงยหน้าถามเขา : “มู่นวลนวลกลับมาแล้วหรือยัง?”

ซือเย่นำเอกสารในมือไปวางบนโต๊ะอย่างเงียบๆ และกระแอมในลำคอแล้วพูดว่า : “นายหญิงกลับมาสักพักหนึ่งแล้ว เมื่อกี้เหมือนจะมา……หาคุณแล้ว……”

โม่ถิงเซียวเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเคาะประตูเรียกเขา

และผู้หญิงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในบ้านพักนี้ ก็คือมู่นวลนวล

คาดไม่ถึงว่าจะมาหาเขาเอง?

เป็นเพราะข่าวบนอินเทอร์เน็ตไม่ยุติธรรม ดังนั้นต้องมาขอร้องเขาเหรอ?

ความสนใจปรากฏขึ้นในดวงตาสีเข้มของโม่ถิงเซียว เขาเอนหลังพิงเก้าอี้และสั่ง : “ไปเรียกเธอมา”

ซือเย่เดินออกไป ไม่นานก็พามู่นวลนวลกลับมา

มู่นวลนวลผลักประตูเข้ามา พบว่าโม่ถิงเซียวยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เหลังโต๊ะทำงานเหมือนครั้งที่แล้ว หันหลังเก้าอี้ให้เธอ

เธอสามารถเห็นแขนของเขาบนที่วางแขนและศีรษะโผล่ออกมาจากด้านหลังบนเก้าอี้ อย่างอื่นมองไม่เห็นเลย

โม่ถิงเซียวถามเธออย่างตรงไปตรงมา : “มาหาฉันเรื่องอะไร”

คำถามนี้ควรเป็นเธอไม่ใช่เหรอที่ควรถามเขาหรอ?

ก่อนหน้านี้เธอมาหาเขา เขาให้เธอออกไป ตอนนี้กลับเรียกเธอกลับมาอีกครั้ง ก็เพื่อจะถามเธอว่ามีธุระอะไรเหรอ?

หมู่นวลนวลก็ไม่เขินอาย พูดออกมาตรงๆ : “ฉันอยากย้ายออกไป”

เธอพูดจบ ก็เห็นโม่ถิงเซียวไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ก็อธิบายต่อว่า : “ผ่านไปไม่นานก็ต้องไปทำงานแล้ว อยู่ที่นี่ไปทำงานไม่สะดวก”

คำอธิบายของเธอ ทำให้ชายหนุ่มตอบอย่างไม่เยิ่นเย้อ : “อ่อ”

อ่อ?

นี่คือตกลงหรือไม่ตกลง?

ในใจของโม่ถิงเซียวตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจ

ผู้หญิงขี้เหร่คนนี้กล่าวด้วยความจริงใจ เมื่อวานนี้ว่าเธอไม่ได้รังเกียจเขาเลย “ไม่ได้” ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะอยากย้ายออกจากบ้านนี้!

ฝันไปเถอะ!

มู่นวลนวลเห็นเขาไม่พูดจา จึงถามอย่างไม่แน่ใจ : “คุณ……”

โม่ถิงเซียวขัดจังหวะเธออย่างเย็นชา : “เธอคิดว่าที่นี่คือตลาดสดหรอ? จะเข้ามาอย่างไรก็ได้ ออกไปอย่างไรก็ได้?”

มู่นวลนวลรับรู้ถึงน้ำเสียงโมโหของเขา

เธอไม่เข้าใจ ตัวเองกวนโมโหเขาตรงไหน

ช่างเถอะ ไม่ย้ายก็ไม่ย้าย

ย้อนคิดใหม่ เธอรู้สึกว่าตัวเองพูดถึงการขอย้ายออกไป อาจจะทำให้สะเทือนจิตใจโม่ถิงเซียว

ท้ายที่สุดแล้วคนที่มี “ความบกพร่องทางร่างกาย” อย่างโม่ถิงเซียว มีหัวใจที่อ่อนไหวง่าย จะถูกกระตุ้นได้ง่าย

เมื่อมู่นวลนวลคิดเช่นนั้น น้ำเสียงของเธอก็เบาลงโดยไม่รู้ตัว : “ฉันรู้แล้ว ไม่มีอะไรงั้นฉันออกไปก่อนแล้ว”

น้ำเสียงละมุนละไมเช่นนี้ของเธอ โม่ถิงเซียวก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

ลองคิดดูอีกที โม่ถิงเซียวก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าไม่ดี

“ออกไป!”

มู่นวลนวลถอดถอนใจ อารมณ์ของโม่ถิงเซียวนี่แย่จริงๆ

โม่ถิงเซียวหันกลับมา เขาโยนเอกสารในมือที่ยังไม่ได้วางไปบนโต๊ะทำงาน

ซือเย่เห็นท่าทางของเขา รู้สึกอธิบายไม่ถูกอยู่ในใจ ช่วงนี้เจ้านายมักจะโกรธอย่างอธิบายไม่ได้

ครู่หนึ่ง โม่ถิงเซียวก็คิดถึงอะไรบางอย่าง จึงถามซือเย่ : “ฉันจำได้ว่าในเอกสารของมู่นวลนวลเขียนว่าเธอเรียนจบสาขาภาพยนตร์?”

ซือเย่ : “ใช่ครับ นายหญิงเรียนสาขาบทประพันธ์การแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ครับ”

รอยยิ้มเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วบนใบหน้าของโม่ถิงเซียว เหมือนนำสัตว์ร้ายมาสู้เหยื่อตัวน้อย เขาพูดอย่างเบาๆว่า : “ก็หมายความว่างานของเธอคือการเขียนบท”

ซือเย่ตะลึงไปพักหนึ่ง แล้วพยักหน้าทันที

คนอื่นอาจจะคิดว่าโม่ถิงเซียวคือคนไร้ย้ำยาที่ไม่มีมนุษยธรรม แต่ไม่มีใครรู้ หลายปีที่ผ่านมาโม่ถิงเซียวเป็นเจ้าของ Shengding Entertainment Group ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

แต่เวลา 8ปีสั้นๆ Shengding Group กลายเป็นผู้นำภาพยนตร์และโทรทัศน์

Shengding Group เป็นบริษัทที่พนักงานภาพยนตร์และโทรทัศน์อยากเข้าร่วม ถ้ามู่นวลนวลอยากกลายเป็นผู้เขียนบทที่มีชื่อเสียง ก็ต้องส่งประวัติส่วนตัวให้ Shangding Group

ซือเย่รับรู้ถึงฃคำพูดลึกซึ้งของมู่ถิงเซียว พยักหน้า : “ผมจะไปทำเรื่องให้เดี๋ยวนี้ครับ”

……

มู่นวลนวลเกือบจะส่งประวัติส่วนตัวให้กับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่เมือง Huyang แล้ว

แต่ว่า เธอจงใจมองข้าม Shangding Group

สำหรับเหตุผล?

เพราะว่า Shangding Group และเซินเหลียงเป็นศัตรูเซ็นสัญญากับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์

อีกทั้ง เธออาจจะไม่ได้ถูกเลือกรับเข้าทำงานแน่นอน

ก่อนหน้าที่รอรับข้อความสัมภาษณ์ เธอต้องจัดการกับข่าวที่มู่หวันฉีลงก่อน

เธอเตรียมการอยู่พักหนึ่ง แล้วถึงโทรหามู่หวันฉี

“มีเรื่องอะไร พูดมา” มู่หวันฉียังทำน้ำเสียงอย่างภาคภูมิใจ

มู่นวลนวลบีบจมูก ใช้น้ำเสียงให้เหมือนคนร้องไห้ : “พี่สาว ฉันขอโทษ พี่อย่าโกรธฉันเลย พวกเราออกมาเจอกันหน่อยดีไหม? พี่อย่าทำร้ายแม่ฉัน”

“เธอให้ฉันออกไป แล้วฉันก็ออกไป เธอคิดว่าเธอคือใคร”

มู่นวลนวลเข้าใจมู่หวันฉี เธอเสียงต่ำอ้ำๆอึ้งๆ : “ขอร้องล่ะ”

“พูดเสียงดังหน่อย ไม่ได้ยิน”

“ฉันขอร้องพี่ล่ะ”

“ก็ได้”

มู่นวลนวลวางโทรศัพท์ลง สายตาเย็นชา

มู่หวันฉี ตอนนี้เธอคงอิ่มอกอิ่มใจสินะ?

แต่อีกไม่นาน เธอคงอิ่มใจต่อไม่ได้

ก่อนหน้านี้นอกจากเซินเหลียงจะให้ช่องทางการติดต่อฝ่ายขายแล้ว ยังให้ช่องทางการติดต่อปาปารัสซีอีกด้วย

ข่าวที่เธอ “แย่ง” คู่หมั้นของมู่หวันฉีตอนนี้ยังร้อนแรงมาก ตอนนี้ยังมีคนที่เต็มใจจะถ่ายภาพที่ดี

เธอใช้ความรู้สึกเลือกติดต่อปาปารัสซีมาหนึ่งคน ส่งที่อยู่และเวลาให้ ก็ออกไปตามนัด

มู่นวลนวลก้าวเท้าออกไป ซือเย่ก็ไปบอกมู่ถิงเซียวที่ห้องหนังสือ : “นายหญิงออกไปแล้วครับ”

โม่ถิงเซียวเงยหน้ามาบอกเขา ในสายตาเย็นชาแสดงให้เห็นถึงความหมายก็คือ : “เกี่ยวอะไรกับฉัน?”

ถึงแม้จะชินกับสายตาความเย็นชาของโม่ถิงเซียวแล้ว แต่ซือเย่ยังคงมีความกลืนน้ำลายเล็กน้อย

“ผมเดาว่านายหญิงออกไปอาจจะเกี่ยวกับมู่หวันฉี” เขามีความแปลกใจนายหญิงจะรับมือกับมู่หวั่นฉียังไง เขาเชื่อว่าความรู้สึกของเจ้านายเหมือนเขา

ใครจะรู้ โม่ถิงเซียวตอบอย่างเย็นชา : “อ่อ”

ซือเย่คิดอย่างสับสน หรือว่าเดาผิด?

ในเวลาต่อมา โม่ถิงเซียวลุกขึ้นยืน หยิบเสื้อแจ็กเกตแล้วออกไป : “ไม่ได้เจอพี่ชายนานแล้ว ฉันออกไปกินข้าวกับเขาดีกว่า”

ซือเย่ : “…….”

ถ้าเขาจำไม่ผิด พี่ใหญ่อยู่ต่างประเทศยังไม่กลับมา

เจ้านายน่าจะหาข้ออ้าง……

ถึงแม้โม่ถิงเซียวจะอ้างยังไง ซือเย่ก็ไม่กล้าเปิดโปงเขา

……

โม่ถิงเซียวขับรถออกไปทางเดียวกับร้านที่มู่นวลนวลไป

เขานั่งอยู่ในรถ มองดูมู่นวลนวลเข้าไปหลักจาก 20นาที มู่หวันฉีถึงเดินตามมา

ต่อมา ชายอีกคนในชุดธรรมดามีพฤติกรรมน่าสงสัยก็เข้าไปในร้านอาหาร

ในฐานะบอสใหญ่ชองบริษัทเบื้องหลังแห่งความบันเทิง เขาสรุปได้เลยว่า ชายที่ตามเข้าไปคือปาปารัสซี

ไม่เสียดายที่เขานั่งรออยู่ในรถเป็นเวลานาน ดูแล้วน่าจะมีเกมสนุกๆให้ดู

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท