ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 221 คุณผู้หญิงของเราไม่ใช่ว่าใครจะเข้าพบได้ง่ายๆ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

เสี่ยวชูเหอไม่อยากจะเชื่อว่ามู่ลี่หยานจะตบเธอ แล้วพูด: “คุณตบฉัน?”

เธอและมู่ลี่หยานเป็นเพื่อนกันสมัยมัธยม เธอมาจากเมืองเล็กๆเข้ามามาเรียนหนังสือที่เซี่ยงไฮ้ ตอนนั้นตระกูลมู่เป็นที่รู้จักและมีฐานะพอสมควร และมู่ลี่หยานก็เป็นคุณชายของบ้าน ในโรงเรียนเขาได้รับความสนใจจากทุกคนอย่างมาก

เสี่ยวชูเหอแอบชอบมู่ลี่หยานมาโดยตลอด แต่ก็รู้ว่าฐานะของเธอแตกต่างกับเขามาก

จนกระทั่งภรรยาของมู่ลี่หยานเสียชีวิต เธอจึงได้พบกับมู่ลี่หยานอีกครั้ง

มู่ลี่หยานอยู่ในช่วงที่โศรกเศร้าเสียใจอย่างมากแต่มีเธอที่เขามาปรอบใจ คอยอยู่เป็นเพื่อน และเธอเองก็เป็นคนที่สวย ที่ผ่านมาช่วยดูแลลูกๆทั้งสองของเขาได้เป็นอย่างดี มู่ลี่หยานจึงแต่งงานกับเธอ

หลายปีที่ผ่านมาเธอดูแลเอาใจใส่และรักมู่ลี่หยานมาก ไม่เพียงแต่ดูแลเขา เธอยังดูแลลูกๆของเขาเป็นอย่างดี

แทบจะไม่ทะเลาะกันเลย

แม้จะทะเลาะกันมู่ลี่หยานจะเป็นฝ่ายง้อเธออยู่ตลอด ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะลงไม้ลงมือ

“ตบคุณแล้วทำไม? คุณอยู่ที่บ้านนี้แล้วคุณทำอะไรบ้าง?คุณบอกว่าจะดูแลกลูกๆของผมเป็นอย่างดี นี้ใช่ไหมที่บอกว่าดูแลเป็นอย่างดี!”

มู่ลี่หยานเป็นคนที่มั่นคงในความรัก

ภรรยาคนก่อนเสียไปแล้วหลายปี แต่ทุกปีครบรอบวันเสียของเธอเขาจะจัดโต๊ะไหว้ทุกปี และยังมีรูปของเธออยู่

ลูกสาวทั้งสองที่เธอทิ้งไว้ให้ เขาก็รักอย่างแก้วตาดวงใจ

เสี่ยวชูเหอแต่งงานกับมู่ลี่หยานนอกจากเหตุผลที่เธอแอบชอบเขามาหลายปีแล้ว ยังมีอีกเหตุผลก็คือมู่ลี่หยานเป็นคนที่มั่นคงในความรัก

“หลายปีที่ผ่านมาฉันทำทุกอย่าง ฉันดูแล รักและปกป้องคนบ้านนี้มาโดยตลอด คุณมองไม่เห็นในสิ่งที่ฉันทำหรอ?” เสี่ยวชูเหอพูดทั้งน้ำตา

สิ่งที่เธอทำมันยังไม่พอหรอ?

ตัวเธอคิดว่าตัวเองใช้ทั้งแรงใจและแรงกายไปหมดแล้ว

“ทำทุกอย่าง?” มู่ลี่หยานยิ้มอย่างเย็นชา: “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปขอให้ลูกสาวคนนั้นของคุณไม่เอาเรื่องหวันฉีสิ! หวันฉีแค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มู่นวลนวลไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่หรอ!”

เสี่ยวชูเหอเธอเองเคยพูดคำพูดนี้ แต่ตอนนี้เธอได้ยินมันจากปากของมู่ลี่หยานเธอกลับรู้สึกไม่พอใจ

เธอรู้สึกว่าเขาไม่ควรที่จะพูดแบบนี้

และเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้

หลายปีที่ผ่านมา เธอคอยที่จะเอาใจมู่หวันฉี คอยบอกมู่นวลนวลอยู่เสมอว่าต้องทำดีและยอมให้กับพี่สาวทุกอย่าง

ฉนั้นจิตใต้สำนึกของเธอไม่ว่ามู่หวันฉีจะทำเรื่องอะไรไม่ดีก็ตาม มู่นวลนวลไม่ควรจะใส่ใจและปล่อยมันไป

มู่ลี่หยานยังคงพูดถึงมู่นวลนวลทำตัวไม่ดี

เสี่ยวชูเหอที่โดนเขาตบเและยังได้ยินเขาพูดจาไร้ประโยชน์เธอรู้สึกโมโหและไม่พอใจอย่างมาก

เธอลุกขึ้นจากพื้น : “เรื่องนี้ฉันช่วยคุณไม่ได้ คุณไปจัดการเองเถอะ”

เธอทำทุกอย่างเพื่อนบ้านหลังนี้แต่มู่ลี่หยานกลับมองไม่เห็น

และเธอเองก็รู้ว่ามู่หวันฉีไม่ชอบเธอ ถึงขนาดเคยว่าเธอเป็นเพียงสุนัข

แต่ด้วยเห็นผลที่ว่าเธอชอบมู่ลี่หยานเธอจึงไม่ใส่ใจในสิ่งที่มูหวันฉีพูด

แต่ตอนนี้มู่ลี่หยานทำกับเธอขนาดนี้เธอจึงรู้สึกเหนื่อย

มู่ลี่หยานได้ยินเช่นนั้นจึงโมโหมาก : “เสี่ยวชูเหอ คุณหมายความว่าอย่างไร!”

“ไม่มีอะไร” เธอส่ายหน้า: “ฉันแค่รู้สึกว่ามันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว”

เธอทั้งเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเธอก็รังเกียจและขยะแขยงกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้

มู่ลี่หยานก็รู้สึกไม่ดีในตอนนั้น เขาคิดว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมันทำให้เขาเหนื่อยมากพอแล้ว แต่เสี่ยวชูเหอกลับยิ่งทำให้มันแย่ลง

เขายิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด : “ผมดูแลคุณเป็นอย่างดี พอถึงตอนนี้คุณกลับบอกว่าไม่มีความหมายอะไร? ไม่มีความหมายอะไรก็ออกไปเลย!”

เสียงชูเหอตกใจกับสิ่งที่เขาพูดจนเธอเองก็พูดไม่ออก

เธอผลักประตูห้องสมุดออกแล้ววิ่งลงมาข้างล่าง

เธอวิ่งออกจากบ้านไป คนรับใช้เห็นเช่นนั้นก็ไปบอกกับมู่ลี่หยาน : “เมื่อสักครู่คุณผู้หญิงวิ่งออกไป……..”

มู่ลี่หยานตกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเสี่ยวชูเหอจะกล้าออกจากบ้านนี้ไปจริงๆ

เขาไม่เชื่อว่าเสี่ยวชูเหอจะจากไปจริงๆ เขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วเสี่ยวชูเหอจะต้องกลับมา

มู่ลี่หยานไม่สนใจแล้วพูดว่า : “ให้เธอเถอะ!”

…………..

เสี่ยวชูเหอตอนที่เธออกมาเธอไม่มีเงินติดตัวและไม่รู้ว่าจะไปไหน

สมัยเธอเป็นวัยรุ่นก็พอจะมีเพื่อนบ้างและเพื่อนๆของเธอก็มีฐานะทางบ้านก็ธรรมดา

พอเธอแต่งงานกับมู่ลี่หยานเธอก็ไม่ได้ติดต่อเพื่อนอีกเลยเพราะต้องคอยดูแลคนในบ้าน

ถึงจะมีเพื่อน แต่ก็เป็นเพื่อนคุณหญิงที่คบกันเวลาออกไปช้อปปิ่ง

สภาพเธอตอนนี้จะไปเจอพวกเธอได้อย่างไร

สุดท้ายเธอนึกถึงมู่นวลนวล

นึกไปถึงเมื่อก่อนมู่นวลนวลเป็นเด็กดีและก็ดีกับเธอมาก พอคิดเช่นนั้นเธอก็เรียกรถให้ไปส่งที่บ้านของโม่ถิงเซียว

แม้ว่ามูนวลนวลเคยพูดไว้ว่าเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมู่หวันฉีอีก แต่เธอไม่เชื่อว่ามูนวลนวลจะตัดความสัมพันธ์จากเธอด้วย

เมื่อก่อนเธอเคยไปที่บ้านของโม่ถิงเซียวเธอจึงพอจำที่อยู่ได้บ้าง

รถจอดห่างจากบ้านโม่ถิงเซียวไม่ไกล

เสียวชูเหอลงจากรถ แล้วเดินเข้าไป

บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูขวางเธอไว้ไม่ให้เข้าไป

“คุณเป็นใคร?”

บอดี้การ์ดทำหน้าเข้มถามเธอ

เสี่ยวชูเหอรู้สึกกลัวขึ้นมาแต่เธอนึกได้ว่าเธอเป็นแม่ของมู่นวลนวล เธอก็มั่นใจแล้วพูดว่า : “ฉันเป็นแม่ของคุณหญิงบ้านนี้ฉันมาเยี่ยมเธอ”

บอดี้การ์ดมองสำรวจเธอ สุดท้ายก็บอกเธอว่า : “รอก่อน”

บอดี้การ์ดท่าทางเย็นชา แล้วเดินไปอีกฝั่งกดโทรศัพท์โทรหาโม่ถิงซียว

หลังจากที่มู่หวันฉีขับรถชนมู่นวลนวลโม่ถิงเซียวระมัดระวังความปลอดภัยของเธอเป็นอย่างมาก โม่ถิงเซียวบอกกับพวกเขาว่าถ้าหากมู่นวลนวลจะออกไปข้างนอกให้มีคนติดตามไปด้วย และถ้าเกิดว่ามีใครเข้ามาหามู่นวลนวลก็ให้โทรบอกเขาก่อน

โม่ถิงเซียวรับโทรศัพท์

“คุณชายครับมีผู้หญิงคนหนึ่งเธออ้างว่าเป็นแม่ของคุณผู้หญิงและบอกว่ามาเยี่ยมเธอครับ”

มู่ถิงเซียวอยู่ในที่ประชุมนั่งอยู่ภายใต้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เขาเหลือบมองพวกเขาและพูดสองคำอย่างไม่แยแส : “ไล่ไป”

“ครับ”

ตัดสายก็ว่างโทรศัพท์ไว้ข้างๆ : “พูดต่อ”

โม่ถิงเซียวมาทำงานที่มู่กรุ๊ปได้ไม่ถึงครึ่งเดือน

บริษัทของตระกูลมู่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ในตลาดเซี่ยงไฮ้ และอุตสาหกรรมภายใต้มู่กรุ๊ปก็ครองตลาดเศรษฐกิจเกือบครึ่งหนึ่งและทุกสาขาอาชีพก็มีแนวโน้ทที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่การจะฟื้นเศรษฐกิตของมู่กร๊ปไม่ใช่เรื่อง่าย

อย่างไรก็ตามการกระทำหลายอย่างที่มู่ถิงเซียวทำหลังจากมาถึงบริษัท ทำให้ผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นของบริษัทมองเขาด้วยความชื่นชม

พอตัดสายบอดี้การ์ดก็สื่อสารกันด้วยสายตา

เสี่ยวชูเหอเห็นเช่นนั้น คิดว่าพวกเขาถามมู่นวลนวลแล้ว : “เห็นไหมละ ฉันไม่ได้โกหกพวกคุณ”

บอดี้การ์ดพูออย่างเย็นชา : “คุณผู้หญิงไม่อยู่ไว้วันหลังคุณค่อยมาเจอเธอใหม่”

“ตอนเย็นเธอคงกลับมา? ฉันเข้าไปรอเธอข้างในก็ได้………..”เสี่ยวชูเหอยังไม่ทันได้พูดจบเธอก็โดนหิ้วออกไป

บอดี้การ์ดไม่ต่อปากต่อคำกับเธอและหิ้วเธอออกไป

บอดี้การ์ดโยนเธอไว้ที่ข้างถนน น้ำเสียงของบอดี้การ์ดพูดถากถางเธอเล็กน้อย: “คุณผู้หญิงของเราไม่ใช่ว่าใครจะเข้าพบได้ง่ายๆ”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท