ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 369 เธอไม่กล้าจากไป

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

เมื่อกูจื่อหยานกับเซินเหลียงได้ยินที่ลี่จิ่วเหิงพูดก็ตกตะลึง

ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

เซินเหลียงรู้จักกับมู่นวลนวลตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และก่อนหน้านั้นมู่นวลนวลก็อยู่คนเดียวมาตลอด ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีเพื่อนเลย

แต่ฟังจากน้ำเสียงของลี่จิ่วเหิงดูเหมือนว่าจะไม่ได้โกหก

ลี่จิ่วเหิงพูดต่อว่า:“สำหรับเรื่องที่ผมรู้จักกับเธอได้ยังไง ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณเซิน”

ในขณะที่พูดเขาก็ยังคงจ้องมองไปที่ประตูลิฟต์อย่างสงบและไม่แยแส และในน้ำเสียงก็มีนิ่งสงบ

“คุณลี่ คุณ……”

เซินเหลียงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงลิฟต์ที่มาถึง

ลี่จิ่วเหิงหันหน้าไปมองเซินเหลียงและพูดอย่างแผ่วเบาว่า:“ถึงแล้ว”

ทั้งสามคนเดินออกมาจากลิฟต์

เซินเหลียงเดินไปขวางลีจิ่วเหิง:“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้พูดโกหก”

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเป็นเพื่อนของเธอ ผมอาจจะไม่เปิดโอกาสให้คุณได้ตั้งคำถามกับผม” สีหน้าของลี่จิ่วเฉิงไม่เฉยเมยอีกต่อไป แววตาของเขาขุ่นมัว ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธ

สีหน้าของเซินเหลียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย:“ในเมื่อคุณรู้ว่าเธอมีเพื่อน ทำไมตอนที่พบเธอ คุณถึงไม่ติดต่อพวกเรา?”

“แล้วทำไมต้องติดต่อพวกคุณด้วย?ผมมีหน้าที่อะไรต้องมารับผิดชอบ?” ลี่จิ่วเหิงเม้มริมฝีปากและยิ้มเยาะเย้ย

“คุณ……”

เซินเหลียงยังไม่ทันได้พูดก็ถูกกูจื่อหยานดึงไปข้างหลัง

สีหน้าของกูจื่อหยานไม่ค่อยดีนัก:“อย่างน้อยพวกเราก็เป็นเพื่อนที่จริงใจกับมู่นวลนวล คุณล่ะ?”

ลี่จิ่วเหิงไม่สนใจคำถามของกูจื่อหยาน เขายกข้อมือขึ้นมาดูเวลา:“ตอนบ่ายผมยังมีนัดคนไข้อีกสองสามคน ไม่ส่งนะ”

หลังจากพูดจบเขาก็เดินไปที่ลานจอดรถ

กูจื่อหยานหันหน้าไปมองเซินเหลียง และเมื่อเห็นความกังวลบนใบหน้าของเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า:“ถ้าไม่อย่างนั้น เรารับมู่นวลนวลแล้วไปดีไหม?”

“นวลนวลคงไม่ไปกับเรา ไม่ว่านวลนวลกับลี่จิ่วเหิงจะรู้จักกันได้ยังไง แต่ฉันดูออกว่าเขาดีกับนวลนวลจริงๆ และจะไม่ทำอันตรายนวลนวลอย่างแน่นอน”

ในขณะนี้โทรศัพท์ของกูจื่อหยานดังขึ้น

เขารับโทรศัพท์และไม่รู้ว่าคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์พูดว่าอะไร เขาตอบว่า:“อึ้ม ส่งมาให้ฉันตอนนี้เลย”

“ของอะไร?” เซินเหลียงถามเขาด้วยความประหลาดใจ

กูจื่อหยานตอบว่า:“ฉันให้คนไปสืบข้อมูลของลี่จิ่วเหิง”

เมื่อทั้งสองกลับไปที่รถ กูจื่อหยานก็ได้รับอีเมลจากลูกน้องของเขา

เขาดูไปพลางอ่านไปพลาง:“ลี่จิ่วเหิง นักจิตวิทยาด้านอาชญากรรม เคยถูกว่าจ้างโดยทีมสืบสวนอาชญากรรมในฐานะที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา……”

ในตอนท้ายกูจื่อหยานอดไม่ได้ที่จะมองลี่จิ่วเหิงต่างออกไป:“ประวัติส่วนตัวขาวสะอาด และเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถมาก”

“อึ้ม” เซินเหลียงอดไม่ได้ที่จะพยักหหน้า

แต่ความสงสัยในใจก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

……

ชีวิตของมู่นวลนวลดำเนินไปอย่างราบรื่น

ช่วงกลางวันลี่จิ่วเหิงจะไปทำงานที่คลินิก มู่นวลนวลอยู่บ้านคนเดียว เธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก

อาจจะเป็นเพราะชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ร่างกายของเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเธอจะยังดูผอมอยู่ แต่ก็ดีกว่าตอนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาก

หลังจากที่เซินเหลียงมีเบอร์โทรศัพท์เธอก็มักจะโทรหาเธอบ่อยๆ

วันนี้หลังจากที่ลี่จิ่วเหิงออกไป เธอที่อยู่ข้างหลังก็ได้รับโทรศัพท์ของเซินเหลียง

“นวลนวล ออกไปช้อปปิ้งกันไหม ฉันจะไปรับเธอ”

อันที่จริงมู่นวลนวลไม่ชอบออกไปข้างนอก แต่เซินเหลียงกระตือรือร้นมาก เธอจึงทำได้เพียงตอบตกลง

เซินเหลียงมาอย่างรวดเร็ว มู่นวลนวลสงสัยนิดหน่อยว่าเซินเหลียงรอให้ลี่จิ่วเหิงออกไปก่อนแล้วค่อยมาหาเธอ

ทันทีที่เธอขึ้นรถ เซินเหลียงก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจและถามว่า:“เธอกับคุณลี่เป็นยังไงบ้าง?”

มู่นวลนวลคาดเข็มขัดนิรภัยพร้อมกับตอบว่า:“ก็ดีนะ”

เซินเหลียงรู้สึกว่าเธอกับลี่จิ่วเหิงไม่เหมือนคู่หมั้นกันเลยสักนิด แต่เหมือนเพื่อนร่วมห้องมากกว่า พวกเขาทานข้าวด้วยกันและปกติก็ไม่ได้อะไรกันมากนัก

แต่เป็นแบบนี้เธอก็รู้สึกสบายใจ

“อย่างนี้เอง……” เซินเหลียงชะงักไปชั่วขณะแล้วเหลือบมองเธออย่างลังเล แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร

ทั้งสองคนไปเดินห้างด้วยกัน

เซินเหลียงชอบช้อปปิ้งมาก เธอลากมู่นวลนวลไปลองเสื้อผ้ามากมาย

ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ยกเว้นตอนที่ออกจากห้างแล้วเจอนักข่าว

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา อาชีพนักแสดงของเซินเหลียงเฟื่องฟูและตอนนี้เธอเป็นนักแสดงแถวหน้า มีนักข่าวบางคนนั่งรอเธอ

“วิ่งเร็ว!” เซินเหลียงดึงมู่นวลนวลวิ่งกลับไป

“มีอะไรหรอ?” แม้ว่ามู่นวลนวลจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็วิ่งไปพร้อมกับเธอ

เซินเหลียงเพียงแค่อธิบายกับมู่นวลนวลว่า:“พวกเขาไล่ตามฉัน ฉันเป็นนักแสดง ช่วงนี้……ฮอตนิดหน่อย”

ช่วงนี้มู่นวลนวลไม่ได้ติดตามละคร ยกเว้นดูข่าวเป็นครั้งคราว เธอจึงไม่รู้ว่าเซินเหลียงเป็นนักแสดง

ในห้างมีผู้คนพลุกพล่าน นักข่าววิ่งตามเซินเหลียง และฉากในช่วงเวลานั้นก็วุ่นวายอยู่พักหนึ่ง

สิ่งนี้ทำให้มู่นวลนวลกับเซินเหลียงแยกจากไป

เมื่อมู่นวลนวลหันกลับไปมองก็ไม่เห็นเซินเหลียงแล้ว

เธอหามุมแล้วโทรหาเซินเหลียง

ไม่นานก็โทรติด

เซินเหลียงพูดด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อน:นวลนวล ฉันอยู่ที่ลานจอดรถ เธออยู่ที่ไหน?”

“ฉันยังอยู่ในห้าง” เมื่อได้ยินเธอพูดอย่างนั้น มู่นวลนวลก็ถอนหายใจโล่งอก

เซินเหลียงพูดว่า:“เธอรีบมาเถอะ ฉันรอเธออยู่ในรถ”

“ไม่เป็นไร เธอไปก่อนเลย ฉันกลับเองได้ นักข่าวเหล่านั้นจะได้ไม่ตามเธออีก……”

แน่นอนว่าเซินเหลียงไม่ยอมกลับไปก่อน แต่ในที่สุดเธอก็ถูกมู่นวลนวลพูดด้วยเหตุผลที่ว่ากลับบ้านแล้วจะโทรหาเธอ

กลังจากที่วางสาย มู่นวลนวลก็หันไปเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งอุ้มตุ๊กตาและยืนมองเธออยู่ไม่ไกล

เด็กผู้หญิงตัวเล็กสวมเสื้อแจ็คเก็ตลายทางสีน้ำเงินขาว ด้านล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินชมพูยาวถึงหัวเข่า ดวงตากลมสีเข้ม ใบหน้าอ้วน ผมสีดำพาดไหล่และมีผมหน้าม้า……

เธอมองไปที่มู่นวลนวลด้วยความประหลาดใจ เธอตัวเล็กและดูน่ารักมาก

มู่นวลนวสูงกว่าเธอและเดาว่าเธอน่าจะอายุสามสี่ขวบ

มู่นวลนวลมองไปรอบๆ และเห็นว่าไม่มีผู้ใหญ่อยู่ เธอจึงนั่งยองๆและถามว่า:“เจ้าตัวเล็ก พ่อแม่ของเธอล่ะ?”

เมื่อมองใกล้ๆ มู่นวลนวลก็รู้ว่าคุ้นเคยกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนี้มาก

มีแสงสว่างวาบในหัวของเธอ ใบหน้าของเด็กตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเธอเหมือนกับใบหน้าที่เธอเห็นในวันที่เธอออกจากโรงพยาบาล

เป็นไปไม่ได้มั้ง……

นี่คือลูกสาวของโม่ถิงเซียว?

ดูเหมือนว่าเธอจะชื่อ “mumu”

โม่มู่เอียงหน้ามองมู่นวลนวล เธอหรี่ตาแล้วก็ยิ้ม:“พี่สาวคนสวย……”

มู่นวลนวลใจสั่น เจ้าตัวเล็กจำเธอได้?

เธอจำได้ว่าวันนั้นเจ้าตัวเล็กก็เรียกเธออย่างนี้

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท