ณภัทรรีบเอาตัวเธอนอนราบลงบนพื้น เขากดตรงหัวใจเธออย่างบ้าคลั่ง เพื่อปั๊มหัวใจให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ปั๊มอยู่นาน เธอก็ยังคงไม่มีสัญญาณที่จะฟื้นขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียการควบคุมตัวเอง คุกเข่าลงบนพื้น ลูบหน้าผากอย่างไร้เรี่ยวแรง
มีนาลืมตาขึ้นมาช้าๆ แล้วเห็นเข้ากับท่าทางที่หัวใจแหลกสลายนั่นของเขาเข้าพอดี ในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์นัก แล้วลุกขึ้นมานั่ง พลางอ้าแขนทั้งสองข้างออก : “แท๊น แทน เซอร์ไพรส์!”
เขารู้สึกอึ้งไป จากนั้นดวงตาที่แดงก่ำก็จ้องมองไปทางเธอ เส้นเลือดผุดขึ้นบนหน้าผาก เขาจับหัวไหล่ของเธอแน่นราวกับแทบจะฝังเข้าไปในเนื้อของเธออยู่แล้ว เขาตวาดเสียงดัง : “คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่? นี่คุณกำลังเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นอยู่นะ!”
เธอไม่เคยเห็นเขาดูโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย และทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา : “ณภัทร คุณทำฉันเจ็บแล้วนะ”
เขาปล่อยเธอ แล้วลุกขึ้นมา แล้วเดินจากไป เดินออกไปไกลได้ประมาณสามเมตรแล้ว ก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยความโมโห : “ชาตินี้ผมจะไม่กินเนื้อกระต่ายอีกแล้ว!”
เห็นร่างของเขาหายไปในป่าแล้ว เธอก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาในทันที ไม่ใช่ว่าเธอหยอกเขาเล่นหรอกหรือ จำเป็นที่จะต้องโมโหขนาดนี้เลยหรือไง? แล้วยังทิ้งเธอเอาไว้กลางป่าคนเดียวแบบนี้อีก
“ไม่เห็นมีอะไรเลย ฉันเดินกลับไปคนเดียวก็ได้!”
เธอจับปืนในมือแน่น แล้วค่อยๆ เดินไปยังทิศทางค่ายทหาร ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ในป่ามืดสนิท ลมกลางคืนพัดผ่านต้นไม้ ส่งเสียงแปลกๆ ออกมา ดูเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่คำรามอยู่ไกลๆ สัตว์ในตอนกลางคืนนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหว ไม่แน่ว่าจะมีหมี เสือ เสือชีตาร์อยู่ในป่า เพราะถึงอย่างไรสัตว์เหล่านี้ก็มีประสาทการรับกลิ่นที่ว่องไวมาก ในหัวนั้นก็ยังนึกไปถึงนกฮูก และยังมีเสียงอีกาอีกด้วย เพิ่มความน่ากลัวในค่ำคืนนี้ไปอีก
ตึก ตึก ตึก แล้วจู่ๆ ทางด้านหลังของเธอก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เธอรู้สึกขึ้นมาได้ในทันที ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นพื้นที่ค่ายทหารของณภัทร แต่ที่นี่ก็เป็นสถานที่องค์กรซาสลุกลามเข้ามาด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะมีพวกบ้าคลั่งอย่างไม่สนใจทุกอย่างบุกเข้ามาก็ได้
เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว แล้วก็ยิ่งจับปืนในมือแน่นขึ้น ตอนนี้ไม่รู้ว่าทางฝั่งนั้นมีกี่คน เธอเองก็ไม่กล้าเด็ดขาดพอที่จะยิงปืนออกไป จึงทำได้เพียงต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เพียงแต่เธอเร็ว เขาก็เร็วตามด้วยเช่นกัน ราวกับเขาเป็นเหมือนผู้ติดตามวิญญาณเธออย่างไรอย่างนั้น
และตอนที่คนนั้นตามมา เธอก็หยั่งเชิงลองหันหลังกลับไปแล้วเล็งปืนไปที่คนๆ นั้น เพียงแต่คนๆ นั้นดูเหมือนจะรู้ความคิดของเธอ ตอนที่เธอเหนี่ยวไกปืนนั้น จับตัวเธอลงไว้ที่พื้นอย่างคล่องแคล่ว กดร่างของเธอเอาไว้ เค้าโครงในความมืดที่คุ้นเคย เสียงหัวใจที่คุ้นเคยนั่น
“ณภัทร?”
“เหลวไหล! ยังจะเป็นใครได้อีกกัน?”
“คุณไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ผมไม่อยากจะแต่งงานจดทะเบียนอีกครั้งนะ ยุ่งยากเกินไป!”
แท้ที่จริงแล้วเขาก็เป็นห่วงเธอนี่เอง ดังนั้นจึงคอยตามเธออยู่ทางด้านหลังอยู่ตลอด
“คุณไม่โกรธแล้วหรือคะ?”
เขาดึงเธอขึ้นมา แล้วจับมือเธอพาเดินไปยังทิศทางค่ายทหาร : “โกรธ!”
เธอเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อน : “อย่างอนเลยนะคะ ครั้งต่อไปฉันไม่กล้าแล้ว”
“ยังจะมีครั้งต่อไปอีกหรือ?”
เธอแลบลิ้น : “ไม่แล้วค่ะ!”
เขาเดินจับมือเธอไปทางด้านหน้าอย่างเงียบๆ เธอรู้ว่าเขายังไม่หายโกรธ จึงออดอ้อนขึ้นมา : “เหนื่อยจัง คุณให้ฉันขี่หลังกลับไปหน่อยสิ”
วิธีนี้ใช้ได้จริงๆ เขาค่อยๆ ย่อตัวลง : “ขึ้นมาสิ!”
ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มที่รู้สึกพอใจขึ้นมา จากนั้นก็กระโดดขึ้นไป แล้วเอาหน้าแนบไว้กับไหล่กว้างของเขา
“มีนา ต่อไปไม่อนุญาตให้คุณหลอกผมแบบนี้อีกแล้วนะ!”
เธอเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนลง : “ณภัทร คุณเป็นคนฉลาดมากไม่ใช่หรือ คุณมองไม่ออกว่าฉันแกล้งตายอย่างนั้นหรือคะ?”
เขาบิดก้นเธอแรงๆ : “ผมแม่งโง่เอง”
เธอไม่ได้พูดออกมาอีก รู้สึกไม่สบายใจ และยังรู้สึกซึ้งใจอีกด้วย จู่ๆ เธอก็นึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมา เมื่อผู้ชายคนหนึ่งรักคุณจริงๆ อยู่ต่อหน้าคุณก็จะแสดงออกมาอย่างคนมีสติปัญญาที่ไม่พอใช้ ราวกับว่าความฉลาดเฉียบแหลม ความเด็ดขาดไม่ลังเล ความคิดทั้งหมด จะพังลงเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณ บางครั้งแม้กระทั่งจะมีความคิดเหมือนเด็กๆ อีกด้วย
เธอสูดหายใจเข้า : “ณภัทร ฉันรักคุณค่ะ”
ร่างของเขาแข็งทื่อไปเล็กน้อย ฝ่ามือลูบคลำอยู่ตรงก้นของเธอด้วยความไม่ซื่อสัตย์ : “แม่สาวน้อย ความรักไม่ใช่แค่เพียงอ้าปากนะ ยังต้องอ้าขาด้วย”
“อืม กลับไปแล้วก็แล้วแต่คุณเลย”
ดูเหมือนกับว่าเขาจะได้รับกำลังใจขึ้นมาในทันที ก้าวเท้าเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน จนแทบจะบินได้อยู่แล้ว เธออดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ : “นี่ ณภัทรความคืบหน้าของคุณล่ะ?”
“ชิบ อยู่ต่อหน้าคุณผมต้องการความคืบหน้าอะไรกัน ต้องการแค่เพียงนม ก้น ขาเรียวยาวเท่านั้น”
“……”
ตอนที่นอนลงไปบนเตียง มีนาก็รู้สึกมาเสียใจภายหลังแล้ว เธอถูกเขาทรมานทั้งด้านนอกและด้านใน ตกอยู่ในที่นั่งลำบากไม่มีใครช่วยเธอได้เลย จนสุดท้ายแล้วทำได้เพียงต้องร้องไห้อ้อนวอน : “สามีคะ ยกโทษให้ฉันด้วย ได้ไหมคะ?”
เขาโจมตีร่างของเธออย่างรุนแรง : “ต่อไปยังจะหลอกผมอีกไหม?”
เธอส่ายหน้าและน้ำตาไหล : “ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้วค่ะ”
เขาก้มลงมาจูบน้ำตาของเธอจนแห้ง : “คุณคือโลกทั้งใบของผม ผมเองก็จะให้โลกทั้งใบของผมกับคุณด้วยเหมือนกัน”
เขาไม่กล้าแม้กระทั่งคิดว่าจะสูญเสียเธอไปเลยเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นในตอนนั้นเขาจึงดูสับสนจนเหมือนกับคนโง่ แม้กระทั่งสูญเสียการพิจารณาขั้นพื้นฐานที่สุดไปอีกด้วย
สองสามวันต่อมา มีนาก็ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความใจแคบและความต้องการแก้แค้นของเขา ทุกๆ คืนเขาจะต้องทรมานเธอรอบหนึ่ง ให้ชื่อดีๆ กับเธอ เพื่อเป็นการให้รสชาติที่พิเศษกับเธอ เป็นการยกระดับสมรรถภาพร่างกายเธอในทุกๆ ด้าน
จากนั้นภายในหนึ่งเดือน มีนาแทบจะเข้าร่วมกับการฝึกฝนภายในค่ายทหารทั้งหมด ออฟโรดระยะทางไกล การยิ่งเป้าเคลื่อนที่ การต่อยมวย……แม้กระทั่งประสิทธิภาพของการทดสอบในแต่ละด้านนั้นก็ยังไม่เลวอีกด้วย ทำให้คนทั้งค่ายทหารนั้นรู้สึกชื่นชมในการเปลี่ยนแปลงนี้มาก
วายุอดที่จะปรบมือขึ้นมาแล้วร้องออกมาไม่ได้ : “พี่สะใภ้ เจ๋งมาก!”
คิงตีเขาไปทีหนึ่ง : “เหลวไหล คนที่ลูกพี่สอนมากับมือ จะแย่ได้เสียที่ไหนกัน?”
คิวดูมีท่าทางคึกคัก : “นายว่าลูกพี่สอนความสามารถให้กับพี่สะใภ้แล้ว ถ้าหากวันนึงพวกเขาตีกันขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นพี่สะใภ้ก็จะเอาชนะได้ไม่ยากแล้วสิ? จุ๊ๆ ๆ ๆ …….ลูกพี่นี่วางกลอุบายไว้ให้ตัวเองสินะ”
แต่ผู้ช่วยธนากลับมีท่าทางที่รู้อยู่แก่ใจ : “ชาตินี้ลูกพี่ผูกติดอยู่กับเธอแล้ว จะชนะได้ยังไง?”
ณภัทรจามขึ้นมา แล้วก็หันมามองทางสองสามคนที่กำลังกระซิบกระซาบกันทันที ในใจก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว พวกสารเลวสองสามคนนี้เกรงว่าจะล้อเขาอีกแล้ว จึงออกคำสั่งขึ้นมาทันที : “หน่วยอินทรีย์มีหมดแล้ว รับน้ำหนักข้ามไปอีกสิบกิโลเมตร!”
ทุกคนโอดครวญออกมา ว่าความอ่อนโยนของลูกพี่มีไว้ใช้กับพี่สะใภ้คนเดียวเท่านั้น สำหรับพวกเขาแล้วมีแต่ความเยือกเย็นและความโหดร้าย
และเวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็วิ่งเข้ามา : “ท่านนายพลณภัทร ท่านประธานาธิบดีต้องการเรียนสายด้วยครับ”
ณภัทรขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดูแล้วเขาคงจะจัดการทุกอย่างในประเทศเรียบร้อยแล้ว นี่คงจะวางแผนเพื่อเรียกเขากลับ พอดีเลย เขามีบัญชีที่ต้องไปคิดกับเขาอีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อมีนาเพียงเท่านั้น ถ้าหากคนที่เขาติดตามนั้นเป็นพวกผู้ดีจอมปลอม เขาก็จะละทิ้งทุกอย่างไปเพื่อฉีกหน้าเขา!