ณภัทรสอนมีนาโดยการจับมือทำจริงๆ ร่างของเขาแนบชิดอยู่กับร่างของเธอ ฝ่ามือใหญ่จับนิ้วมือของเธอเอาไว้แน่น แม้กระทั่งเธอสามารถได้ยินการสั่นสะเทือนของหัวใจที่เต้นอยู่ตรงหน้าอกของเขา ยังมีฝ่ามือที่หยาบกร้านบางๆ ของเขาอีก ส่วนเวลานี้ลมหายใจร้อนๆ ของเขาก็สาดรดลงที่ใบหูของเธอ บนลำคอของเธอ ทำให้ร่างกายของเธอสั่น แล้วเธอจะตั้งใจฝึกยิงปืนได้เสียที่ไหนกัน?
เขารับรู้ได้ถึงจิตใจที่ฟุ้งซ่านของเธอตั้งแต่แรกแล้ว แล้วใช้ริมฝีปากเฉียดใบหูของเธอไป ร่างของเธออ่อนยวบ อ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดของเขา ข้างๆ หูนั้นมีเสียงหัวเราะที่ดูพอใจดังขึ้นมา
เธอรู้สึกอายขึ้นมาทันที : “ณภัทร! คุณดูแลฉันเป็นพิเศษหรือว่าเห็นฉันเป็นตัวตลกกันแน่!”
เขาลูบเส้นผมนุ่มๆ ของเธออย่างเอ็นดู : “โอเคครับ ไม่หยอกคุณแล้ว ดูแลคุณให้ดีให้คุณกินให้อิ่มก่อน รอให้คุณอิ่มแล้วค่อย……”เขาก้มลงแล้วลูบริมฝีปากของเธออย่างคลุมเครือ เสียงแหบพร่าและดูเซ็กซี่ : “ผมค่อยกินคุณ”
เขาเก็บท่าทางร้ายๆ และการหัวเราะด้วยความสนุกสนานนี้ไป แล้วอธิบายโครงสร้างของปืนให้เธอฟังอย่างจริงจัง หากใช้คำที่เขาพูดออกมานั้น ต้องการที่จะใช้ปืนให้เทพนั้น จำเป็นที่จะต้องรู้จักมันให้กระจ่างแจ้งเหมือนกับคนรัก
“ลองถอดชิ้นส่วนปืนออกมา”
มีนาแกะปืนออกมาตามวิธีที่เขาบอกด้วยความตื่นเต้น เขาจูบเธอเบาๆ ด้วยความพอใจ : “แม่สาวน้อย ทำได้ไม่เลวเลยนี่ ให้รางวัลซักหน่อย ให้เวลาคุณสิบนาทีในการประกอบปืนกระบอกนี้”
“เรื่องเล็กมาก!”
เพราะถึงอย่างไรส่วนประกอบก็มีอยู่สองสามชิ้นนี้ จะประกอบเข้าไปไม่ง่ายเลยอย่างนั้นหรือ? เพียงแต่สรุปแล้วเธอประมาณตัวเองสูงเกินไป ไม่คิดว่าจะใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะสามารถประกอบปืนได้ เธอแลบลิ้นให้เขา : “คิดไม่ถึงเลยว่าจะพูดง่าย แต่ทำแล้วมันจะยากขนาดนี้”
เขายืนดูเธอข้างๆ อย่างเงียบๆ มาตลอด ไม่ได้ใจร้อนแล้วก็ไม่ได้หงุดหงิดด้วยเช่นกัน เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ : “เกินมายี่สิบห้านาที สามวินาที คุณว่าผมจะลงโทษคุณอย่างไรดี?”
เห็นว่าเขาค่อยๆ เข้ามาใกล้ เธอก็รู้สึกได้ถึงความอันตรายนี้ : “คุณ……คุณอย่าเข้ามานะ ปืนกระบอกนี้ของฉันใส่กระสุนแล้วนะ”
เดิมทีเธออยากจะขู่เขา เอาปากกระบอกปืนชี้ไปทางเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเพียงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แล้วยกมือขึ้นมาทันที ได้ยินเพียงแค่เสียงกึก ลำกล้องปืนสลัดหลุด แขนยาวเหวี่ยงออกมา เธอก็ถูกรวบเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วก้มลงล็อคริมฝีปากของเธอเอาไว้ ด้วยแรงที่หยาบๆ แบบนั้น ดูดเสียจนลิ้นของเธอชาไปหมด
ผ่านไปนาน เขาถึงได้ปล่อยเธอ : “ผมให้คุณแกะปืนแล้วประกอบปืนในระยะเวลาสั้นๆ แต่ให้คุณสามารถใช้เคล็ดลับนี้ได้”
มีนาขยับลิ้นที่รู้สึกชา แล้วพูดออกมาอย่างไม่ชัด : “ท่าเมื่อกี้เท่ห์เกินไปแล้ว อีกครั้งนะคะ”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะสนองความสงสัยนี้ของคุณ”
มีนาเบิกตามองทุกอย่างตรงหน้า นิ้วมือของณภัทรรวดเร็วเสียจนเธอมองตามการเคลื่อนไหวเขาได้อย่างไม่ชัดเจนนัก ความสามารถและประสบการณ์ที่สง่า ทำรวดเดียวจนจบ ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เหมือนกับเป็นมายากลอย่างไรอย่างนั้น ดูเหมือนกับว่าการแกะปืน ประกอบปืน เป็นเพียงแค่ความสามารถที่ทำได้ในชั่วพริบตาเดียว เก่งมากจริงๆ
เขาเอาปืนที่ประกอบเข้าเสร็จแล้วยื่นส่งให้เธอ กระพริบตาให้เธออย่างน่าหลงใหล : “รู้สึกว่าสามีของคุณหล่อมากเลยใช่รึเปล่า?”
เห็นท่าทางที่ดูได้ใจของเขาแล้ว เธอก็หงุดหงิดอยู่บ้าง เธอทำปากยื่น : “ฮึ่ย! ก็งั้นๆ แหล่ะ”
เขาจับนิ้วมือของเธอนั้นแล้วเล็งไปที่เป้าบนต้นไม้ : “การยิงปืนก็เหมือนกับการร่วมรัก เพียงมีจิตใจที่ไม่วอกแวก ถึงจะสามารถไปถึงความสุขที่สูงสุดได้ อีกทั้งถ้าหากได้เริ่มแล้วก็จะติดใจ”
มุมปากของเธอกระตุกขึ้น การเปรียบเทียบได้อย่างเขาก็คงจะไม่มีใครทำได้อีกแล้ว นี่ก็คือสไตล์ของณภัทร เธออดที่จะหยอกล้อไม่ได้ : “นี่ ณภัทร ปกติแล้วคุณฝึกทหารของคุณแบบนี้หรือคะ? นั่นก็เป็นการสอนสิ่งไม่ดีให้เด็กๆ น่ะสิ?”
เขากัดลงบนใบหูของเธอเบาๆ : “คนโง่ ผมคลุมเครือกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้นแหล่ะ กับคนอื่นผมทำตัวมีอำนาจทำลายล้างมาโดยตลอดนะ”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว เธอก็หัวเราะขึ้นมา : “ตามที่คุณพูดมา คุณก็ลวนลามได้อย่างเต็มที่เลยสิคะ?”
“เหลวไหล คุณเป็นภรรยาของผม แต่งงานจดทะเบียนกับผมด้วยความบริสุทธิ์ แล้วอีกอย่าง นั่นผมไม่ได้เรียกว่าลวนลามผู้หญิง เป็นการยั่วยวนต่างหาก เข้าใจไหม?”
ช่างเถอะ ณภัทรก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะพูดเช่นกัน เธอเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเสียที่ไหนกัน
“เล็งไปที่เป้า จิตไม่วอกแวก ตอนนี้โลกของคุณก็คือเป้าหมายและคุณ”
มีนาจับปืนแน่น แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย ปัง! ลูกกระสุนลอยออกไป เพียงแต่น่าเสียดายที่เฉียดผิวต้นไม้แล้วหายลับไปจากสายตา
เธอรู้สึกเศร้าลงด้วยความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด : “อา…..ยากจัง รู้สึกว่ายากกว่าฉันจับมีดผ่าตัดหัวใจครั้งแรกอีก”
เขาไม่ได้เยาะเย้ยเธอ แต่กลับลูบเส้นผมของเธอเพื่อเป็นการปลอบใจ : “โอ๋ นี่ก็ดีมากแล้วนะ”
ดวงตาของเธอเป็นประกาย : “จริงหรือเปล่าคะ?”
“เหลวไหล ผู้หญิงของณภัทร ในร่างกายมีส่วนที่ยอดเยี่ยมของผมอยู่ไหลวนอยู่ในนั้นอยู่แล้ว จะแย่ไปซักขนาดไหนกันเชียว?”
“……….”
เป็นอย่างนั้นจริงๆ ที่คนเลวมักย่อมจะไม่พูดสิ่งดีๆ ได้อยู่แล้ว
“ยังมีเวลาอยู่ ลองติดต่อกันได้เลยนะครับ ผมไม่ขาดแคลนกระสุนอยู่แล้ว”
เขาเอากระสุนออกมาสองสามกล่องโยนให้เธอ วางนอนอยู่บนพื้น ในปากคาบหญ้าเอาไว้ ใช้หมวกทหารบังแสงแดดน้อยๆ ด้วยท่าทางที่ไม่ทุกข์ร้อน
“นี่! ไม่ใช่ว่าคุณบอกว่าจะดูแลฉันไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้ปล่อยเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
เขาทิ้งประโยคนึงเอาไว้ให้เธออย่างขี้เกียจ : “ไม่ใช่ว่าผมบอกแล้วหรือ ว่าการยิงปืนก็เหมือนกับการร่วมรัก ต้องผ่อนคลายแล้วต้องรีบด้วย”
เธอกรอกตาใส่เขา จากนั้นก็หมุนตัวกลับไปเล็งที่เป้าหมายฝึกฝนอย่างเงียบๆ ส่วนเขาก็มองดูเธออย่างเงียบๆ บางครั้งก็แนะถึงข้อผิดพลาดของเธอบ้าง แสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ออกมา
ถึงตอนกลางวัน เขาหั่นฟืน แล้วเผากระต่ายป่า ซักพักหนึ่งนั้นกลิ่นหอมก็ลอยมา
เขาฉีกเนื้อตรงขาออกมา : “แม่สาวน้อย จะเติมพลังให้ท้องอิ่มก่อนไหมครับ”
การยิงปืนเป็นวิชาที่ให้ความรู้วิชาหนึ่ง เธอใช้กระสุนกว่าครึ่งกล่องล้วนแต่ยิงไม่โดนเป้าเลย เวลานี้แขนของเธอนั้นเมื่อยล้าไปหมดแล้ว บนหน้าผากก็มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมา แต่เธอมีความรั้นอยู่ในกระดูกอยู่แล้ว เธอไม่ยอมล้มเลิกเพียงแค่ครึ่งทาง : “ไม่ค่ะ คุณทานก่อนเลย”
เขามองเธออย่างชื่นชม จากนั้นก็เอาเนื้อกระต่ายป่าที่ย่างแล้ววางไว้บนใบไม้ใหญ่ แล้วรออย่างเงียบๆ
ปัง!ครั้งนี้มีนายิงโดนเป้าแล้ว เธอกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ : “ณภัทร ฉันยิงโดนแล้ว ฮ่าๆ ……”
แสงแดดสาดส่องลงบนใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นบางๆ บนใบหน้าเธอ ทำให้ใบหน้าที่งดงามของเธอนั้นเป็นที่น่าตกตะลึง ในช่วงเวลานั้น หัวใจของเขาราวกับถูกยิงเข้า เขาอดที่จะยกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ : “อืม ยิงโดนแล้ว”
เขาโบกเนื้อกระต่ายในมือไปมา แล้วเรียกเธอให้มากิน : “คุณว่าผมควรจะให้รางวัลคุณยังไงดี?”
ขณะที่เธอกำลังกินเนื้อกระต่ายนั้น ก็ได้ยินลมหายใจหนักๆ ของเขา ก็ตกใจเสียจนกระดูกคาอยู่ที่คอ จึงต้องไอออกมา
เขาอุ้มเธอขึ้นมาอย่างตื่นเต้น แล้วใช้แรงกระแทกตรงหน้าอกของตัวเอง พรวด…..กระดูกชิ้นนั้นลอยออกมา ในใจของเธอนั้นรู้สึกขุ่นเคืองอยู่บ้าง ใครให้เขามาทำอะไรไม่ดีแบบนี้กัน ว่าแล้วก็ทำให้เขาตกใจเสียหน่อย เธอก็เลยหลับตาลง แล้วร่างของเธอก็ค่อยๆ ร่วงหล่นไป
เขาดูสูญเสียการควบคุมไปอยู่บ้าง แม้แต่น้ำเสียงก็กำลังสั่นอยู่ด้วยเช่นกัน : “มีนา?”