มู่นวลนวลไม่รู้สึกสงสัยเเม้เเต่นิดเดียว ถ้าเธอบอกว่าตัวเองอยากได้ดาวบนฟ้า โม่ถิงเซียวก็อาจจะคิดหาวิธีเด็ดดาวมาให้เธอ
ด้วยความสามารถของโม่ถิงเซียว ไม่แน่เขาอาจจะสามารถเด็ดดาวมาให้เธอได้จริงๆก้ได้
พอคิดได้ดังนั้น มู่นวลนวลก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
พอเธอเปลี่ยนชุดลงมา ก็เจอกับป้าหู
พอป้าหูเห็นเธอ ก็ยิ้มจนตาหยี: ” ทานสักหน่อยเเล้วค่อยไปนะคะ ต่อให้ออกไปทานข้างนอก เเต่ตอนเช้าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย ทานลองท้องสักหน่อยเถอะค่ะ ”
อาหารที่เธอถือขึ้นไปเมื่อสักครู่ พอโม่ถิงเซียวเห็นเธอ เขาก็ให้เธอเอากลับไปที่ห้องครัวทันที
ช่วงนี้มู่นวลนวลไม่ค่อยอยากอาหารสักเท่าไหร่ พอป้าหูเห็นเธอ ก็จะกล่อมให้เธอทานอาหารทุกครั้ง
เธอเองก็รู้สึกสงสัยอยู่นิดหน่อย ฝีมือของป้าหูดีมาก ทำอะไรก็อร่อยไปหมด เเถมยังถูกปากเธออีกด้วย
” ค่ะ ” พอเห็นสายตาเป็นห่วงของป้าหู มู่นวลนวลก็ไม่อยากปัดความหวังดีของเธอ จึงพยักหน้าตกลง
มู่นวลนวลไปที่ห้องอาหาร ส่วนโม่ถิงเซียวก็รอเธออยู่ที่ห้องโถง
ป้าหูยกอาหารมาที่โต๊ะ อาหารสีสันสดใสยังคงส่งกลิ่นหอม
ช่วงนี้น้อยครั้งมากที่มู่นวลนวลจะมีความอยากอาหาร เธออดไม่ได้ที่จะขยับนิ้วชี้เเละเริ่มทานทันที
ในที่สุดมู่นวลนวลก็มีความอยากอาหารเเล้ว ป้าหูจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ป้าหูเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามมู่นวลนวล เธอมองมู่นวลนวลด้วยสายตาอ่อนโยน เเละพูดออกมาจากใจ: ” ตอนเด็กคุณชายมีนิสัยอ่อนโยน มีมารยาท ใครเห็นเเล้วเป็นต้องชอบเขาทั้งนั้น ต่อมาได้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ขึ้น เขาจึงกลายเป็นแบบนี้ จิตใจของเขาดีนะคะ บางครั้งเขาอาจสับสนเเละทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป คุณก็อย่าเก็บมันไว้ในใจ มีอะไรก็พยายามพูดออกมา พยายามทะเลาะกับเขาเถอะค่ะ…… ”
” เด็กคนนั้นดูเหมือนเย็นชา เเต่ความเป็นจริงเขาใจอ่อนมากเลยนะคะ ” ป้าหูดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างในอดีตได้ ในน้ำเสียงของเธอจึงมีอารมณ์บางอย่างอยู่ในนั้น
มู่นวลนวลชะงักไปทันที เธอรู้สึกร้อนที่เบ้าตานิดหน่อย
เเทบจะไม่เคยมีใครพูดเรื่องพวกนี้กับเธอเลย
ถึงเเม้ว่าเซินเหลียงจะเป็นห่วงเธอ เเต่เซินเหลียงก็กลัวโม่ถิงเซียวมาก นอกจากช่วยเธอด่าโม่ถิงเซียวเเล้ว เซินเหลียงก็ไม่มีความคิดอะไรอีก
ป้าหูเคยเห็นโม่ถิงเซียวตอนที่เขายังเป็นเด็ก เธอจึงรู้สึกสงสารเขาเป็นธรรมดา เวลามองเขาก็เหมือนกำลังมองลูกของตัวเอง
คำพูดของป้าหูเหมือนซึมเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของเธอ
ตอนที่คนอื่นมองเธอกับโม่ถิงเซียว ก็มักจะวาดวงแหวน ” คุณชายตระกูลโม่ ” ไว้บนตัวโม่ถิงเซียว เเบบนี้ ไม่ว่าโม่ถิงเซียวจะทำอะไร จะดีกับเธอหรือทำเรื่องไม่ดีใส่เธอ คนอื่นก็จะคิดว่ามู่นวลนวลควรคืนดีกับเขา
เเต่มีเพียงป้าหูคนเดียวที่พูดแบบนี้ เธอปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนวัยรุ่นสองคนที่มีความรัก และปลอบโยนเธอด้วยคำพูดที่จริงใจ
มู่นวลนวลพยักหน้า: ” ฉันรู้เเล้วค่ะ ป้าหู ”
เธอรู้ว่าจิตใจของโม่ถิงเซียวไม่ได้แย่ เเถมยังรู้ว่าการเป็นคนที่เขาสนใจมันดีขนาดไหน เเละรู้ว่าจิตใจของเขาอ่อนโยนมาก
เพียงเเต่สิ่งที่เขาทำในครั้งนี้ กลับไม่สามารถทำให้มู่นวลนวลประนีประนอมได้ง่ายๆ
บางครั้งจิตใจของมนุษย์ก็อ่อนแอมาก ประนีประนอมครั้งเเรกก็ต้องประนีประนอมครั้งที่สอง
เเต่เรื่องครั้งนี้เป็นปัญหาหลัก
ถึงเเม้ว่าโม่ถิงเซียวจะเคยเจออุบัติเหตุครั้งใหญ่มาก่อน เเต่เขาได้รับการเลี้ยงดูในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลโม่ เเละเขายังเป็นที่รักของผู้คนหลายพันคน จึงถูกเลี้ยงให้มีนิสัยยกตนข่มท่านเป็นธรรมดา
เผด็จการเเละใช้อำนาจบาตรใหญ่ เรื่องที่กำหนดไว้เเล้วก็ต้องทำให้ได้ ไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด
เเต่มู่นวลนวลจะไม่ตามใจเขาแบบนี้
ครั้งนี้เธอจะต้องคัดค้านให้ถึงที่สุด
เเต่เธอค่อนข้างอยากรู้เกี่ยวกับอดีตของโม่ถิงเซียวจริงๆ: ” ป้าหูคะ ป้าช่วยเล่าเรื่องในวัยเด็กของโม่ถิงเซียวให้หนูฟังหน่อยสิคะ ”
” ตอนเด็กๆคุณชายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ทุกครั้งที่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยง นายท่านก็จะพาเขาไปด้วยเเละได้หน้าได้ตาเป็นอย่างมาก พวกสาวๆก็จะชอบมาหมุนอยู่รอบตัวคุณชาย เด็กผู้ชายก็เช่นกันค่ะ…… ”
พอฟังป้าหูพูดเรื่องในวัยเด็กของโม่ถิงเซียว มู่นวลนวลก็ยากที่จะนำเด็กหนุ่มคนนั้นที่ยิ้มเเละทักทายทุกคนไปทั่ว เเถมยังช่วยน้องสาวแกะลูกอมมาเชื่อมโยงกับโม่ถิงเซียวคนปัจจุบันที่พอมองคนอื่นก็สามารถทำให้หนาวตายได้เลย
กาลเวลาเป็นโจรจริงๆ
มักจะขโมยความสุขและความเยาว์วัยของผู้คนเสมอ
ป้าหูพูดเรื่องในวัยเด็กของโม่ถิงเซียวเสร็จก็หยุดลง มู่นวลนวลก็ฟังอย่างสนใจ
ไหนบอกว่าเเค่ทานลองท้องเเล้วก็ออกจากบ้าน ผลสุดท้ายคือทานไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ตอนที่มู่นวลนวลออกมาจากห้องอาหาร ก็พบว่าโม่ถิงเซียวกำลังนั่งงีบหลับอยู่บนโซฟา
ข้อศอกข้างหนึ่งของเขาวางอยู่บนพนักแขนของโซฟา ฝ่ามือของเขาวางอยู่บนคาง เเละใต้คางก็มีตอหนวดสีเขียวอ่อนที่เพิ่งขึ้นมาใหม่เป็นชั้นบางๆ ซึ่งไม่ชัดเจนมากนัก
เเต่ใบหน้าของเขากลับดูเหมือนจะซีดเซียวนิดหน่อย
ช่วงนี้มู่นวลนวลไม่ค่อยได้มองโม่ถิงเซียวเลย ตอนนี้พอมาสังเกตอย่างละเอียด ถึงได้รู้ว่าโม่ถิงเซียวซูบผอมลงไปไม่น้อยเลย เขาดูเหมือนจะยิ่งเย็นชาเเละดุร้ายมากกว่าเดิม
อาจะเป็นเพราะสายตาของเธอจดจ่อจนเกินไป เดิมทีผู้ชายที่ยังงีบหลับอยู่ก็ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ในสายตาของโม่ถิงเซียวปรากฏความงุนงงขึ้นมาชั่วคราว หลังจากนั้นเขาก็รีบนั่งตัวตรงทันทีเเละฟื้นฟูสติกลับมาเป็นปกติ: ” ทานเสร็จเเล้วหรอ? ”
มู่นวลนวลพยักหน้า
ตอนเดินทาง มู่นวลนวลถึงจะรู้ว่าโม่ถิงเซียวไม่คิดจะพาบอดี้การ์ดไปด้วย
โม่ถิงเซียวติดเครื่องยนต์ไปด้วยเเละพูดถามเธอไปด้วย: ” อยากไปไหน? ”
มู่นวลนวลเอียงหัวครุ่นคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: ” ไปเดินเที่ยวเรื่อยเปื่อยก็ได้ ”
โม่ถิงเซียวหน้านิ่ง: ” อืม ”
หลังจากนั้นโม่ถิงเซียวก็พาเธอไปที่ร้านอาหารจินติ่ง
รถมาจอดที่ทางเข้าร้านอาหารจินติ่ง มู่นวลนวลจับมุมริมฝีปากของตัวเองอย่างอ่อนแรงเเละส่งที่อยู่ไปให้เซินเหลียง: ” ร้านอาหารจินติ่ง ”
เซินเหลียงส่งเครื่องหมายจุดไข่ปลามาให้เธอ เห็นได้ชัดว่าเซินเหลียงก็รู้สึกพูดไม่ออกเหมือนกัน
มู่นวลนวลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเซินเหลียง อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าด้านข้างมีเงากำลังทาบทับลงมา เธอจึงหันกลับไปอย่างระเเวง เเละเห็นโม่ถิงเซียวกำลังเอียงตัวมาช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัย
เขาจ้องเข็มขัดนิรภัยโดยไม่เหล่ตาไปไหน เขาทำการปลดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างตั้งใจ เเละไม่ได้มองโทรศัพท์ของเธอแม้เเต่นิดเดียว ทำเสร็จเขาก็ปลีกตัวจากไป
มู่นวลนวลถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วลงจากรถพร้อมโทรศัพท์ของเธอ
ที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารจินติ่ง ถ้าทั้งสองคนจะไปที่ร้านอาหารจินติ่งก็ต้องข้ามทางม้าลาย
เธอเดินเร็วมาตลอด โม่ถิงเซียวก้าวขายาวๆเตรียมตามเธอไป เขามองไปด้านข้างราวกับรู้สึกได้ เเละเขาก็เห็นรถสีดำกำลังวิ่งไปทางมู่นวลนวลราวกับเสียการควบคุม
สีหน้าของโม่ถิงเซียวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เเต่เขากลับไม่มีเวลามาพิจารณาเเล้ว ร่างกายของเขาตอบสนองเร็วกว่าสมองของเขา
ตอนที่เขาตอบสนองกลับมา เขาก็เดินไปถึงด้านหลังมู่นวลนวลโดยก้าวเท้าเพียงไม่กี่ก้าว หลังจากนั้นก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด เเละทั้งสองคนก็ล้มลงไปบนพื้นด้วยความตื่นตระหนก
รถพุ่งขึ้นเหนือศีรษะของทั้งสองคนและไปชนรั้วข้างที่จอดรถ
” เกิดอุบัติเหตุรถยนต์! ”
” รีบเเจ้งตำรวจ! ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านนอกร้านอาหารจินดิ่งได้เห็นฉากเหตุการณ์นี้แล้ว
โม่ถิงเซียวกอดมู่นวลนวลไว้เเน่น เขารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองหยุดเต้นอย่างกะทันหัน ราวกับโลกทั้งใบกลายเป็นความเงียบงันในชั่วพริบตา
มู่นวลนวลได้ยินเสียงเอะอะข้างหูของตัวเอง ถึงจะรู้ตัวว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น