ณภัทรได้รับคำสั่งจากประเทศซีดานอย่างรวดเร็ว สามารถนำกองกำลังทหารคุ้มครองความสันติภาพกลับประเทศซีดานไปด้วย จนกระทั่งตอนที่ขึ้นเครื่องบิน มีนายังคงมีท่าทางที่ยังดูไม่เข้าใจอยู่ : “แบบนี้การปฏิบัติการครั้งนี้ของพวกคุณทางนึงก็เพื่อต้องการจับตัวไบร์ท แล้วอีกทางนึงก็เพื่ออาศัยข้ออ้างนี้ในการขุดรากถอนโคนคนที่ขัดขวางคุณกับท่านประธานาธิบดีอย่างนั้นหรือ?”
“ผู้หญิงของผมนี่ฉลาดจัง ไม่เป็นนักการเมืองนี่คงน่าเสียดายแล้วล่ะ”
“ถึงแม้ว่าเขาจะกวาดล้างพวกที่ปล่อยข่าวลือพวกนั้นไม่เหลือแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะฟื้นฟูชื่อเสียงของคุณได้ แต่ถึงอย่างไรคำพูดของคนก็น่ากลัว ถ้าไม่อย่างนั้นกลับไปแล้วพวกเราก็จัดการเรื่องงานแต่งงานเลยดีกว่าค่ะ ถือว่าเป็นการเรียกชื่อเสียงของคุณกลับมาด้วย เพราะถึงอย่างไรเรื่องดีๆ ก็จะสามารถทำให้เรื่องซุบซิบจางลงได้”
เขาขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย : “ผมไม่จำเป็นต้องไปแคร์ความรู้สึกพวกเขาเลย ผมจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่ก็เพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น”
ในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ อดที่จะสอดประสานมือกับเขาไม่ได้
ทั้งสองคนเพิ่งจะลงเครื่องมา ก็มีรถลิงคอร์นยาวคันหนึ่งจอดอยู่ตรงข้างสนามบิน บริเวณรอบๆ นั้นคือบอร์ดี้การ์ดที่มีสีหน้าเย็นชาสวมใส่ชุดสูท สวมแว่นตากันแดดสีดำ บอร์ดี้การ์ดเปิดประตูออก ท่านประธานาธิบดีเดินออกมาจากด้านใน ออกมาต้อนรับณภัทรด้วยตัวเอง : “พลเอกณภัทร ขึ้นเหนือรอบนี้ลำบากหน่อยนะ”
ณภัทรไม่ได้จับมือเขา ยิ้มออกมาเพียงเท่านั้น : “ท่านประธานาธิบดีต้องขุดรากถอนโคนพวกลูกสมุนของตระกูลพงศ์โชติภูวดลคงจะลำบากยิ่งกว่านะครับ”
ตระกูลพงศ์โชติภูวดลเองก็เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีนี้ด้วยเช่นกัน ขุดรากถอนโคนพวกเขา เช่นนั้นแล้วแผนการที่จะได้ชัยชนะในการดำรงตำแหน่งของเขานั้นก็เพิ่มขึ้นมาด้วย เขารู้สึกได้ถึงความเย็นชาของณภัทรอย่างชัดเจน จึงยิ้มพลางตบบ่าเขา : “ผมรู้ว่าครั้งนี้ทำให้คุณไม่ได้รับความเป็นธรรมนัก เพราะฉะนั้นวันนี้ผมถึงได้จัดงานเลี้ยงขึ้นที่วังไพฑูรย์ แล้วก็มาต้อนรับด้วยตัวเอง”
“ครับ ผมมีเรื่องที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากท่านอยู่พอดีเหมือนกัน”
ท่านประธานาธิบดีมองไปยังมีนา : “คุณมีนา เราเจอกันอีกแล้ว ไม่รู้ว่าพลเอกณภัทรกินเม็ดแตงที่คุณปอกบ่อยหรือเปล่า”
มีนาหน้าแดง : “ท่านประธานาธิบดี ต้องขอโทษด้วยนะคะ ตอนนั้นฉันใจร้อนอยากจะช่วยสามี เลยเข้าใจท่านผิดไป”
“ฮ่าๆ ๆ ……ทหารเสือไม่มีภรรยาที่อ่อนแอหรอก ผมรู้สึกชื่นชมคุณมากนะ”
ณภัทรกับมีนาขึ้นรถของท่านประธานาธิบดี เขากระซิบข้างๆ หูเธอ : “คนสูงวัยคนนี้น้อยนักนะที่จะชมคนอื่น สรุปแล้วคุณทำอะไรกันแน่ ทำให้เขาชมคุณไม่ขาดปากแบบนี้?”
จากนั้นมีนาก็บอกเรื่องที่ตัวเองตบหน้าท่านประธานาธิบดีกับเขา มุมปากเขากระตุก จากนั้นก็หันไปยกนิ้วโป้งให้เธอ : “ผู้หญิงของผมนี่เยี่ยมจริงๆ ”
หลังจากที่มาถึงวังไพฑูรย์แล้ว ผู้ดูแลพาทุกคนมายังห้องวีไอพีของท่านประธานาธิบดี ด้านในนั้นงดงามตระการตามาก คริสตัลด้านบนเปล่งประกายอย่างงดงามและดูหรูหรา
วังไพฑูรย์ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติของประเทศซีดานเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พักส่วนตัวของเขาอีกด้วย เพียงแต่พระราชวังนี้ใหญ่เกินไป คดโค้งไปมา มีนาไปห้องน้ำก็อ้อมเสียจนมึนงงไปหมด เดินเข้าไปในห้องที่ดูเหมือนเป็นห้องๆ หนึ่ง ถึงได้พบว่าตัวเองเข้าไปในห้องหนังสือส่วนตัวของท่านประธานาธิบดี
ตอนที่เธอกำลังจะถอยออกมานั้น กลับพบรูปหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นหนังสือ และผู้หญิงในรูปถ่ายนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นแม่ของเธอ เวธณี
เธอเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ลูบรูปถ่ายนั้นอย่างสั่นเทา แม่ดูสาวสดใส มีบุคลิกที่ดูเป็นเอกลักษณ์ รอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า ส่วนข้างๆ เธอก็มีผู้ชายที่หล่อเหลาสง่างาม ดวงตาทั้งสองแวววาว ทั้งสองคนโอบกอดกันอย่างใกล้ชิด เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กัน
หรือว่าพ่อของเธอคือท่านประธานาธิบดีอย่างนั้นหรือ? กรอบรูปหล่นลงพื้น อารมณ์ความคิดของเธอสับสน
คนที่มีความเป็นธรรมคนนี้ก็คือคนที่ทำให้แม่ของเธอท้อง หลังจากนั้นก็เพื่อเป็นลบล้างมลทินทางการเมืองของเขา แล้วก็ฆ่าแม่อย่างเงียบๆ อย่างนั้นหรือ? แต่ทำไมเขาไม่ฆ่าเธอไปพร้อมกันเลย? นั่นมีเพียงความเป็นไปได้เพียงหนึ่ง นั่นก็คือเขาไม่ได้คิดว่าเธอเป็นลูกสาวของเขาเลยอยู่แล้ว
เธอรู้สึกเศร้าเสียใจขึ้นมาในทันที แทบอยากที่จะเอาสิ้นรักที่อยู่ในกระเป๋าออกมาฆ่าคนที่มีมาดภูมิฐานนี้ พวกหลอกลวง!
แต่เธอรู้ ว่าเวลานี้เธอไม่สามารถทำได้ เธอไม่เพียงแค่เป็นลูกสาวของเวธณีเพียงเท่านั้น และยังเป็นภรรยาของณภัทรอีกด้วย เขารักเธอขนาดนั้น เธอจะทำให้เขาเดือดร้อนได้อย่างไรกัน?
เธอเอาแก้วไวน์ใส่เอาไว้ในกระเป๋า แล้วพุ่งออกมาเลย เดินมาข้างทาง แล้วโบกรถแท็กซี่หนึ่งคนกลับมายังคฤหาสน์ เธอกังวลว่าตัวเองเห็นหน้าที่วางมาดภูมิฐานนั่นแล้วเธอจะอดที่จะอยากฆ่าเขาไม่ได้!
ใบบัวและกอหญ้าเห็นว่าเธอกลับมาแล้วก็รู้สึกดีใจอย่างเห็นได้ชัด : “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วหรือคะ?”
“อืม”
กอหญ้าที่เก่งในเรื่องการสังเกตคำพูดและสีหน้า เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอแล้วก็อดที่จะเอ่ยถามขึ้นไม่ได้ : “คุณผู้หญิงเป็นอะไรไปคะ? ทะเลาะกับท่านนายพลหรือคะ?”
“เปล่าหรอก ฉันเพียงแค่เหนื่อยน่ะ”
เธอลากขาที่หนักหน่วงนี้ขึ้นไปด้านบน ราวกับทุกๆ ก้าวนี้เหมือนกับถ่วงด้วยตะกั่วเลยอย่างไรอย่างนั้น เดินมาถึงตรงมุมที่จะเลี้ยวแล้วนั้นจึงเอ่ยสั่งขึ้นมา : “เตรียมซุปแก้เมาค้างให้กับท่านนายพลด้วยนะ”
“ค่ะ”
ใบบัวและกอหญ้ามองสบตากันแวบหนึ่ง เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าคุณผู้หญิงจะเป็นคนทำเองหรอกหรือ วันนี้เธอเป็นอะไรกัน? ทั้งสองคนคอยรับใช้อย่างระมัดระวัง ไม่กล้าให้มีความผิดพลาดใดๆ ขึ้น
มีนานอนอยู่บนเตียงคิดอะไรหลายๆ อย่าง ในหัวของเธอนั้นมีท่าทางที่แม่ของเธอนั่งเหม่ออยู่ตรงระเบียงลอยขึ้นมา ปกติแล้วตอนที่ฝันก็จะตะโกนเรียกชื่อของผู้ชายคนนั้นขึ้นมา หลังจากที่ตื่นจากฝันแล้วก็จะไม่สามารถนอนหลับได้อีก คิดถึงผู้ชายคนที่เธอรักมากคนนี้ แต่ทำไมถึงมาแต่งงานกับไกรเลิศกัน? หรือว่าผู้ชายคนนั้นทำให้เธอผิดหวัง?
หลายๆ คนบอกว่าเธอเหมือนกับแม่มาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือนิสัย ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างเธอจะยอมทิ้งความรักของตัวเองได้อย่างไรกัน? ในปีนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เธอเอาแก้วใบหน้าออกมาจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง แล้ววางแยกเอาไว้ในถุง เตรียมที่จะเอาไปหาสาเหตุที่โรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้
ตอนที่ณภัทรกลับมานั้นเป็นช่วงกลางดึกแล้ว เขาปิดประตูลงอย่างระวัง แล้วเดินเข้ามาอย่างระมัดระวังด้วยเช่นกัน กลัวว่าจะรบกวนการนอนของเธอ
ความจริงแล้วเธอไม่ได้รู้สึกง่วงเลยแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งเวลานี้เธอสามารถได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากร่างของเขาอีกด้วย และยังมีลมหายใจร้อนผ่าวที่ค่อยๆ เข้ามาใกล้นั่นอีก
“แม่สาวน้อย จะหลับทำไมไม่ถอดชุดออก หรือว่ารอให้ผมมาถอดให้? หืม?”
มือของเขายื่นเข้าไปในกระโปรงของเธอ เธอจับข้อมือของเขาเอาไว้ : “ณภัทร คืนนี้ฉันเหนื่อยมาก ไม่อยากทำ”
“ไม่สบายใจหรือ? ทำไมกันครับ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่เหนื่อย”
“แม่สาวน้อย คุณปิดบังผมได้ที่ไหนกัน ทั้งๆ ที่มีเรื่องอยู่ในใจ ไม่บอกใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่เกรงใจแล้วนะ”
ในใจของเธอรู้สึกเบื่อเซ็งมาก พลังพุ่งขึ้นมาในทันที : “คุณเป็นม้าพ่อพันธุ์ใช่ไหม? วันทั้งวันก็จะทำ ทำ ทำ ไม่รู้จักที่จะเคารพความคิดเห็นฉันบ้างเลย? ฉันเองก็เป็นคน ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง! ต่อให้เป็นลาที่เอาแต่บดโม่ ก็ต้องให้มันได้หายใจบ้างหรือเปล่า!”
“คุณ……คิดแบบนี้กับผมมาตลอดเลยอย่างนั้นหรือ?”
เขาหลบตาลงต่ำ ใบหน้าหมอง สองมือที่อยู่ข้างลำตัวมีเส้นเลือดปรากฏขึ้น แต่ก็ข่มความโมโหนี้เอาไว้ : “อืม คุณพักผ่อนเถอะ”
เห็นเขาหมุนตัวกลับไป เธอก็รู้สึกแย่ขึ้นมาบ้าง รู้สึกเสียใจขึ้นมาทีหลัง หัวใจแหลกสลาย เธอพุ่งตัวเข้าไปกอดเอวเขาไว้จากทางด้านหลัง : “ณภัทร ขอโทษนะคะ อย่าไปจากฉัน”