กูจื่อหยานเห็นโม่ถิงเซียวหยุดเดินแล้วคิดว่าโม่ถิงเซียวกำลังฟังที่เขาพูด แล้วจึงพูดต่อ : “คิดถึงเธอขนาดนี้ก็ไปรับเธอกลับมาสิ”
สายตาที่เย็นชาของโม่ถิงเซียวที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาเดินตรงไปเปิดประตูแล้วก็จากไป
กูจื่อหยานบ่นกับตัวเอง : “มีเมียแล้วไม่สนในเพื่อน…………”
………….
มู่นวลนวลพักที่โรงแรม 2 วันแล้ว วันหนึ่งนอกจากทานข้าวและนอนเธอก็ไม่มีเรื่องอื่นจะต้องทำ และยังง่วงอยู่ตลอดเวลา
เวลาเธอว่างๆเธอชอบออกไปเดินเล่นข้างนอก
เธอไม่ได้ซื้อของและไม่ได้ออกไปทำธุระอะไร เพียงแค่เดินไปเรื่อยๆโดยไม่มีเป้าหมาย
เป้าหมายของเธอก็คือดูให้แน่ใจว่าโม่ถิงเซียวไม่ได้สั่งให้คนมาสะกดรอยตามเธอ
เมื่อก่อนเธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้แต่สองวันที่ผ่านมาเธอสังเกตุเห็นว่าสะกดรอยมีคนตามเธออยู่
และเป็นบอดี้การ์ดที่ฝีมือดี ถ้าหากเธอไม่สังเกตุจะไม่รู้สึกตัวและจะมองไม่เห็นพวกเขาได้ง่ายๆ
เรื่องนี้ทำให้เธอจำเป็นจะต้องว่างแผนหนีออกจากซิดนีย์
แต่เธอเพียงยังคิดไม่ออกว่าจำทำอย่างไร เพราะการปรากฏตัวขึ้นของคนพวกนั้นทำให้แพลนของเธอที่วางไว้ต้องหยุดชะงักลง
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอทำเหมือนกับสองวันที่แล้ว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็จะออกไปข้างนอก
พอเธอเปิดประตูห้องออกก็เห็นกระเป๋าสีดำว่างอยู่หน้าห้อง ทำให้เธอตกใจ และเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
“พี่นวลนวล!”
มู่นวลนวลได้ยินเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมอง ก็ได้เห็นโม่เจียเฉินยืนยิ้มหน้าบานอยู่ตรงหน้า
พอเห็นมู่นวลนวลเงียบไปโม่เจียเฉินจึงทำท่าทีน้อยใจ: “พี่นวลนวล ไม่ได้เจอกันนาน ไม่รู้จักผมแล้วหรอ?”
โม่เจียเฉินเป็นวัยที่กำลังเติมโต ไม่ได้เจอแค่ 4-5เดือน ตัวโตขึ้นเยอะมาก
เขาใส่เสื้อยืดสีขาวและกางเก่งยีนสีดำแต่งตัวธรรมดา ให้อารมณ์เด็กวัยรุ่นที่มีพลังเต็มเปี่ยม
มู่นวลนวลตกใจแล้วพูดขึ้น : “เสี่ยวเฉิน?มาได้ยังไง?”
“ผมมาเยี่ยมพี่” เขายิ้มแล้วก้มหน้าเข้าใกล้หูมู่นวลนวลมีลับลมคมในแล้วพูด: “ผมจะบอกความลับกับพี่ จริงๆแล้วผมหนีออกจากบ้านมา”
มู่นวลนวลเบิกตากว้างพูดอย่างไม่แยแส : “นายคิดว่าฉันจะเชื่อนายหรอ?”
“เฮยเฮย!” โม่เจียเฉินยิ้ม: “รับผมไว้เถอะนะ?”
มู่นวลนวลไม่เชื่อในสี่งที่โม่เจียเฉินพูดแต่ก็ต้องรับเขาไว้
เธอไปเปิดห้องให้โม่เจียเฉินแล้วก็พาเขาไปทานข้าว
โม่เจียเฉินโตที่เมืองนอก ภาษาดีมากแถมยังหล่อมากๆด้วย ในขณะที่ทั้งสองทานข้าวอยู่นั้นก็มีสาวเล็กสาวใหญ่เข้ามาขอเบอร์โทรเขาอยู่ตลอด
คนตระกูลโม่เสน่ห์แรงไม่เบาจริงๆ ตั้งแต่โม่ถิงเซียวจนมาถึงโม่เจียเฉิน แรงดึกดูดฝ่ายตรงข้างไม่เบาเลยทีเดียว
ผู้หญิงที่เขามาขอเบอร์เขาถูกเขาปฏิเสธอย่างทันควัน
มู่นวลนวลไม่สนใจและก้มหน้าทานข้าวต่อ
สักพักโม่เจียเฉินเรียกเธอ : “พี่นวลนวล”
“มีอะไร?”
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมา เห็นโม่เจียเฉินยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปธอ
เธอขมวดคิ้ว : “นายจะทำอะไร?”
“ถ่ายรูปหน่อยนะ” โม่เจียเฉินพูดจบแล้วกดถ่ายรูป ถ่ายเสร็จจึงว่างโทรศัพท์ลง
มู่นวลนวลหยุดชะงักไปและไม่ได้ว่าอะไรเขา
โม่เจียเฉินลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
มู่นวลนวลจึงหยิบโทรศัพท์เขามาดู
เธอเข้าไปที่วีแชท แชทที่ปักหมุดไว้ข้างบนคือแชทของโม่ถิงเซียว
มู่นวลนวลแอบลังเลแต่ก็เปิดเข้าไปอ่านข้อความ
ข้อความล่าสุดที่ส่งไป เขาส่งไปเมื่อ 2-3 นาทีก่อน สิ่งที่เขาส่งไปเป็นวิดีโอสั้นๆ
มู่นวลนวลเปิดดูก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหู
“พี่นวลนวล”
“อะไร?”
เป็นคลิปที่โม่เจียเฉินพึ่งจะถ่ายไป
แล้วเลื่อนขึ้นไปดูข้อความข้างบน เป็นข้อความที่โม่ถิงเซียวและโม่เจียเฉินคุยกัน
ข้อความส่วนมากเป็นข้อความจากโม่เจียเฉินที่ส่งไป
“พี่นวลนวลจะรับผมไว้หรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจผมนะ?”
“หรือผมจะไม่ไป พี่ไปเองเถอะ”
“ตอนนี้ผมถึงซิดนีย์แล้ว กำลังจะนั่งรถไปที่โรงแรมที่พี่นวลนวลพักอยู่”
“…………..”
แต่โม่ถิงเซียวไม่ค่อยตอบข้อความเขา บางครั้งตอบกลับมาว่า “อืม”
มู่นวลนวลมองไปที่ห้องน้ำแล้วว่างโทรศัพท์ไว้ที่เดิม
แม้จะไม่ได้ดูโทรศัพท์โม่เจียเฉินเธอก็รู้อยู่แล้วว่าโม่ถิงเซียวสั่งให้เขามาที่นี้
แต่ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าด้วยนิสัยของโม่ถิงเซียวแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะใช้วิธีนี้เข้าหาเธอ
พอเธอดูโทรศัพท์ของโม่เจียเฉินแล้วเธอจึงมั่นใจว่าสิ่งที่เธอคาดเดาไว้นั้นมันเป็นความจริง
โม่ถิงเซียวรู้ว่ามู่นววลนวลอยู่ที่ซิดนีย์ และเจอเธอแล้วแต่เขาไม่อยากทำให้เธอตื่นตัวจึงสั่งให้คนค่อยเฝ้าเธอไว้ ถ้าเกิดเธอไม่ได้จองห้องโม่ถิงเซียวก็คงหาตัวเธอไม่เจอ
ในขณะที่เธอเตรียมตัวจะหนีไปแต่โม่เจียเฉินกลับปรากฏตัวขึ้น
ที่โม่ถิงเซียวส่งโม่เจียเฉินมาหาเธอ นั้นคือกำลังจะบอกเธอว่าจะหนีอย่างไรก็หนีไม่รอดหรอ?
มู่นวลนวลและโม่เจียเฉินเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โม่ถิงเซียวเขามั่นใจว่ามู่นวลนวลคงไม่กล้าจะเมินโม่เจียเฉิน
โม่ถิงเซียวไม่ส่งบอดี้การ์ดมาสะกดรอยตามเธอแล้ว แต่ส่งโม่เจียเฉินมาคอยติดตามเธอแทน
ถ้าหากว่าคนที่ถูกจับตาดูไม่ใช่เธอ เธออยากจะยกนิ้วให้โม่ถิงเซียวเพื่อชมเขา
โม่เจียเฉินกลับมาจากเข้าห้องน้ำเขาเห็นสีหน้ามู่นวลนวลไม่ค่อยดี เขาเป็นห่วงและถามเธอ: “พี่นวลนวลเป็นอะไรหรอพี่?ไม่สบายหรอ?”
มู่นวลนวลเบิกตาขึ้นอย่างช้าๆ : “ไม่มีอะไร ทานเสร็จแล้วก็กลับกันเถอะ”
กลับถึงโรงแรมมู่นวลนวลจึงโทรหาเซินเหลียง
ช่วงครึ่งปีนี้เซินเหลียงงานเยอะมาก ไม่ค่อยว่าง ทั้งสองติดต่อกันน้อยมาก บางครั้งสายก็ตัดไปโดยไม่รู้สาเหตุ
เซินเหลียงรับโทรศัพท์เร็วมาก : “นวลนวล”
มู่นวลนวลได้ยินเสียงเธอก็รู้ทันที่ว่าเธอเหนื่อยมาก : “ช่วงนี้ยังยุ่งอยู่เหมือนเดิมหรอ?”
“ใช่ ฉันจะไม่ไหวแล้ว ฉันคิดว่ากูจื่อหยานตั้งใจจะแกล้งฉัน คงจะอยากเห็นฉันเหนื่อยตายละสิ…………”
ทุกครั้งที่เธอพูดถึงกูจื่อหยานเธอจะหยุดพูดไม่ได้และด่าเขาให้มู่นวลนวลฟังตลอด
มู่นวลนวลพูด : “เขาทำเพื่อเธอ เข้าอยากให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดัง”
เซินเหลียงจึงไม่พูดเรื่องนี้ต่อ แล้วถามมู่นวลนวล : “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? ฉันให้เพื่อนของฉันที่อยู่ซิดนีย์หาโรงพยาบาลดีๆที่นั้นไว้ให้แล้ว ถึงเวลาคลอดเธอเข้าไปพักที่นั้นได้เลย…………”
แม้ว่าเธอจะยุ่งมากๆแต่ก็ยังเป็นห่วงมู่นวลนวลมากเช่นกัน
มู่นวลนวลอยากจะเลาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ยังลังเลอยู่ สุดท้ายเธอจึงบอกกับเซินเหลี่ยง เรื่องที่โม่ถิงเซียวสั่งคนมาสะกดรอยตามเธอ
เซินเหลียงได้ยินเช่นนั้นจึงโมโหมาก : “โม่ถิงเซียวเป็นโรคจิตหรอ?เขาจะทำอะไรกันแน่?ถ้าเกิดเขาสั่งให้คนมาพาเธอกลับไปฉันก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่เขาสั่งให้คนมาสกดรอยตามเธอหมายความว่ายังไงกันแน่?”