พอโม่ถิงเซียวกลับมาที่ห้องของตัวเอง เขาก็ได้ไตร่ตรองคำพูดของโม่เหลียนอีกครั้ง
ไม่มีช่องโหว่ เเถมยังพูดได้อย่างสมเหตุสมผลอีกด้วย เเต่ทำไมเขากลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ
โม่ถิงเซียวคิดว่าเขาคงจะต้องไปเจอซือหมิงฮวนสะหน่อยเเล้ว
ซือหมิงฮวนเเละโม่เหลียนเป็นสามีภรรยาที่อายุน้อย เเต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของพวกเขากลับค่อยๆเเย่ลง
ในความทรงจำ ซือหมิงฮวนเป็นคนที่อ่อนโยนและพิถีพิถัน เขามีความโรเเมนติคที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน และมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เพราะต้องอยู่กับโม่เหลียน เขาจึงไม่ได้สนใจอาชีพของเขาสักเท่าไหร่
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขายุ่งอยู่กับการจัดนิทรรศการภาพวาดและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ถึงขั้นไม่ได้กลับไปฉลองเทศกาลตรุษจีนที่ตระกูลโม่เลย
โม่ถิงเซียวตัดสินใจลงไปข้างล่าง เพื่อไปถามเบอร์โทรศัพท์ของซือหมิงฮวนกับคนรับใช้
เมื่อก่อน ตอนพักอยู่ที่บ้านของโม่เหลียน เขาสนิทกับซือหมิงฮวนพอสมควร เเต่ต่อมาพอเขากลับไปที่เซี่ยงไฮ้ ทั้งสองคนก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันเเล้ว
เขาโทรหาซือหมิงฮวน
โทรศัพท์ดังอยู่สักพักถึงจะมีคนรับสาย
” สวัสดีครับ? ” น้ำเสียงของซือหมิงฮวนอ่อนโยนมาก เเละซือเฉิงยวี่ได้เขามาในส่วนนี้
โม่ถิงเซียวพูดขึ้นนิ่งๆ: ” อาเขย ผมเอง ”
น้ำเสียงของซือหมิงฮวนมีความแปลกใจเล็กน้อย: ” ถิงเซียว? ”
” ผมเอง ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน พอจะมีเวลามาคุยกันหน่อยไหม? ” ความทรงจำของโม่ถิงเซียวที่มีต่อซือหมิงฮวนยังคงหยุดอยู่เมื่อหลายปีก่อน เเต่เขารู้ว่าซือหมิงฮวนจะไม่ปฏิเสธคำขอของเขา
ซือหมิงฮวนเงียบไปสักครู่ถึงจะพูดขึ้น: ” ได้สิ เเต่ฉันไม่กลับเซี่ยงไฮ้นะ ”
” ผมอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ที่บ้านคุณ ”
คนในสายเงียบไปสักครู่
โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดเร่งซือหมิงฮวน เขาทำเพียงรอคำตอบของซือหมิงฮวนอย่างเงียบๆ
” ได้ นิทรรศการภาพวาดของฉันจะสิ้นสุดลงในบ่ายวันนี้ เเละฉันจะกลับบ้านคืนนี้ อย่าให้ป้าของนายรู้เรื่องนี้ล่ะ ”
” ผมทราบครับ ”
ซือหมิงฉวนจะกลับมาในคืนนี้ เวลาพอดีเลย
พอวางสาย โม่ถิงเซียวก็หลับตาลงเเละนึกถึงประโยคที่ซือหมิงฮวนพูดว่า ” อย่าให้ป้าของนายรู้ ” อีกครั้ง
พอวิเคราะห์ประโยคนี้อย่างถี่ถ้วนเเล้วก็พบว่ามีเนื้อหาเยอะมาก
ไม่ให้โม่เหลียนรู้ เเต่ซือหมิงฮวนกลับยอมที่จะคุยกับโม่ถิงเซียว
เเต่โม่ถิงเซียวยังไม่ได้บอกเลยว่าจะคุยกับเขาเรื่องอะไร
เห็นได้ชัดว่าซือหมิงฮวนรู้ว่าโม่ถิงเซียวต้องการคุยอะไรกับเขา
เเละนี่คือความเข้าใจระหว่างคนฉลาด
……
ตอนพลบค่ำ โม่ถิงเซียวก็ได้โทรไปหาซือหมิงฮวนอีกครั้ง พวกเขานัดเจอกันที่ร้านกาเเฟในเมือง
ตอนโม่ถิงเซียวมาถึงก็เป็นเวลาสองทุ่มพอดี
เขาสั่งกาแฟ เเละเลือกที่นั่งในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นทางเข้าโรงจอดรถได้อย่างพอดี หลังจากนั้นก็รอการมาของซือหมิงฮวน
หลังจากที่เขารอจนใกล้จะครบครึ่งชั่วโมงเเล้ว อยู่ๆก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง
หลังจากนั้นก็มีเสียงตกใจเเละเสียงฝีเท้าตามมาเป็นระยะ
” คุณพระ มีคนโดนชน! ”
” คนเจ็บเป็นยังไงบ้าง? ”
” รีบเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า ”
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนเเรกเขาไม่ได้สนใจอะไร
อยู่ๆก็เหมือนเขานึกอะไรได้ จึงรีบลุกขึ้นเเละวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
เขาเเหวกผู้คนออก เเละรีบเดินไปตรงหน้าคนที่โดนชนทันที
คนที่ถูกชนเป็นชายวัยกลางคน เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง มีเพียงคอเสื้อที่เป็นสีขาวจางๆ และใบหน้าของเขาก็ถูกชนจนมองไม่เห็นใบหน้าเดิมของเขาเเล้วด้วย
โม่ถิงเซียวนั่งยองๆ หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปเช็ดคาบเลือดที่ติดอยู่ที่ใบหน้าเขาออก ทำให้สามารถมองเห็นใบหน้าเดิมของเขาได้อย่างเลือนราง
ผู้ชายคนนั้นก็คือซือหมิงฮวน!
การกระทำของโม่ถิงเซียวชะงักไปกับที่ทันที หลังจากนั้นเขาก็เรียกซือหมิงฮวน: ” อาเขย? ซือหมิงฮวน? ”
คนที่นอนอยู่บนพื้นกระดิกนิ้วมือนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงใดๆอีกเลย
มีคนที่อยู่ด้านข้างหยิบกระเป๋าเงินของซือหมิงฮวนออกมา เเละอ่านหลักฐานในนั้น: ” ผู้ชายคนนี้ชื่อซือหมิงฮวน ”
” คุณพระ จิตรกรคนนั้นนี่นา? ”
” ลูกสาวของฉันอยากไปดูนิทรรศการภาพวาดของเขามาตลอด! ”
เเละตอนนี้ ตำรวจก็มาถึงเเล้ว
” ถอยออกไปให้หมด ถอยหน่อย ”
ตำรวจไล่คนที่มามุงดูออกไป หลังจากนั้นก็เดินมาหาโม่ถิงเซียว: ” คุณผู้ชายท่านนี้ครับ เพื่อไม่ให้เป็นการกีดขวางการทำงานของพวกเรา รบกวนคุณลุกขึ้นหน่อยครับ ”
โม่ถิงเซียวลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม หลังจากนั้นก็ถอยออกมายืนข้างๆ
เขาเห็นตำรวจยื่นมือไปคลึงที่จมูกของซือหมิงฮวนสักครู่ หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับตำรวจอีกคน: ” ไม่หายใจเเล้ว ”
……
โม่ถิงเซียวตามไปที่สถานีตำรวจ เเละตำรวจก็ได้เเจ้งให้โม่เหลียนรู้เรื่องนี้เเล้ว
ตอนโม่เหลียนมาถึง เธอดูตื่นตระหนกมาก: ” หมิงฮวนล่ะ? หมิงฮวนอยู่ไหน? ”
ตำรวจมาขวางโม่เหลียนไว้: ” คุณนายซือครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ”
พอโม่เหลียนเห็นโม่ถิงเซียว เธอก็เดินมาหาเขาทันที: ” ถิงเซียว อาเขยของแกเขาเป็นอะไร? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ? ”
โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าที่ตาบวมเเละกำลังร้องไห้ไม่หยุด หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น: ” ผมจะพาคุณไปดูเขา ”
ตอนที่โม่เหลียนเห็นศพของซือหมิงฮวน เธอก็เป็นลมลงไปทันที
โม่ถิงเซียวยืนอยู่ตรงหน้าศพของซือหมิงฮวนด้วยอารมณ์ที่หนักอึ้ง
ต่อให้ซือหมิงฮวนจะไม่ใช้พ่อแท้ๆของซือเฉิงยวี่ เเต่เขาเป็นพ่อแท้ๆของโม่เจียเฉิน
โม่เจียเฉินสนิทกับซือหมิงฮวนมาก
เรื่องของซือหมิงฮวนยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นฝีมือคนหรืออุบัติเหตุ ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชั่วคราว
โม่ถิงเซียวร่วมมือกับตำรวจตลอดกระบวนการทั้งหมด เพื่อจัดการกับเรื่องนี้
รอจนตรวจสอบเสร็จก็ดึกมากเเล้ว
ในประเทศยังเป็นตอนกลางวัน
โม่ถิงเซียวนั่งอยู่ข้างสวนดอกไม้ด้านนอกสถานีตำรวจ เเละเขาก็โทรไปหามู่นวลนวล
โทรศัพท์ดังสองครั้งมู่นวลนวลก็รับสาย
เสียงที่อ่อนโยนของมู่นวลนวลดังเข้ามาในโทรศัพท์: ” โม่ถิงเซียว? ”
” ฉันถามเธอเรื่องซือเฉิงยวี่เเล้วนะ ”
” เธอบอกว่าอะไรบ้าง ”
โม่ถิงเซียวบอกสิ่งที่โม่เหลียนได้บอกกับเขาให้มู่นวลนวลฟัง
มู่นวลนวลเงียบไปสักครู่ หลังจากนั้นก็ถามเขา: ” คุณคิดว่าเป็นแบบนั้นไหม? ”
ดูออกว่ามู่นวลนวลก็ไม่ได้เชื่อคำพูดนี้สักเท่าไหร่
เเต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเค้นเอาความจริงเรื่องนี้
โม่ถิงเซียวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มแหบ: ” อาเขยถูกรถชนเสียชีวิตเเล้วนะ ”
มู่นวลนวลครุ่นคิดสักครู่ถึงจะตอบสนองกลับมา อาเขยของโม่ถิงเซียวก็คือพ่อของโม่เจียเฉินหนิ
มู่นวลนวลถามเขา: ” เเล้วคุณบอกเสี่ยวเฉินหรือยัง? ”
” มีคนบอกเเล้ว ” ในน้ำเสียงของโม่ถิงเซียวมีความเหนื่อยล้าอยู่ในนั้น
” ตอนนี้ที่สหรัฐอเมริกาก็ดึกมากเเล้ว คุณต้องดูเเลสุภาพตัวเองด้วยนะ มีเวลาก็พักผ่อนให้เยอะๆ ” อยู่ห่างกันขนาดนี้ ก็ทำได้เพียงกำชับเขาเท่านั้นแหละ
พอมู่นวลนวลวางสาย ซือเย่ก็โทรมาหาเธอ
ที่ซือเย่บอกเธอก็คือข่าวที่ซือหมิงฮวนถูกรถชนเสียชีวิตเช่นกัน
ซือเย่ได้ยินมาจากลูกน้องของโม่ชิงเฟิง
มู่นวลนวลไม่รู้ว่าซือหมิงฮวนถูกรถชนตอนที่ไปนัดเจอกับโม่ถิงเซียว ดังนั้น จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคิดว่าเป็นเเค่อุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาๆ
สุดท้าย มู่นวลนวลก็พูดขึ้น: ” ซือเย่ นายไปสหรัฐอเมริกากับพวกเขาเถอะ พ่อของโม่ถิงเซียวก็คงจะไปสหรัฐอเมริกาพร้อมกับเสี่ยวเฉินเหมือนกัน ฉันอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ได้ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถึงอย่างไรโม่ถิงเซียวก็อยู่ต่างประเทศคนเดียว เขาคงจะไม่สะดวกสักเท่าไหร่ ”
อันที่จริงซือเย่ก็อยากไปสหรัฐอเมริกากับโม่ถิงเซียว ตอนนี้พอได้ยินมู่นวลนวลพูดแบบนี้ เขาก็ไม่กังวลอีกต่อไป เเละได้ไปสหรัฐอเมริกากับพวกโม่ชิงเฟิงในวันนั้นเลย