มีนาทั้งโกรธและขำ จากนั้นจึงดึงแขนของตนเองกลับทันที เขาสูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้ง : “โอ๊ย……”
เธอพูดด้วยความตื่นตระหนก : “เป็นอะไรไปคะ จะให้ฉันไปตามหมอมาตรวจดูอาการให้คุณไหม ?”
เขาจับมือของเธอเอาไว้อีกครั้ง บนใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มของความภูมิใจออกมา : “คุณก็คือหมอของผม ตอนนี้ผู้ป่วยขอร้องให้คุณดูแลตลอด 24 ชั่วโมง”
เธอเพิ่งจะรู้ตัวตอนนี้เองว่า เมื่อครู่ความเจ็บปวดที่เขาแสดงออกมานั้น เป็นการเสแสร้งทั้งหมด จึงพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจทันที : “ณภัทร คุณชอบรังแกฉันเสียจริง ๆ”
“ปีศาจน้อย ผมโดนคุณยิงตั้งหนึ่งนัด คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใจบ้างเลยหรือยังไง ? ให้ผมลองลูบดูหน่อยซิ”
เธอต้องการที่จะหลบมือมีเหมือนหนวดปลาหมึกของเขา แต่ก็เป็นกังวลว่าจะกระเทือนไปถึงบาดแผลของเขา จึงจำต้องปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ สัมผัสลงบนจุดที่นุ่มนวลจุดนั้น เขาหัวเราะออกมาเบาๆ : “ตรงนี้เป็นของผมคนเดียวเท่านั้น ห้ามใครสัมผัสโดยเด็ดขาด !”
ผ่านไปสักพัก ใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้น มีนารีบถามขึ้นด้วยความตกใจ : “รู้สึกเจ็บปวดร่างกายตรงไหนหรือเปล่าคะ ? เดี๋ยวฉันจะไปเอาปรอทวัดไข้มาวัดอุณหภูมิคุณสักหน่อย”
เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “ผมไม่เป็นไรสักหน่อย แต่น้องชายของผมดูเหมือนจะซุกซนไปหน่อย”
มีนาก้มมองผ้าห่มที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นจึงสะบัดมือของเขาออกด้วยความโกรธ : “ณภัทร คุณไม่คิดเรื่องลามกสักวันจะตายไหม ?”
“ตาย……ต้องอัดอั้นใจตาย !”
เธอมองเขาด้วยสายตาเบื่อหน่าย จากนั้นถึงถอยเก้าอี้ไปด้านหลัง เพื่อออกห่างจากเขา เขาจึงรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที : “ผมจะนับหนึ่งถึงสาม คุณรีบกลับมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นผมจะ……”
เฮ้อ บาดแผลบ้านี่ ตอนนี้เขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จ จึงไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้
เธอหันไปเลิกคิ้วให้เขาด้วยความสะใจ : “เป็นยังไงล่ะ ?”
“ไม่อย่างนั้นรอให้ผมหายดี ผมจะทำให้คุณลงจากเตียงไม่รอดทุกวันเลยคอยดู”
ชายคนนี้ทำได้จริง ๆ มีนาจึงทำได้เพียงเขยิบกลับเข้ามา จากนั้นจึงตั้งกฎกับเขาสามข้อ : “ห้ามขยับโดยพลการ ห้ามสัมผัสโดยพลการ และห้ามคิดอะไรเหลวไหล !”
เขาเหลือบมองเธอด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย ช่างเถอะ ตอนนี้เขาเองก็ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ เช่นนั้นก็หยุดความคิดพวกนี้เอาไว้เสียก่อน แต่เขาก็ยังคงไม่หยุดซุกซน
“ปีศาจน้อย ผมอยากดื่มน้ำ”
“เพิ่งผ่าตัดเสร็จ ห้ามดื่มน้ำค่ะ”
“ผมอยากกินแอปเปิล”
“แอปเปิลก็กินไม่ได้ อดทนเอาไว้”
“ปอกให้ผมลูกหนึ่งเดี๋ยวนี้ !”
“ถ้าอย่างนั้นดูได้แต่ห้ามกิน !”
“อืม ผมดูคุณกินก็ได้”
“……”
มีนาหยิบแอปเปิลลูกหนึ่งขึ้นมาปอกอย่างช้า ๆ ด้วยความจนใจ และถือเสียว่าเป็นการฆ่าเวลา เขามองดูเธออย่างเงียบ ๆ มือทั้งสองข้างของเธอช่างงดงามจริง ๆ ทั้งขาวนวลเนียนและเรียวงาม แอปเปิลสีแดงสดบนมือของเธอลูกนั้น ค่อย ๆ เผยเนื้อสีขาวชวนกินออกมาราวกับมายากล ถ้าหากใช้มือคู่นี้ปรนนิบัติ……ของเขา ก็คงจะดูน่าสนใจไม่น้อย
มีนาหยิบแอปเปิลที่ปอกเปลือกเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาเขย่าต่อหน้าเขา จากนั้นจึงวางลงบนริมฝีปากของตนเอง แล้วกับเข้าไปดังกรอบ ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกฉาบไปด้วยน้ำแอปเปิล เป็นภาพที่ดูเย้ายวนและมีเสน่ห์จริง ๆ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
“หึ ! ใครใช้ให้คุณเข้าไปขวางลูกกระสุนกันล่ะ สมน้ำหน้าที่ต้องรับเคราะห์ !”
“ปีศาจน้อย หากผมไม่ลงนรก ใครจะลงนรกล่ะ ?”
เขาพูดถูก ถ้าหากตอนนั้นไม่ใช่เพราะเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วเข้ามาขวางกระสุนเอาไว้ ไม่แน่ว่าบอดี้การ์ดเหล่านั้นอาจจะเข้ามาและกระหน่ำยิงเธอจนตายไปแล้วก็ได้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าแอปเปิลหวานฉ่ำที่อยู่ในปาก กลับไร้รสชาติขึ้นมาทันที จากนั้นดวงตาของเธอก็แดงก่ำ : “ณภัทร คุณมันโง่ !”
“ปีศาจน้อย คุณต่างหากที่โง่ !”
“นั่นเป็นความแค้นส่วนตัวของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ ฉันแค่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของคุณ”
“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ก็เปรียบเสมือนเป็นคนคนเดียวกัน ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณ คิดว่าผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวได้หรือ ?”
“ถึงตอนนั้น คุณก็สามารถตัดขาดจากฉันได้ เพราะอย่างไรเสีย คุณเองก็ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องทั้งหมด”
“เด็กโง่ ! คิดว่าผมจะทนตัดขาดจากคุณได้อย่างนั้นหรือ ต่อให้คุณต้องลงนรก ผมก็จะขอไปกับคุณด้วย !”
เธอกัดริมฝีปากแล้วจ้องมองเขา : “คนบ้า……ทำให้ฉันอยากร้องไห้อีกแล้ว”
เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ : “เด็กดี เลิกร้องไห้ได้แล้ว คุณร้องไห้บนเตียงของผมได้เท่านั้น และต่อจากนี้ไป ห้ามทำเรื่องโง่ ๆ อีก”
“แต่จะให้ฉันทำยังไง เขาเป็นประธานาธิบดีของประเทศซีดาน รับผิดชอบดูแลทิศทางและอำนาจทั้งหมดของประเทศ การลอบสังหารจึงเป็นวิธีการแก้แค้นเพียงวิธีเดียว”
“แต่ทำเช่นนี้ตัวคุณเองก็จะต้องเดือดร้อน หรือคุณไม่เคยคิดถึงผมเลยสักนิด ?”
“คิดถึง”
“ดังนั้นคุณถึงเอ่ยปากเรื่องหย่า ?”
มีนาพยักหน้ายอมรับ นอกจากวิธีนี้แล้ว เธอคิดหาแผนการอย่างอื่นไม่ออก
“เด็กโง่ ทำไมถึงไม่รอผม ?”
จากนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความ แล้วหันไปพูดกับเธอว่า : “เดี๋ยวผมจะให้คุณพบกับใครคนหนึ่ง แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมผมถึงเข้าไปขวางกระสุนให้กับเขา”
……
ข่าวการลอบสังหารประธานาธิบดีเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นมีคนปล่อยข่าวออกมาว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงนายพลณภัทรของประเทศซีดาน ไม่ช้าทำเนียบประธานาธิบดีและคฤหาสน์ของตระกูลรัตนชัยนันท์ ก็ถูกกองทัพนักข่าวปิดล้อมเอาไว้ อีกทั้งการหลบเลี่ยงของประธานาธิบดี รวมไปถึงความเงียบของณภัทร ยิ่งดูเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าเรื่องนี้เป็นความจริง ไม่ช้าก็มีข่าวลือเกิดขึ้นมากมาย ถึงขั้นแพร่กระจายไปบนสื่อขนาดใหญ่หลายแห่ง คนที่ลอบสังหารประธานาธิบดีในครั้งนี้ก็คือณภัทร เพราะชายคนนี้มีความทะเยอทะยาน และมีวิธีการที่เด็ดขาด อีกทั้งตอนนี้การเผชิญหน้ากับข่าวลือโดยไม่ออกมาตอบโต้ ถือเป็นเรื่องที่ผิดวิสัย ทำให้ผู้คนที่เฝ้าจับตาดูต่างรู้สึกสับสนจริง ๆ
ภายในคฤหาสน์ วายุรู้สึกร้อนใจจนยืนแทบไม่ติด : “ผู้ช่วยธนา เกิดอะไรขึ้นกับลูกพี่กันแน่ คุณช่วยอธิบายมาหน่อยซิ”
คิมกล่าวปลอบใจ : “ทุกคนใจเย็นกันหน่อย ลูกพี่เป็นใคร เขาไม่มีทางเป็นอะไรอย่างแน่นอน”
คิงนั่งยอง ๆ ลงบนพื้นแล้วลูบหัว : “หากลูกพี่เป็นอะไรไปจริง ๆ ฉันจะพาคนบุกไปถล่มเอง !”
คิวหันไปตำหนิเขาหนึ่งครั้ง : “นี่นายกำลังสาปแช่งลูกพี่ชัด ๆ รอดูก่อนว่าผู้ช่วยธนาจะว่าอย่างไร ?”
ทุกคนต่างหันมองผู้ช่วยธนา เขาทำเพียงแค่พับหนังสือพิมพ์ลงเบา ๆ : “ลูกพี่ทำเช่นนี้คงจะต้องมีเหตุผลส่วนตัวอย่างแน่นอน พวกเรารอฟังคำสั่งก็พอแล้ว”
เขารู้สึกว่าในช่วงที่พายุกำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ตอนนี้หากใครสามารถกระโดดได้สูงที่สุด คนผู้นั้นก็จะมีจุดจบที่น่าอนาถที่สุด
เพราะการลอบสังหารดรณ์ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศซีดานทั้งหมดเกิดความโกลาหล การเลือกตั้งประธานาธิบดีในรอบสี่ปีถูกจัดขึ้นก่อนกำหนด นอกจากผู้สมัครสองคนที่มีอยู่เดิมแล้ว ไกรเลิศก็กลายเป็นผู้สมัครม้ามืดที่ปรากฏตัวขึ้นมากลางคัน อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบที่จะสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้อีกด้วย
เมื่อเห็นว่าตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ใกล้แค่เอื้อม ปรางทองแทบรอไม่ไหวที่จะได้เดินเชิดหน้าทุกวัน เธอจึงรีบเดินทางไปเจรจาเรื่องหย่าที่ตระกูลอัครโภคินอย่างรวดเร็ว และแทบจะก่นด่าใส่หน้าของการันต์ : “ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าผู้ชายไร้ประโยชน์อย่างนายมีอะไรดี ลูกสาวของฉันถึงได้หลงรักหัวปักหัวปำเช่นนี้ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะขอเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง การแต่งงานครั้งนี้ หากพวกเธออยากหย่าก็หย่า หากไม่อยากหย่าก็ต้องหย่า !”
การันต์แสยะยิ้ม : “ยินดีอย่างยิ่ง !”
แต่แพรพรรณกลับลากเขาไปอีกด้านหนึ่ง แล้วเอ่ยเตือนด้วยความหวังดีว่า : “ไม่ช้าไกรเลิศก็จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของประเทศซีดานแล้ว ความหวังที่พ่อของเธอพยายามทุ่มเทกำลังจะมาถึงตรงหน้า เพราะฉะนั้นลูกจะมาทำลายทุกอย่างตอนนี้ไม่ได้ !”
เขาสะบัดมือของเธอทันที จากนั้นจึงค่อย ๆ เค้นคำพูดออกมาทีละคำ : “แม่ครับ ครั้งนี้ผมอยากใช้ชีวิตเพื่อตัวของผมเอง !”
เผียะ ! แพรพรรณตบหน้าของเขาอย่างแรง : “ลูกเนรคุณ !”
เขายกมือขึ้นเช็ดเลือดบนปาก จากนั้นจึงเดินออกไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามอง
แพรพรรณลูบหน้าผากที่บวมปูดของเธอ จากนั้นจึงสงบสติอารมณ์ลง แล้วหันไปยกน้ำชาให้กับปรางทอง ปรางทองใช้คำพูดฉีกหน้าอย่างไม่เกรงใจ : “คุณหญิงแพรพรรณเองก็มีวันนี้เช่นกันหรือ ฉันจะบอกเธอให้นะว่า มันสายไปแล้ว ! วันนี้ต่อให้เธอยอมคุกเข่าก้มหัวให้กับฉัน การแต่งงานในครั้งนี้ยังไงก็ต้องหย่าอยู่ดี ต่อไปตระกูลพรหมพิริยะของเรา พวกเธอไม่มีวันเทียบได้เป็นอันขาด !”