ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 436 พูดกลับไปกลับมาดูไม่เหมือนเขาเลย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

เมื่อฟังอย่างละเอียด น้ำเสียงของโม่ถิงเซียวดูภาคภูมิใจเล็กน้อย

กูจื่อหยานรู้สึกว่า เมื่อก่อนตัวเองรู้จักโม่ถิงเซียวน้อยไป ไม่คิดว่าโม่ถิงเซียวที่ดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง จะมีจิตวิญญาณแห่งรักซ่อนอยู่

แต่เป็นเพราะมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างทั้งสอง กูจื่อหยานรู้สึกว่าตัวเองจำเป็นต้องเตือนสติโม่ถิงเซียว

“ถิงเซียว เคยได้ยินประโยคฮิตในโลกออนไลน์นี้มั้ย?”

“ไม่เคย ”โม่ถิงเซียวแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรเลยสักนิด

กูจื่อหยานไม่ถือสาที่โดนมู่ถิงเซียวขัดขึ้นเขายังคงพูดต่อ“ประโยคที่ว่าก็คือ รนหาที่ตายมีความสุขชั่วขณะ เวลาง้อเมียเลือดตาแทบกระเด็น”

โม่ถิงเซียวถามกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ ประโยคนี้เกี่ยวกับฉันยังไง?”

น้ำเสียงของเขาฟังดูอันตรายและเย็นชา ต่อให้กูจื่อหยานจะเป็นคนโง่แค่ไหนก็รู้ว่าต้องตอบยังไง

“ไม่เกี่ยวกับนาย………เหอะๆ” ตอนนี้ไม่เกี่ยว ต่อไปเกี่ยวแน่นอน

โม่ถิงเซียวทำเสียงในลำคอ กูจื่อหยานก็ไม่ลืมเรื่องสำคัญ จึงรีบพูดต่อ “ฉันส่งที่อยู่ของนวล…….มู่นวลนวลให้นายแล้ว คืนนี้นายก็เถอะ”

โม่ถิงเซียวปฏิเสธทันที“ไม่ไป”

กูจื่อหยาน: “………..”

ถึงแม้ว่าโม่ถิงเซียวจะตอบปฏิเสธว่าไม่ไป แต่หลังจากกูจื่อหยานวางสาย ก็ยังคงส่งที่อยู่ของมู่นวลนวลไปให้เขา

ก็ถ้าวันหนึ่งความทรงจำของโม่ถิงเซียวกลับมา อย่าโทษว่าเขาไม่ช่วย สิ่งที่เขาทำช่วยโม่ถิงเซียวได้ก็คงมีแค่นี้

เพียงแต่ เมื่อนึกว่าหลังจากนี้โม่ถิงเซียวความทรงจำฟื้นคืนสู่สภาพเดิมแล้ว นึกไม่ถึงว่ากูจื่อหยานจะรู้สึกสบายใจ

ตั้งหน้าตั้งตารอ

……

มู่นวลนวลโทรหาโม่ถิงเซียวอยู่หลายสาย แต่โม่ถิงเซียวก็ไม่รับ

เธอคิดว่าโม่ถิงเซียวน่าจะประชุมอยู่

แต่พอนึกถึงสิ่งที่โม่ถิงเซียวแสดงกับเธอในช่วงนี้ ก็รู้สึกว่าโม่ถิงเซียวอาจจะไม่อยากรับสายเธอก็

ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจโทรหากูจื่อหยาน ให้กูจื่อหยานลองโทรหาโม่ถิงเซียวดู

เธอรอไปรอมา ก็ไม่เห็นกูจื่อหยานจะโทรกลับมาหาเธอ จึงเดาได้ว่าโม่ถิงเซียวคงรับสายของกูจื่อหยานแล้ว และน่าจะกำลังคุยกับกูจื่อหยานอยู่

ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าใจอยู่เล็กน้อย

โม่ถิงเซียวไม่รับยอมสายเธอจริงๆ……..

มู่นวลนวลเอนตัวนั่งลงบนโซฟา

หลายวันมานี้เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าลืมที่จะโทรหาโม่ถิงเซียว

แต่เป็นเพราะคำที่เขาพูดว่า“คิดเพ้อฝัน”มันกระทบจิตใจเธอไม่น้อย

“แม่”

โม่มู่อุ้มตุ๊กตากระต่ายสีชมพูวิ่งออกมาจากในห้อง มายืนด้านหน้าโซฟา จ้องมองมู่นวลนวลด้วยดวงตาสุกใส “กระต่าย”

มู่นวลนวลถามเธอ“ “ชอบไหม?”

ตุ๊กตากระต่ายสีชมพูนี้เธอไปซื้อมาเมื่อวานตอนที่ออกไปซื้อของ

โม่มู่พยักหน้ารัวๆ“ค่ะ”

มู่นวลนวลยื่นมือไปลูบผมของเธอ

เวลานี้ กูจื่อหยานก็โทรเข้ามาพอดี

มู่นวลนวลรีบลุกขึ้นจากบนโซฟา และรีบถามขึ้น: “เป็นยังไงบ้าง?”

“ถิงเซียวรับสายแล้ว แต่ว่าเขา………”

ฟังกูจื่อหยานพูดอึกๆอักๆ มู่นวลนวลก็พอรู้ผลลัพธ์แล้ว

“เขาไม่มาใช่ไหม?”

“อืม………”

“ฉันรู้แล้ว ขอบใจคุณมากนะ คืนนี้มากินข้าวที่บ้านนะ ฉันเรียกเสี่ยวเหลียงมาด้วย”

“ได้ได้ เดี๋ยวคืนนี้ฉันเข้าไป” ขอแค่มีเซินเหลียง อย่าว่าแต่กินข้าวเลย ต่อให้เป็นงานเลี้ยงที่จะวางแผนสังหารเขาก็จะไป

มู่นวลนวลคุยกับกูจื่อหยานอีกไม่กี่คำ ก็วางสายโทรศัพท์

เหมือนกับรู้สึกได้ว่าเห็นว่ามู่นวลนวลอารมณ์หดหู่ โม่มู่จึงทำเสียงอ้อนเรียก: “แม่………”

มู่นวลนวลยื่นมือไปหยิกแก้มของโม่มู่เบาๆ: “พวกเราจะออกไปซื้อของ ซื้อเนื้อ ซื้อผัก หลังจากนั้นก็กลับมาทำอาหารเชิญน้าเซินพวกเขามากินกัน”

โม่มู่แววตาสดใสขึ้นมาทันที “กินเนื้อกับอมยิ้ม”

มู่นวลนวลพยักหน้า : “พรุ่งนี้ลูกถึงจะกินอมยิ้มได้นะ”

เนื่องจากโม่มู่ชอบกินอมยิ้มมาก มู่นวลนวลต้องกำหนดให้เธอกินอมยิ้มวันเว้นวัน

โม่มู่ทำปากมุ่ย ดูไม่พอใจอย่างชัดเจน : “วันนี้”

มู่นวลนวลอุ้มเธอขึ้นมา: “วันนี้กินเนื้อก่อนค่ะ”

“ก็ได้ค่ะ” ถึงจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่มีเนื้อกินก็พอใจแล้ว

……

มู่นวลนวลพาโม่มู่ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกองโต

เธอย้ายที่อยู่ใหม่ การเชิญแขกมากินข้าว เป็นการแสดงถึงการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

เดิมทีวางแผนไว้ก็มี เธอกับโม่ถิงเซียว เซินเหลียงและกูจื่อหยาน

ตอนนี้โม่ถิงเซียวไม่มาแล้ว ก็เหลือแค่สามคน

ถึงจะเหลือแค่สามคน แต่มู่นวลนวลก็ยังคงทำกับข้าวไว้เยอะมาก

ยังเตรียมเหล้าไว้ด้วย

เซินเหลียงและกูจื่อหยานแยกกันมา

ช่วงบ่ายมู่นวลนวลพาโม่มู่ออกไปซื้อของ เลยทำให้โม่มู่ไม่ได้นอนกลางวัน

ถึงเวลากินข้าวเย็น โม่มู่ก็เริ่มง่วงนอน

มู่นวลนวลจึงต้องรีบป้อนข้าวเธอก่อน แล้วพาโม่มู่ไปนอนในห้อง

โม่มู่ไม่ติดเตียง พออุ้มมานอนบนเตียงก็หลับไปทันที

มู่นวลนวลเห็นว่าเธอนอนหลับไปแล้ว จึงเอาตุ๊กตากระต่ายสีชมพูให้เธอกอดไว้ จึงจะเดินออกมาจากห้อง

เซินเหลียงถามเธอเบาๆ: “หลับแล้วเหรอ?”

“อืม” มู่นวลนวลพยักหน้า และพูด “ห้องนี้เก็บเสียงดี พูดเสียงดังได้ไม่เป็นไร”

วันนี้เธอเปิดทีวีในห้องรับแขกทิ้งไว้ แล้วเดินเข้าห้องนอนตัวเอง ปรากฎว่าไม่ได้ยินเสียงเลย

เซินเหลียงหยิบแก้วมารินเหล้าให้เธอ “ดื่มหน่อย”

มู่นวลนวลทำมือบอกว่านิดเดียว “นิดเดียวก็พอ”

แต่เซินเหลียงกลับรินให้เธอครึ่งแก้ว

เธอชนแก้วกับเซินเหลียงเสร็จ กริ่งประตูก็ดังขึ้น

มู่หนวนหน่วนที่กำลังดื่ม ปรายตามองไปทางประตู

เซินเหลียงเอาเท้าที่อยู่ใต้โต๊ะสะกิดกูจื่อหยานทีหนึ่ง เขาจึงรีบลุกขึ้น “ฉันไปเปิดเอง”

กูจื่อหยานเปิดประตูออก ก็เจอโม่ถิงเซียวยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย

กูจื่อหยานนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย “ถิงเซียวมาแล้ว”

โม่ถิงเซียวหรี่ตามองมาด้วยสีหน้าจริงจัง“นายมาทำอะไรที่นี่?”

สายตาที่มองมาอย่างจับผิด ทำให้กูจื่อหยานขนหัวลุก

“ฉันไม่ใช่แค่เป็นเพื่อนนาย แต่ยังเป็นเพื่อนกับนวลนวลด้วย เข้าใจไหม ?”

โม่ถิงเซียวปรายตามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไป

กูจื่อหยานดึงประตูปิด แล้วตามหลังเขาเข้ามา พร้อมบ่นเสียงเบา : “ความจำเสื่อมยังขี้หวงขนาดนี้…….”

มู่นวลนวลดื่มหล้าไปครึ่งแก้ว ก่อนจะหันหน้าไปทางประตู เพื่อดูว่าใครมา

เมื่อเธอเห็นว่าเป็นโม่ถิงเซียว ก็แปลกใจยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย รอจนโม่ถิงเซียวเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงถามขึ้น “โม่ถิงเซียว คุณมาได้ไง?”

ก่อนหน้านี้ไม่ใช่บอกว่าจะไม่มาเหรอ?

พูดกลับไปกลับมาดูไม่เหมือนเขาเลย

โม่ถิงเซียวมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงฟังดูอันตราย : “ฉันไม่ควรมา?”

“เปล่า……” มู่นวลนวลรีบลุกขึ้นยืน ดึงเขามานั่งบนเก้าอี้ข้างๆเธอ

มู่นวลนวลดึงมือของเขา โม่ถิงเซียวค่อยๆดึงมือกลับมา เขารู้สึกว่ามือเธอนุ่มเหมือนไม่มีกระดูก

ถึงแม้ว่ามู่นวลนวลจะแค่ดึงมือพาเขาไปนั่งที่เก้าอี้ ก็ปล่อยมือออก แต่โม่ถิงเซียวกลับรู้สึกว่าบริเวณที่เธอจับยังรู้สึกเหมือนไฟช็อตอยู่

เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่าน

มู่นวลนวลนำถ้วยและตะเกียบมาให้โม่ถิงเซียวหนึ่งชุด ก่อนถามเขาเสียงเบา“กินข้าวมาหรือยัง? “

โม่ถิงเซียวสังเกตเห็นถึงความห่วงใยในแววตาของเธอ แต่ปากกลับพูดว่า “ฉันมาดูมู่มู่ “

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท