ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 105 เล่นเป็นเพื่อนเขาหน่อย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ตอนนี้มู่นวลนวลเกินกว่าที่จะรู้สึกประหลาดใจ ต้องใช้คำว่าตกตะลึงถึงจะถูก

เธอเดินไปตรงหน้าเด็กหนุ่ม เเละพูดถามเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: ” นายเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลโม่? ”

” เป็นญาติกันน่ะสิ ” สีหน้าของเด็กหนุ่มเหมือนไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ หลังจากนั้นเขาก็พูดเสริมขึ้นมาอย่างระวังตัว: ” เเต่ผมไม่ได้สนิทกับตระกูลโม่ ผมไม่มีเงินหรอกนะ! ”

เจ้าเด็กผีคนนี้เข้ามาพักในบ้านของเธอโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต มาตอนนี้กลับทำมาเป็นระมัดระวังตัว กลัวว่าเธอจะจับตัวไปเรียกค่าไถจากตระกูลโม่หรือไงกัน?

” นายชื่อโม่เจียเฉินจริงๆหรอ? ” มู่นวลนวลหลอกถามเขาด้วยท่าทางนิ่งๆ: ” ตระกูลโม่ของนายมีคนที่ชื่อโม่เจียเฉินกี่คนหรอ? ”

” คุณจะทำอะไร? ” ความระวังตัวของเด็กหนุ่มมีมากขึ้น เเต่เพราะเขาอายุยังน้อย ท่าทางอ่อนวัยนั้นจึงดูเหมือนไม่ค่อยน่ากลัวสักเท่าไหร่

ถึงเเม้จะไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เข้ามาในห้องของเธอได้ยังไง ถึงได้มาพักอาศัยได้อย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ เเต่เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ใช่เด็กที่จะหลอกอะไรได้ง่ายๆ

ตอนเขาพูด ก็มักจะติดสำเนียงเฉพาะที่ชาวต่างชาติใช้พูดภาษาจีน เเถมยังพูดได้ไม่ลื่นไหลอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้น่าจะอยู่ต่างประเทศมานานเเล้ว

เค้าลางเเต่ละอย่างบ่งบอกว่าเขาอาจจะหนีออกจากบ้าน!

มู่นวลนวลยกยิ้มนิดหน่อย: ” เจ้าเด็กดื้อ นายหนีออกจากบ้านมาล่ะสิ? คงไม่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตในสถานที่แบบนี้ใช่ไหม? ฉันไปที่ตระกูลโม่ เเละให้คนมารับนายเอาไหม? เป็นไง? ”

เด็กหนุ่มตาโต เเละเขาก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที: ” ไม่ได้นะ! กว่าผมจะออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ! ”

เธอเดาถูกจริงๆด้วย

” นายรู้หรือเปล่าว่าในกฎหมายอาญาน่ะมีกฎหมายข้อนึงที่เรียกว่า ความผิดของการบุกรุกที่อยู่อาศัยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยนะ ” มู่นวลนวลไม่สามารถจัดการกับโม่เจียเฉินคนโต เเต่สำหรับโม่เจียเฉินคนเล็ก เธอจัดการได้อย่างสบายเลย

เสี่ยวโม่เจียเฉินได้ยินดังนั้น เขาก็หน้าเปลี่ยนสีทันที สายตาของเขามีความลุกลี้ลุกลน เเละได้พูดขึ้นมาเสียงดัง: ” ตระกูลโม่ของเรามีเเค่ผมคนเดียวที่ชื่อโม่เจียเฉิน! ”

ส่วนมากเขาจะใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศสะส่วนใหญ่ กลับมาเที่ยวที่ประเทศจีนไม่กี่ครั้ง เเต่เขาไม่คุ้นชินกับคนที่นี่ จึงรู้สึกกลัวคำขู่ของมู่นวลนวลอยู่บ้างนิดหน่อย

มู่นวลนวลได้ฟังที่เขาพูด สีหน้าของเธอก็เคร่งขรึมขึ้นทันที ตอนนี้เธอค่อนข้างรู้สึกสับสนมึนงง

ถ้าตระกูลโม่มีคนที่ชื่อโม่เจียเฉินคนเดียว เเล้วโม่เจียเฉินคนโตที่อยู่ที่บ้านเป็นใครล่ะ?

เธอจ้องเสี่ยวโม่เจียเฉินตรงหน้าสักครู่ เสี่ยวโม่เจียเฉินถูกเธอจ้องจนขนลุกไปทั้งตัว: ” คุณมีอะไรหรือเปล่า? ”

มู่นวลนวลกำลังจะพูด อยู่ๆเสียงท้องร้องก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของมู่นวลนวลเสียก่อน

เสี่ยวโม่เจียเฉินมองเธออย่างเก้อเขิน หลังจากนั้นเขาก็เเสร้งทำเป็นโหดเหี้ยม เเละพูดขึ้นมาเสียงดัง: ” มองอะไร ไม่เคยได้ยินเสียงท้องร้องหรอ! ”

คนที่ชื่อโม่เจียเฉิน นิสัยต้องเเย่เหมือนกันทุกคนเลยไหม

……

ในร้านอาหาร มู่นวลนวลมองเสี่ยวโม่เจียเฉินกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อติดกันมาสามถ้วยเเล้ว

สถานที่ที่เธอเช่าบ้านอยู่เป็นสลัมในเซี่ยงไฮ้ บริเวณรอบๆจึงไม่ค่อยมีร้านอาหารดีๆสักเท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็นร้านอาหารธรรมดาที่ราคาถูก

เดิมที เสี่ยวโม่เจียเฉินยังมีท่าทีรังเกียจอยู่ เเต่อาจเป็นเพราะหิวเกินไป เขาจึงเดินตามเธอเข้ามา

เเต่หลังจากที่ได้ชิมเเล้วหนึ่งคำ เขาก็ตาเป็นประกายทันที

ตามที่สุภาษิตได้กล่าวไว้ ” รับของจากคนอื่น ก็ต้องช่วยเหลือคนอื่น ” หลังจากที่เสี่ยวโม่เจียเฉินกินก๋วยเตี๋ยวไปแล้วสามถ้วย พอมู่นวลนวลถามอะไร เขาก็แทบจะตอบมันออกมาทั้งหมด

” ก่อนหน้านี้ผมอยู่ที่ออสเตรเลีย ผมอยากไปเล่นอีสปอร์ตมืออาชีพ เเต่เเม่ของผมไม่ให้ผมไป เเละยังไม่ให้เงินผมใช้อีก ผมจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพื่อทำให้เธอตกใจ…… คุณห้ามบอกคนของตระกูลโม่ว่าผมอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะมาพาตัวผมกลับไป…… ”

” เล่นเกมส์? อายุอย่างนายควรที่จะตั้งใจเรียนไม่ใช่หรอ? ”

เสี่ยวโม่เจียเฉินแก้ที่เธอพูดให้ถูกต้อง: ” เล่นเกมส์อะไรกัน นั่นเป็นหนึ่งอาชีพเลยนะ? อีสปอร์ต! นี่เป็นความฝันของผม! ”

มู่นวลนวลพูดให้เขาเสียกำลังใจ: ” เเต่นายเพิ่งจะอายุสิบสี่ปีเองนะ ”

ถึงเเม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจคนที่อยู่ในสายงานอีสปอร์ตสักเท่าไหร่ เเต่เธอรู้ว่าถ้าเสี่ยวโม่เจียเฉินต้องการที่จะทำงานด้านสายงานนี้จริงๆ อย่างน้อยเขาจะต้องมีอายุทำงานตามที่กฎหมายกำหนดไว้

เสี่ยวโม่เจียเฉินส่งเสียงฮึออกมา เขากอดอก เเละเชิดหน้าขึ้น ดูยโสโอหังเป็นอย่างมาก

มู่นวลนวลอยากหัวเราะ เธอรู้สึกว่าเด็กคนนี้ตลกมาก

มู่นวลนวลเคาะนิ้วไปบนโต๊ะอาหารสองครั้ง หลังจากนั้นเธอก็พูดถามไปเรื่อยเปื่อย: ” โม่ถิงเซียวเป็นอะไรกับนายหรอ? ”

” ลูกพี่ลูกน้องของผมเอง เขามีชื่อเสียงมากไม่ใช่หรอ? ” พอเขาพูดจบ ก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก เเละได้พูดขึ้นด้วยท่าทางหวังดี: ” ถึงเเม้ว่าเขาจะทั้งรวย ทั้งหน้าตาดี เเต่เขาเเต่งงานเเล้วนะ คุณห้ามคิดอะไรกับเขาเด็ดขาด ”

มู่นวลนวลจับคำสำคัญในน้ำเสียงของเขาได้: หน้าตาดี

โม่ถิงเซียวที่เขาลือกันต้องเสียโฉม เเละไร้มนุษยธรรมสิ ทำไมถึงหน้าตาดีได้ล่ะ?

พอเห็นมู่นวลนวลมีสีหน้าสงสัย สีหน้าของเสี่ยวโม่เจียเฉินก็เปลี่ยนไปทันที: ” ที่ผมพูดเมื่อสักครู่ คุณลืมไปให้หมดเลยนะ! ”

คนในบ้านเคยบอกเขาว่าไม่ให้เขาพูดเรื่องพี่ชายต่อหน้าคนอื่นๆ

เเต่เมื่อสักครู่เขาไม่ได้ระวัง จึงเผลอพูดมันออกมา! เเต่ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะหลอกง่าย คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง?

มู่นวลนวลกลับไม่มีกะจิตกะใจไปสังเกตท่าทีของเสี่ยวโม่เจียเฉินสักเท่าไหร่

เรื่องที่ทำให้เธอสงสัยหลังจากที่เเต่งเข้าไปในตระกูลโม่ ทั้งหมดมันสามารถอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลเเล้ว

โม่เจียเฉินไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันกับโม่ถิงเซียว

โม่เจียเฉินพักอยู่ที่ห้องนอนใหญ่

ซือเย่มักจะอยู่กับโม่เจียเฉินบ่อยๆ

ครั้งที่อยู่ในร้านอาหาร ซือเย่เห็นเธออยู่ในอ้อมกอดของโม่เจียเฉิน เขาทำเพียงเเค่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ขอตัวออกไป

บัตรแพลทินัม รถที่ราคาเเพงคันนั้น……

โม่เจียเฉินแกล้งเธอครั้งเเล้วครั้งเล่า

สามารถเข้าออกคฤหาสน์ของโม่ถิงเซียวได้อย่างอิสระ ไม่ใช่โม่เจียเฉินที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียว เเสดงว่าเขาก็อาจจะเป็นโม่ถิงเซียวตัวจริง!

ความคิดนี้ทำให้เธอตกตะลึงจนดึงสติกลับมาไม่ได้

เธอนั่งไม่ติดอีกต่อไปเเล้ว เธอจึงลุกขึ้น เเละวิ่งออกไปด้านนอก

เสี่ยวโม่เจียเฉินเห็นเธอวิ่งออกไป เขาจึงรีบลุกขึ้น เเละตามเธอไปทันที: ” คุณจะไปไหน คุณ…… ”

เขายังพูดไม่ทันจบ ร่างของมู่นวลนวลก็หายไปสะก่อน

เขาลูบท้องตัวเองอย่างพึงพอใจ หลังจากนั้นก็ม้วนผมหยักโศกของตัวเองนิดหน่อย เเละพูดกับตัวเองเสียงเบา: ” อย่างน้อยก็ให้ผมยืมเงินก่อน เเล้วค่อยไปก็ได้หนิ…… ”

……

มู่นวลนวลเรียกรถกลับไปที่คฤหาสน์ทันที

เธอเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางน่ากลัว เเละได้จับบอดี้การ์ดคนหนึ่งมาถาม: ” โม่เจียเฉินอยู่ไหม? ”

บอดี้การ์ดติดอ่างไปเล็กน้อย: ” ……ไม่อยู่ครับ ”

มู่นวลนวลไปที่ห้องหนังสือกับห้องนอน เเละไม่เจอเงาของโม่เจียเฉินจริงๆด้วย

โม่ถิงเซียว ” ทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ ทั้งไร้มนุษยธรรม ” นี่คือสิ่งที่ทุกคนในเซี่ยงไฮ้รู้ดี ทั้งคนล้วนคิดเเบบนี้กันทั้งนั้น เเม้เเต่มู่หวันฉีก็ยังผลักดันให้มู่นวลนวลแต่งงานกับตระกูลโม่ เพื่อที่ตัวเองจะได้หนีสัญญาการแต่งงาน

มู่นวลนวลก็เชื่อว่าโม่ถิงเซียวคือผู้ชายที่ ” ทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ ทั้งไร้มนุษยธรรม ” เเละเธอก็ไม่เคยสงสัยในความจริงเท็จของข่าวลือเลย

ขนาดตอนที่เจอกับโม่เจียเฉินครั้งเเรก เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาอาจจะเป็นโม่ถิงเซียวตัวจริง!

เธอคิดไปก่อนเเล้วว่าโม่ถิงเซียวอาจไม่ใช่คนที่มีสุขภาพเเข็งเเรง ถึงเเม้ว่าสองสามเดือนนี้เธอจะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างนิดหน่อย เเต่ก็ไม่เคยคิดไปในทางนี้เลย

จนกระทั่งเธอได้พบกับเสี่ยวโม่เจียเฉิน ถึงเเม้ว่าเด็กคนนั้นจะดูเเปลกไปหน่อย เเต่ก็ไม่เหมือนกับคนพูดโกหก

แทนที่จะรีบหาตัวโม่เจียเฉินมาคาดคั้น เธอกลับพยายามค่อยๆใจเย็นลง

เธอต้องเเน่ใจก่อนว่าโม่เจียเฉินคือโม่ถิงเซียวหรือเปล่า ถ้าใช่……

งั้นก็เล่นเป็นเพื่อนเขาหน่อยล่ะกัน

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท