ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 218 ฉันต้องรักเขาสิถึงจะถูก

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลออกคำสั่งทันที: ” พาเธอไปส่งโรงพยาบาล ”

บอดี้การ์ดได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ลงมือปฏิบัติในทันที เเต่ได้หันไปมองโม่ถิงเซียวนิดหน่อย

โม่ถิงเซียวกวาดสายตามองบอดี้การ์ด: ” ไม่ได้ยินคำพูดของคุณหญิงหรือไง? พาคนไปส่งโรงพยาบาล! ”

พอมู่นวลนวลได้ยินที่เขาพูด เธอก็หันไปมองเขาทันที

โม่ถิงเซียวก้มหน้าลงนิดหน่อย เขานั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าไร้อารมณ์ของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย เเละทำให้คนเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

มู่นวลนวลมองเขา เธออยากพูดอะไรสักอย่าง เเต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

อุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนหน้านี้ มู่นวลนวลคิดไว้แล้วว่าคนก่อเรื่องอาจเป็นมู่หวันฉี

ถึงอย่างไร คนที่อยากให้เธอตายก็มีเเค่มู่หวันฉีคนเดียวเท่านั้น

นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่มู่หัวฉีต้องการทำให้เธอตาย

เธอเดาได้ว่าโม่ถิงเซียวอาจจะรู้อยู่เเล้วว่ามู่หวันฉีคือคนก่อเรื่อง เเละเขาก็จะไม่ปล่อยเธอไปอย่างเเน่นอน

เเต่ตอนที่เธอเห็นวิธีที่โม่ถิงเซียวใช้ทรมานมู่หวันฉีเเล้ว เธอก็รู้สึกหนาวที่ด้านหลัง

อย่าว่าเเต่มู่หวันฉีเลย ใครก็ตามที่ยังได้สติเเละถูกเเล่เนื้อบนตัวทีละชั้นแบบนั้น ก็ทนไม่ไหวกันทั้งนั้นแหละ

” ครับ ”

พอบอดี้การ์ดได้รับคำสั่งของโม่ถิงเซียว ก็รีบพยุงมู่หวันฉีขึ้นมาเเละพาไปที่โรงพยาบาลทันที

ซือเย่ตามไปอย่างรู้งานเเละปล่อยให้โม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลอยู่ในห้องสองต่อสอง

เเสงไฟในห้องสว่างไสว เเละเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

มู่นวลนวลหันไปเห็นเนื้อบนพื้นที่ถูกบอดี้การ์ดเเล่ออกมาจากบนตัวของมู่หวันฉี……

” แหวะ…… ”

ความรู้สึกคลื่นไส้ตีขึ้นมาทันที ท้องไส้ของเธอปั่นป่วน มู่นวลนวลปิดปากโค้งตัวเเละรู้สึกคลื่นไส้เป็นระยะ

โม่ถิงเซียวลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ หลังจากนั้นเขาก็เดินไปพยุงมู่นวลนวล เขาตบหลังให้เธอด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงเเละพูดขึ้นเสียงทุ้ม: ” เราออกไปข้างนอกก่อนเถอะ ”

มู่นวลนวลรู้สึกทรมานมาก เธอเดินตามโม่ถิงเซียวออกไปอย่างว่าง่าย

โม่ถิงเซียวโอบกอดมู่นวลนวลเเละผลักประตูออกไป พอออกมาก็เห็นซือเฉิงยวี่ที่ไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงทางเข้ามานานเท่าไหร่เเล้ว

ซือเฉิงยวี่ใส่ชุดสูทจีบตรงสีดำ ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว เขาดูอ่อนโยนและสง่างาม บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลาย

เมื่อก่อน มู่นวลนวลไม่เพียงดูหนังของเขาเท่านั้น เเต่ยังเป็นแฟนคลับของเขาด้วย ก็เพราะรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและไม่เป็นอันตรายของซือเฉิงยวี่

ตอนนี้พอมองซือเฉิงยวี่อีกครั้ง มู่นวลนวลกลับรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

สายตาของซือเฉิงยวี่กวาดมองพวกเขาสองคน หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นยิ้มๆ: ” ถิงเซียว ฉันขอบคุณมากที่นายปล่อยหวันฉีไป ”

น้ำเสียงของเขายังอ่อนโยนเหมือนครั้งเเรกที่เจอกัน ทำราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

มู่นวลนวลขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าซือเฉิงยวี่จงใจยั่วยุโม่ถิงเซียว

เธอพลิกมือเเละจับมือของโม่ถิงเซียวไว้ เธอมองซือเฉิงยวี่อย่างเย็นชา: ” มู่หวันฉีจะต้องได้รับโทษที่เธอควรได้รับ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เราปล่อยเธอไป ”

” ที่นวลนวลพูดแบบนี้ก็ถูก ” รอยยิ้มของซือเฉิงยวี่ลึกซึ้งกว่าเดิม ลึกจนน่าประหลาดใจไปหน่อย

คำพูดของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและถามเธอ: ” นี่เป็นครั้งเเรกที่คุณเห็นวิธีการจัดการเรื่องราวของโม่ถิงเซียวใช่ไหม ถึงเเม้ว่าวิธีการของเขาจะโหดเหี้ยมไปหน่อย เเต่เขาทำเพื่อคุณนะ คุณก็อย่ากลัวเขาเพราะเรื่องนี้เเล้วกัน ”

ในดวงตาของซือเฉิงยวี่มีรอยยิ้มอยู่ในนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาได้ซ่อนเจตนาที่ไม่ดีอยู่เต็มไปหมด

ก่อนหน้าที่มู่นวลนวลจะเเต่งงานกับโม่ถิงเซียว เธอเป็นเพียงเเค่เด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไป

เด็กสาวที่อาศัยอยู่ในโลกที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง อย่างมากก็เเค่ถูกมีดบาด จะไปเคยเห็นวิธีการที่โหดเหี้ยมของโม่ถิงเซียวได้ยังไง เธอจะรู้สึกกลัวเป็นธรรมดา

ซือเฉิงยวี่เคยติดต่อกับมู่นวลนวลอยู่หลายครั้ง เขาจึงคิดไปเองว่าตัวเองรู้จักมู่นวลนวลเป็นอย่างดี

เขาคิดว่าพอผ่านเรื่องนี้ไป มู่นวลนวลจะต้องกลัวโม่ถิงเซียวอย่างแน่นอน

เเต่เขาไม่รู้ว่าในใจของมู่นวลนวลนั้น โม่ถิงเซียวเป็นผู้ชายที่โหดเหี้ยมเเละมีความคิดลึกซึ้งมาตั้งเเต่เริ่ม

ดังนั้น ไม่ว่าโม่ถิงเซียวจะทำเรื่องอะไร ถึงเเม้ว่ามู่นวลนวลจะรู้สึกประหลาดใจ เเต่เธอกลับไม่กลัวโม่ถิงเซียวอย่างที่ซือเฉิงยวี่คิด

บางทีเธออาจกลัวโม่ถิงเซียวอยู่นิดหน่อย เเต่เธอก็ไม่ได้กลัวโม่ถิงเซียวอย่างที่ซือเฉิงยวี่คิด

มู่นวลนวลหัวเราะเบาๆ ในน้ำเสียงของเธอมีความจริงใจอยู่ในนั้น: ” ในเมื่อพี่ชายพูดเเล้วว่าโม่ถิงเซียวทำแบบนี้เพื่อฉัน งั้นฉันจะกลัวเขาเพราะเรื่องนี้ทำไมล่ะ? ฉันต้องรักเขาสิถึงจะถูก ”

ซือเฉิงยวี่ไม่คิดว่ามู่นวลนวลจะตอบเขาแบบนี้

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาสองคำด้วยใบหน้าที่เย็นชา: ” งั้นหรอ? ”

” ก็ใช่น่ะสิ ” มู่นวลนวลเลิกคิ้วเเละมองซือเฉิงยวี่อย่างยั่วยุ

ซือเฉิงยวี่กระตุกมุมปากนิดหน่อย: ” งั้นผมจะรอดู ”

พูดจบเขาก็หมุนตัวเเละเดินจากไป

พอเขาไป มู่นวลนวลก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเเละกำลังจะเดินไปด้านหน้า

เเต่เธอเดินไปไม่ได้ เพราะผู้ชายด้านข้างจับมือเธอไว้อยู่

เธอหันกลับไปเเละพบว่าโม่ถิงเซียวกำลังจ้องเธอด้วยสายตาที่เเวววาว

สายตาของเขาเหมือนมีเปลวไฟเล็กๆสองดวงถูกจุดอยู่ข้างใน

มู่นวลนวลขมวดคิ้ว: ” คุณเป็นอะไร? ”

โม่ถิงเซียวจับมือเธอไว้ น้ำเสียงของเขาเป็นความอ่อนโยนที่หาได้ยาก: ” พูดอีกครั้ง ”

พูดอีกครั้ง?

มู่นวลนวลคิดอยู่สักครู่ เธอจึงทำได้เพียงพูดอีกครั้ง: ” คุณเป็นอะไร? ”

” ก่อนประโยคนี้ ” โม่ถิงเซียวแสดงความอดทนอย่างมาก ใบหน้าของเขาดูมีความคาดหวังเล็กน้อย

” ก่อนหน้านี้ฉันพูดไปตั้งเยอะ ฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณจะให้ฉันพูดประโยคไหน? ” เมื่อสักครู่ ตอนที่มู่นวลนวลต่อว่าซือเฉิงยวี่ เธอคิดอะไรออกก็พูดออกไปแบบนั้น เเละไม่รู้ว่าเขาอยากฟังประโยคไหนกันแน่

โม่ถิงเซียวเม้มปาก เขาดูเหมือนผิดหวังนิดหน่อย

เเต่วินาทีต่อมาโม่ถิงเซียวก็ประคองหน้ามู่นวลนวลเเละจูบลงไปทันที

ปฏิกิริยาแรกของมู่นวลนวลคือเหมือนตอนนี้พวกเขาจะอยู่ตรงทางเดินหน้าประตูห้อง

เธออาย เเละไม่อยากจูบเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย

อีกอย่าง ตอนนี้เธอกับโม่ถิงเซียวยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่

เเต่โม่ถิงเซียวกลับไม่สนใจการกกีดกันของเธอเลย เขาจูบอย่างอ่อนโยนเเละดุเดือด จนกระทั่งมู่นวลนวลขาอ่อน เขาถึงจะปล่อยเธอ

เขายังรู้สึกดีอยู่นิดหน่อยเเละใช้นิ้วเเตะที่ริมฝีปากของมู่นวลนวลเบาๆ สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะฉกฉวยริมฝีปากของเธออีกครั้ง

มู่นวลนวลหายใจหอบ ตอนเธอเงยหน้าขึ้น สิ่งเเรกที่เห็นคือดวงตาของโม่ถิงเซียวที่ปกติจะลึกเหมือนน้ำหมึก เเต่ตอนนี้กำลังเปล่งประกาย เหมือนมีดาวพร่างพราวอยู่ในนั้นเเละสว่างลานตามาก

มู่นวลนวลครุ่นคิดอย่างงุนงง เมื่อสักครู่ตกลงว่าเธอพูดคำว่าอะไรกันแน่ ถึงทำให้โม่ถิงเซียวดีใจได้ถึงขนาดนี้?

เหมือนจะเป็น……

——ฉันจะกลัวเขาเพราะเรื่องนี้ได้ไงล่ะ?

ไม่ใช่ประโยคนี้ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก

เธอเคยเห็นมู่ถิงเซียวจัดการกับคนที่ลักพาตัวทั้งสองคนเเล้ว และเธอไม่ได้ทำราวกับว่าเธอกลัวเขา และปฏิกิริยาของโม่ถิงเซียวก็ไม่มีอะไรพิเศษ นี่จึงไม่ใช่สาเหตุอย่างแน่นอน

ด้านหลัง ดูเหมือนว่าเธอจะพูดอีกประโยค……

พอมู่นวลนวลรู้เเล้วว่าตัวเองได้พูดอะไรออกไปก่อนหน้านี้ เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะมอดไหม้

เธอเป็นคนที่เข้าข้างคนของตัวเอง ไม่ว่าก่อนหน้านี้ระหว่างเธอกับโม่ถิงเซียวจะมีความขัดเเย้งอะไรกัน เธอสามารถโทษเขาเเละไม่สนใจเขา เเต่คนอื่นห้ามมาว่าเขาไม่ดี

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท