แพทย์เจ้าของไข้รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย จากนั้นจึงหันไปตำหนิพยาบาลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ : “คุณรู้ไหมว่าคนที่นอนอยู่นี่คือใคร ? ทำไมถึงปล่อยให้คนนอกบุกรุกเข้ามาได้เช่นนี้ ? ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับเขาแม้เพียงนิดเดียวแล้วล่ะก็ เจ้าหน้าที่ทุกระดับจำนวนหลายพันคนในโรงพยาบาลของเรา จะต้องถูกไล่ออกกันหมด !”
พยาบาลเหล่านั้นพยายามลากมีนาออกไปด้านนอก : “คุณผู้หญิงท่านนี้ เชิญคุณออกไปด้านนอกก่อนค่ะ ถ้าหากคุณทำให้กระบวนการในการรักษาผู้ป่วยเกิดความล่าช้า คุณจะรับผิดชอบไหวไหมคะ ?”
มีนาสลัดพวกเธอออกทันที : “ฉันเป็นคนรักของเขา และเป็นแพทย์ผ่าตัดหัวใจที่ดีที่สุดในประเทศ หากเกิดอะไรขึ้น ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง”
คนที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงผู้ป่วยไม่ใช่ดรณ์แต่เป็นณภัทร มีนามองดูเขาที่กำลังหมดสติด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เธอไม่กล้าแม้แต่จะก้มหน้า กลัวว่าน้ำตาจะไหลรินออกมา เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ณภัทรจึงวิ่งเข้ามาในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เธอรู้ว่า เมื่อกระสุนปืนนัดนั้นเจาะทะลุร่างกายของเขา เธอก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างสิ้นหวังในทันที ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลง
ตอนนี้เอง ดรณ์เดินเข้ามาด้านใน : “ฉันรับประกันให้เธอได้ ปล่อยให้เธอทำ !”
“ค่ะ ท่านประธานาธิบดี !”
แพทย์และพยาบาลเตรียมความพร้อม มีนาหันมองเขาอย่างเย็นชา : “เชิญคุณออกไปได้แล้ว ส่วนบัญชีของเราเอาไว้คิดกันทีหลัง !”
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอคือช่วยชีวิตณภัทร เธอไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาต้องตายเพราะมีเธอเป็นต้นเหตุ เธอจะมีความกล้าที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร จนกระทั่งตอนนี้เธอถึงเข้าใจว่า ผู้ชายคนนี้มีความสำคัญกับเธอมากเพียงใด
ขณะที่วิสัญญีแพทย์กำลังจะวางชาให้กับเขา มีนาได้ขวางเธอเอาไว้ : “เขาเป็นทหาร สมองจำเป็นจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา”
“แต่หากทำเช่นนั้น ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บและฟื้นขึ้นมาได้ตลอดเวลา ถ้าหากเกิดความผิดปกติขึ้นกับร่างกายแม้เพียงเล็กน้อย ผลที่จะตามมาก็คงไม่ต้องพูดถึง”
“ทำตามที่ฉันบอก ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา และเชื่อมั่นในตัวเอง”
วินาทีที่กระสุนเจาะทะลุเข้าไปในร่างกายของเขา เขาไม่กะพริบตาแม้เพียงสักครั้ง ถึงขนาดยังยิ้มและกล่าวปลอบใจเธอ ปีศาจน้อย คุณอย่าร้องเลยนะ ผมไม่มีทางตายแน่นอน ตอนนั้นน้ำตาของเธอไหลรินลงมาราวกับสายฝน
เธอเข้าไปในห้องฆ่าเชื้อและทำการฆ่าเชื้อทั่วร่างกาย ไฟห้องผ่าตัดถูกเปิดสว่าง เสื้อท่อนบนของณภัทรถูกถอดออก เธอถือมีดผ่าตัดยืนอยู่ข้าง ๆ และพยายามรวบรวมสมาธิของตนเองอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้เธอจำเป็นต้องละทิ้งความคิดที่วนเวียนอยู่ในใจให้หมดสิ้น และมองเห็นเขาเป็นเพียงแค่ผู้ป่วยธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ดี การผ่าตัดในครั้งนี้ถือเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ณภัทรอาจไม่สามารถฟื้นกลับคืนมาได้อีก
แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคนที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ และเป็นคนที่เธอรักเข้าไปจนถึงกระดูก วินาทีที่มีดผ่าตัดของเธอกรีดลงบนหน้าอกของเขา และมีเลือดสีแดงสดพุ่งกระเซ็นออกมา มือที่จับมีดผ่าตัดของเธอก็สั่นเล็กน้อย
ตอนนี้เอง น้ำเสียงที่ที่ฟังดูอ่อนแรงแต่แฝงไปด้วยการหยอกล้อก็ดังขึ้น : “ปีศาจน้อย คุณสวมชุดคลุมสีขาวแบบนี้ก็ดูมีเสน่ห์ไม่น้อยเลยนะ……ครั้งหน้า……ลองเปลี่ยนไปใส่ชุดพยาบาลให้ผมดูบ้าง……แบบที่เป็นสิชมพูน่ะ”
น้ำตาของมีนาแทบจะไหลรินออกมา ถึงขั้นนี้แล้ว เขายังจะใช้คำพูดหยอกเย้ามาปลอบใจเธออีก ทำราวกับว่าไม่เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด เธอจึงดุขึ้นมาว่า : “ณภัทร คุณหุบปากเดี๋ยวนี้ ! ถ้ายังพูดอีกล่ะก็ ฉันจะส่งคุณขึ้นสวรรค์เดี๋ยวนี้ !”
“คุณส่งผมไปที่ไหน……ผมก็……ผมก็เต็มใจทั้งนั้น”
“หุบปาก……ฉันจะไปกับคุณด้วย”
ณภัทรไม่พูดอะไรอีก เขาแสยะยิ้มบนริมฝีปากที่ซีดเผือดของเขา ได้ยินเธอพูดเช่นนี้แล้ว ต่อให้ต้องตายก็ไม่เสียดายอะไรอีก
ถูกต้องแล้ว ! ไม่ว่าจะขึ้นเขาลงห้วย เขาไปที่ไหนเธอก็จะไปที่นั่น เมื่อตัดสินใจได้เช่นนี้ มีนาก็ปล่อยวางความวุ่นวายใจทั้งหมดลงได้ และทำการผ่าตัดอย่างมีสมาธิ
“คีมห้ามเลือด !”
“มีดผ่าตัด !”
“เตรียมถุงเลือดให้พร้อม !”
“เตรียมเย็บปิดบาดแผล !”
ร่างกายของเขากำลังรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากการถูกมีดผ่าตัดกรีดลงไป และการถูกเข็มทิ่มแทง แต่เมื่อมองเห็นเธอที่ยืนอยู่ตรงหน้า ความเจ็บปวดทั้งหมดก็มลายหายไปราวกับควันทันที ตอนนี้ท่าทางของเธอทั้งงดงามและเด็ดเดี่ยว เป็นการลงมีดผ่าตัดด้วยความกล้าหาญราวกับผู้กล้าที่กำลังกวัดแกว่งมีดไปมาในสนามรบ เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นใส่ใบหน้าของเธอ ขนตาของเธอขยับเล็กน้อย แสงไฟสาดส่องลงบนหยาดเหงื่อที่เกาะอยู่บนหน้าผากของเธอ ทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ การหลงรักผู้หญิงคนนี้ ถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่าจริง ๆ ต่อให้เขาจะต้องเจ็บปวด ก็ไม่รู้สึกเสียใจหรือเสียดายเลยแม้แต่น้อย
เขาแสยะยิ้ม ผู้ช่วยธนาพูดถูก ชาตินี้เขาเป็นคนของมีนาโดยสมบูรณ์อย่างแท้จริง ความบ้าคลั่ง ความกล้าดีเดือดของเขา ล้วนแล้วแต่ใช้ไปกับผู้หญิงคนนี้ทั้งสิ้น
การผ่าตัดดำเนินไปกว่าสามชั่วโมง ทุกคนต่างรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้า มีนาลงมือตัดไหมเส้นสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนต่างหันไปทำความเคารพเธอด้วยใจจริง เธอทำในสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้
การผ่าตัดเสร็จสิ้นลง เหล่าพยาบาลจึงเข็นณภัทรไปพักฟื้นยังห้องผู้ป่วย มีนาดูเหมือนจะหมดสิ้นเรี่ยวแรง แขนขาอ่อนปวกเปียกลงไปกองอยู่กับพื้นทันที ส่วนบนมือและร่างกายของเธอนั้นต่างเต็มไปด้วยเลือด และนั่นก็คือเลือดของณภัทร เธอกอดแขนทั้งสองข้างเอาไว้แล้วร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด โชคยังดีที่สวรรค์มีตา โชคยังดีที่การผ่าตัดประสบผลสำเร็จ โชคยังดีที่เธอยังมีโอกาสชดเชยให้แก่เขา
ตอนนี้เอง รองเท้าหนังที่สะอาดแวววับคู่หนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าของเธอ ฝ่ามืออันอบอุ่นคู่หนึ่งตบลงบนไหล่ของเธอเบา ๆ : “มีนา เธอวางใจเถอะนะ ณภัทรจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน”
มีนาเงยหน้าขึ้นพร้อมด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังทันที : “ออกไป ! คนที่สมควรตายคือคุณต่างหาก !”
ดวงตาของดรณ์ มีประกายของความเจ็บปวดปรากฏขึ้นเล็กน้อย : “เธอเกลียดฉันขนาดนี้เลยหรือ ? แม้แต่โอกาสที่จะให้ฉันได้อธิบายสักครั้งก็ไม่มีเลยหรือ ?”
“คุณไปซะเถอะ ตอนนี้ฉันยังไม่ฆ่าคุณ เพราะชีวิตของคุณ ณภัทรเป็นคนแลกเอาไว้”
“ได้ ฉันจะรอให้เธอใจเย็นก่อน”
ดรณ์หันหลังเดินจากไป ฝีเท้าของเขาหนักอึ้ง หัวใจของเขากำลังเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เขารู้สึกว่าตนเองนั้นติดค้างลูกสาวคนนี้เอาไว้มากมายเหลือเกิน ไม่ใช่เรื่องที่จะอธิบายกันได้ง่าย ๆ ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เขาตัดสินใจที่จะดูแลลูกสาวคนนี้ให้ดีที่สุด ดูแลเลือดเนื้อเชื้อไขระหว่างเขากับเวธณี ส่วนคนที่ทำให้เวธณีต้องตาย เขาไม่มีวันปล่อยให้ลอยนวลไปได้เด็ดขาด !
ขณะที่มีนาลุกขึ้น ได้เหลือบไปเห็นลูกกระสุนเปื้อนเลือดวางอยู่บนถาด จึงหยิบขึ้นมาแล้ววางเอาไว้บนฝ่ามือ เธอต้องการจดจำความเจ็บปวดในครั้งนี้เอาไว้ เธอรีบเปลี่ยนเสื้อคลุมสีขาวที่เต็มไปด้วยเลือดอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงใช้น้ำเย็นล้างหน้า แล้วเดินตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยของณภัทร
ขณะที่เขาเห็นเธอ ก็ข่มความเจ็บปวดไว้ แล้วหันไปยิ้มกับเธอ : “ปีศาจน้อย คิดถึงผมแล้วหรือ ?”
วินาทีนั้นน้ำตาก็ไหลรินลงมา เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ ณภัทรรู้สึกตกใจและสงสารเป็นอย่างมาก รู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าการที่ถูกมีดผ่าตัดกรีดลงบนหน้าอกเมื่อครู่เป็นร้อยเท่าพันเท่า : “คุณ……คุณอย่าร้องอีกเลยนะ”
เธอยิ่งร้องไห้หนักขึ้น ไหล่ของเธอขยับขึ้นลงไม่หยุด เธอร้องไห้จนทำให้เขารู้สึกใจสลาย จึงกัดฟันแล้วพูดออกมาในทันทีว่า : “ผมยังไม่ตายสักหน่อย หรือคุณรู้สึกว่าความฝันที่จะได้แต่งงานใหม่สลายลงแล้ว ?”
เมื่อถูกเขากระแนะกระแหนเช่นนี้ ในที่สุดเธอก็หยุดร้อง จากนั้นจึงกัดริมฝีปาก และจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ : “คุณบอกเองไม่ใช่หรือว่า ชาตินี้หากฉันมีชีวิตก็ต้องเป็นคนของคุณ หากฉันตายก็ต้องเป็นผีของคุณ”
เขามีความสุขและยิ้มออกมาอย่างสบายใจ : “ถ้าอย่างนั้นต่อไปหากคุณกล้าพูดเรื่องหย่าอีกล่ะก็ ผมจะเอาคุณให้ตาย !”
เธอหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ต่อให้เขาจะได้รับบาดเจ็บ ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนแปลงนิสัยน่ารังเกียจนี้ไม่ได้ เมื่อมองดูผ้าพันแผลปึกหนาที่พันอยู่รอบอกของเขา เธอก็พูดขึ้นด้วยความสงสารทันที : “เจ็บไหมคะ ?”
ดวงตาของเขาเผยประกายของความเจ้าเล่ห์ออกมา และสูดหายใจลึก : “เจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว”
เธอรีบลุกขึ้นด้วยความประหม่า จากนั้นจึงยกผ้าห่มบนตัวเขาออก แล้วมองดูบาดแผลของเขาอย่างตั้งใจ ทันใดนั้นเขาก็คว้าแขนของเธอเอาไว้ แล้วพูดจาออดอ้อน : “คุณอยู่เป็นเพื่อนผม ผมก็ไม่เจ็บแล้ว แต่ว่า……”
“แต่ว่าอะไรคะ ?”
“เมื่อคิดว่าผมต้องนอนอยู่บนเตียงอีกหลายเดือน ไม่สามารถไปที่ค่ายทหารได้ ไม่สามารถ……มีอะไรกับคุณได้ ผมก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจเสียจริง ๆ”