มู่นวลนวลชะงักไปเล็กน้อย เงี่ยหูไปฟังว่าหลี่จิ่วเหิงจะตอบว่ายังไง
แต่รออยู่สักพักแล้ว ก็ไม่ได้ยินคำตอบของหลี่จิ่วเหิง
มู่นวลนวลหันหน้ากลับไปมอง ก็มองเห็นหลี่จิ่วเหิงมองสังเกตมู่หวันฉีอย่างจริงจัง ก็ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไร
มู่หวันฉีพบว่าหลี่จิ่วเหิงจ้องมองเธอไม่เลว เธอรู้สึกตัวบวมเล็กน้อยคิดว่าหลี่จิ่วเหิงมองเห็นความสวยงามของเธอ อดไม่ได้ที่จะยกคางขึ้น หันหน้ากลับไปมองมู่นวลนวลด้วยสีหน้าความหยิ่ง
สายตานี้ของมู่หวันฉี ลำพองใจและยั่วยุ
มู่นวลนวลกระตุกมุมปาก หมุนตัวจะเดินไป
เธอได้ยินเสียงของของมู่หวันฉีดั้งขึ้นครั้ง“นายดูพอแล้วยัง?ถึงแม้ว่าฉันจะสวยกว่ามู่นวลนวล แต่ฉันมีแฟนแล้ว ฉันอนุญาตให้นายชอบฉัน แต่นายอย่าเพ้อฝันว่าฉันจะตอบรับนายเลย”
มู่นวลนวลแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง
หลังจากอยู่กับซือเฉิงยวี่ มู่หวันฉีก็ยิ่งมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
และเสียงถัดมาก็คือหลี่จิ่วเหิง“ขอโทษด้วย คุณผู้หญิง คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมแค่อยากจะเตือนสติคุณ ดวงตาคุณดูหมองคล้ำและขาดพลัง ร่างกายอ่อนแอทางกายภาพอย่างรุนแรง แต่งหน้าหนาก็ปกปิดไม่อยู่ ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพ“ขายบริการ” ผมแค่รู้สึกว่าสุขภาพร่างกายต้องมาก่อน…”
มู่หวันฉีโกรธมากด่าอย่างสาดเสียเทเสีย“นายพูดว่าอะไร!นายเป็นประสาทเหรอ อะไรคือขายบริการไม่ขายไม่บริการ ฉันเป็นดารา!เป็นไปอย่างที่คิด ผู้หญิงแบบมู่นวลนวล สามารถจะหาผู้ชายแบบไหนกัน?เพียงแต่หน้าตาขี้เหร่ หึ!”
มู่นวลนวลคิดไม่ถึงว่าหลี่จิ่วเหิงจะพูดว่ามู่หวันฉีขนาดนี้
เธอหันหน้ากลับมา ก็พอดีกับที่มองเห็นหลี่จิ่วเหิงถูกมู่หวันฉีด่า ก็ยังยืนสงบมีสติอยู่ตรงนั้น
อาจจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ หลี่จิ่วเหิงก็กระพริบตาไปที่มู่นวลนวล
มู่นวลนวลกระตุกมุมปากด้วยสีหน้าอึดอัดใจ
มู่หวันฉีสังเกตเห็นการกระทำของหลี่จิ่วเหิง หันหน้ากลับไปมองมู่นวลนวล“เธอภูมิใจมากไหม?รอดูเถอะ พวกเรามารอดูกัน!”
มู่หวันฉีพูดจบ ก็พากลุ่มเพื่อนของเธอออกไปด้วยความโกรธ
หลี่จิ่วเหิงเดินไปอยู่ด้านข้างเธอด้วยสีหน้าเสียดาย“เป็นดาราเหรอ ถ้ารู้ก่อนจะได้บันทึกเสียงพูดเมื่อกี้ไว้ อาจจะขายได้ราคาดี”
มู่นวลนวลหยุดความเพ้อเจ้อของเขา“คิดมากไปแล้ว บันทึกเสียงด่าของมู่หวันฉีก็ไม่มีราคาหรอก”
ชื่อเสียงของมู่หวันฉีอยู่ในวงการบันเทิง ก็อยู่ในกลุ่มที่ไม่ดี ดังนั้นเธอด่าคนก็ไม่แปลก และก็ไม่ดังขึ้นมา
หลี่จิ่วเหิงเหมือนกับเอ่ยขึ้นมาโดยไม่คิด ไม่ได้สืบเสาะ เพียงแค่ถามเธอ“เธอก็นามสกุลมู่?พวกเธอเป็นญาติกัน?”
“เธอเป็น…”มู่นวลนวลเพิ่งจะเปิดปากพูด จิตใต้สำนึกของตัวเองก็รู้ตัวว่าคาดไม่ถึงว่าจะตอบคำถามของเขา
เธอรีบกลืนคำพูดที่อยู่ในปากลงไป ดึงเขาไปที่มุมกำแพง“พูด นายรู้จักฉันได้ยังไง ทำไมถึงรู้ว่าฉันมีลูกหนึ่งคน?”
หลี่จิ่วเหิงยืนกอดอก ท่าทางเหมือนคนเสเพล“ฉันจะไม่พูดออกมา นอกจากตัวเธอเองจะคิดขึ้นมาได้”
มู่นวลนวลสะบัดเขาออก โบกรถแล้วจากไป
เธอรู้สึกว่าหลี่จิ่วเหิงคนนี้ท่วมตัวรั่วไหลความแปลกประหลาด
เขาสามารถได้รับว่าจ้างจากทีมสืบสวนอาชญากรรม ก็พิสูจน์แล้วว่าฐานะของเขาบริสุทธิ์ แต่ว่าเขาดูแปลกประหลาดเกินไป มู่นวลนวลก็ยากที่จะเชื่อเขา
…
มู่นวลนวลกลับมาถึงที่พัก ก็เริ่มเก็บข้าวของของตัวเอง
เข้าไปในห้อง เธอจึงพบว่านอกจากหลี่จิ่วเหิงใช้ห้องน้ำ ก็ไม่ได้ลงมือใช้ของอย่างอื่นเธอ ยังถือว่ามีสติ
แต่ที่นี่เธอไม่สามารถอยู่ต่ออีกแล้ว
หลี่จิ่วเหิงคนนั้นแปลกประหลาดเกินไป เธอกลัวว่าวันไหนเขาอารมณ์ผิดปกติ จะแอบเข้ามาในห้องอีก
มู่นวลนวลจัดการเก็บของตัวเองเรียบร้อย ติดต่อผู้ให้เช่า ก็ออกไป
พักอยู่ข้างนอกสองวัน เธอก็หาห้องใหม่ได้แล้ว
ยังคงเป็นหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องห้องรับแขก เพียงแต่เป็นคอนโดที่ดีและราคาสูงกว่าเดิม เธอเปลี่ยนแม่กุญแจล็อกเป็นพิเศษ
เช้าตรู่ของวันต่อมา ในเวลาที่เธอเปิดประตูเตรียมตัวจะออกไปซื้อของ ก็มองเห็นเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เปิดประตูเดินออกมา
สายตาของทั้งสองคนก็ปะทะกัน บรรยากาศแข็งตัวเป็นเวลาสามวินาที
หลี่จิ่วเหิง“บังเอิญมาก?สวัสดีตอนเช้า”
มู่นวลนวล“ทำไมนายถึงยังตามฉัน?”
ทั้งสองคนเกือบจะพูดพร้อมกัน
“ทำไมถึงพูดว่าฉันตามเธอล่ะ?นี่คือห้องของเพื่อนฉันให้ฉันยืมพัก ฉันยังรู้สึกว่าเป็นเธอมากกว่าที่ตามฉัน”หลี่จิ่วเหิงวันนี้ต้องออกไปทำงานที่ทีมสืบสวนอาชญากรรม สวมใส่ชุดสูทลายแทบสีฟ้าอมเขียวที่รีดเรียบจนมีรอยจีบ ดูเหมือนเป็นคนดี
มู่นวลนวลสูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนตัวลงไปชั้นล่าง
หลี่จิ่วเหิงไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้มาพูดกับเธอ
ทั้งสองคนเข้ามาอยู่ในลิฟท์ด้วยความเงียบ หลังจากที่ออกจากคอนโดก็แยกจากกัน
เมื่อวานมู่นวลนวลเพิ่งจะย้ายเข้ามา ในห้องยังทำอาหารไม่ได้ ก็พบร้านซาลาเปาสำหรับอาหารเช้า
ร้านซาลาเปาขายดีมาก คนต่อคิวเยอะมาก มู่นวลนวลรอซาลาเปาพลาง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าอินเทอร์เน็ต
ตกเป็นหัวข้อประเด็นร้อนหลายครั้ง เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงครึ่งหนึ่งแล้ว มู่นวลนวลก็คุ้นเคยกดติดตามเรื่องซุบซิบนินทาของวงการบันเทิง
ผลลัพธ์คือห้วข้อประเด็นร้อนของวันนี้ ยังมีเธออีก
ถึงแม้จะไม่ใช่หัวข้อประเด็นร้อนอันดับหนึ่ง แต่ก็ติดอยู่ในสิบอันดับ
ชื่อหัวข้อประเด็นร้อนคือ“อดีตภรรยาของคุณชายโม่เปลี่ยนแฟนใหม่อีกแล้ว”
มู่นวลนวลรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ
เธอกดเข้าไปดู มองเห็นเวยป๋อด้านบนอันดับต้นๆเป็นบล็อกเกอร์บางคนที่อยู่ในวงการบันเทิงโพสต์ออกมา
“สองวันก่อนตอนเช้าชาวเน็ตอยู่ที่ประตูโรงแรมแห่งหนึ่ง ได้ถ่ายรูปอดีตภรรยาคุณชายโม่และแฟนใหม่ๆออกมาจากโรงแรม คุณมู่เจ้าชู้ติดเป็นนิสัย……”
ด้านล่างมีรูปประกอบ เป็นสองวันก่อนตอนเช้าที่เธอกำลังอยู่หน้าประตูโรงแรม ถูกถ่ายตอนที่ดึงหลี่จิ่วเหิงไปถามที่มุมกำแพง
เธอดึงหลี่จิ่วเหิงเดินออกมาจากประตูโรงแรงแรม แต่ถ่ายกลายเป็นจูงกันออกมาจากโรงแรม
และเวลาที่เธอกับหลี่จิ่วเหิงพูดคุยกัน หลี่จิ่วเหิงก็หันหลังให้กล้อง ปิดกั้นมู่นวลนวลเกือบหมด รูปนี้ถ่ายออกมา ก็มีลับลมคมใน ดูเหมือนว่าทั้งสองคนกำลังทำเรื่องอะไรบางอย่างที่สุดจะพรรณนา
เพียงแต่ทุกรูปภาพไม่ได้ถ่ายใบหน้าของทั้งสองคน
“ปัง”เสียงมู่นวลนวลนำโทรศัพท์โยนลงบนโต๊ะ
หลังจากนั้นก็ตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโม่ถิงเซียว ผลลัพธ์คือเห็นได้ชัดว่าโม่ถิงเซียวกำลังอยู่ในระหว่างการโทร
…
บริษัทโม่กรุ๊ป ห้องทำงานผู้อำนวยการ
โม่ถิงเซียวเพิ่งประชุมเสร็จ คิดขึ้นได้ว่าสองวันแล้วไม่ได้โทรศัพท์หามู่นวลนวล กำลังเตรียมจะโทรศัพท์หามู่นวลนวล โทรศัพท์ของกูจื่อหยานก็โทรเข้ามา
เขาจำเป็นต้องรับสายก่อน
โม่ถิงเซียวเปิดปากพูดด้วยความไม่เป็นมิตร“มีเรื่องอะไรก็รีบพูด”
เขาจะรีบโทรศัพท์หามู่นวลนวล
กูจื่อหยานถอนหายใจส่ายศีรษะในสายโทรศัพท์“ได้ได้ได้ ฉันจะพูดเร็ว วันนี้หรือพรุ่งนี้นัดทานอาหารกัน”
พูดจบ เขาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ“จริงๆเลยเชียว นายยังมีเวลาออกไปเล่นสนุกกับมู่นวลนวลที่โรงแรม พูดคุยกับฉันสองสามประโยคก็รู้สึกว่าเสียเวลา?”
โม่ถิงเซียวพูดอย่างใจเย็น พูดเสียงเย็น“ฉันไปเที่ยวเล่นสนุกกับมู่นวลนวลที่โรงแรมเมื่อไหร่?”