การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 13

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 13 เลเวียกับการสันนิษฐาน

ฉันใช้เวลาไม่นานก็มาถึงคฤหาสน์ โชคดีที่ยังไม่มีใครมาอยู่นี่.. ฉันคิดว่าควรจะแอบเข้าห้องจากทางหน้าต่าง

พรมสีดำจึงลอยไปหลังคฤหาสน์อย่างเงียบๆ เพราะต้องใช้ความเงียบและสมาธิ ฉันพอรู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่คือปีศาจเดินได้

จริงๆ นะ… ด้วยเหตุนี้ฉันต้องระมัดระวังมากกว่าคนอื่นหลายสิบเท่า ระบบความคิดของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพ่อแม่นั้นประหลาดเกินไป

แม้ในโลดเดิมฉันจะไม่เคยมีพ่อมีแม่กับเขา มีแต่พี่กับน้องที่เป็นครอบครัว.. แต่ในชีวิตนี้ก็เหมือนกัน

ท่านพ่อ ท่านแม่ ไม่ใช่กระทั่งพ่อแม่แท้ๆ ของฉัน แต่ทั้งสองกลับทำดีกับฉันโดยไม่หวังผลตอบแทน นั่นคือสิ่งที่ฉันงงงวยมากที่สุด

มันอาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านี้ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงต้องระมัดระวังท่านแม่และท่านพ่อ

ในขณะที่กำลังแอบเข้าประตูหลังคฤหาสน์นั้นเอง ฉันที่ค่อยๆ แง้มประตูออก ที่ไม่กล้าลงจากพรมเพราะกลัวจะมีเสียง

เลยเปิดทั้งแบบนั้น… วินาทีนั้นถ้าตอนนี้มีเสียงซาวน์แทรกผสมคงคิดว่าเป็นหนังสยองขวัญเพราะว่าพริบตาที่เปิดประตู

“ไปไหนมา!!”

เสียงของท่านแม่ดังขึ้นทำเอาฉันเหงื่อแตกในทันที มีปีศาจกำลังปล่อยออร่าอันตรายอยู่ตรงหน้า.. ไม่สิ ฉันเองก็เป็นปีศาจนี่

แต่ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงท่านแม่กำลังทำหน้าเหมือนอสูรกายจากนรก

“เอ่อ….”

ดูเหมือนว่าฉัน..จะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากที่แท้จริง

……..

ข้า เลเวีย ทีน อาเดฟ ช่วงนี้ข้ากำลังมีปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นคือ การกลับไปยังโลกแห่งเทพ เพื่อหาสามี

อืม.. มันดูแปลกๆ ใช่ไหมล่ะ ตรรกะของพวกเทพเนี่ย ไม่เข้าใจเลยสักนิดทั้งๆ ที่ข้ามีลูกกับลูเซียโน่แล้วแท้ๆ

แต่ว่าด้วยคำสั่งของเทพสูงสุดพวกเราต้องกลับไป ข้าเล่าเรื่องนี้ให้ลูเซียโน่ฟัง แน่นอนว่าเขาไม่ยอมรับ

เขาจึงวางแผนจะทำอะไรสักอย่าง และยิ่งใกล้วันที่จะไปเข้าทำให้ข้าทั้งร้อนรนและอารมณ์เสีย

วันนี้พอข้าตื่นมาก็พบว่าเด็กแสบสองคนนั้น เลวี่กับเลทิเซียหายไปจากห้อง ทำให้ข้าที่อารมณ์เสียมาหลายวันเลยรู้สึกอยากตีก้นของเด็กแสบสองคนพี่น้องนั่น

ข้ามั่นใจว่าอีกไม่นานทั้งสองต้องกลับมา แต่เลทิเซียเป็นพี่สาว แถมเลวี่ที่ชอบแอบมองเลทิเซียบ่อยๆ ทำให้ข้ารู้ทันทีว่า

คนนำต้องเป็นเลทิเซีย จากที่ข้าอยู่กับเลทิเซียมา เธอเป็นเด็กที่ขี้ระแวงจนเกินเหตุขนาดตอนกินข้าวยังใช้เวทมนตร์ตรวจสอบว่ามีพิษหรือไม่เป็นสิบรอบ

แถมสิบรอบต่อหนึ่งเวท เพราะเวทที่ใช้ตรวจพิษมีมากกว่าสิบหรืออาจจะมากกว่านั้น แต่สรุปคือ…

ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มกินข้าวต้องรอเลทิเซียทำกิจกรรมประจำชีวิตก่อน.. แต่พอนึกถึงที่ว่าเลทิเซียเป็นเด็กที่ถูกทิ้ง

ตั้งแต่นั้นพวกเราก็ไม่เจอข่าวคราวของผู้กล้าคนไหนเลย ทำให้ความโกรธลดลงหลายส่วน อาจจะระแวงโดยสัญชาตญาณเพราะเคยถูกทิ้งละมั้ง

แต่ว่าการแอบออกไปข้างนอกตอนกลางดึก ต้องมีสั่งสอนซะบ้าง! ข้าไปยืนดักอยู่ทางเข้าหลังคฤหาสน์ ไม่มีทางที่เลทิเซียจะเข้ามาแบบตรงๆ แน่

และก็เป็นอย่างที่คาด! เลทิเซียปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเลวี่จากด้านประตูหลังคฤหาสน์ สายตาข้าจึงจดจ้องไปที่เลทิเซีย

“ไปไหนมา!!!”

ดูเหมือนเธอจะกลัวข้ามาก จึงหัวหดทันทีส่งเสียง “เอ่อ..” ออกมาซะหมดท่าเลย.. อืม.. น่าสงสารเกินไปแล้ว!

แต่.. แต่ข้าเป็นแม่! ต้องตักเตือน!

ใช่ ต้องตักเตือนให้ไม่ทำแบบนี้อีก!

ข้าคิดแบบนั้นสายตาก็เลื่อนไปเห็นฝุ่นเต็มชุดเสื้อผ้าของเลทิเซียกับเลวี่ ทำให้ข้าชะงักทันที ฝุ่นเหรอ?

ข้าจ้องเขม็งไปยังเลทิเซียที่ไม่กล้ามองหน้าข้า ก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปเห็นผู้หญิงอีกคนที่หลับอยู่ด้านหลังเลทิเซีย

ข้ามั่นใจว่าปากตัวเองเปิดออกอยู่ในตอนนี้ แถมใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นยังบวมตุ๊บป่องอีกด้วย..

ท่านเทพสงคราม (ความฉิบหาย) ซิลเวีย! บุตรสาวคนที่สองของท่านเทพสูงสุดผู้มีสิทธิ์ขาดบนโลกแห่งเทพ!

นะ.. นี่มันเรื่องอะไรกัน หรือว่าเด็กสองคนนี้ไปที่หอคอยพระเจ้ามา.. ด้วยความสงสัยข้าเลยพูดขึ้น

“พวกเจ้า…”

แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าจะไล่ให้เลทิเซียกลับเข้าห้องก็เหมือนว่าเธอพ้นผิดแล้ว มันจะดูแปลกๆ ในฐานะคุณแม่อย่างข้านะ

แต่ถ้ายอกให้รออยู่ตรงนี้ ยิ่งสร้างความกดดันให้กับเลทิเซียกว่าเดิม เพราะเด็กคนนี้เป็นคนคิดเป็นตุเป็นตะ (หล่อนด้วยนะ)

แถมถ้ารอนานไปกลับมาบ่นมันก็เหมือนหนังขาดตอน.. ข้าควรทำยังไงดี.. ทำยังไงดี แต่ก็ต้องมีเรื่องไปตรวจสอบด้วยสิ…

อ๊ากกกก … อ๊ะ.. จริงสิ มีวิธีนั่นอยู่ดีน่า ข้าพึ่งนึกขึ้นได้เพราะพลังข้าไม่ถูกผนึกในฐานะเทพ

ใช่ เวลาเอ๋ยจงหยุด! (เดจาวู)

และในพริบตานั้นเองเวลาก็หยุดเดินลง.. ใช่แล้ว วิธีนี้จะไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะเวลาไม่เดินยังไงล่ะ

ข้าเป็นแม่ที่ดีแล้วนะ ไม่สร้างความกดดันให้ลูก! แต่นี่ไม่ใช่เวลามาพูดแบบนี้นี่น่า!

ข้ามุ่งตรงไปทางหอคอยพระเจ้า ด้วยความเร็วสูง ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็มาถึง แม้ที่นี่จะตั้งอยู่สุดขอบของชายแดนประเทศ

แต่อาณาจักรอาเดฟ ไม่ใช่อาณาจักรเล็กๆ ดังนั้นมันจึงอยู่ไกลหลายพันกิโลเมตรเลยทีเดียว (เลทิเซีย บินวูบเดียวถึง…)

ข้ามองไปยังภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง.. เป็นภาพของหอคอยที่เหมือนพุ่งเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมา

แสดงว่าที่ข้ารู้สึกเมื่อกี้คือฝีมือของเลทิเซียกับเลวี่..? ข้าจำได้ว่าตอนข้าเล่าเรื่องนี้ให้ลูเซียโน่ฟัง

เลวี่กับเลทิเซียก็อยู่ด้วย แต่เลวี่ก็เอาแต่จ้องเลทิเซียตอนหลับแถมยังแอบเลียหน้าพี่สาวตัวเอง (แล้วทำไมไม่ห้ามล่ะเพ้!)

เลทิเซียก็หลับเป็นตาย.. แต่ไม่คิดว่าพวกเธอทั้งสองจะใส่ใจเรื่องของข้า.. และที่ทำแบบนี้ก็เพราะข้า…

อีกอย่าง เพราะว่าทำลายหอคอยพระเจ้า ท่านเทพสูงสุดเลยส่งเทพสงคราม (ความซวย) ซิลเวียมาสินะ!

(อนึ่ง เลเวียเกิดในโลกมนุษย์และไม่เคยไปโลกเทพมาก่อน แม้เคยได้ฟังเรื่องราวมาจากแม่แท้ๆ ตนเอง แต่ไม่เคยไปแดนเทพ รู้จักเพียงว่าซิลเวียนั้นแข็งแกร่งมาก)

แต่ทั้งสองเพื่อช่วยไม่ให้ข้าไปโลกแห่งเทพเลยสู้กับเทพสงคราม (ความซวย) ซิลเวียจนทำให้เธอพ่ายแพ้

อืม.. ถ้าเป็นสองพี่น้องคงทำได้ไม่ยากละมั้ง (อนึ่ง นี่คือการอวยลูกผสมความมโนเท่านั้น)

แถมยังเก็บความเป็นไปได้อื่นมา โดยการจับตัวท่านซิลเวียมาด้วย ถ้าหากท่านเทพสูงสุดยังดึงดันที่จะไม่ยอมแพ้ ถ้าแบบนั้นก็สามารถนำเอาท่านซิลเวียมาขู่ได้

ลูกสาวข้ามองขาดจริงๆ! ถึงกับวางแผนขนาดนี้เพื่อข้า…

ข้ารู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล.. ต่อให้นั่นจะเป็นท่านเทพสูงสุดก็ตาม.. แต่ลูกสาวทั้งสองทำเพื่อข้าขนาดนี้.. ไม่มีทางที่ข้าจะหักหลังความตั้งใจของเด็กๆ

ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านเทพสูงสุด โลกแห่งเทพ.. ข้าขอโทษข้าเลือกที่จะอยู่ข้างลูกสาวตัวเอง แทนที่จะไปเข้าข้างโลกที่บังคับให้ข้าไปแต่งงานกับคนอื่น!

ข้ากำหมัดเบาๆ .. สิ่งที่ต้องทำก็คือการสานต่อแผนของลูกสาวทั้งสองให้สมบูรณ์ ลบความทรงจำท่านเทพซิลเวียทำให้ท่านเทพซิลเวียเห็น เลทิเซียกับเลวี่สำคัญกับตัวเองมากๆ

และจะเป็นประโยชน์ในภายหลัง!

หากท่านเทพสูงสุดไม่ยอมแพ้ข้าจะเอาท่านเทพซิลเวียข่มขู่ท่านซะเลย! หึๆ

………….

(บนโลกแห่งเทพ)

หญิงชรากำลังจัดงานเลี้ยงใหญ่โต… พร้อมกับมีเสียงไชโยโห่ร้องไปทั่วงานเลี้ยงว่า

“ฉลองแด่งานแต่งของ บุตรสาวของที่หนึ่งของท่านเทพสูงสุด”

ใช่.. สรุปคือเลเวียเข้าใจผิดไปเองว่าจะถูกจับไปแต่งงาน.. เพราะมันคืองานฉลองงานแต่งของพี่สาวซิลเวียเท่านั้นเอง…

…..

….

อะไรนะ?

…………..

[สำหรับเรื่องทักษะสกิลที่ได้มาตอนแรก ผมไม่ได้ลืมแต่อย่างใดนะครับ เดี๋ยวก็มีกล่าวถึง – ผู้เขียน]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท