ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 330 ทำเรื่องที่มากเกินไป

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่เจียเฉินเหลือบมองไปที่มู่นวลนวลแล้วเดินตรงไปข้างหน้า มู่นวลนวลจึงทำได้เพียงเดินตามไป

เมื่อเธอเดินผ่านโม่เหลียนก็พยักหน้าเล็กน้อยและส่งเสียงเรียก:“คุณหญิงซือ”

จากนั้นโม่เหลียนก็พบว่ามู่นวลนวลอยู่ที่นี่

ดูเหมือนเธอจะจำไม่ได้ว่ามู่นวลนวลเป็นใคร เธอมองมู่นวลนวลด้วยความตะลึงอยู่สักพักและพูดว่า:“เธอคือ……”

“ฉันคือมู่นวลนวล อดีตภรรยาของโม่ถิงเซียว” มู่นวลนวลจ้องมองโม่เหลียนและพูดอย่างเนิบๆ

สีหน้าของโม่เหลียนดูประหลาดใจ:“ที่แท้ก็เป็นเธอ”

“ฉันยังมีธุระ คงไม่ได้อยู่คุยกับคุณหญิงซือแล้ว” แล้วมู่นวลนวลก็เดินตามโม่เจียเฉินไป

เมื่อเธอหาโม่เจียเฉินเจอ เขายืนหันหลังอยู่ที่น้ำพุคนเดียว และก้มหัวลงต่ำ

มู่นวลนวลเดินไปข้างหน้า เธอเห็นร่องรอยของคราบน้ำบนใบหน้าของเขา ดูเหมือนจะเป็นน้ำตา

โม่เจียเฉินร้องไห้

มู่นวลนวลดึงกระดาษทิชชู่ส่งให้เขา

โม่เจียเฉินไม่ได้รับ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า:“ช่วงหลายปีที่ผ่านมาพ่อของผมไม่ค่อยมีกิจกรรมมากนัก ครั้งนี้เขาไปจัดนิทรรศการศิลปะ เป็นเพราะเขาทะเลาะกับแม่ก็เลยวู่วาม……พ่อของผมเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เคยอารมณ์ร้อนมาก่อน……แม่ต้องทำเรื่องที่มันเกินไปแน่ๆ……”

“แต่พอผมถามว่าทำไมพวกเขาถึงทะเลาะกัน เธอก็ไม่บอกผม เธอต้องทำเรื่องที่ไม่ดีมากๆอย่างแน่นอน พ่อของผมถึงได้โกรธมากและออกจากบ้านไป……”

มู่นวลนวลคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความรู้สึกในใจมากขนาดนี้

ซือหมิงฮวนกับโม่เหลียนทะเลาะกันแล้วก็ออกจากบ้าน แต่โม่เหลียนไม่บอกถึงสาเหตุที่ทะเลาะกัน

โม่ถิงเซียวไปหาโม่เหลียนที่สหรัฐอเมริกาเพราะว่าเรื่องที่ซือหมิงฮวน เขาวางแผนที่จะไปพูดคุยกับซือหมิงฮวน แต่ซือหมิงฮวนก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

ต้นสายปายเหตุของเรื่องก็เป็นอย่างนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีการเชื่อมโยงที่ชัดเจน

“ไม่ต้องร้องนะ” มู่นวลนวลทำได้เพียงหยิบทิชชู่มาช่วยเช็ดน้ำตาให้เขา:“ไม่มายังไงเธอก็เป็นแม่ของนายและเธอก็เป็นห่วงนายมาก ระหว่างพวกคุณอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกัน รอให้ทุกคนใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยกันดีๆ……”

โม่เจียเฉินหยิบทิชชู่ไปเช็ดหน้าของตัวเอง และไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของมู่นวลนวล

เห็นได้ชัดว่าโม่เจียเฉินกำลังตำหนิโม่เหลียน

เขาตำหนิที่โม่เหลียนทะเลาะกับซือหมิงฮวน จนซือเมิงฮวนโกรธมากและออกจากบ้านไป จากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์

ตอนนี้โม่เจียเฉินมาถึงทางตัน คนอื่นพูดอะไรเขาก็ยากที่จะรับฟัง

มู่นวลนวลปลอบเขาอยู่สักพักและพาเขาไปตัดผม

หลังจากที่โม่เจียเฉินตัดผมเสร็จ เขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

จากนั้นทั้งสองก็เดินช้อปปิ้งกันสักพัก

มู่นวลนวลลากเขาเข้าไปในห้าง:“นายอยากได้อะไรฉันจะซื้อให้ ฉันขายบทภาพยนตร์ของฉันไปแล้ว ตอนนี้มีเงิน”

เห็นได้ชัดว่าโม่เจียเฉินไม่ได้สนใจมากนัก เขาดูอันนี้จับอันนั้นอย่างไม่ได้ใส่ใจ:“เธอกับพี่ชายหย่ากันแล้วจริงๆหรอ?”

มู่นวลนวลไม่คิดว่าจู่ๆโม่เจียเฉินจะถามเรื่องนี้ เธอผงะไปชั่วขณะและพูดว่า:“อื้ม”

โม่เจียเฉินหันมามองเธอและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:“เป็นเพราะลูกหรอ?ผมคิดว่าพี่ชายดูไม่เหมือนคนที่ซ่อนลูกเอาไว้ ผมเชื่อใจเขา”

มู่นวลนวลไม่ได้พูดในทันที

โม่เจียเฉินเป็นเด็กที่รู้จักแยกแยะ เขาโตกว่าเด็กธรรมดาทั่วไปมากและเขามีความคิดเป็นของตัวเอง

เดิมทีนี่เป็นสิ่งที่ดี

เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนของตระกูลโม่

พูดได้ว่าถ้าเขาไม่ใช่คนของตระกูลโม่ เขาก็อาจจะไม่เป็นเขาอย่างในตอนนี้

มู่นวลนวลสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันไปมองเขา:“ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร?”

ดูเหมือนว่าคำถามของมู่นวลนวลจะทำให้โม่เจียเฉินสับสน เขาขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด

มู่นวลนวลตบไหล่เขาเบาๆ:“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว วันนี้นายมาเป็นเพื่อนฉัน เรามาเที่ยวสนุก ไปเดินช้อปปิ้งกันดีไหม?”

“อื้ม”

พ่อของเขาเสียชีวิต ลูกสาวของมู่นวลนวลก็หายตัวไป

อาจเป็นเพราะมู่นวลนวลกับเขาหัวอกเดียวกัน ฉากต่อมากลายเป็นโม่เจียเฉินที่หยอกล้อให้มู่นวลนวลเบิกบานใจ

……

ทั้งสองคนเที่ยวเล่นกันอยู่ข้างนอกทั้งวัน จนกระทั่งพวกเขาทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

วันนี้มู่นวลนวลไม่ได้ขับรถมา หลังจากเดินไปส่งโม่เจียเฉิน เธอก็เรียกแท็กซี่ออนไลน์

แต่เนื่องจากเป็นชั่วโมงเร่งด่วน เธอจึงต้องรอคิว

หลังจากเธอเรียกรถแท็กซี่แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเลื่อนดูโพสต์ในวีแชท

นอกจากรูปอาหารที่โม่เจียเฉินโพสต์แล้ว ยังมีรูปที่ทั้งสองคนถ่ายกันพร้อมข้อความว่า:“วันนี้มีความสุขมาก มาเล่นกับผมบ่อยๆนะ”

มู่นวลนวลกดไลค์ให้เขา และเมื่อเธอรีเฟรชอีกครั้ง เธอก็เห็นโม่ถิงเซียวคอมเม้นโพสต์ของโม่เจียเฉินเป็นจุดฟุลสต๊อบจุดหนึ่ง

เมื่อมองผ่านหน้าจอโทรศัพท์ มู่นวลนวลก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจาก “จุดฟุลสต๊อบ” ของโม่ถิงเซียว

โชคดีที่เธอรู้จักนิสัยของโม่ถิงเซียว เขาก็เป็นแค่คนขี้งกคนหนึ่ง

หลังจากวินาทีที่เธอกำลังคิดถึงโม่ถิงเซียว วินาทีถัดมาโม่ถิงเซียวก็โทรมาหาเธอ

ประโยคแรกที่โม่ถิงเซียวพูดคือ:“เธอไปเที่ยวกับเสี่ยวเฉินมาทั้งวันเลยหรอ?”

“ใช่”

สองวินาทีถัดมา โม่ถิงเซียวก็ตอบอย่างเฉยเมย:“อ้อ”

มู่นวลนวล:“???”

ในเวลานี้โม่ถิงเซียวก็พูดอีกครั้ง:“รีบกลับนะ”

“ฉันรู้แล้ว”

ทั้งสองคนวางสายโดยไม่พูดอะไร

มู่นวลนวลเม้มริมฝีปาก ดูเหมือนว่าที่เขาโทรมาก็ไม่มีอะไรจะพูด

เวลาสนทนาในสายไม่ถึงาสองนาที

รถแท็กซี่ที่เธอเรียกยังไม่มา

จู่ๆก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง:“คุณมู่”

เมื่อได้ยินใครบางคนเรียกตัวเอง มู่นวลนวลก็สะดุ้งและหันไปมอง เมื่อเธอเห็นโม่เหลียนก็ถอนหายใจโล่งอก

เธอนิ่งไปสักพักและถามว่า:“คุณหญิงซือเรียกฉันมีธุระหรอ?”

“ใช่” โม่เหียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ:“ฉันหวังว่าคุณมู่จะไม่มาเล่นกับเสี่ยวเฉินของบ้านเราบ่อยๆ เขาเป็นเด็ก เรื่องเรียนสำคัญที่สุด”

คำพูดนี้ฟังดูดี แต่ก็คือไม่อยากให้เธอสนิทสนมกับโม่เจียเฉิน

คำพูดของโม่เหลียนสวยงามกว่าคำพูดของโม่จิ่นหยุนมาก แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความจริงที่ว่ามีมีดซ่อนอยู่ในคำพูดได้

“คุณหญิงซือเป็นห่วงเสี่ยวเฉินขนาดนี้ เขารู้ไหม?ถ้าเขารู้ว่าคุณพูดแบบนี้กับฉัน ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง” มู่นวลนวลรู้สึกไม่พอใจโม่เหลียนมาก

มีคนในตระกูลโม่หลายคนที่เธอไม่พอใจ

“คุณมู่ นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่อย่างเรา คุณกรุณาอย่าบอกเสี่ยวเฉิน” น้ำเสียงของโม่เหลียนเปลี่ยนไป เขาไม่เร่งรีบและดูมีน้ำใจมาก

อย่างไรก็ตามโม่เหลี่ยนอายุมากกว่าโม่จิ่นหยุน และมีความสงบนิ่งมาก

โม่จิ่นหยุดหยิ่งทะนง ดูหมิ่นดูแคลนมู่นวลนวลและยังพูดจาไม่สุภาพ

มู่นวลนวลจ้องมองโม่เหลียนและค่อยๆพูดว่า:“คุณหญิงซือ คุณเป็นผู้อาวุโส ฉันกับเสี่ยวเฉินอายุห่างกันไม่มาก ในสายตาของคุณฉันก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง และฉันก็ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร”

หลังจากที่พูดจบเธอก็ยิ้มให้โม่เหลียน

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท