ณภัทรระงับความโกรธเอาไว้และวางยาลงไปบนโต๊ะ: “อีกหน่อยทาเองแล้วกัน!”
ปัง! เขาจากไปพร้อมกับปิดประตูอย่างแรง และโทรไปหาวายุ: “แจ้งหน่วยอินทรีย์ทุกนายให้ไปฝึกที่ป่าดงดิบเป็นเวลาสามวัน!”
วายุ: ลูกพี่บ้าไปแล้วหรือไง รบกับพี่สะใภ้อยู่บนฟ้าสามวันแล้วยังจะไปฝึกอย่างบ้าคลั่งอีก
คิง: เย็xเข้ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว พวกเราต่างก็ต้องบ้าไปกับลูกพี่ อิจฉาคิมมากเลยจริง ๆ เธอสามารถนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงได้
คิมเหลือบตามองบน: นายลองมานอนสักสิบวันครึ่งเดือนดูบ้างสิ
ไม่นานหน่วยอินทรีย์ก็ได้มารวมตัวกันจนครบ และออกเดินทางอย่างครบชุด
หลังจากที่ฝึกซ้อมมาทั้งวัน ทุกคนต่างก็แทบจะเป็นบ้า ลูกพี่บ้าไปแล้วที่ไหนกัน นี่จะเล่นงานพวกเราให้ตายชัด ๆ
คิว: “อีกสามวันพวกเราคงต้องเหนื่อยตายแน่เลย พอถึงตอนนั้นคงถูกห่อใส่ถุงสุญญากาศส่งกลับบ้านเกิด”
คิงเคี้ยวแมลงที่อยู่ในปากจนละเอียด: “จะทำยังไงได้ล่ะ ยังไงซะลูกพี่ทำแบบไหน ฉันก็ทำแบบนั้น เหนื่อยตายยังไงก็เป็นพี่น้องของลูกพี่”
ลูกตาของวายุกลิ้งวนไปรอบหนึ่งจากนั้นก็ได้กระดิกนิ้วให้กับทุกคน: “อยากกลับไปกินเนื้อไหม?”
ทุกคนพูดอย่างพร้อมเพรียง: “อยาก!”
“แหะ ๆ สาเหตุที่ทำให้ลูกพี่บ้าอยู่ที่พี่สะใภ้ พวกเราช่วยสร้างความสัมพันธ์ให้พวกเขาหน่อยก็ได้แล้วไม่ใช้เหรอ”
คิวตบหัวเขาเบา ๆ : “นายนี่มันแผนเยอะจังเลยนะ ว่ามาสิ พวกเราจะทำตามที่นายบอก”
“อีกเดียวรอพี่สะใภ้มาถึง พวกเราก็ขับรถของลูกพี่รวมทั้งขนเอาเสบียงอาหารออกไป เมื่อเผชิญหน้ากับความลำบาก สองผัวเมียก็จะต้องกอดกันรักใคร่ปรองดองกันเอาไว้ไม่ใช่เหรอ? กอดไปกอดมา ก็……อิ ๆ ๆ”
คิวตบเขาอีกครั้ง: “ได้ งั้นก็ตกลงแบบนี้!”
คิงส่ายหัว: “แบบนั้นมันไม่เท่ากับว่าทรยศลูกพี่หรอกเหรอ? ฉันไม่ทำ!”
ทุกคนทำให้คิงสลบไป แล้วหามขึ้นรถ จากนั้นก็แอบขโมยเสบียงอาหารทั้งหมดจากรถทหารทุกคัน
ในขณะเดียวกันนั้นวายุก็แอบใช้นามของณภัทรส่งข้อความให้กับผู้ช่วยธนา ให้เขารีบพามีนามาส่งที่เขตที่ใช้ฝึกในป่าดงดิบ
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ผู้ช่วยธนาก็ได้พามีนามาส่งที่จุดหมาย จากนั้นเขาก็ได้รับข้อความอีกฉบับ และจากไปอย่างเร่งรีบ
มีนาแอบด่าณภัทรอยู่ในใจ คนสารเลวนี่ ทรมานเธอสามวันสามคืนแล้วยังไม่พอ ยังให้เธอมาในที่บ้า ๆ แบบนี้อีก ตอนนี้ทันทีที่เธอลุกเดิน ต้นขาก็จะเจ็บขึ้นมาทันที
แต่ว่าทำไมป่าดงดิบถึงได้เงียบแบบนี้นะ มีเงาของหน่วยอินทรีย์อยู่ซะที่ไหนกัน?
ในตอนนั้นเองเงาร่างที่คุ้นเคยก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเธอ เห็นเพียงณภัทรเดินมาพร้อมกับเบ็ดตกปลาปากก็บ่นพึมพำ
“ไอ้พวกเชี่ยนี่ ดูสิฉันกลับไปจะจัดการกับพวกแกยังไง!”
ในตอนที่เขาเห็นเข้ากับมีนาที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็เข้าใจความคิดของพวกนั้นขึ้นมาทันที
เธอเดินกะโผลกกะเผลกเข้าไป: “บอกให้ฉันมาทำการผ่าตัดให้กับคนที่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่เหรอ? คนล่ะ?”
“คุณถูกพวกสารเลวนั่นหลอกแล้ว”
เขาอุ้มเธอขึ้นมาอย่างไม่รีรอ
“คุณทำอะไร?”
“อุ้มคุณไปหาที่นั่งพัก เกรงว่าพรุ่งนี้พวกสารเลวนั่นถึงจะปรากฏตัวออกมา”
เขาเดินหาอยู่เป็นวงกว้างถึงได้พบเข้ากับโพรงไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ในใจด่าพวกหน่วยอินทรีย์ไปหลายรอบ เอาอาหารเครื่องดื่มไปจนหมดเกลี้ยง แม้แต่เต็นท์ก็ไม่เหลือไว้ให้เขา
ป่าดงดิบในตอนกลางคืนค่อนข้างจะเยือกเย็น เขาได้หาฟืนมาก่อกองไฟ และไปหาจับกระต่ายป่ามาสองสามตัว ขุดขนลอกหนังอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เสียบด้วยไม้แล้วนำไปย่าง และได้เผาปลาอีกสองสามตัว
ไม่นานกลิ่นหอมของกระต่ายป่า และปลาก็ได้ลอยมา เขาฉีกเอาขากระต่ายออกมาขาหนึ่งและยื่นให้เธอ
“เนื้อตรงนี้นุ่มที่สุดเลยล่ะ”
เธอหิวขึ้นมานิดหน่อยแล้วจริง ๆ ดังนั้นก็เลยเริ่มกัดคำเล็กคำน้อยขึ้นมา รสชาติไม่เลวเลยจริง ๆ
เขาเอาเนื้อปลาวางไว้บนใบบัวที่สะอาดและยื่นให้เธอ: “ค่อย ๆ กินนะ”
เนื้อปลานั้นได้เอาก้างออกเรียบร้อยแล้ว แถมยังเอาออกได้อย่างสะอาดหมดจด รสชาติหอมหวานของเนื้อปลากระจายไปในปากของเธอ ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นเธอทานอิ่มแล้ว เขาถึงได้ยัดส่วนที่เหลือลงไปในท้องของเขา แต่ก็เป็นแค่พวกเนื้อที่เหลือติดกระดูกอยู่บ้างเท่านั้นเอง
แสงไฟจากกองเพลิงได้สาดส่องไปบนใบหน้าหล่อเหลา เปลวไฟลุกโชนอยู่ในดวงตาที่ลึกซึ้งของเขา หัวใจของเธอเต้นตึกตัก
“ณภัทร พวกเราลองคบกันดูเถอะ”
มือที่เขาใช้เขี่ยกองไฟชะงักเล็กน้อย: “อืม”
ปกติแล้วเขาพูดเก่งมากไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงทำเป็นเคร่งขรึมแล้วล่ะ?
“ณภัทร จริง ๆ แล้วฉัน……ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัว ในใจนอกจากตัวเองแล้ว ยังไม่เคยเก็บใครเอาไว้อย่างจริงจังเลยสักครั้ง”
แต่ตอนนี้ฉันอยากจะลองเก็บคุณไว้ดู
เขายิ้มพลางพูดหยอกล้อ: “ถ้าไอ้การันต์ได้ยินคำพูดนี้เข้าคงต้องใจสลายแน่ ถึงยังไงมันก็คบกับคุณมานานหลายปี”
“ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาส่วนมากอยู่ที่ผลประโยชน์ของครอบครัวเท่านั้น ความรู้สึกก็มีเหมือนกัน แต่มันเกี่ยวกับความรัก ต่อให้คนคนนั้นไม่ใช่ฉัน เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวเขาก็จะต้องแต่งกับผู้หญิงอีกคนที่นามสกุลพรหมพิริยะ
“เหอะ! คุณนี่ฉลาดไม่เบาเลยนะ! อีกไม่กี่วันคู่หมั้นของคุณจะแต่งงานกับน้องสาวของคุณจริง ๆ”
ในตอนที่เขาพูดประโยคนี้นั้นก็ได้จ้องมองมีนาตาไม่กะพริบ แต่กลับไม่เห็นความหวั่นไหวใด ๆ ในแววตาของเธอเลยสักนิด เขารู้สึกดีใจเล็กน้อย
“คุณจะพูดดี ๆ กับฉันหน่อยไม่ได้เหรอไง?” เธอกอดเขาจากด้านหลัง: “หลังจากนี้ฉันจะลองชอบคุณดู คุณเองก็ชอบฉัน ดีไหม?”
ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ครึ่งค่อนวันถึงได้ถอนหายใจออกมา: “ได้”
ความจริงเขาชอบเธอมาตั้งนานแล้ว ชอบมาตลอด แต่น่าเสียดายที่เธอจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใครเสียแล้ว
แต่ว่าพวกนี้ล้วนไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือต่อไปเขาจะทำให้เธอรักเขา จนโงหัวไม่ขึ้น
เขาพลันหันกลับมา นิ้วมือเลื่อนผ่านผมนุ่ม ๆ ของเธอ และพยุงหลังศีรษะเอาไว้อย่าง จากนั้นก็จูบลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างแรง
เปลวไฟทันทีที่ถูกจุด ก็จะหามมันเอาไว้ไม่ได้ มือของเขาวาดไปบนแผ่นหลังของเธอ เธอหอบหายใจอ่อนฮวบลงในอ้อมอกของเขา: “อยากให้ฉันตายเร็ว ๆ ก็รีบปล่อยมาเลย”
เขากระตุกริมฝีปากเล็กน้อย หลายวันมานี้เอาหนักไปจริง ๆ ร่างกายบอบบางของเธอจะทนรับไหวได้ยังไง?
เขากัดติ่งหูของเธอเบา ๆ : “ได้ ครั้งนี้ผมปล่อยคุณ แต่ว่าม้าถ้ามันไม่ได้กินหญ้ามาเป็นเวลานาน มันจะคลั่งเอาได้นะ”
เธอถลึงตาใส่เขาอย่างแรง: “ณภัทร ฉันจะทำข้อตกลงกับคุณ”
เขายิ้มพลางเอาคางวางลงไปบนซอกคอของเธอ: “ไหนลองพูดมาซิ”
“ห้ามข่มขืน! ห้ามข่มขืน! ห้ามข่มขืน! เรื่องสำคัญพูดสามครั้ง!”
ในเวลานี้ท่อนไม้ของเขากำลังทิ่มแทงก้นน้อย ๆ ของเธอ เขายิ้มอย่างมีเลศนัย : “โอเค ต่อไปผมจะนอนอยู่บนเตียงอย่างเชื่อฟัง รอให้คุณมานั่ง”
“……”
เธอรู้ว่าคุยเหตุผลกับหมอนี่ไม่ได้หรอก
เขากลัวว่าหญ้าแห้งที่อยู่ในโพรงไม้จะทิ่มแทงผิวของเธอเป็นแผล เลยให้เธอนอนอยู่บนหน้าอกของตัวเองซะเลย จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออกและห่มให้เธอ
บนเสื้อของเขามีกลิ่นบุหรี่ กลิ่นสบู่ กลิ่นเหงื่อบาง ๆ รวมตัวกันเป็นกลิ่นของผู้ชายที่เป็นเอกลักษณ์ของณภัทร สูดดมกลิ่นชนิดนี้ เธอก็ได้ผล็อยหลับไป
เช้าวันถัดมา ผู้ช่วยธนาก็ได้พาคนของหน่อยอินทรีย์มารับพวกเขากลับไปที่ค่าย
เมื่อเห็นณภัทรอุ้มมีนาอย่างเสน่หา แววตาของทั้งสองคนพัวพันอยู่ด้วยกันอย่างหวานแหวว ทุกคนต่างก็ดีใจ ขอเพียงลูกพี่มีความสุข ช่วงเวลาดี ๆ ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว
ใครจะไปรู้ล่ะว่าหลังจากณภัทรขึ้นรถเขาก็ได้ทิ้งประโยคหนึ่งเอาไว้: “พวกนายทำให้ผู้หญิงของฉันนอนหนาวอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งหมดอยู่ฝึกอย่างหฤโหดในป่าดงดิบต่ออีกสามวันสามคืน”
ทุกคนแทบคลั่ง
ผู้ชายธนาสีหน้าทุกทรมาน: “ท่านนายพล ผมไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย ผมเองก็ถูกหลอกเหมือนกัน”
วายุ: “หัวหน้านี่ข้ามแม่น้ำแล้วทำลายสะพานนี่นา”
คิง: “ลูกพี่ ผมยืนอยู่ข้างลูกพี่ แต่ถูกไอ้พวกนี้เล่นงานเอา”
คิว: “ไอ้ทิวาออกแผนการบ้า ๆ อะไรเนี่ย?”
ทุกคนสบตากัน และได้มีความเห็นตรงกัน: “อัดทิวา!”