มู่นวลนวลเดินไปเดินมา รอให้เขารับสายโทรศัพท์เสร็จ
ผ่านไปสองนาทีแล้ว “โม่เจียเฉิน”วางสายโทรศัพท์หันหน้ากลับมามองเธอ ด้วยสายตาเย็นยาและใบหน้าไร้ความรู้สึก
มู่นวลนวลถูกเขามองจนทำให้ท่วมตัวก็ขนลุกขนพองขึ้นมา เธอนำบัตรเครดิตและเงินสดให้เขา “พูดแล้วว่าฉันจะเลี้ยงนาย ก็ต้องให้ฉันเป็นคนเช็คบิล”
“โม่เจียถิง”รับบัตรเครดิตมาเก็บเอาไว้ แต่ไม่ได้หยิบเงินสด
มู่นวลนวลยังนำเงินสดยัดให้เขา “นี่ ให้เงินนาย!”
สายตาของ“โม่เจียเฉิน”หยุดอยู่ที่นิ้วมือเล็กขาวสะอาดของเธอ หลังจากนั้นยื่นมือออกไป มู่นวลนวลนึกว่าเขาต้องรับเงิน คิดไม่ถึงว่าเขาจับมือของเธอเอาไว้
โม่นวลนวลสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ยังไม่ได้พูด “โม่เจียเฉิน”ใช้มือออกแรง ต่อมาก็นำเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอก เขามองลงมา แววตาด้านในราวกับมีคลื่นม้วนตัวกลับ เสียงที่ต่ำเหมือนเหล้าที่เก็บมานานหลายปี หอมกรุ่นจนทำให้คนเมา
แต่ว่าคำพูดที่พูดออกมาคือไร้ยางอาย “เธออยากจะคืนเงินให้ฉันจริงๆ งั้นก็จูบฉันสิ เธอจูบฉันแล้ว ฉันจะรับเงินไว้”
“????”เป็นโรคประสาท!
ที่นี่คือถนนที่มีคนเดินไปเดินพลุกพล่าน มู่นวลนวลตื่นเต้นคล้ายกับว่าหัวใจเต้นจากในอกออกมาด้านนอก ก้นบึ้งหัวใจตึงเครียด ใช้หัวเข่าออกแรงยันเข้าที่เป้ากางเกงของเขา…
“โอ๊ย…”
โม่ถิงเซียวเพิ่งจะใส่ใจมองสีหน้าและท่าทีของมู่นวลนวล เลยไม่ได้นึกถึงว่าเธอจะสามารถจะทำอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นฝีมือของเขา ไม่สามารถที่จะทำร้ายเขาได้
เพียงแต่ มู่นวลนวลมีความโหดเหี้ยมมาก เธอยันตรงจุดตำแหน่งที่สำคัญของเขา คือเจ็บ— —จริงๆ
นี่ก็ทำให้โม่ถิงเซียวตระหนักถึง เขาไม่มีระดับความระวังตัวเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่นวลนวล
“นาย…นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”มู่นวลนวลได้ยินเขาร้องเสียงเย็นออกมาหนึ่งเสียง ถึงแม้ว่าสีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่กรามที่ตึงก็สามารถรับรู้ได้ว่าเขาเหมือนจะเจ็บมากๆ
ถึงแม้ว่าเธอเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอะไรจริงๆ แต่ว่าเธอไม่ได้ทุกข์ใจแม้แต่น้อย สำหรับผู้ชายที่หน้าไม่อายเอาเปรียบผู้หญิงแบบนี้ ในเวลาที่ตีก็ต้องตี!
“โม่เจียเฉิน”ไม่ได้ปล่อยมือของเธอ เพียงแค่พูดประโยคที่มืดทึมน่ากลัว “ฉันไม่เป็นไร เพียงแต่เธอมีปัญหาแน่”
ถ้าหากว่าเธอเตะเขาพังเสียหาย ความสุขที่เหลือของเธอก็หมดกัน
มู่นวลนวลจนปัญญาที่จะเข้าใจความหมายลึกซึ้งในประโยคของเขา เพียงแค่นึกว่าตัวเองแหย่เขาจนโกรธ เขาจะจัดการเธอ
ไม่รู้ว่าตอนนี้ถ้าจะวิ่งหนียังทันไหม?
ในเวลาที่อยากจะก้าวเท้ายาวๆออกมา เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่ามือของตัวเองยังถูก“โม่เจียเฉิน”จับเอาไว้
ตัวเองรู้ตัวว่าต้องประสบความหายนะแล้ว จิตใต้สำนึกของเธอสั่งให้เงยหน้าขึ้นไปมอง“โม่เจียเฉิน” และเขาก็ก้มหน้าลงมาจูบเธอ
มู่นวลนวลในใจโมโหมาก ยังคิดจะใช้ทักษะการต่อสู้เมื่อกี้กับเขา แต่“โม่เจียเฉิน”ก็มีการเตรียมป้องกันไว้แล้ว ดังนั้นมู่นวลนวลไม่มีทางทำสำเร็จ และเขายังรุนแรงมาก จูบทั้งหนักทั้งดุร้าย แม้แต่โอกาสที่จะหอบหายใจก็ไม่ให้มู่นวลนวล
เขาดุร้ายขึ้นมา มู่นวลนวลไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ไม่รู้จะระบายอากาศยังไง ก็ยื่นมือออกไปผลักเขา
เวลานี้เธอก็อ่อนลง ไม่มีเรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง
โม่ถิงเซียวหายใจเข้าหนักๆ คล้ายกับว่ากำลังลงโทษด้วยการกัดริมฝีปากของเธอ หลังจากนั้นก็ปล่อยเธอ ถอยหลังไปหนึ่งก้าวจ้องมองเธอด้วยดวงตาลึกลับ
มู่นวลนวลถูกเขาผลักออกอย่างฉับพลันโดยไม่ได้เตรียมตัว โซเซไปเล็กน้อยจึงจะยืนได้มั่นคง
มุมปากเจ็บเล็กน้อย เธอยื่นมือขึ้นมาลูบ พบว่าบนมือมีคลาบเลือดนิดหน่อย พึ่งจะรู้ว่าเมื่อกี้“โม่เจียเฉิน”กัดริมฝีปากของเธอ
ความจริงมู่นวลนวลก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องจัดการกับ“โม่เจียเฉิน”ยังไง ด่าก็ไม่มีประโยชน์ เขาก็ยิ่งจะไร้ยางอายหน้าด้าน จะต่อยก็ต่อยไม่ชนะเขา
เธอถลึงตาใส่เขา หมุนตัวกลับแล้วเดินออกไป
“นวลนวล!”
เธอเพิ่งจะเดินไป ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตัวเอง
นี่เป็นเสียงที่คุ้นเคย ทำให้ความรู้สึกของมู่นวลนวลแย่ลงไปอีก
มู่หวันฉีออกมาจากร้านอาหาร ก็มองเห็นมู่นวลนวลกับ“โม่เจียเฉิน”ทั้งสองคนจูบกันอยู่ข้างถนน เพียงแต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้อีก
ถึงอย่างไรครั้งก่อนที่เธอถ่ายรูปก็เป็นประเด็นให้คนจับตามอง แต่สุดท้ายก็ถูกตระกูลโม่ควบคุมลงได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจแล้ว
“เมื่อกี้ฉันเห็นจากแผ่นหลังก็รู้สึกว่าเหมือน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอจริงๆ”มู่หวันฉีมองเห็นมู่นวลนวลก็ทำทีต้อนรับสนิทสนม หลังจากนั้นก็ยังจงใจมองไปที่“โม่เจียเฉิน”อย่างแปลกใจ “บังเอิญจัง คุณชายโม่ก็อยู่ที่นี่?”
โม่ถิงเซียวไม่แม้แต่จะมองเธอ นั่งยองๆลง เก็บเงินสดที่ก่อนหน้านี้มู่นวลนวลทำหล่นตอนที่ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา
ถึงแม้ว่าในใจยังโมโห“โม่เจียเฉิน”อยู่ แต่ว่าจะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ผู้ชายคนนี้มีกลิ่นอายฐานะที่สูงส่งติดอยู่บนตัวอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะนั่งยองๆเก็บเงินก็งดงามทำให้เป็นที่ถูกตาสบายใจ
รู้สึกว่าตัวเองถูกโฉมภายนอกของ“โม่เจียเฉิน” หลอกให้ลุ่มหลง มู่นวลนวลกัดริมฝีปากเงียบๆ
มีสติขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ว่านิสัยใจคอจะดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถปิดบังความโรคจิตของเขาได้!
หลังจากที่“โม่เจียเฉิน”หยิบเงินขึ้นมา ก็สะบัดเงินเบาๆแต่ความจริงแล้วไม่มีฝุ่น หลังจากนั้นนำเงินใส่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
มู่นวลนวล “……”
เธอพบว่าเธอยิ่งไม่เข้าใจ“โม่เจียเฉิน”มากยิ่งขึ้น อยากจะเกลียดก็เกลียดไม่ลง นึกถึงเวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างสันติ แต่เขาอยากจะหน้าด้าน…..
มู่หวันฉีที่อยู่ด้านข้างมองเห็นการกระทำของ“โม่เจียเฉิน” ก็ตื่นตกใจ
นี่“โม่เจียเฉิน” คาดไม่ถึงว่านั่งยองๆเก็บเงินหลายร้อยหยวน?
เธอไม่รู้ว่าเงินหลายร้อยหยวนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอเพียงแค่รู้ว่าตัวเองคิดวิธีออกแล้วที่ไม่ต้องคืนบัตรแพลทินัมคืนให้กับมู่นวลนวล ยังสามารถหาทางออกที่จะแก้ไขวิกฤตของบริษัท
เธอสามารถยั่วยวน“โม่เจียเฉิน” ในเมื่อ“โม่เจียเฉินอยู่ที่บ้านของโม่ถิงเซียว น่าจะเป็นญาติที่สนิทและสามารถพูดกันได้
อย่างนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว
นึกถึงว่าตัวเองจะได้“โม่เจียเฉิน” รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่หวันฉีก็เปลี่ยนเป็นลำพองใจยิ่งขึ้น
เธอจงใจดึงเสื้อผ้าของตัวเอง ให้ต่ำลงหน้าอกที่ชุดเดรสปกปิดอยู่ก็โผล่ออกมา ส่งสายตาว่านเสน่ห์ไปที่“โม่เจียเฉิน”
เพียงแต่ ยังไม่ได้รอให้เธอเปิดปากพูด “โม่เจียเฉิน”หันไปพูดหนึ่งประโยคกับมู่นวลนวลคล้ายกับยั่วยุ “เลิกงานแล้วจะมารับเธอ”
หลังจากนั้นก็จากไป
มู่นวลนวลมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาก็จงใจพูดให้เธอโมโห!
ลมหนาวพัดมาฉับพลัน มู่หวันฉีถูกลมหนาวจนต้องขดตัว ต่อมารีบนำเสื้อนอกรวบเข้าด้วยกัน หันกลับมามองมู่นวลนวลคล้ายกับว่าหัวเราะเยาะเธอ
สีหน้าของมู่หวันฉีชั่วพริบตาเดียวก็มืดครึ้ม “เหอะ! ตอนนี้มู่กรุ๊ปตกอยู่ในวิกฤต เธอไม่ช่วยหาวิธีไปขอร้องโม่ถิงเซียวให้ช่วยพวกเรา ยังมายั่วยวนผู้ชายอยู่ที่นี่ เธอช่างกล้าหาญมากจริงๆ!”
“ฉันอยู่ในมู่กรุ๊ปแค่ทำงานเบ็ดเตล็ดเท่านั้นเอง ไม่ได้เก่งเหมือนพี่ ช่วยมู่กร๊ปไม่ได้ฉันก็ละอายใจมากแล้ว”สีหน้าของมู่นวลนวลยังมีรอยยิ้ม ไม่เหมือนกับคนที่ละอายใจสักนิด
เธอค่อยๆเดินไปถึงตรงหน้ามู่หวันฉี ยังพูดต่อไป “ฉันทำบัตรแพลทินัมหายแล้ว จะกล้าไปขอร้องโม่ถิงเซียวได้ยังไงกันล่ะ นิสัยเขาแปลกประหลาดอารมณ์ก็ฉุนเฉียวง่าย ไม่แน่ว่าเรื่องนี้ อาจจะทำให้โมโหอย่างรุนแรงมุ่งเป้าไปที่มู่กรุ๊ปก็จะแย่กันไปใหญ่นะคะ”
“ของที่ไม่มีประโยชน์! มู่หวันฉียิ้มเยาะ ทันใดนั้นก็สนใจริมฝีปากที่บวงแดงและมีแผลของมู่นวลนวล