ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 278 ฉันเห็นใจคุณจริงๆ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ตอนนี้เพิ่งจะถึงไฟแดง ซือเย่ชะโงกหน้าไปมอง พบว่าโม่ถิงเซียวชี้ไปในรูปถ่ายที่มีกลุ่มคนอยู่ด้านหลังของมู่นวลนวล

เพิ่งจะมองเข้าไป ซือเย่ก็ไม่ได้รู้สึกมีอะไรผิดปกติ

ซือเย่พูดประโยคที่จริงจัง“นี้คือคนที่ผ่านมาแถวนั้น”

โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมอง น้ำเสียงน่าเกรงขาม“คนพวกนี้เมื่อก่อนไม่เคยเห็น”

ซือเย่สีหน้าอธิบายไม่ได้“หา?”

หลายเดือนมานี้ โม่ถิงเซียวไม่ได้ไปซิดนีย์ เขามองเห็นมู่นวลนวล เพียงแค่ในรูปถ่ายของมู่นวลนวล

หรือว่าปกติที่เขาดูรูปถ่ายของมู่นวลนวล ยังจำทุกคนที่ปรากฏอยู่ในฉากหลังรูปถ่ายของมู่นวลนวลได้?

ซือเย่ในใจยังรู้สึกประหลาดใจ ได้ยินเสียงพูดอย่างหนักแน่นของโม่ถิงเซียว“ให้คนไปตรวจสอบว่าคนพวกนี้เป็นใคร ให้พวกเขาจับตามองอย่างละเอียด”

“ได้”ซือเย่ตอบรับ

ซือเย่ขับรถมาถึงคอนโดและจอดรถด้านหน้าตึก

หลังจากที่เขามองตามโม่ถิงเซียวเข้าไปแล้ว จึงจะออกไป

โม่ถิงเซียวเปิดประตู ภายในห้องมืดสนิท

เขายื่นมือไปเปิดไฟในห้อง เดินตรงเข้าไปในห้องนอน

รูปถ่ายของมู่นวลนวลติดเต็มไปทั่วห้องนอน

รูปถ่ายพวกนี้ ทั้งหมดอยู่ภายในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาส่งลูกน้องไปซิดนีย์ถ่ายรูปกลับมา บางภาพชัดเจน บางภาพเลือนลาง

ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพที่เบลอแต่สามารถมองเห็นเค้าโครงของรูปถ่ายชัดเจน โม่ถิงเซียวก็ตัดใจไม่ได้ที่จะลบทิ้ง และยังล้างรูปออกมาด้วยตัวเอง

โม่ถิงเซียวถอดเสื้อโค้ทออก ค่อยๆม้วนแขนเสื้อไปที่ปลายแขน เดินไปด้านหน้าเครื่องพิมพ์ นำโทรศัพท์กับเครื่องพิมพ์เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เริ่มพิมพ์รูปถ่ายของวันนี้

ในเวลาที่มู่นวลนวลนอนหลับจนถึงเที่ยงคืน ก็ถูกเสียงเพลงที่ดังกึกก้องเสียงดังสนั่นหูปลุกให้ตื่น

เธอลืมตาขึ้นมาในความมืด นอนงงงวยอยู่บนเตียงหลายนาที จึงแยกแยะออกว่าเสียงเพลงมาจากบ้านข้างๆ

วัยรุ่นมีกำลังวังชาเธอรู้ แต่ว่ามีกำลังวังชาก็สามารถไม่มีมารยาทจัดปาร์ตี้เที่ยงคืนสนุกสนานอย่างสุดเหวี่ยงเสียงดังโวยวายปลุกคนอื่น?

มู่นวลนวลลุกขึ้นยืน เดินไปถึงหน้าต่าง เปิดผ้าม่านมุมหนึ่งออกและมองออกไปด้านนอก

บ้านที่เธออาศัยกับบ้านข้างๆกั้นไว้ด้วยกำแพงรั้ว จากบ้านเธอมองออกไป พอดีกลับที่สามารถมองเห็นกองไฟที่กำลังสุมอยู่ในลานบ้าน และคนที่นั่งอยู่รอบๆ

กองไฟที่สุมอยู่แสงเพลิงสว่างไสว ระยะห่างไม่ไกลมาก มู่นวนวลก็จำวัยรุ่นในจำนวนนั่นได้ ก็คือในเวลากลางวันที่เธอออกไปทานอาหาร พบเจอที่หน้าประตูบ้านข้างๆ

เธอยังจำรูปร่างของพวกเขาและเสื้อผ้าที่สวมใส่ในตอนกลางวันได้

เขตพื้นที่นี้ห่างไกลจากในตัวเมืองมาก ส่วนใหญ่คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คือคนชราที่เกษียณ และกลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นก็สะดุดตาเกินไป เป็นธรรมชาติที่จะจำได้ไม่ยาก

ในจำนวนนั้นยังมีบางส่วนที่มู่นวลนวลไม่เคยเห็นในตอนกลางวัน มีบางคนที่ไม่เคยเห็น มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง กำลังนัวเนียกันมองก็รู้ว่าไม่ได้ทำเรื่องที่ดี…

พวกเขาเคลื่อนไหวเสียงดังเอะอะมาก ไม่เพียงเสียงดังโวยวายรบกวนมู่นวลนวลแค่คนเดียว แต่ไม่มีคนออกมาห้ามพวกเขา

ดูเหมือนว่ากลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้กวนโมโหได้ง่ายๆ และมู่นวลนวลโดดเดี่ยวคนเดียวยังตั้งครรภ์อีก เป็นธรรมชาติที่จะไม่กล้าพูดอะไร

เธอกลับไปที่บนเตียง ดึงผ้านวมขึ้นมาเหนือศีรษะ คลุมตัวเองไว้อย่างแน่น ก็ยังปิดกั้นเสียงดังสนั่นไม่ได้

จนกระทั่งใกล้ถึงเวลารุ่งสาง จึงค่อยๆเงียบลง

มู่นวลนวลหลับไม่เต็มอิ่มทั้งคืน ตอนเช้าก็ไม่มีชีวิตชีวา ปิ้งขนมปังสองแผ่นให้ตัวเองอย่างเหนื่อยล้า

ในเวลาที่เธอกำลังรอไข่ต้มสุก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก

มู่นวลนวลหันหน้ากลับไปมองทางประตู ขมวดคิ้วขึ้น เดินไปที่ประตู

มองไปที่ช่องประตู พบว่าเป็นเด็กผู้หญิง มู่นวลนวลก็เปิดประตู

เด็กผู้หญิงทักทายเธอก่อน“สวัสดี!”

“สวัสดี มีธุระอะไร?”มู่นวลนวลเปิดประตูครึ่งหนึ่งและยืนกั้นอยู่หน้าประตู ไม่คิดจะให้เด็กผู้หญิงเข้ามาในบ้าน

เด็กผู้หญิงคนนี้ใส่เสื้อกันหนาวสีชมพูที่มีหมวก ช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้นจนจะเห็นก้นแล้ว ดูเหมือนว่าอายุยังไม่มาก

ในเวลาที่มู่นวลนวลกำลังสังเกตเด็กผู้หญิง เด็กผู้หญิงก็กำลังสังเกตเธอ

สายตาของเด็กผู้หญิงหยุดอยู่ที่บนท้องของเธอ หลังจากนั้นก็ย้ายมาที่ใบหน้าของมู่นวลนวลอีกครั้ง ใช้ภาษาอังกฤษพูดกับเธอ“สามารถยืมใช้ของน้ำของคุณได้ไหม?ในบ้านเพื่อนฉันคนเยอะมาก อยากจะเข้าห้องน้ำก็ต้องต่อแถว ฉันรีบมาก”

มู่นวลนวลลังเลอยู่สองวินาที และพูด“ขอโทษด้วย สามีของฉันอยู่ในห้องน้ำ เขามีปัญหาเรื่องท้องผูก ถ้าเธอไม่ถือสารอประมาณหนึ่งชั่วโมง…”

“พระเจ้า…”เด็กผู้หญิงก็แสดงสีหน้าประหลาดใจเกินจริง“ฉันเห็นใจคุณจริงๆ”

หลังจากนั้น เด็กผู้หญิงก็หมุนตัวกลับออกไป

มู่นวลนวลก็รูปปิดประตูอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ หลังจากที่เธอปิดประตูแล้ว ไม่ได้กลับไปที่ห้องครัวโดยตรง แต่มองไปที่ช่องประตู

มองจากช่องประตู เธอมองเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นเดินกลับไปพบเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

ก็ไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงพูดอะไรกับเด็กผู้ชาย เด็กผู้ชายก็มองตรงมาที่ประตูบ้านของมู่นวลนวล

ถึงแม้ว่ามู่นวลนวลรู้ พวกเขามองไม่เห็นเธอ แต่ว่าก็ยังตื่นตกใจ

วัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

เมื่อกี้เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่จะมายืมใช้ห้องน้ำอย่างแน่นอน อาจจะมาลองทดสอบว่าเธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวหรือไม่

เด็กผู้หญิงอายุสิบกว่าปีชอบแสวงหาความตื่นเต้น เรื่องอะไรก็สามารถทำได้หมด

มู่นวลนวลไม่เคยคิดที่จะคาดเดาผู้อื่นด้วยเจตนาร้าย แต่ว่าพฤติกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนี้น่าสงสัย

กลับมาที่ห้องครัว ความคิดที่จะทานอาหารของมู่นวลนวลก็ไม่มีแล้ว

ไม่อย่างนั้นก็ต้องย้ายออกไปพักที่อื่นก่อนสองสามวัน?

มู่นวลนวลยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกจิตใจไม่สงบ

กลุ่มคนนั้นที่อยู่ข้างบ้านเมื่อคืนเล่นกันอย่างบ้าคลั่งทั้งคืน ตอนนี้น่าจะนอนหลับกันอยู่ ถ้าหากว่าเธอออกไปตอนี้ น่าจะไม่พบกับพวกเขาแล้ว

คิดแบบนี้ มู่นวลนวลก็เก็บเสื้อผ้าหนึ่งชุดง่ายๆ สะพายกระเป๋าแล้วออกไป

เธอกวนโมโหไม่ได้ก็จำเป็นต้องหลบซ่อน

มู่นวลนวลล็อกประตูดีแล้ว มองไปรอบด้าน แน่ใจว่าไม่มีคน จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าด้วยความวางใจเล็กน้อย

เพียงแต่ ในเวลาที่เธอเดินมาถึงลานหน้าบ้าน จึงพบว่ามีคนหนึ่งคนยืนพิงอยู่ที่กำแพง

เป็นคนพื้นเมืองผมสีทองในตาสีฟ้า สวมใส่เสื้อสีแดง ใบหน้าเห็นได้ชัดว่ายังอ่อนวัยแต่มีรูปร่างสูงมาก ดังนั้นทั่วทั้งตัวดูเหมือนว่าผอมมาก

เขาใช้มือพยุงกำแพงรั้วไว้ กระตุกริมฝีปากและยิ้มชั่วร้าย“สวัสดี คนสวย”

จิตใต้สำนึกของมู่นวลนวลสั่งให้ถอยหลังไปสองก้าว พยักหน้าแสดงออกทักทาย จะหันกลับเดินไปอีกด้านหนึ่ง

เห็นว่ามู่นวลนวลเดินไป เด็กผู้ชายก็เดินตามไป

เขาเดินตามมู่นวลนวลพลางใช้ภาษาอังกฤษพูด“ไม่ต้องรีบไป เมื่อวานพวกเราเพิ่งจะเจอกันไม่ใช่เหรอ?คุณจำผมไม่ได้แล้ว?”

มู่นวลนวลเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน รีบเร่งฝีเท้า

แต่ว่า เด็กผู้ชายสูงกว่าเธอ ขาก็ยาวกว่ามาก เดินสามก้าวก็ไล่ตามทันแล้ว ดึงเธอไว้แน่นเริ่มพูดอย่างไม่พอใจ“ผมกำลังพูดกับคุณ คุณไม่ได้ยินเหรอ?คุณฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ?คุณมาจากที่ไหน?”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท