ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 254 ได้พาดหัวข่าวหลายรายการ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

หลังจากที่มู่นวลนวลพูดจบ เธอก็จ้องมองไปที่โม่ถิงเซียว

สีหน้าท่าทางของโม่ถิงเซียวเคร่งขรึมมากจนน่ากลัว ราวกับสิงโตที่โกรธจัด เขาอาจพุ่งเข้ามากัดมู่นวลนวลได้ทุกเมื่อ

ตอนที่มู่นวลนวลพูดถ้อยคำเหล่านั้นปะปนไปด้วยความโกรธ

เธอไม่อยากจะเชื่อว่า จู่ๆโม่ถิงเซียวจะกลายเป็นคนไม่มีเหตุผล

หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าท่าทางของโม่ถิงเซียวก็ผ่อนคลายลง เขาค่อยๆพูดออกมาว่า:“ในเมื่อเธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถเอาชนะตระกูลโม่ได้ งั้นเธอก็สงบจิตสงบใจและเชื่อฟัง”

เขากัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

มู่นวลนวลหรี่ตาลง เธอยังไม่ทันได้พูด โม่ถิงเซียวก็พูดอีกว่า

“ส่วนลูก?เธอก็อย่าคิดทำอะไรที่มันถูกต้อง โม่ถิงเซียวยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เดินออกไป

มู่นวลนวลที่นั่งอยู่บนโซฟาก้มองดูโม่ถิงเซียวออกไป

เธอจ้องไปที่ประตูที่ปิดอยู่ครึ่งวินาที ก่อนที่จะเอนหลังลงที่โซฟาอย่างท้อแท้ใจกับเรื่องวันนี้

ในตอนเช้าที่เธอยังครึ่งหลับครึ่งตื่น มีคนรับใช้มาเรียกเธอและบอกว่าคุณปู่เรียกให้เธอไปหา

จากนั้นเธอก็ไปหาเจ้าสัวโม่ แต่เจ้าสัวโม่ไม่ได้อยู่ที่ห้อง เธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง จึงเดินไปที่บันได และเจ้าสัวโม่ก็ตกลงจากบันไดไปแล้ว

ทันทีที่ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล เจ้าสัวโม่ก็อยู่ในห้องผ่าตัด โม่ชิงเฟิงสอบถามคนรับใช้

คนรับใช้บอกว่าได้ยินเสียงเธอจึงเข้าไป และพบว่าเจ้าสัวโม่ตกลงมาแล้ว ในตอนที่โม่ถิงเซียวกำลังซักถามโม่ชิงเฟิง โม่เอินหยาก็โผล่ออกมาพูดว่ามู่นวลนวลมีเหตุผลที่จะทำร้ายคุณปู่……

เหตุผลที่โม่เอินหยาพูดนั้นน่าขบขันมาก เป็นไปได้ยังไงที่เธอจะทำร้ายคุณปู่ เพราะฉินซุ่ยซาน

คนธรรมดาย่อมรู้ดีว่าเหตุผลนี้ไม่ชอบธรรม

แต่โม่ถิงเซียวก็เชื่อคำพูดของโม่เอินหยา ตั้งแต่เขากลับมาเมื่อคืน ทุกคำที่เขาพูดล้วนแต่ซักถามเธอด้วยความสงสัย

เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร โม่ถิงเซียวก็บอกว่าให้ตำรวจสอบสวนเรื่องนี้ พูดไปพูดมาก็คือสงสัยเธอ

นี่เป็นจุดที่น่าสงสัยอย่างชัดเจน

โม่ถิงเซียวดูเหมือนจงใจจะเอาเรื่องเธอ

ทำไมโม่ถิงเซียวถึงต้องทำอย่างนี้?

ในเวลานี้ด้วยนิสัยของโม่ถิงเซียวแล้ว การตอบสนองปกติของเขาจะไม่ดึงเธอเข้ามาในเรื่องนี้ แต่จะไปสืบหาความจริง?

เว้นแต่……

เว้นแต่โม่ถิงเซียวจะรู้ความจริง และรู้ว่าใครทำเรื่องนี้!

ถ้าอย่างนั้นที่เขาดึงมู่นวลนวลเข้ามาในเรื่องนี้ก็เพื่อจุดประสงค์อื่น?

มู่นวลนวลรู้สึกว่าตัวเองคิดออกแล้ว แต่ไปๆมาๆก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น

คิดๆแล้วก็เผลอหลับไป

เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่บนเตียง

มู่นวลนวลลุกขึ้นนั่งบนเตียง เธอรู้สึกว่าที่ข้างๆเธอว่างเปล่า และพบว่าไม่มีร่างโม่ถิงเซียว

เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอเผลอหลับไปบนโซฟา

โม่ถิงเซียวกลับมา?

มู่นวลนวนใส่เสื้อผ้าแล้วลุกจากเตียงไปเปิดประตู ที่หน้าประตูยังคงมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่

ซือเย่ไม่อยู่ บอดี้การ์ดก็ดูคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่คฤหาสน์ของโม่ถิงเซียว

เธอสงบจิตใจ และถามพวกเขาว่า:“เมือคืนโม่ถิงเซียวกลับมาหรอ?”

บอดี้การ์ดตอบตามความจริง:“คุณชายกลับมากลางดึก ฟ้าไม่ทันสว่างก็ออกไป”

“เขาพูดอะไรรึเปล่า?” มู่นวลนวลขมวดคิ้วและถามอย่างกังวล

บอดี้การ์ดส่ายหัว

มู่นวลนวลเม้มริมฝีปากและถามอีกว่า:“งั้นพวกคุณรู้ไหมว่าเจ้าสัวโม่เป็นยังไงบ้าง?”

บอดี้การ์ดยังคงส่ายหัว

มู่นวลนวลปิดประตูและกลับเข้าห้อง

คิดไปคิดมาแล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะโทรศัพท์หาโม่ถิงเซียว

แต่เธอหาโทรศัพท์ของตัวเองไม่เจอ

เมื่อคืนโม่ถิงเซียวกลับมาแล้ะหยิบโทศัพท์ของเธอไป?”

มู่นวลนวลจึงเดินไปเปิดประตู และถามบอดี้การ์ด:“เอาโทรศัพท์มาไหม?เอามาให้ฉันยืมหน่อย”

บอดี้การ์ดไม่ได้ให้โทรศัพท์กับมู่นวลนวล แต่ถามกลับว่า:“คุณหญิงจะเอาไปโทรหาคุณชายหรอครับ?”

มู่นวลนวลงงงวย แต่เธอพยักหน้าและตอบว่า:“อืม”

บอดี้การ์ดโทรหาโม่ถิงเซียวและส่งโทรศัพท์ให้มู่ถิงนวล:“คุณหญิง”

โทรศัพท์ดังขึ้นสักพักก่อนจะเชื่อมต่อ

เสียงของโม่ถิงเซียวแหบนิดหน่อย

“มีอะไร?”

น้ำเสียงของโม่ถิงเซียวเย็นชามาก และน้ำเสียงของมู่ถิงนวลก็เย็นชาเช่นกัน:“เมื่อคืนคุณกลับมาหรอ?”

น้ำเสียงของโม่ถิงเซียวดูเหมือนจะไม่อดทน:“มีอะไรก็พูดมา”

“คุณปู่เป็นยังไงบ้าง?”

“ยังไม่ฟื้น”

“โทรศัพท์ของฉันล่ะ?”

“ไม่รู้”

มู่นวลนวลรู้สึกอึดอัดใจตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ และตอนนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดระบาย:“แมร่งเอ่ยไร้สาระ เมื่อคืนคุณกลับมาและหยิบโทรศัพท์ฉันไปใช่ไหม?”

ไม่รอให้โม่ถิงเซียวพูด มู่นวลนวลก็พูดต่อ:“คุณกลัวว่าฉันจะเห็นอะไรในโทรศัพท์หรอ?หรือกังวลว่าฉันจะโทรหาใคร?”

“ถ้าไม่มีอะไรก็แค่นี้นะ”

หลังจากที่โม่ถิงเซียวพูดจบเขาก็วางสาย

มู่นวลนวลก็ทนไม่ไหวจึงวางสาย และส่งโทรศัพท์คืนให้บอดี้การ์ด:“ขอบคุณ”

จากนั้นเธอก็หันกลับและเข้าไปในห้อง

เธอเข้าไปในห้องและเตะประตูสองครั้ง

โม่ถิงเซียว ไอโง่เง่าเต่าตุ่น!

ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอกอีกครั้ง

“คุณหญิง ทานอาหารค่ะ”

น้ำเสียงฟังดูคุ้นหู

“ถ้าคุณไม่กิน ก็นึกถึงลูกที่อยู่ในท้อง”

มู่นวลนวลขมวดคิ้ว คนรับใช้ของตระกูลโม่จะพูดเช่นนี้เหรอ

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดวงตาของมู่นวลนวลก็สว่างขึ้นแล้วเธอก็วิ่งไปเปิดประตู:“เสี่ยวเหลียง!”

คนที่มาคือเซินเหลียง

เมื่อเซินเหลียงเห็นเธอก็พูดด้วยความโกรธ:“ยังไม่อยากกินข้าว ดูสิว่าจะทนได้ไหม!”

“เข้าไปก่อนเถอะ”

คนที่พูดคือกูจื่อหยาน เขายืนอยู่ข้างหลังเซินเหลียง

มู่นวลนวลรู้ว่าที่หน้าประตูไม่ใช่ที่ที่จะคุุยกัน เธอจึงเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามา และปิดประตู

มู่นวลนวลกินไปพลางถามไปพลาง:“พวกเธอมาได้ยังไง?

มู่นวลนวลเปิดประเด็น

เซินเหลียงหยิบหนังสือพิมพ์ส่งให้มู่นวลนวล และเขี่ยโทรศัพท์อยู่สักครู่ จากนั้นก็ส่งให้มู่นวลนวลดูอีก

มู่นวลนวลเปิดหนังสือพิมพ์ก่อน

มากกว่าครึ่งหน้าเป็นเรื่องของเจ้าสัวโม่

นักข่าวเขียนข้อความที่เป็นการคาดเดา และประโยคสุดท้ายได้ชี้ตัวผู้ต้องสงสัยไปที่มู่นวลนวล

เซินเหลียงถามเธออย่างกังวลว่า:“นวลนวล เธอยังไม่เห็นข่าวหรอ?”

มู่นวลนวลโยนหนังสือพิมพ์ทิ้ง แล้วหยิบโทรศัพท์ของเซินเหลียงขึ้นมา:“โทรศัพท์หาย”

เรื่องที่เจ้าสัวโม่ตกบันได ไม่ได้ทำให้คนสนใจมากนัก

แต่สาเหตุที่ทำให้คนสนใจคือคนที่ผลักเจ้าสัวโม่ตกลงมา เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นหลานสะใภ้ของเขา

บุญคุณความแค้นของคนรวย คนส่วนใหญ่จึงอยากรู้อยากเห็น

เรื่องนี้ได้รับความนิยมมาก และได้พาดหัวข่าวหลายรายการ

หลังจากที่ถูกโม่ถิงเซียวสงสัย ไม่ว่าจะเห็นอะไร มู่นวลนวลก็ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว เธอเพียงแค่เงยหน้ามองเซินเหลียงและถามว่า:“เธอเชื่อว่าฉันเป็นคนผลักเจ้าสัวโม่ไหม?”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท