คนขับรถชะโงกหัวออกมาทางหน้าต่างรถเเละตะโกนเรียกหลั๋วหยิ๋งด้วยสำเนียงบ้านเกิด: ” คุณผู้หญิง คุณยังไม่ได้จ่ายเงินนะ! ยังมีเงินค่าปรับด้วย! ”
” รู้เเล้ว! ” หลั๋วหยิ๋งหันหน้ากลับมาอย่างหงุดหงิด เธอดึงธนบัตรสีแดงออกมาจากในกระเป๋าสองสามใบเเละโยนเข้าไปในรถ
คนขับรถพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ: ” คุณผู้หญิง ไหนคุณบอกว่าถ้าผมตามรถคนนั้นได้ คุณจะให้ผมหนึ่งล้านบาทไง! ”
หลั๋วหยิ๋งหัวเราะอย่างเย็นชา: ” ทำไมนายไม่ไปปล้นเอาเลยล่ะ! ”
” คุณไม่รักษาคำพูดใช่ไหม? ” คนขับรถเปิดประตูลงจากรถ เขารูปร่างสูงใหญ่เเละดูน่ากลัวเล็กน้อย
คนที่นี่ไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ หลั๋วหยิ๋งจะอาละวาดขนาดไหน เธอก็ยังกลัวอยู่เล็กน้อย
สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ให้เงินหนึ่งล้านบาทกับคนขับรถ ให้เพียงเงินสดที่มีติดตัวอยู่ทั้งหมดเท่านั้น
ถึงเเม้ว่าจะรู้สึกอัดอั้นตันใจนิดหน่อย เเต่พอเธอคิดว่าใกล้จะได้ล่อลวงคุณชายของตระกูลโม่เเล้ว เธอก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้
……
พอกลับถึงบ้าน ป้าหูก็เดินออกมาจากด้านใน
” คุณหญิงกลับมาเเล้ว ” ป้าหูยิ้มจนตาหยี่นิดหน่อย ดูอ่อนโยนเเละมีเมตตา
มู่นวลนวลชอบป้าหูมาก เธอจึงยิ้มให้ป้าหูเช่นกัน: ” เเต่พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานนอกสถานที่ ฉันขอตัวขึ้นไปจัดของก่อนนะคะ ”
” รีบไปเถอะค่ะ รอคุณชายกลับมาก็เริ่มโต๊ะอาหารได้เลยนะคะ ”
” ค่ะ ”
มู่นวลนวลกลับมาที่ห้องของตัวเอง พอหยิบกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมา เธอถึงนึกได้ว่าตัวเองไม่รู้ว่าครั้งนี้จะไปทำงานนอกสถานที่เป็นเวลานานเท่าไหร่
คงน่าจะหนึ่งอาทิตย์ล่ะมั้ง
พอคิดได้ดังนั้น มู่นวลนวลก็ไปหยิบเสื้อผ้าที่ห้องเก็บเสื้อผ้า
ก็เเค่หนึ่งอาทิตย์เอง เอาเสื้อโค้ทไปหนึ่งตัว เเล้วด้านในค่อยใส่บอดี้สูทก็ได้เเล้ว
เธอกอดเสื้อผ้าไปวางลงบนเตียง ตอนที่กำลังจะก้มลงไปพับเสื้อผ้า ก็ได้ยินเสียงประตูถูกผลักเข้ามาเสียก่อน
มู่นวลนวลหันไปมอง ก็เห็นโม่ถิงเซียวกำลังยืนอยู่ที่ประตู
เธอยิ้มให้เขานิดหน่อย: ” คุณกลับมาเเล้วหรอ ”
โม่ถิงเซียวเดินเข้ามาหาเธอ เขาจับมือเธอมาวางที่คอเสื้อของตัวเอง เพื่อบอกใบ้ให้เธอช่วยเขาปลดเนคไท
โม่ถิงเซียวเหมือนไม่กลัวความหนาว ฤดูหนาวเเบบนี้ เขากลับใส่เเค่เสื้อเชิ้ตกับเสื้อสูท บางครั้งที่อยู่ข้างนอกถึงจะใส่เสื้อโค้ทขนสัตว์เพิ่มสักตัว เเต่ปกติเขาก็ไม่ใส่อยู่เเล้ว
มู่นวลนวลรู้สึกไม่สมดุลเล็กน้อย เขาเเต่งตัวดูดีแบบนี้ได้ เเต่เธอกลับต้องห่อตัวเหมือนลูกบ๊ะจ่าง!
เธอจึงจงใจดึงเนคไทของโม่ถิงเซียวให้เเน่นขึ้น เพื่อบีบคอเขา
ถึงเเม้ว่าใบหน้าของโม่ถิงเซียวจะไม่เเสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้โกรธ
เขาตีมือของมู่นวลนวลที่ดึงเนคไทของเขานิดหน่อย เเละพูดขึ้นอย่างไม่น่ากลัวเลยสักนิด: ” อย่าซน ”
มู่นวลนวลเบะปากเเละปลดเนคไทให้เขาอย่างว่าง่าย
โม่ถิงเซียวพยุงหลังเธอด้วยมือข้างเดียว เขาก้มลงไปจูบที่มุมริมฝีปากของเธอเเละจงใจพูดเสียงทุ้มต่ำชวนให้คนหลงใหล: ” นี่คือรางวัล ”
มู่นวลนวลส่งเสียงฮึออกมา เเสดงให้เห็นว่าเธอไม่สนใจรางวัลของเขาสักเท่าไหร่
โม่ถิงเซียวรู้สึกโมโหนิดหน่อย เขาจูบเธออย่างหนักหน่วงเเละพูดถามเธอ: ” ได้ยินว่าคุณจะไปทำงานนอกสถานที่หรอ? ”
ข่าวของผู้ชายคนนี้เร็วจริงๆ เธอเเค่พูดกับป้าหูเอง เขากลับมาแป๊ปเดียวก็รู้เรื่องเเล้ว
มู่นวลนวลพยักหน้า เธอเเกะกระดุมบนเสื้อสูทของเขาไปด้วยเเละพูดไปด้วย: ” อืม ปู่โทรศัพท์มาหาฉันเอง บอกให้ฉันไปทำงานนอกสถานที่กับเขา คงตัดสินใจอย่างจวนตัวละมั้ง พรุ่งนี้ก็ต้องไปเเล้ว ”
หลังจากฟังเธอพูดจบ โม่ถิงเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาในตอนนั้น เขาหรี่ตาลงอย่างพิจารณา ในตาของเขาหม่นลงเเละไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
” คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ” มู่นวลนวลยื่นนิ้วไปจิ้มที่หน้าอกของโม่ถิงเซียวนิดหน่อย
โม่ถิงเซียวจับนิ้วที่กำลังก่อการจลาจลของเธอเเละพูดด้วยเสียงหนักแน่น: ” คุณไม่ต้องกังวล ไม่ว่าปู่ของคุณจะแย่แค่ไหน เเต่เขาก็จะฉลาดกว่ามู่ลี่หยานอยู่ดี ”
คนฉลาดมักไม่ทำเรื่องโง่ๆหรอก
ไม่ว่ามู่เจิ้งซิวจะขอให้มู่นวลนวลไปทำธุระกับเขาด้วยจุดประสงค์ใด เเต่เขาจะทำให้มู่นวลนวลกลับมาโดยไม่ได้รับความเสียหายอย่างเเน่นอน
คนอื่นๆของตระกูลมู่จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดว่าโม่ถึงเซียวคือโม่เจียเฉิน เเต่มู่เจิ้งซิวรู้ว่าเขาคือโม่ถิวเซียวเเล้ว
วันที่เขากลับไปทานอาหารกับมู่นวลนวลที่ตระกูลมู่ เขาก็ได้ใช้การกระทำบอกมู่เจิ้งซิวว่ามู่นวลนวลคือคนของตระกูลโม่เเละเป็นภรรยาของเขา เป็นการบอกให้ตระกูลมู่อย่าพยายามทำอะไรโง่ ๆ เพื่อท้าทายอำนาจของตระกูลโม่
มู่นวลนวลจ้องเขา: ” คุณรู้อีกเเล้ว! ”
โม่ถิงเซียวลูบหัวของเธอนิดหน่อย สายตาของเขาไปหยุดบนเสื้อผ้าที่เธอวางไว้บนเตียงเพื่อกำลังจะจัดเข้ากระเป๋าเดินทาง
โม่ถิงเซียวหยิบเสื้อโค้ทบนเตียงขึ้นมาเเละหันไปมองเธอ: ” บางขนาดนี้เลย? ”
มู่นวลนวลดึงเสื้อนอกของชุดสูทบนตัวเขา เเล้วพูดเรียนแบบเขา: ” บางขนาดนี้เลย? ”
” …… ” มีไม่กี่ครั้งที่โม่ถิงเซียวจะถูกทำให้สำลัก
” ฉันเป็นผู้ชาย ไม่กลัวหนาว ” โม่ถิงเซียวพูดไปด้วยเเละหยิบเสื้อโค้ทไปเก็บที่ห้องเก็บเสื้อไปด้วย หลังจากนั้นก็หยิบเสื้อขนเป็ดออกมาหนึ่งตัว
เหอะ เสื้อขนเป็ดอีกเเล้ว
มู่นวลนวลกระตุกปากเล็กน้อย เธอหมดคำจะพูดเเล้วจริงๆ
” ฉันก็ไม่กลัวหนาวเหมือนกัน! ” มู่นวลนวลอดไม่ได้ที่จะโต้เเย้งเขา เธอก็เป็นเด็กผู้หญิงอายุเพียงยี่สิบต้นๆเหมือนกันไม่ใช่หรอ?
ใส่เสื้อโค้ทกับกระโปรง ดูวัยรุ่นเเละสวยจะตาย!
เเต่โม่ถิงเซียวไม่สนใจคำพูดของเธอ
เขาพับเสื้อขนเป็ดตัวนั้นเเละนำไปยัดใส่ในกระเป๋าเดินทางของเธอทันที หลังจากนั้นก็หยิบของที่เธอยังต้องการพกไปมาพับให้ทีละตัวเเละยัดใส่เข้าไปด้วยเช่นกัน
การกระทำของเขาดูชำนาญมาก ดูเหมือนว่าจะทำสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ
มู่นวลนวลรู้สึกงุนงงเล็กน้อย: ” คิดไม่ถึงว่าคุณจะพับผ้าเเละจัดเก็บสำภาระเป็นด้วยเหมือนกัน! ”
โม่ถิงเซียวเป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลโม่ ไม่คิดว่าจะทำสิ่งเหล่านี้เป็น
ตอนมู่หวันฉีอยู่ที่บ้านก็มักจะใช้คนรับใช้พับผ้ากับจัดเก็บสัมภาระให้เธอ บางครั้งก็เป็นเสี่ยวชูเหอที่ช่วยเธอทำ
” เวลาไปทำงานนอกสถานที่ฉันจะจัดเก็บสัมภาระเองทุกครั้ง ” โม่ถิงเซียวพูดไปด้วยเเละไปหยิบอุปกรณ์อาบน้ำที่ห้องอาบน้ำไปด้วย
มู่นวลนวลเดินตามไปอย่างดีใจ: ” ของพวกนี้ฉันหยิบเองก็ได้ค่ะ…… ”
โม่ถิงเซียวมองเธอยิ้มๆ เขาถอยหลังออกมา เพื่อให้มู่นวลนวลได้จัดเก็บของด้วยตัวเธอเอง
ตอนนี้มู่นวลนวลถึงจะรู้สึกว่าตัวเองรู้จักโม่ถิงเซียวน้อยเกินไปจริงๆ
เธอเเค่คิดว่าเขาเป็นคุณชายใหญ่ที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่เเละมีอารมณ์แปรปรวนเท่านั้น ไม่คิดว่าคุณชายใหญ่จะจัดเก็บสัมภาระเป็น เเถมยังพับผ้าเป็นระเบียบกว่าเธออีกต่างหาก
บรรยากาศเป็นไปอย่างกลมกลืน มู่นวลนวลคิดว่านี่เป็นเวลาดีที่จะเปิดหัวข้อสนทนา
เธอจึงถามขึ้น: ” ใครสอนคุณหรอ? ”
โม่ถิงเซียวเงียบไปสักครู่ หลังจากนั้นถึงจะพูดขึ้น: ” แม่ของฉัน ”
การกระทำของมู่นวลนวลหยุดชะงักทันที เธอรู้สึกว่าตัวเองได้ถามคำถามที่ไม่ควรถามออกไปอย่างไม่ระวังสะเเล้ว สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอจึงเงียบไปชั่วขณะเเละไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
” ทำหน้าอะไร? ” โม่ถิงเซียวยื่นมือไปหยิกแก้มเธอ น้ำเสียงของเขาเป็นความอ่อนโยนเเละความสุขุมที่หายาก: ” ปีที่ผ่านๆมาไม่มีใครกล้าพูดถึงเเม่ต่อหน้าฉัน เเต่บางครั้งฉันก็อยากได้ยินคนพูดถึงเธอ เวลาผ่านไปนานเเล้ว เธอก็อาจจะถูกคนลืมไปเเล้ว ส่วนคนที่เคยทำร้ายเธอกลับยังมีชีวิตอยู่อย่างสงบ มันไม่ยุติธรรมเลย ”
มู่นวลนวลมองโม่ถิงเซียวในสภาพนี้ ในใจของเธอรู้สึกขมฝาดเเละอยากกอดเขา
เเละเธอก็ทำแบบนั้นจริงๆ
โม่ถิงเซียวโค้งตัวลง เขาซุกหน้าไปบนไหล่ของเธอเเละสูดดมกลิ่นของเธอลึกๆ เเขนของเขารัดเข้าหากันแน่น หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นช้าๆ: ” คุณสามารถปฏิเสธคำขอของมู่เจิ้งซิว เเละคุณไม่จำเป็นต้องไปทำงานนอกสถานที่ ”