มู่นวลนวลกับโม่เจียเฉินอยู่ซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของกองโต
ในจำนวนนั้นเป็นขนมขบเคี้ยวที่โม่เจียเฉินเลือก
ถ้าจะให้เขาพูด ก็คือจะใกล้จะปิดภาคเรียนฤดูหนาวแล้ว ปิดภาคเรียนฤดูหนาวก็ต้องเสพสุขสักหน่อย
ในเวลาที่จ่ายเงิน มู่นวลนวลเพิ่งจะหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา ก็ถูกโม่เจียเฉินใช้มือกดให้กลับลงไป “มาเดินช็อปปิ้งกับผู้ชาย ใครจะกล้าให้เหตุผลให้ผู้หญิงจ่ายเงิน ผมจ่ายเอง!”
มู่นวลนวล“…”
ก่อนหน้านี้เขาอยู่ห้องเช่าของเธอ ในเวลาที่กินหรือดื่มก็เธอเป็นคนจัดการ เขาลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองเป็น ผู้ชาย?”
เงินของโม่เจียเฉินได้มาจากการช่วยคนอื่นทำการบ้านและเล่นเกม ก็ลำบากมาก มู่นวลนวลทำใจไม่ได้ที่จะใช้เงินของเขา แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจโม่เจียเฉินได้
คุณชายวัยแรกรุ่นผอมจนคล้ายจะเหมือนกับลิง แต่ว่ามีพละกำลังเยอะมาก ที่ดันทุรังขวางมู่นวลนวล เขาเป็นคนจ่ายเงินเอง
มู่นวลนวลก็เลยต้องจำใจยกเลิก ถึงอย่างไรก็แค่ไม่กี่ร้อยหยวน หลังจากนั้นค่อยซื้อของให้โม่เจียเฉินก็ได้
……
ตอนค่ำ
มู่นวลนวลเพิ่งจะยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร ก็เห็นโม่ถิงเซียวเดินเข้ามาที่ห้องอาหารสีหน้าไม่ค่อยมีความสุข
มู่นวลนวลถามเขา “เป็นอะไรไป?”
“คุณลุงพูดว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นต้องไปร้านอาหารจินติ่งจัดงานเลี้ยงอะไรตอนเย็นสักอย่าง ให้เขาพาคุณไปร่วมงาน”ไม่รู้ว่าโม่เจียเฉินวิ่งมาจากที่ไหน ก็อธิบายคำถามที่มู่นวลนวลสงสัย
มู่นวลนวลมองโม่เจียเฉินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก็ถามโม่ถิงเซียว “งานเลี้ยงอะไรสักอย่างตอนเย็น?”
โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร นั่งลงด้านหน้าโต๊ะอาหาร
“คุณไม่อยากไป?”สีหน้าของโม่ถิงเซียวก็แสดงออกมากพอให้รู้ว่าเขาไม่มีความต้องการที่จะไปอยาก
โม่เจียเฉินเข้าไปพูดเสียงเบาข้างใบหูเธอ “พี่ชายไม่อยากเจอคุณลุง”
โม่ถิงเซียวกับโม่ชิงเฟิงพ่อเขาไม่ถูกกัน มู่นวลนวลคิดนิดหน่อยก็รู้ถึงเหตุผล
สาเหตุก็เพราะว่าเกี่ยวข้องกับแม่ของโม่ถิงเซียว
ส่วนเหตุการณ์ละเอียดด้านใน มู่นวลนวลก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ
กลับมาถึงในห้อง โม่ถิงเซียวยังมีสีหน้าที่เย็นชา
มู่นวลนวลเดินเข้าไป ช่วยเขาถอดเนคไท“ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปสิ เขาไม่สามารถฝืนใจคุณ”
โม่ถิงเซียวโค้งตัวลงเล็กน้อย ช่วยให้ความสูงพอดีกับมู่นวลนวล ให้เธอช่วยถอดเนคไทตัวเอง
เพียงแต่ ขณะที่เขาโค้งตัว แขนทั้งสองข้างก็โอบกอดเอวของเธอไว้อย่างหวงแหน
มู่นวลนวลถลึงตาใส่เขาหมดคำที่จะพูด “ปล่อยมือ!”
โม่ถิงเซียวไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ ยังใช้นิ้วมือลูบขึ้นมาบนแผ่นหลังของเธอ“ช่วยฉันถอดเนคไทแล้ว แต่ไม่ช่วยฉันถอดเสื้อ?”
มู่นวลนวลผลักเขา “คิดได้ไม่เลว!”
“งั้นฉันจะช่วยเธอถอด”โม่ถิงเซียวพูดพลาง นิ้วมือยาวลูบจากหลังคอของเธอถึงมาด้านหน้า
ในห้องเต็มไปด้วยความอุ่น มู่นวลนวลเข้ามาในห้องก็ถอดจนเหลือแค่เสื้อเชิ้ต นิ้วมือของโม่ถิงเซียวเลื่อนมาที่ปกเสื้อเชิ้ตของเธอ การกระทำที่ง่ายและราบรื่นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตามลำดับ
มู่นวลนวลรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เมื่อเข้ามาถึงห้องนอน ระดับความหน้าด้านไม่มีใครเทียบได้
……
ตอนเย็นของวันเสาร์
มู่นวลนวลนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถงใหญ่ มีช่างแต่งหน้ายืนเรียงกันอยู่ด้านหน้า ช่างทำผม ช่างจัดเตรียมเสื้อผ้า
ถัดไปข้างหน้านิดหน่อย ก็เป็นชุดราตรีเรียงแถว
“ใครส่งพวกคุณมา?”
“คือคุณชายโม่”
ถึงแม้ว่าในใจเธอก็รู้ว่านอกจากโม่ถิงเซียว ก็ไม่สามารถมีใครส่งของพวกนี้มา แต่ก็ยังใจร้อนไม่เป็นสุข
เมื่อคืนเธอก็ถามโม่ถิงเซียวว่าจะไปงานเลี้ยงตอนเย็นไหม เขาก็ไม่ตอบ เธอนึกว่าเขาไม่อยากไป ก็ไม่ได้เอาเรื่องงานเลี้ยงตอนเย็นมาใส่ใจ ตอนนี้เขาส่งคนส่งของพวกนี้เข้ามา เห็นได้ชัดเจนว่าเพื่อเตรียมพร้อมงานเลี้ยงตอนเย็น
แต่มู่นวลนวลไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย
“คุณหญิง เวลามีไม่เยอะแล้ว ท่านดูว่าพวกเราพร้อมจะเริ่มลองชุดราตรีได้เลยไหม?” ช่างทำผมพูดถามขึ้นมา
“ไม่รีบ รอสักครู่”
มู่นวลนวลพูดจบ ก็หยิบโทรศัพท์จะโทรศัพท์หาโม่ถิงเซียว
ในเวลาที่เธอกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โม่ถิงเซียวก็โทรศัพท์เข้ามา
มู่นวลนวลรับสายโทรศัพท์ แต่ไม่ได้พูด
ในสายโทรศัพท์นั้นโม่ถิงเซียวเงียบไม่พูดจาไปชั่วครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดออกมา “ลองชุดราตรีหรือยัง?”
“ยังไม่ได้ลอง”มู่นวลนวลมือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์ มืออีกข้างหนึ่งก็แคะเล็บมือของตัวเองไม่สนใจ น้ำเสียงที่ได้ยินเหมือนกับไม่พอใจ
โม่ถึงเซียวก็ฟังออกว่าเธอไม่เต็มใจ
คล้ายกับว่าเขายิ้มเบาๆ แล้วพูด “ก็คิดว่าครั้งนี้ฉันขอร้อง ไปร่วมงานเลี้ยงตอนเย็น เธอจะเรียกร้องอะไรจากฉันก็ได้”
เล็บมือของมู่นวลนวลหยุดการกระทำลงทันที แล้วถาม“จริงเหรอ?”
“อืม”โม่ถิงเซียวตอบรับ
มู่นวลนวลนั่งตัวตรง กัดริมฝีปาก แล้วพูด“งั้นก็——แยกห้องนอนสิ!”
“ไม่ได้”โม่ถิงเซียวปฏิเสธข้อเรียกร้องของเธอโดยตรง
มู่นวลนวลกลับไปพิงบนโซฟาเหมือนเดิม เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ยินยอมเธอง่ายๆ
“งั้นก็ไม่ปรึกษา งานเลี้ยงตอนเย็นฉันไม่ไป!”ทุกคนก็มีนิสัยของตัวเอง?
ถึงแม้ว่าจะต้องไปจริงๆ ทำไมไม่บอกล่วงหน้าสักคำ ทำแบบนี้นำกลุ่มช่างแต่งหน้าเรียกเข้ามา และก็ไม่ถามความคิดเห็นของฉัน ตัดสินใจแทนเธอ! ใครให้สิทธิ์กับเขา?
เขาให้เธอไป เธอก็ต้องไป?
โม่ถิงเซียวเชื่อมั่นในตัวเองไม่ผิด แต่ก็ใช้อำนาจเผด็จการเกินไป
และมู่นวลนวลกับเสี่ยวชูเหอไม่เหมือนกัน เขาไม่สามารถทำได้เหมือนเสี่ยวชูเหอ ให้มู่ลี่หยานจัดการกับชีวิตของเธอ ไม่เพียงต่ไม่คับแค้นใจ กลับจะยังมีความสุขอยู่ในนั้น
มู่นวลนวลตัดสายโทรศัพท์
เงยหน้ามองช่างแต่งหน้าและช่างทำผมที่ยืนอยู่ด้านหน้า พูดออกไป “พวกคุณกลับไปเถอะ ของพวกนี้ฉันไม่ต้องการ”
……
โม่ถิงเซียวมองดูโทรศัพท์ที่อยู่ในมือถูกตัดสายทิ้งไป ในแววตากระพริบงงงวย
มู่นวลนวลตัดสายโทรศัพท์เขา?
ถึงแม้ว่าเขาอยากจะให้มู่นวลนวลมาร่วมงานเลี้ยงตอนเย็น เธอออาจจะไม่เต็มใจ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะใจเด็ดอย่างนี้
ยังเหนือความคาดหมายของเขา
งานเลี้ยงตอนเย็นเริ่มสามทุ่ม ตอนนี้หกโมง ยังมีอีกสองชั่วโมงก็เริ่มแล้ว
เหลือเวลาอีกไม่เยอะ โม่ถิงเซียวหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปด้านนอก
กูจื่อหยานหอบเอกสารที่ซ้อนกันเข้ามา เห็นโม่ถิงเซียวจะไปแล้ว รีบดึงเขาไว้ “นายจะไปไหน? ของพวกนี้ยังทำไม่เสร็จนะ!”
วันเสาร์ใครอยากจะทำโอที ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่างานค่อนข้างเร่งด่วน เขาก็คงจะไม่มา
“ยังเหลือไม่เยอะแล้ว นายจัดการหน่อย”โม่ถิงเซียวตบบ่าของโม่ถิงเซียว พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าหากว่าทำเร็วหน่อย ก่อนเที่ยงคืนก็สามารถกลับบ้าน”
“????”ทำไมน้ำเสียงของโม่ถิงเซียวฟังดูเหมือน จะพูดว่าวันเสาร์ทำโอทีก่อนเที่ยงคืนกลับบ้านยังเร็วไป?
กูจื่อหยานอยากจะร้องไห้ “艹จริงๆแล้วใครเป็นเจ้าของบริษัทกันแน่!”
โม่ถิงเซียวไปถึงประตูทางออกแล้ว หันหน้ากลับมาพูดหนึ่งประโยคอย่างเบาหวิว “ของนาย”
กูจื่อหยานโกรธจนพูดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้นำเอกสารที่อยู่ในมือโยนลงพื้น แต่โยนลงบนโต๊ะทำงาน หลังจากนั้นชี้ไปที่โม่ถิงเซียวและพูด “ข้ามีชีวิตมาหลายปี ก็ไม่เคยพบเจอใครที่หน้าด้านเท่ากับนาย!”
“ชมเกินไปแล้ว”
กูจื่อหยานกระตุกริมมุมปาก หยิบโทรศัพท์เข้าเน็ต กำลังค้นหา“ทำยังไงถึงจะสามารถทำให้ผู้ชายที่มีอำนาจและความสามารถยอดเยี่ยมยอมคุกเข่าเรียกฉันว่าพ่อได้?”