มีนาตามกำพลขึ้นไปชั้นบน หลังจากผ่านไปสักพักเธอก็เดินลงมา สีหน้าของเธอดูงุนงงเล็กน้อย ตอนที่เดินลงมาเกือบพลาดตกบันได โชคยังดีที่ณภัทรกอดเธอเอาไว้ได้ทัน
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาก็รู้สึกกังวลใจมาก : “คุณเป็นอะไรไป ?”
เธอฝืนยิ้มออกมา : “ไม่มีอะไรค่ะ”
สีหน้าของเขาหมองหม่น : “พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีเรื่องอะไรที่คุณไม่สามารถบอกผมได้อย่างนั้นหรือ ?”
ดวงตาของเธอแดงก่ำ และกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น ความลับนี้สำหรับเธอแล้ว ราวกับถูกฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก ๆ ดูเหมือนความสงสัยทุกอย่างที่เก็บงำอยู่ภายในใจมาตลอดหลายปี ได้รับคำอธิบายที่กระจ่างแจ้ง
เขารู้สึกโมโหเล็กน้อย กล่าวว่าเธอยังไม่เห็นเขาเป็นคนที่ห่วงใยเธอจริง ๆ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาก็ไม่อาจโกรธเคืองเธอได้ลง
เธอยื่มมือออกไปจับแขนของเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ : “ณภัทร พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
“ได้ กลับกันเดี๋ยวนี้เลย”
เขาโน้มตัวลงไปอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินจากไป เขารู้ดีว่ากำพลใช้ความลับที่มีอยู่ในมือ เพื่อแลกกับโอกาสรอดของยิหวา อีกทั้งความลับนี้ คงกระทบกระเทือนบาดแผลภายในใจของมีนาเข้าอย่างจัง เธอไม่พูด เขาเองก็ไม่ได้เอ่ยถามอีก เพราะเขาไม่ต้องการให้เธอรู้สึกทุกข์ทรมานใจแม้แต่น้อย
ตอนนี้กองทัพนักข่าวกำลังปิดล้อมคฤหาสน์ของตระกูลยุกตานนท์อยู่ เมื่อพวกเขาเห็นณภัทรก็รีบวิ่งกรูเข้าไปหา
ณภัทรขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้เสื้อสูทปิดบังไปหน้าที่ซูบซีดของมีนาเอาไว้ จากนั้นจึงเดินพลางตะคอกออกมาว่า : “ถอยไปให้พ้น !”
บนร่างกายของเขามีสง่าราศีของความเป็นราชาปรากฏขึ้น ความโกรธแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งตัวของเขา ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจและหลีกทางให้โดยไม่รู้ตัว
เขาอุ้มเธอฝ่าวงล้อมของคนจำนวนมากออกไป จากนั้นจึงเป็นประตูรถและขึ้นนั่ง ท่าทางของเขาดูหล่อเหลาและดุดัน ทำให้ทุกคนที่เห็นล้วนตกตะลึง จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไป พวกเขาจึงตั้งสติกลับมาได้ และรีบตามไปทันที
นักข่าวที่พอจะมีความกล้าก็เคาะกระจกรถแล้วเอ่ยถามอย่างรีบร้อน : “นายพลณภัทร หลายวันก่อนหัวหน้าของซาสได้ประกาศข่าวเรื่องที่คุณถูกทำร้าย ถึงขั้นแสดงผลการตรวจดีเอ็นเอของศพออกมา นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของพวกเขาหรือเปล่าครับ ?”
“องค์กรซาสถูกคุณกำจัดไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือครับ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้กลับมาปรากฏตัวต่อสาธาณชนอีกล่ะครับ ?”
“ฝ่ายตรงข้ามออกอาละวาดเช่นนี้ ทั่วโลกล้วนตื่นตระหนก ไม่ทราบว่านายพลมีแผนการรับมืออย่างไรบ้างครับ ?”
ณภัทรค่อย ๆ เปิดกระจกรถลง เผยให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาและหล่อเหลาของเขาครึ่งหนึ่ง เขายิ้มอย่างชั่วร้ายให้กับฝูงชน : “ผมจัดการเขาได้แล้วครั้งหนึ่ง ก็สามารถจัดการกับเขาเป็นครั้งที่สองได้”
จากนั้นเขาจึงหันไปทำท่าทางยิงปืนใส่กล้อง ปิ้ว~
ตอนนี้ไบร์ทที่กำลังนั่งดูการถ่ายทอดสดอยู่นั้น ก็รู้สึกโมโหจนทุบแก้วไวน์ในมือแตกละเอียด ของเหลวสีแดงสดค่อย ๆ ไหลออกมา เขาทำราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย จากนั้นจึงกัดฟันแล้วพูดว่า : “ลูกพี่ณภัทร สามปีก่อนนายใช้แผนการชั่วร้ายฆ่าล้างครอบครัวของฉัน หนี้แค้นในครั้งนี้ฉันจะให้นายชดใช้อย่างสาสม !”
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบา ๆ แล้วส่งคลิปวิดีโอนั้นออกไป มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่แปลกประหลาดขึ้นมา ด้วยความฉลาดของณภัทร เขาคงรู้แล้วว่าเธอกับยิหวาสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อจัดการกับเขา เช่นนั้นยิหวาก็เท่ากับเป็นหมากรุกที่เปล่าประโยชน์แล้ว แล้วเขาจะสนใจหมากรุกที่ไร้ประโยชน์อีกทำไม ? อีกทั้งกำพลเองก็เป็นอาจารย์ของณภัทร อีกทั้งยังเป็นคนที่คอยสนับสนุนส่งเสริมณภัทรมาโดยตลอด ถ้าหากทำให้พวกเขาเกิดความขัดแย้งระหว่างกันมากขึ้น เช่นนั้นคงไม่เป็นผลดีต่อสถานะของเขาในกองทัพและแวดวงการเมืองนัก ?
อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์จริง ๆ คลิปวิดีโอนั้นถูกโพสต์ลงไปไม่ถึงสามวินาที ก็มีผู้เข้าชมถึงสามสิบล้านครั้งแล้ว
ไม่ว่ายิหวาจะถูกบังคับหรือไม่ แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นท่วงท่าที่เธอลูบไล้ร่างกายของตนเอง ประกอบกับการคุกเข่าแล้วเลียด้วยใบหน้าที่เสพสุข ชาวเน็ตก็พากันคอมเม้นต์อย่างถล่มทลายในทันที
ชาวเน็ตเอ : “ให้ตายเถอะ ! นี่คือหญิงสาวที่เติบโตมาในตระกูลผู้รากมากดีแท้ ๆ กลับทำตัวไร้ค่ายิ่งกว่าผู้หญิงขายตัวเสียอีก”
ชาวเน็ตบี : “แหม ๆ……ดูไม่ออกเลยว่าคุณหนูยิหวาที่ปกติแล้วดูสูงส่ง สง่างามและบริสุทธิ์ ล้วนแล้วแต่เสแสร้งออกมาทั้งสิ้น ช่างน่าขยะแขยงจริง ๆ”
ชาวเน็ตซี : “ให้ตายเถอะ ช่างร้องได้อารมณ์เสียจริง ๆ ฟังจนกระทั่งของผมเองพลอยแข็งไปด้วย แบบนี้ต้องเก็บเซฟเอาไว้เป็นคู่มือเสียแล้ว”
เมื่อณภัทรเห็นคลิปวิดีโอแล้ว สีหน้าของเขาก็หมองคล้ำลงดูราวกับสีของน้ำหมึกทันที ความจริงแล้วท่าทางน่าสงสารของยิหวา ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเสแสร้งทั้งหมด ดูเหมือนเขาจะต้องมองรุ่นน้องคนนี้ใหม่เสียแล้ว มีนารับปากกำพลว่าจะยอมปล่อยเธอไปสักครั้ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเองก็จะยอมปล่อยเธอไปเช่นกัน หากปล่อยให้บุคคลอันตรายเช่นนี้อยู่ในเมืองรามต่อไป เขาไม่มีทางวางใจได้เด็ดขาด
จากนั้นเขาจึงหันไปสั่งวายุ : “กระจายข่าวเรื่องที่ยิหวาเป็นโรคเอดส์ออกไป”
วายุรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เริ่มแรกก็มีคลิปวิดีโอการร่วมประเวณีของคุณหนูยิหวาปล่อยออกมา หลังจากนั้นก็มีข่าวเรื่องที่เธอเป็นโรคเอดส์เผยแพร่ออกมาอีก เกรงว่าคุณหนูยิหวาคงไม่มีหน้าจะอยู่ในประเทศซูดานอย่างสงบสุขได้อีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คนของศูนย์ควบคุมโรคเอดส์จะยอมปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ ? ต่อให้ข่าวนี้จะเป็นข่าวปลอม ลูกพี่ก็มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ เกรงว่าชีวิตที่เหลือหลังจากนี้ของคุณหนูยิหวา คงจะต้องอยู่ร่วมกับผู้ป่วยโรคเอดส์ในสถานกักกันตลอดไป ลูกพี่ช่างทรงอำนาจจริง ๆ!
ณภัทรหันมองมีนาทีจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามากอด : “ผมจัดการแบบนี้ คุณคงจะพอใจใช่ไหม ?”
เธอฝืนยิ้มออกมา : “ฉันรู้ว่าคุณทำเพื่อฉัน ขอบคุณนะคะ”
เขาชี้ใบที่ใบหน้าของตนเอง : “ผมชอบการกระทำมากกว่า”
เธอเงยหน้าขึ้นไปจูบแก้มของเขา คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เขาจะหันหน้ากลับมา แล้วจูบเข้าที่ริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม
วายุซึ่งเป็นโสด มองเห็นฉากทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านทางกระจกมองหลัง เขาก็รู้สึกทอดถอนใจ ลูกพี่นี่ร้ายไม่เบาจริง ๆ
หลังจากกลับถึงคฤหาสน์ มีนากินอาหารเพียงเล็กน้อยก็ขึ้นชั้นบนไป หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง แล้วคิดถึงเรื่องที่อยู่ในใจของเธอ
เมื่อณภัทรเข้ามาในห้องนอนก็พบเข้ากับภาพเย้ายวนตรงหน้า เธอกำลังนอนตะแคงข้างอยู่ในชุดนอนสีชมพู ผมยาวสยายอยู่บนหมอน ไหล่อันกลมกลึงของเธอเผยออกมาให้เห็นเล็กน้อย รวมไปถึงขาอันเรียวยาวของเธอด้วยเช่นกัน ช่างเป็นส่วนโค้งส่วนเว้าที่ดูสมบูรณ์แบบ คงเป็นเพราะเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ จึงทำให้ห้องนอนอบอวลไปด้วยกลิ่นของเจลอาบน้ำ
เขาค่อย ๆ เอนตัวเข้าไป มือของเขาขยับไปมาบนเรือนร่างของเธออย่างซุกซน น้ำเสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย : “ใช้เจลอาบน้ำอะไรถึงได้หอมขนาดนี้”
เธอสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างกายท่อนล่างของเขา ซึ่งตอนนี้กำลังสัมผัสอยู่กับบั้นท้ายของเธอ เธอผลักเขาออกด้วยความรำคาญเล็กน้อย : “วันนี้ฉันไม่อยากทำ……”
เขาหยุดเคลื่อนไหวมือทันที จากนั้นจึงก้มหน้าลงไปจูบเบา ๆ บนไหล่อันกลมกลึงของเธอ : “วันนี้ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้ง พรุ่งนี้จะคิดเพิ่มเป็นสองเท่า”
เขาดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน แต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไร ทำเพียงแค่ตบหลังของเธอเบา ๆ : “หลับให้สบายเถอะ”
ตอนนี้เขาทั้งดูเป็นห่วงเป็นใยและอ่อนโยน ทำให้เธอตื้นตันจนมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา เธอหันกลับมาจูบริมฝีปากของเขาเบา ๆ : “ที่รักคะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
รอยจูบนี้ทำให้ความเร่าร้อนในร่างกายของเขาปะทุขึ้นมาในทันที ร่างกายท่อนล่างของเขาบวมเป่ง แต่เมื่อคิดถึงสภาพจิตใจของเธอวันนี้ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ตนเองคงไม่อาจทำอะไรได้ รอจนกระทั่งเธอหลับสนิท เขาจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเข้าไปอาบน้ำเย็นในห้องน้ำเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง
เขาก้มหน้าลงไปมองน้องชายของตัวเองแล้วก่นด่าว่า : “เจ้าบ้าเอ๊ย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวบ้างเลยหรืออย่างไร !”
เขาเองก็รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย เขาสามารถอดทนมาได้เป็นเวลาหลายปี แต่ทำไมทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าปีศาจน้อยกลับต้องพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า ไม่อาจทัดทานความยั่วยวนของเธอได้ เพียงแค่สายตาที่ส่งมา การขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย รวมไปถึงรอยจูบแผ่วเบา……ล้วนแล้วแต่ทำให้เขาหลงรักเธออย่างหัวปักหัวปำ ดูเหมือนว่าชาตินี้เขาคงไม่อาจแยกจากเธอได้อีก
ตอนนี้มีเสียงสะลึมสะลือของมีนาดังขึ้นด้านนอก : “ที่รักคะ ฉันหิวแล้ว”
น้องชายของเขาบวมเป่งยิ่งขึ้น ให้ตายเถอะ ทนไม่ไหวแล้ว เขาจึงเปิดประตูแล้วเดินโทง ๆ ออกไป