ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 212 ฉันมีเพียงคุณ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ตอนกลางคืนมู่นวลนวลทานอาหารค่อนข้างเยอะ ตอนนี้จึงอ้วกออกมาเยอะหน่อยเเละกลิ่นก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

ตัวเธอเองไม่ได้กลิ่น เเต่โม่ถิงเซียวได้กลิ่นอย่างชัดเจน

เขาทำเพียงขมวดคิ้วนิดหน่อย รอจนเธออ้วกเสร็จ เขาถึงจะหยิบกระดาษชำระเช็ดให้เธอเเละส่งน้ำให้เธอหนึ่งขวด

” ลงรถเถอะ ” เสียงของโม่ถิงเซียวสงบลงเเล้ว

เขาเปิดประตูรถลงไปเเละถอดเสื้อโค้ทกับเสื้อไหมพรมที่มู่นวลนวลอ้วกใส่ออก เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตบางๆตัวเดียว

เเต่บนตัวของมู่นวลนวลกลับไม่เลอะอะไรเลย

ตอนเธอลงจากรถก็มีลมหนาวพัดผ่านมา จึงทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นไม่น้อย

เธอหันไปมองโม่ถิงเซียวที่ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตบางๆตัวเดียว จึงอดไม่ได้ที่จะพูดถามขึ้น: ” หนาวไหม? ”

ตอนที่เธอมองโม่ถิงเซียว โม่ถิงเซียวก็หันมามองเธอเหมือนกัน

อ้วกไปเมื่อสักครู่ ในตาของเธอจึงชุ่มไปด้วยน้ำตา เบ้าตาของเธอแดงนิดหน่อย ใบหน้าขาวกัดริมฝีปากเเละมองมาที่เขา ดูน่าสงสารมาก

ดังนั้น คำว่า ” คุณคิดว่าไงล่ะ ” ที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากก็ได้เปลี่ยนเป็น: ” ไม่หนาว ”

มู่นวลนวลเตรียมรับคำพูดเจ็บแสบของโม่ถิงเซียว หลังจากนั้นเธอก็จะตอบกลับไปว่า ” สมน้ำหน้า ” เเต่สุดท้ายเขากลับบอกว่าไม่หนาว

คุณชายใหญ่ของตระกูลโม่ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ อุณหภูมิติดลบแบบนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตบางๆยังมาบอกว่าไม่หนาวอีก

คำว่า ” ไม่หนาว ” ของโม่ถิงเซียวไม่ใช่เเค่พูดอย่างเดียว มู่นวลนวลหนาวจนตัวสั่นอยู่ภายใต้ลมหนาว เเต่โม่ถิงเซียวกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆแม้แต่นิดเดียว

……

ในรถสกปรกเเล้ว มู่นวลนวลกับโม่ถิงเซียวจึงเรียกรถกลับ

ส่วนรถของโม่ถิงเซียวก็ค่อยให้บอดี้การ์ดขับกลับ

กลับมาถึงบ้าน โม่ถิงเซียวก็ไปอาบน้ำที่ห้องหนังสือ ส่วนมู่นวลนวลก็กลีบไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง

ตอนที่มู่นวลนวลออกมาจากห้องอาบน้ำก็พบว่าโม่ถิงเซียวใส่ชุดนอนเเละนั่งอยู่ในโซฟาเดี่ยวตรงหน้าหน้าต่างเเล้ว

ในห้องไม่ได้เปิดไฟดวงใหญ่ ด้านข้างเขามีโคมไฟตั้งพื้นสีเหลืองสลัวสว่างอยู่ เเสงไฟปกคลุมบนตัวเขา ทำให้เขาดูอ่อนโยนขึ้นไม่น้อย

เเต่ไม่มีใครรู้ไปกว่ามู่นวลนวลอีกเเล้ว

ว่าความอ่อนโยนที่อยู่บนตัวโม่ถิงเซียวทั้งหมดนั้นล้วนเป็นภาพลวงตา

มู่นวลนวลเดินเข้าไปหา เธอกำลังจะนั่งลงข้างเขา

เเต่ไม่คิดว่าพอเธอเพิ่งเดินเข้าไป ก็ถูกโม่ถิงเซียวพลิกมือดึงเธอให้เข้ามาใน้อ้อมกอดทันที

เขายื่นไวน์ที่ดื่มไปได้คำเดียวไปที่ริมฝีปากของมู่นวลนวล: ” ดื่มหน่อย ”

มู่นวลนวลขมวดคิ้วเเละผลักออก: ” ไม่อยากดื่ม ” หลังอาบน้ำเเล้วเธอไม่อยากทานของอะไรทั้งนั้น เเละไม่อยากดื่มด้วยเช่นกัน

โม่ถิงเซียวไม่ได้บังคับเธอ เขาดื่มเองหนึ่งคำเเละกดปากลงไปบนริมฝีปากของเธอ

เขาง้างริมฝีปากของเธอออก หลังจากนั้นก็ส่งไวน์ที่อยู่ในปากตัวเองไปในปากมู่นวลนวล

มู่นวลนวลถูกเขากรอกไวน์ใส่ปากอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงเกือบทำให้สำลัก

โม่ถิงเซียวเอื้อมมือไปลูบผมของเธอนิดหน่อย การกระทำของเขานุ่มนวลเเละแฝงไปด้วยการปลอบโยน

หลังจากที่มู่นวลนวลสงบลง เธอก็ทุบลงไปบนทรวงอกของโม่ถิงเซียวเบาๆ

โม่ถิงเซียวเอื้อมมือไปกำหมัดเล็กๆของเธอ เขาก้มหน้าปกปิดอารมณ์ที่อยู่ในสายตา น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก: ” เขาเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณทิ้งบอดี้การ์ด? ”

คำพูดที่จับต้นชนปลายไม่ได้ของเขาทำให้มู่นวลนวลงุนงงอยู่สักครู่ หลังจากนั้นเธอถึงจะรู้ว่าเขากำลังพูดอะไร?

” หมายความว่ายังไง? ” เขาหมายถึงที่เธอทิ้งบอดี้การ์ดก็เพื่อต้องการมาเจอกับซินชูฮันอย่างนั้นหรอ?

โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้น เขามองเธออย่างลึกซึ้ง: ” คุณอยากไปจากฉันหรอ? ”

” คุณพูดอะไร! ” มู่นวลนวลสะดุ้ง เธอขมวดคิ้วนิดหน่อย: ” ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ ”

” คุณไม่ไปถ่ายภาพเเต่งงาน ไม่อยากเเต่งงานกับผม ” ตอนโม่ถิงเซียวพูด สีหน้าของเขายังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลง เเต่มู่นวลนวลกลับรับรู้ถึงอารมณ์ที่ตึงเครียดได้จากในนั้น

” ก่อนหน้านี้ฉันอธิบายให้คุณฟังเเล้วว่าฉัน……อื้อ…… ”

โม่ถิงเซียวไม่อยากฟังเธออิธิบาย เขารู้ดีว่ามู่นวลนวลกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

เขาเกี่ยวเอวมู่นวลนวลไว้ แก้วไวน์ที่อยู่บนมืออีกข้างก็ล่วงหล่นลงบนพื้นทันที ที่พื้นมีพรมปูไว้อยู่ แก้วไวน์จึงไม่หล่นแตกเเละไวน์ที่ยังดื่มไม่หมดก็ซึมเข้าไปในพรม

โม่ถิงเซียวจับมู่นวลนวลนั่งในท่าที่นั่งอยู่บนตัวของเขา เขาเกี่ยวเอวกับขาของเธอ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเเละอุ้มเธอไปที่เตียง หลังจากนั้นทั้งสองคนก็กลิ้งลงไปบนเตียง

มู่นวลนวลรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองนิดหน่อย เธอพูดถามอย่างหอบๆ: ” คุณหย่ากับมู่หวันฉีเเล้วหรอ? ”

” อืม ” บนหน้าผากของโม่ถิงเซียวมีเหงื่อเม็ดเล็กๆเกาะอยู่ เขาขานรับโดยหายใจหนักๆ

ตอนนี้พวกเขาไม่เหมาะที่จะมีลูก

เธอคิดเรื่องนี้ด้วยสติที่เลอะเลือน สุดท้ายก็หลับไป

โม่ถิงเซียวพลิกตัวลุกขึ้นจากเตียง เขาเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเเละเช็ดตัวให้มู่นวลนวล

เขาก้มมองเธอ การกระทำของเขาทั้งนุ่มนวลเเละเชื่องช้า มุ่งมั่นราวกับนักศิลปะกำลังปฏิบัติต่องานศิลปะที่ล้ำค่าเเละหายาก

เช็ดตัวให้มู่นวลนวลเสร็จ เขาก็เลิกหน้าม้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็ก้มลงไปจูบบนหน้าผากของเธอเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาเบาจนเเทบจะฟังไม่ได้ยิน: ” ฉันมีเพียงคุณ ”

ในความขมุกขมัว มู่นวลนวลดูเหมือนจะได้ยินใครบางคนกำลังพูดอยู่ที่ข้างหูของเธอ เธอลืมตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นมา รูปร่างของคนตรงหน้าพร่ามัว เเต่เธอก็รู้ว่าเป็นโม่ถิงเซียว

เธอง่วงมากจริงๆ เธอออกเเรงยกมือขึ้น วินาทีต่อมาก็รู้สึกว่ามือของตัวเองถูกฝ่ามือที่ทั้งอบอุ่นทั้งใหญ่กว่าจับไว้ พอจิตใจของเธอสงบ เธอก็ปิดตาเเละหลับไปในที่สุด

โม่ถิงเซียวนั่งอยู่ที่ริมเตียง เขาจ้องเธออยู่สักพักใหญ่เเละนำมือของเธอใส่กลับเข้าไปในผ้าห่ม

……

วันต่อมา

ตอนที่มู่นวลนวลตื่นขึ้นมา ตำแหน่งข้างๆก็ว่างเปล่าเสียเเล้ว

เธอยื่นมือออกไปคลำ ไม่มีอุณหภูมิก็เเสดงว่าโม่ถิงเซียวตื่นได้สักพักเเล้ว

เธอพยุงร่างกายลุกขึ้นนั่งที่หัวเตียง หลังจากนั้นก็หลับตาคำนวณระยะปลอดภัยของตัวเอง

คิดไปคิดมาดูเหมือนจะไม่แม่น จึงทำได้เพียงกินยา

เธอยังไม่เคยคิดเรื่องลูก

นอกจากความสัมพันธ์ที่ยังไม่มั่นคงของเธอกับโม่ถิงเซียวเเล้ว เธอยังมีเรื่องให้ต้องทำอีกมากมาย

เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบสองปีเเละชีวิตของเธอเพิ่งเริ่มต้น เธอไม่มีเเม่ที่ดี บางทีเธอก็อาจจะเป็นลูกสาวที่ไม่ผ่านคุณสมบัติเช่นกัน

ต่อให้มีลูกตอนนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะดูเเลเขายังไง

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท