มีนาดิ้นแรงเกินไป ด้านหลังที่ผอมบางนั้นกระแทกเข้ากับผนังห้องน้ำอย่างแรง อดที่จะหัวใจร่วงลงไปที่ตาตุ่มไม่ได้ ณภัทรพลิกร่างของเธอกลับมา เห็นรอยช้ำที่หลังของเธอแล้วก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ แล้วรีบเช็ดร่างของเธอให้สะอาด แล้วเอาผ้าเช็ดตัวพันตัวเองไปมั่วๆแล้วอุ้มเธอออกมา
เขาหายาทาแก้ฟกช้ำจากกล่องยาออกมา แล้วทาบนหลังของเธออย่างอ่อนโยน : “ทำไมไม่ระวังขนาดนี้?”
มีนาเอ่ยพูดขึ้นอย่างอารมณ์ : “ถึงยังไงร่างกายนี้สามารถสนองความต้องการทางกายภาพของคุณได้ คุณจะมาสนใจว่าฉันจะเป็นจะตายทำไม?”
เขายิ้มแล้วพ่นลมไปทางเธอ : “ผมไม่ได้ชอบศพนะ”
เขาลูบไล้ร่างกายของเธอ ขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น : “ทำไมไม่เห็นคุณจะมีเนื้อมีหนังบ้างเลย เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปอย่างน้อยๆต้องย่อยสเต็กเนื้อให้ได้250กรัม”
เขาเห็นเธอเป็นหมูรึยังไง? เธอหันกลับมาอย่างโกรธๆ ก้อนนูนๆใหญ่ๆตรงด้านหน้าสองลูกนั้นกำลังสั่นไหวด้วยความโกรธนี้ของเธอ เขากลืนน้ำลายลงแล้วเอ่ยขึ้น : “แต่ว่าตรงนี้อวบมีเนื้อดี ผมชอบ”
เธอพูดไม่ออก : “ณภัทร คุณไม่ลวนลามฉันคุณจะตายไหม?”
“คนโง่ กับภรรยาตัวเองไม่ได้เรียกว่าลวนลาม นี่เรียกว่าเป็นการยั่วเย้าต่างหาก”
เธอเอาหมอนมาทุบบนร่างของเขาอย่างโกรธๆ : “ไสหัวไปนอนห้องรับแขกเลย!”
เขาจับหมอนเอาไว้มือเดียว แล้วโยนลงพื้น พลางเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด : “ผมเองก็เป็นคนมีอารมณ์เหมือนกันนะ!”
เขาโอ๋เธอดีๆมาโดยตลอด จู่ๆเธอจะมาโมโหได้อย่างไรกัน ผู้หญิงนี่ยุ่งยากเสียจริงๆ! อารมณ์เล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็มาอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
เธอเพียงแค่รู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง เธอไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่หายากเลยที่จะมีเพียงแต่เรื่องเซ็กไม่ได้มีเรื่องความรักอยู่ด้วย
“ไปเลย!”
ณภัทรหันหลังแล้วจะก้าวเดินออกไป เพียงแต่เดินไปถึงประตูแล้ว เขาก็กลับเข้ามาอีกครั้งเปิดผ้าห่มขึ้นแล้วนอนลงบนเตียง กอดเธอเอาไว้ : “เตียงของผม ภรรยาก็ภรรยาผม มีสิทธิอะไรจะให้ผมออกไป!”
น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความน้อยใจ : “ในเมื่อไม่ได้รักฉันแล้วแต่งงานกับฉันทำไม ผู้หญิงบางคนก็สามารถที่จะตอบสนองกับความต้องการทางกายภาพของคุณได้ ทำไมต้องเลือกฉัน!”
แท้ที่จริงแล้วเธออารมณ์เสียก็เพราะเรื่องนี้ เขาถอนหายใจออกมา แล้วก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น : “คนโง่ ผมเป็นคนอะไรก็ได้แบบนั้นเลยหรือ? ไม่รักคุณแล้วจะได้คุณได้อย่างไรล่ะ? เป็นเพราะชอบจนเป็นนิสัย ก็เลยรักคุณไง”
“……….”
เออ…..ตามทฤษฎีอันธพาลของณภัทร ประโยคนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผล
ความจริงแล้วเธอรู้ว่าในใจของเขานั้นมีเธอ เพียงแต่อยากจะให้เขาพูดออกมาเอง ราวกับว่าเป็นแบบนี้จะยิ่งทำให้ดูจริงมากขึ้น
“ได้ยินกอหญ้าบอกว่า คุณเสี่ยงอันตรายไปรุกรานผู้บังคับบัญชาแล้วรีบมาจากเขตฐานเพื่อมาช่วยฉัน ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก ความจริงแล้วตอนนั้นที่ฉันเห็นคุณ หัวใจของฉันก็เต้นแรงไม่หยุด ณภัทร ดูเหมือนว่าฉันค่อยๆรักคุณเข้าแล้ว ความรู้สึกแบบนี้……แย่จริงๆเลย”
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกชอบ แล้วก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวและไม่สบายใจด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ข้างหูเธอนั้นไม่ได้มีเสียงที่หยอกล้อจากเขา แต่เป็นเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอจากเขานั่นเอง
เธอเห็นมาเห็นดวงตาคู่นั้นปิดสนิท หน้าผากย่นเข้าหากัน เธออดที่จะยกมือขึ้นไปทำให้ตรงหว่างคิ้วนั้นเรียบลงมาไม่ได้ นิ้วมือของเธอลูบไล้อยู่บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา มุมปากปรากฏรอยยิ้มออกมา ความจริงดูแบบนี้แล้ว ใบหน้าของเขานั้นดูดีมาก ขนตาหนา จมูกโด่งงุ้ม ริมฝีปากบางอมชมพู ดูสวยเหมือนกับผู้หญิง เพียงแต่เขามักจะชอบทำหน้าบูดหน้าบึ้ง ทำให้คนอดที่จะอยากอยู่ห่างๆไม่ได้
ช่วงเวลาการทำงานและการพักผ่อนของณภัทรนั้นมีกฎเกณฑ์มาก ตอนเช้าตรู่ตีห้าเขาจะสามารถตื่นขึ้นมาได้อย่างตรงเวลา หลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั้น เห็นใบหน้าที่กำลังหลับอยู่เงียบๆนั้น ก็อดที่จะประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของเธอไม่ได้ เธอส่งเสียงออกมาเบาๆ แล้วเอียงตัวเล็กน้อย ผ้าห่มเลื่อนลงมาอยู่ที่ขาเรียวบางของเธอ ร่องทางด้านหน้านั้นเห็นอย่างชัดเจน เขาเพียงแค่รู้สึกร้อนวูบๆตรงช่วงท้อง เสียงสบถดังขึ้น แล้วจับเธอกดเอาไว้ด้านล่าง
หลังจากนั้นสามชั่วโมง ณภัทรมีใบหน้าที่พอใจ แต่มีนานั้นดูเหมือนกับจะเหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง เธอจ้องมองคนบางคนอย่างโมโหและด่าออกมาอย่างไม่มีแรง : “หน้าไม่อาย! ป่าเถื่อน!”
เขาจูบลาเธออย่างไม่มีความละอายเลยแม้แต่น้อย : “อยู่บ้านดีๆนะ วันนี้ผมต้องไปฝึกทหารใหม่”
ดูเหมือนกับว่าเขามักจะยุ่งอยู่ เพียงแต่สรุปแล้วเขาเอาพละกำลังมาจากที่ไหนกัน ทำให้เธอเจ็บเสร็จแล้วยังสามารถดูมีชีวิตชีวาได้อีก ป่าเถื่อนมากจริงๆ!
ผู้ช่วยธนาเห็นพลเอกดูหน้าตามีราศีลงมาจากด้านบนแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาทันทีถึงสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ยอมลงมาเสียที อืม…..ผู้หญิงที่สามารถทำลายกฎเกณฑ์ของพลเอกได้นี่บางทีคงจะมีเพียงแค่มีนาคนเดียวเท่านั้นแล้ว
หลังจากที่รถของณภัทรสตาร์ทออกไปแล้ว ในคฤหาสน์ก็ตกสู่ความเงียบอีกครั้ง เนื่องจากตอนที่พลเอกจะไปนั้นได้สั่งเอาไว้แล้ว ว่าใครรบกวนการพักผ่อนของคุณผู้หญิง ก็ให้คนนั้นรีบออกไปให้พ้น
แสงแดดแผดเผา แต่ทหารใหม่พลทหารกลับอยู่ในบ่อโคลน แบกไม้หนักเอาไว้บนบ่า รับการทดสอบที่เข้มงวด ส่วนชุดทหารของณภัทรนั้นกลับยังสะอาดเรียบร้อย เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ดื่มน้ำมะพร้าวอย่างสบายใจ ผู้ช่วยธนายืนอยู่ข้างๆคอยกางร่มให้เขาอย่างนอบน้อม
ในที่สุดก็มีทหารนายหนึ่งตะโกนออกด้วยความโมโห : “รายงานนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผมขอไม่ปฏิบัติครับ!”
ณภัทรถอดแว่นกันแดดออก พลางเลิกคิ้วสวยขึ้นมาเล็กน้อย : “ว่ามา!”
“ถ้าหากข้ามบ่อโคลนนี่ตัวเปล่ายังต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแบกไม้หนักถึงสองร้อยโลแบบนี้เลยครับ ไม่มีใครทำได้หรอก!”
ณภัทรยิ้มเยาะ : “แต่มีคนทำได้เมื่อตอนอายุสิบเจ็ดปี อีกทั้งยังใช้เวลาเพียงแค่สิบห้านาทีอีกด้วย”
นายทหารมีใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
ณภัทรทิ้งแว่นตากันแดดไว้ข้างๆอย่างไม่ได้สนใจ แล้วกระโดดลงไปในบ่อโคลน รับท่อนไม้หนักมาแบกเอาไว้บนบ่า พลางหันมาเอ่ย : “ไปเอามะพร้าวมาให้ฉัน หลังจากนี้สามนาทีฉันจะกลับมากิน”
จากนั้นนายทหารทุกนายก็มองดูฉากที่ไม่คาดคิด เห็นเพียงณภัทรแบกท่อนไม้หนักหายไปจากสายตาของพวกเขาราวกับมังกรข้ามแม่น้ำ ผ่านไปพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาจากฝั่งตรงข้าม พวกเขาก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลาสามนาทีพอดี
ผู้ช่วยธนามีใบหน้าที่ภูมิใจ : “ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ!”
“ปฏิบัติ!”
เสียงดังสะเทือนฟ้าดินดังขึ้นในค่ายทหาร
“ถ้าอย่างนั้นก็ปฏิบัติตามท่านพลเอก ใครก็ไม่อนุญาตให้บ่นทั้งนั้น เร่งฝึกเข้า!”
เสียงดังก้องกังวานดังขึ้นในเวลานี้ ใบหน้านายทหารแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวังที่จะไปให้ถึง พวกเขาต้องการจะกลายเป็นบุคคลในตำนานเหมือนกับณภัทร
วายุที่รออยู่นานแล้วนั้น เห็นณภัทรเดินมาแล้ว ก็รีบเข้าไปยื่นผ้าขนหนูให้ด้วยความกระตือรือร้น : “เหอะๆ ลูกพี่มักจะต้องแสดงความสามารถออกมาให้พวกนายทหารใหม่อยู่บ่อยๆ เพื่อรับประกันให้พวกเขาตกตะลึงกันจนพูดไม่ออก”
“ว่ามา! มาหาฉันมีเรื่องอะไร?”
“ท่านประธานาธิบดีเพิ่งจะมาถึง สีหน้าดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก ลูกพี่รีบไปดูดีกว่านะครับ”
ณภัทรไม่ทันได้เปลี่ยนชุด ใส่ชุดที่เต็มไปด้วยโคลนเข้าไปในออฟฟิศ
ในค่ายทหารทุกอย่างเรียบง่ายไปหมด ออฟฟิศนี้เป็นเพียงแค่เต้นท์หลังหนึ่งที่กางเอาไว้ ด้านในมีเก้าอี้อยู่สองสามตัวกับโต๊ะเพียงหนึ่งตัว และเตียงไม้หนึ่งเตียง
ท่านประธานาธิบดีนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสง่า จิบชาอย่างช้าๆ ถึงแม้เขาจะอายุหกสิบแล้ว แต่ใบหน้ากลับไม่พบความทุกข์ยากลำบากเลย
เขาเห็นณภัทรที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยโคลนเดินเข้ามา แล้วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย : “ตอนนี้คุณเป็นถึงพลเอกแล้ว ยังต้องทำถึงขนาดนี้อีกหรือ?”
ณภัทรล้างมือให้สะอาด : “นี่ไม่ใช่ผลที่ท่านอยากจะเห็นหรอกหรือครับ?”
“เหอะๆ นี่คุณกำลังบ่นว่าที่ผมส่งคุณมาฝึกทหารใหม่อย่างนั้นหรือ?”
“ไม่กล้าหรอกครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี วันนี้เรามาพูดคุยกันให้มันตรงประเด็นดีกว่า รูปพวกนี้คุณเป็นคนถ่ายใช่ไหม? คลิปของคุณหนูรองตระกูลพรหมพิริยะคุณก็เป็นคนให้คนเอาลงอินเตอร์เน็ตใช่ไหม?”
ณภัทรไม่ได้ปฏิเสธ เพียงจ้องมองตาเขาเพื่อเป็นการย้อนถามกลับไป : “สำหรับเรื่องที่ยศพลคิดที่จะกำจัดมีนา ท่านประธานาธิบดีเป็นคนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังหรือเปล่าครับ?”