จอมพลที่รัก – บทที่ 85 เธอขอร้องฉันตอนนี้ยังทัน

จอมพลที่รัก

แม้ว่าแพรพรรณจะรู้สึกโกรธจนเจ็บอก แต่เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่อนาคตไกรเลิศจะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของประเทศซีดาน ความโกรธแค้นในใจก็ถูกสกัดกั้นเอาไว้ เธอยังคงยิ้มและพูดต่อว่า : “คุณแม่ยาย เขมิกาเป็นเด็กสาวที่อ่อนหวานและกตัญญู ที่สำคัญที่สุดก็คือ ในใจของเธอมีแต่การันต์ของเรา ในใจของเธอ เธอคือลูกสะใภ้ที่ดีที่สุดของตระกูลอัครโภคิน แล้วจะให้ฉันทนสูญเสียลูกสะใภ้ที่ดีเช่นนี้ไปได้ยังไง ?”

ปรางทองเมินหน้าใส่เธอ : “ในตอนที่ลูกสาวของฉันเกิดเรื่องขึ้น ไม่รู้ว่านังแก่คนไหนที่ต้องการจะตัดสัมพันธ์กับเธอ อีกทั้งในท้องที่เธอแท้งลูก ก็เธอไม่ใช่หรือที่ไม่เพียงแต่จะไม่ปลอบใจเธอ มิหนำซ้ำยังทำร้ายร่างกายเธอจนบอบช้ำ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นฉันจำได้อย่างแม่นยำ ! รอให้ฉันขึ้นเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งเสียก่อน แล้วฉันจะมาคิดบัญชีกับเธอ !”

ในที่สุดแพรพรรณก็ไม่อาจข่มความรู้สึกเอาไว้ได้อีกต่อไป จึงระเบิดอารมณ์ออกมา : “ปรางทอง เธออย่าคิดได้คืบจะเอาศอก อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ตอนนั้นเด็กในท้องของลูกสาวเธอไม่ใช่ลูกของการันต์ ! ผู้หญิงกร้านโลกอย่างเขมิกาทำเรื่องงามหน้าขนาดนั้น หากตอนนั้นไม่ใช่เพราะเธอขอร้องวิงวอง และไม่ใช่เพราะฉันเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลพรหมพิริยะและตระกูลอัครโภคินของเรา ฉันคงจะไล่เธอออกไปนานแล้ว ! จะหย่าใช่ไหม ก็ดี รีบพานังผู้หญิงกร้านโลกคนนี้ไปให้พ้น ๆ ตระกูลอัครโภคินของเราจะได้ไม่ต้องพลอยแปดเปื้อนไปด้วย !”

เธอยกถ้วยชาร้อนบนโต๊ะขึ้นมา แล้วสาดใส่ปรางทอง

“โอ๊ย ! แพรพรรณ แล้วเธอจะต้องเสียใจ !”

ปรางทองหวีผมของเธอเล็กน้อย จากนั้นจึงย่ำรองเท้าส้นสูงเดินออกจากตระกูลอัครโภคินด้วยท่าทางหยิ่งยโส เธอสาบานกับตัวเองว่า ขอเพียงเธอได้ก้าวขึ้นเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง เธอจะต้องกลับมาคิดบัญชีกับแพรพรรณให้สาสมอย่างแน่นอน เธอเชื่อว่าถึงตอนนั้น ต่อให้เธอสั่งให้แพรพรรณกินอุจจาระ เธอก็จำต้องยิ้มและพูดว่าอร่อย เมื่อคิดถึงภาพที่น่าสะใจภาพนั้น เธอก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที จากนั้นจึงหันไปสั่งคนขับรถว่า : “ไปรับคุณหนูที่บ้านพักผู้ป่วย”

เมื่อเขมิกาเห็นว่าคนที่มารับตนเองนั้นคือปรางทอง ดวงตาของเธอก็ฉายแววของความผิดหวังออกมาทันที : “ทำไมการันต์ไม่มาคะ ?”

แววตาของปรางทองสั่นเครือ จากนั้นจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา : “ต่อไปแม่จะกลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศซีดานแล้ว ส่วนลูกก็จะกลายเป็นลูกสาวของประธานาธิบดีที่สูงส่งเหนือใคร ไม่ว่าต้องการผู้ชายที่หล่อเหลาและเก่งกาจแค่ไหน ลูกก็สามารถเลือกได้ตามใจ”

“แม่คะ ชาตินี้หนูไม่ต้องการใครทั้งนั้นนอกจากการันต์ !”

ปรางทองพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ทันที : “แกมันไร้อนาคต ต่อไปพวกเราจะเป็นคนของทำเนียบประธานาธิบดี อย่างน้อยแกก็ควรจะเห็นแก่หน้าคุณพ่อและตำแหน่งลูกสาวประธานาธิบดีอันสูงส่งบ้าง ! สักวันการันต์จะต้องยอมคุกเข่าสิโรราบต่อหน้าแกเอง !”

เขมิการคร่ำครวญออกมา : “แม่คะ หนูรักเขา”

“เอาล่ะเอาล่ะ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”

“แม่คะ แม่รู้ไหมว่าตอนนี้หนูอยากพบใครมากที่สุด ?”

“เด็กน้อย ไม่ใช่แม่หรือยังไง ? แกนี่ช่างใจร้ายจริง ๆ”

“มีนาค่ะ ! ได้ยินมาว่าณภัทรอาจเป็นคนที่ลอบสังหารประธานาธิบดี ตอนนี้เธอคงจะกลายเป็นหนูสกปรกข้างถนนที่ใคร ๆ ต่างก็รังเกียจ”

เดิมทีปรางทองคิดจะเล่าความจริงออกมา แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ไกรเลิศกำชับกับเธอเอาไว้ เธอก็ได้แต่บ่นพึมพำ : “ช่างเถอะ แม่แค่เห็นหน้านังเด็กนั่นก็อยากจะอาเจียน !”

ไม่แน่ว่าตอนนี้นังเด็กนั่นอาจจะถูกตำรวจคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจแล้วก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่แน่ว่าอาจจะถูกบอดี้การ์ดของดรณ์วิสามัญจนตายไปแล้วก็ได้

เขมิกาเดินตรงไปที่รถ และทิ้งปรางทองเอาไว้ จากนั้นจึงสั่งให้คนขับรถมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลรัตนชัยนันท์ ต่อไปเธอก็จะกลายเป็นลูกสาวประธานาธิบดี ส่วนมีนาตอนนี้ก็เป็นเพียงแค่สุนัขตกน้ำที่ไร้ทางสู้ แน่นอนว่าเธอจะต้องอาศัยโอกาสนี้เหยียบมีนาให้จมดิน !

ปรางทองกระทืบเท้าด้วยความโกรธ : “นังลูกคนนี้ ไปก็เสียเวลาเปล่า !”

เวลานี้มีนาบังเอิญกลับมาที่คฤหาสน์เพื่อเอาเสื้อผ้าชุดใหม่พอดี หลังจากจัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็สวมแว่นดำ สวมหน้ากากอนามัย แล้วเดินออกไปขึ้นรถทางประตูหลัง และขับออกไปอย่างเงียบ ๆ ประจวบเหมาะกับตอนที่รถของเขมิกากำลังสวนทางเข้ามาพอดี

เขมิกาเห็นแวบเดียวก็จำเธอได้ทันที จึงรีบออกคำสั่ง : “รีบตามไปเร็ว ! ผู้หญิงคนนั้นก็คือมีนา ต้องใช่นังบ้านั่นแน่ ๆ !”

คนขับรถรีบขับตามไปอย่างรวดเร็ว มีนาเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติด้านหลัง เธอลองเปลี่ยนเส้นทาง รถคันนั้นก็รีบขับขึ้นมาขวางด้านหน้าของเธอเอาไว้ทันที เธอเห็นเขมิกาเดินลงมาจากรถ ด้วยไปหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างหยิ่งยโส : “มีนา คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีวันนี้ ?”

มีนารู้นิสัยของน้องสาวคนนี้ดี เธอเหมือนกับสุนัขบ้าตัวหนึ่ง ถ้าหากไม่เห่าออกมาเสียงดัง ก็เกรงว่าอาจจะกัดจนตาย นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ เธอจึงไม่อยากมีเรื่องและเปิดเผยตัวตนออกมา เพราะอาจกระทบไปถึงแผนการของณภัทรได้ เธอจึงลงจากรถ แล้วแสยะยิ้มพลางพูดว่า : “ฉันก็นึกว่าใครเสียอีก ที่แท้ก็คนโรคจิตนี่เอง”

เขมิกากัดฟันกรอด เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ตอนนี้มีนาเป็นเหมือนสุนัขตกน้ำที่ไร้ทางต่อสู้ แต่ทำไมบนร่างกายกลับไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย เธอกลับดูสงบนิ่งไม่ทุกข์ร้อน สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาและรู้สึกบ้าคลั่งขึ้นมา : “มีนา ถ้าหากตอนนี้เธอยอมขอร้องฉัน ไม่แน่ว่าอาจจะยังทัน”

มีนารู้สึกราวกับได้ยินเรื่องตลกขำขัน เธอหัวเราะร่าออกมา : “คุณหนูรอง ดูเหมือนเธอจะประเมินตัวเองสูงเกินไปหน่อยนะ อีกอย่างไกรเลิศจะได้ขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ยังไม่อาจบอกได้ ไม่รู้ว่าเธอไปเอาความกล้าเช่นนี้มาจากไหนกัน”

เขมิกาคิดว่าเธอเพียงแค่รู้สึกอิจฉา จึงหัวเราะเยาะออกมาทันที : “มีประเทศซีดานทั้งประเทศอยู่ในกำมือ ใครจะกล้ามีเรื่องกับพ่ออีก ? หรือณภัทร สามีสุดที่รักของเธอจะกล้า ? เหอะ ๆ……เกรงว่าตอนนี้เขาคงถูกบอดี้การ์ดของประธานาธิบดีควบคุมตัวเอาไว้แล้ว ส่วนตอนนี้ที่เธอยังไม่เข้าไปอยู่ในคุก ก็เพราะคนพวกนั้นเห็นแก่หน้าของคุณพ่อ !”

แปะ ! แปะ ! แปะ ! มีนาอดไม่ได้ที่จะปรบมือออกมา : “ฉันต้องนับถือความคิดโง่ ๆ ของเธอจริง ๆ” จากนั้นน้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนไป : “แต่ฉันไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับเธอหรอกนะ”

จากนั้นเธอจึงกลับขึ้นรถไป แล้วต่อสายหาผู้ช่วยธนา : “ฉันเจอสุนัขบ้าตัวหนึ่ง ช่วยฉันขวางเธอเอาไว้หน่อย !”

ก่อนที่แผนการของณภัทรจะสำเร็จ เธอไม่อาจเปิดเผยตัวต่อผู้อื่นได้ มิฉะนั้นอาจทำให้แผนการล้มเหลว

ตอนนี้ เขมิกาที่ถูกเธอพูดแทงใจดำก็สติแตก และพยายามขับรถพุ่งเข้าใส่มีนาอย่างบ้าคลั่ง !

มีนาแสยะยิ้ม เมื่อก่อนเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน ตอนนี้ก็เช่นกัน จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเส้นทางทันที เธอมุ่งหน้าตรงไปยังแม่น้ำเนินแสงซึ่งอยู่ในวงแหวนรอบนอก แผนการที่สมบูรณ์แบบปรากฏขึ้นในหัวของเธอ ดูเหมือนครั้งนี้คงไม่ต้องรบกวนผู้ช่วยธนาแล้ว

ในขณะที่เธอเข้าใกล้แม่น้ำเนินแสง รถของเขมิกาก็ตามขึ้นมาอย่างกระชั้นชิด จากนั้นเธอจึงหักหัวรถเพื่อเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทัศนวิสัยด้านหน้าของเขมิกา ถูกรถของมีนาบดบังเอาไว้ จึงมองไม่เห็นว่าด้านหน้าเป็นช่องว่างที่ไม่มีรั้วกั้น เมื่อคิดที่จะหยุดรถก็ไม่ทันการเสียแล้ว จึงได้ยินเพียงแค่เสียงตู้ม ทั้งตัวเขมิกาและรถจมดิ่งลงไปในแม่น้ำทันที

เดิมทีแม่น้ำเนินแสงเป็นแหล่งน้ำที่ล้อมรอบคฤหาสน์เอาไว้ น้อยนักที่จะมีคนมาที่นี่ อีกทั้งบริเวณโดยรอบก็ถูกปกคลุมไปด้วยพืชพรรณ ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าที่นี่เคยมีรถตกลงไป

เธอยืนอยู่ริมแม่น้ำแล้วมองดูหญิงสาวที่กำลังกระเสือกกระสนอยู่ในรถ มองดูเธอกำลังทุบกระจกและปีนหนีออกมาอย่างสุดชีวิต แล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อว่ายน้ำกลับขึ้นมาที่ฝั่ง แต่ทว่าเมื่อมือของเธอสัมผัสกับราวกั้นที่อยู่ริมฝั่ง ก็ถูกมีนาค่อย ๆ แกะนิ้วออกทีละนิ้ว ๆ ความสิ้นหวังเช่นนั้น มีเพียงคนใกล้ตายที่จะสามารถสัมผัสได้

“พี่สาว โปรดไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว”

มีนายังคงแกะนิ้วมือของเธอต่อไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวราวกับปีศาจร้าย : “ผู้หญิงร้ายกาจอย่างแกควรจะตายไปเสียตั้งนานแล้ว ตอนที่แกทำให้เธอตาย แกเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าเธอเคยกล่อมแก เคยกอดแก เคยร้องเพลงกล่อมเด็กให้แกฟัง ?”

จอมพลที่รัก

จอมพลที่รัก

Status: Ongoing
ครั้งแรกที่เจอเธอ เธอไล่เขาไป เจอกันครั้งที่สอง เธอถือมีดผ่าตัดจ่อที่คอของเขา……แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงรักเธอได้ถึงขนาดนี้ แม้จะโดนหลอกยังไงก็ตาม เขาก็จะเอาเธอมาเป็นภรรยา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท