มีนาโมโหจนเหลือบตามองบน ที่แท้ปากน้ำพุสีหยกขาวที่ว่าก็คือฟันของเขา กำแพงน้ำพุสีแดงเข้มหมายถึงลิ้นขอองเขานั่นเอง เธอล่ะยอมจริง ๆ เลย แต่ว่าเหมือนว่าเธอจะไม่คอแห้งสักเท่าไหร่แล้ว
เธอกล่าวอย่างอารมณ์เสีย: “แพ้ให้คุณอีกแล้ว”
เขาจับมือเธอและพาเธอเดินไปข้างหน้าต่อ: “พวกเราเป็นคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือพอ ๆ กัน”
มีนายิ้มเล็กน้อย ชีวิตการแต่งงานที่มีความสุขคือช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน เป็นคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือพอ ๆ กัน ได้พบกับณภัทร เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก เธอทำท่างทางคำนับเขาอย่างจริงจังพลางกล่าว: “คุณณภัทร ชีวิตหลังจากนี้ขอฝากไว้ที่คุณ”
ณภัทรยิ้มพลางบีบแก้มนิ่ม ๆ ของเธอเบา ๆ : “โอเค ผมจะสอนคุณให้เป็นแม่สาวน้อยที่ได้ทั้งบนเตียง และที่ระเบียง”
มีนาหัวเราะขึ้นมา หมอนี้เริ่มบ้ากามขึ้นมาอีกแล้ว แต่หลังจากที่ได้หยอกล้อกับเขา เธอพลันรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าของตัวเองนั้นได้หายไปเกินกว่าครึ่ง
เสียงหัวเราะของเธอได้ยินถึงยิหวาที่วิ่งอยู่ด้านหน้าห่างออกไปไม่ไกล หล่อนกัดฟันกรอดพลางแอบด่าอยู่ในใจ เป็นนังจิ้งจอกจริง ๆ เรื่องแบบนี้ยังดึงพี่ณภัทรเข้ามาด้วย แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าพี่ณภัทรได้เห็นความทุลักทุเลของเธอกับตา ภาพเหตุการณ์แบบนั้นจะต้องน่าสนใจมากแน่
แต่ว่าทำไมนังสารเลวนั่นยังไม่ออกฤทธิ์อีกล่ะ ตามฤทธิ์ของยาน่าจะถึงเวลาแล้วนี่?
ในตอนที่เธอกำลังสงสัยอยู่นั่นเอง จู่ ๆ ก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมา เหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเธอ หรือว่า……หรือว่าเป็นเธอที่ได้ทานอาหารที่มียาระบายฤทธิ์ร้ายแรงนั่นลงไป?
เธอพลันหยุดฝีเท้าลง ขาทั้งสองข้างขมิบก้นเอาไว้แน่น ยื่นอยู่จุดเดิมด้วยท่าทางแปลกประหลาด
มีนาจงใจหยุดลงที่ข้างกายของเธอ และแสร้งทำเป็นกล่าวด้วยความหวังดี: “คุณยิหวาเป็นอะไรไปเหรอ? ถ้าหากไม่สบายฉันช่วยคุณสละสิทธิ์จากการแข่งขันเอาไหม?
“ฝันไปเถอะ!”
ยิหวาพึ่งจะพูดประโยคที่ร้ายแรงนี่จบ ได้ยินเพียงเสียงตดดังมาจากส่วนล่างของร่างกาย กลิ่นเหม็นได้ไหลลงมาตามขากางเกงของเธอ
มีนาปิดจมูกเอาไว้และจะอ้วกอยู่หลายครั้ง บนใบหน้ามีท่าทางอยากหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้: “ดูเหมือนคุณยิหวาจะทานของสกปรกลงไปนะ”
ยิหวายังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าเสียงตดก็ได้ดังขึ้นเป็นระยะตามด้วยกลิ่นเหม็นที่โจมตีมา ทำให้เธอไม่มีแรงเถียง
และในตอนนี้ณภัทรก็ได้ยืนอยู่ที่ด้านข้างของเธอ มองดูเธอด้วยสายตารังเกียจและประหลาดใจ ยิ่งทำให้เธอขายหน้าขึ้นไปร้อยเท่า มีสภาพทุลักทุเลอยู่ต่อหน้าชายที่ตัวเองรักนั้นมันทำให้เธอทรมานกว่าการฆ่าเธอเสียอีก
มีนาชื่นชมความทุลักทุเลของเธออย่างเย็นชา ภายในใจนั้นเธอเข้าใจขึ้นมาทันที ถ้าตอนเที่ยงเธอไม่เปลี่ยนถาดอาหารกับยิหวา เกรงว่าคนที่ท้องไส้ปั่นป่วนในตอนนี้ ก็คงเป็นเธอ
“คุณยิหวา จะให้ฉันเรียกแพทย์ทหารให้คุณไหม?”
ยิหวาจ้องมองมีนาอย่างโกรธแค้นและอ่อนแรง เธอจะยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไง เธอพลันกัดฟันกล่าว: “ไม่รบกวนพี่สะใภ้……เป็นห่วงหรอก ต่อ……ต่อให้ต้องคลานฉันก็จะคลานไปจนถึงเส้นชัยให้ได้”
มีนาตบมือเบา ๆ : “งั้นเธอก็ลิ้มรสให้เต็มที่แล้วกัน”
เธอหันไปดึงณภัทรจากไปด้วยกัน
ณภัทรได้กลิ่นดินระเบิดจากผู้หญิงทั้งสองคนทันที เมื่อนึกถึงสภาพทุลักทุเลของยิหวา เขาก็เข้าใจทุกอย่างทันที เขากล่าวด้วยรอยยิ้มระรื่น: “แม่สาวน้อยของผมร้ายกาจขึ้นมาอีกแล้ว ผมว่าไม่นานคุณต้องเข้าสู่ขั้นเทพแน่เลย”
“จะให้ฉันถ่ายทอดให้คุณสักหน่อยไหมล่ะ?”
“ล้างหูรอฟังเลยครับ”
“นี่ คุณต้องจำคำสั่งสอนจากบรรพบุรุษให้ดี อย่าคิดทำร้ายใคร แต่ก็ต้องพึงระวังคนคิดทำร้ายเรา ยังมีอีกประโยคที่ใช้ได้ทุกครั้ง นั้นก็คือทำดีย่อมหวังผล”
ณภัทรดวงตาเป็นประกายขึ้นมา: “คุณภรรยาคอแห้งไหม?
มีนาทำตามองบนใส่เขา: “จะล่วงละเมิดหรือไง?”
“ถุย! เราสองคนเป็นสามีภรรยากัน ระหว่างสามีภรรยาเขาเรียกหลอกล้อไม่เรียกล่วงละเมิด”
มีนากลั้นหัวเราะเอาไว้และเดินไปด้านหน้าต่อ เมื่อเห็นว่าจุดหมายอยู่ด้านหน้าแล้ว เธอก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที: “พวกเรามาพนันกันหน่อยดีไหม?”
“แม่สาวน้อยมีแผนการอะไรอีก ในบอกมาสิ”
“ถ้าฉันชนะคืนนี้กลับไปที่หอพักคุณต้องอยู่ข้างบน ถ้าฉันแพ้คุณอยู่ข้างล่าง”
ทางค่ายเพื่อที่จะดูแลพวกเขาสองคน จึงจัดเตรียมห้องพักเดี่ยวเอาไว้ให้พวกเขาสองคน เขายังไม่ทันได้ไปดู ตอนนี้ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที วันนี้แม่สาวน้อยผิดปกติไปนะ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเขาก็ไม่เสียเปรียบทั้งนั้น
“โอเค! คำไหนคำนั้น”
เมื่อนึกถึงภาพที่แม่สาวน้อยนั่งอยู่บนตัวของเขาแล้วทำอะไรตามอำเภอใจด้วยสารพัดท่าท่างที่น่าหลงใหล เขาก็รู้สึกเลือดพุ่งกระฉูดไปทั้งตัว หางตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้และวางฝีเท้าให้ช้าลง มีเพียงแพ้เขาถึงจะตอบสนองความต้องการของตัวเองได้
มีนายิ้มออกมา ในใจเต็มไปด้วยความได้ใจ เธอรู้ว่าหมอนี่คิดไปไกลแล้ว แต่ว่าส่งชัยชนะให้เธอฟรี ๆ เธอก็ต้องไม่ปฏิเสธเป็นธรรมดา
มองดูด้วยตาพบว่าอีกเพียงไม่กี่สิบเมตรก็จะถึงจุดหมายแล้ว เธอเหมือนกับได้ฉีดยากระตุ้นอารมณ์เข้าไป เพิ่มความเร็วฝีเท้ามุ่งไปยังเส้นชัย
กริ๊งงงงงง วินาทีที่กดกระดิ่งลงไปนั่นเอง เธอก็ล้มฮวบลงไปบนพื้น ราวกับว่าภาระร้อยพันบนร่างกายได้ถูกปลดปล่อยไปหมดแล้ว ในเวลานี้แขนที่ทรงพลังได้ดึงเธอเข้าไปกอดไว้ในอ้อมอก: “แม่สาวน้อย พูดคำไหนต้องคำนั้นนะ”
เธอกลั้นหัวเราะเอาไว้และหันไปยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับเขา: “แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าฉันโกหกคุณนะให้ฉันเป็นหมาเลย”
เขาได้ถูกคาถามหาเสน่ห์ของเธอจริง ๆ โดยเฉพาะในตอนที่เธอยิ้ม รู้สึกว่าโลกทั้งใบล้วนกลายเป็นพื้นหลังให้กับเธอ
“อืม แม่หมาของผม”
เขาก้มลงจูบริมฝีปากของเธอ
ในเวลานี้เงาร่างทุลักทุเลได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคน เห็นเพียงสภาพของเธอนั้นแทบดูไม่ได้เลย ร่างกายของเธอสกปรกมากแถมยังมีกลิ่นเหม็นลอยออกมา กำลังคลานเข้ามาทีละก้าว
มองดูสถานการณ์ตรงหน้า มีนาก็กล่าวขึ้นมาอย่างเวทนา: “เธอเป็นผู้หญิงที่มีพลังจิตใจเข้มแข็งจังเลยนะ”
ณภัทรกลับมีสีหน้าเคร่งเครียด เขารู้ว่ายิหวากำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าเธอจะปล่อยวางเขาไม่ได้ถึงขนาดนี้ ขอแต่ไม่ได้มา รักแต่ไม่ได้ครอบครอง สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะกลายเป็นความโกรธแค้นที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยให้ผู้หญิงแบบนี้อยู่ในประเทศซีดานต่อไปต้องมีสักวันที่จะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของมีนา
วินาทีที่ยิหวากดกระดิ่ง ก็หันไปร้องหาคำปลอบโยนจากณภัทรด้วยความเคยชิน แต่กลับได้พบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของณภัทร หัวใจของเธอตกลงไปที่ตาตุ่มทันที พวกเขาฝึกซ้อมมาด้วยกันมาเป็นเวลานาน เธอเข้าใจเขาดี เพียงแต่เธอคิดไม่ถึงว่า เขาคิดจะฆ่าเธอเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง
กำพลเห็นท่าทางทุลักทุเลของเธออยู่บนหน้าจอ จึงรีบสั่งให้คนพาเธอขึ้นรถพยาบาลไปทันที
ในห้องผู้ป่วย เธอได้ชำระร่างกายเป็นที่เรียบร้อย เปลี่ยนไปสวมชุดคนไข้ที่สะอาด แต่ใบหน้าที่ซีดเซียว ริมฝีปากที่แห้งแตกราวกับกำลังบ่งบอกถึงความทุกข์ทรมานและทุลักทุเลของเธอเมื่อสักครู่
เมื่อเห็นกำผลักเปิดประตูเข้า เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้: “คุณพ่อคะ พี่ณภัทรคิดจะจัดการฉัน”
เพียะ! กำพลตบเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างแรง: “คนไร้ประโยชน์!”
ยิหวาได้สติขึ้นมาทันที และกลืนน้ำตากลับลงท้องไป เธอจับข้อมือของกำพลไว้ น้ำเสียงหนักแน่น: “คุณพ่อคะ คุณพ่อสบายใจได้ พรุ่งนี้……พรุ่งนี้หนูจะต้องจัดการนังสารเลวนั่นได้แน่!”
กำพลยื่นแผนที่แผ่นหนึ่งให้กับเธอ: “นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉฉันจะช่วยเธอ หวังว่าพรุ่งนี้เธอจะมีชีวิตรอดกลับมาเจอฉันนะ”