บทที่ 96 – การเปลี่ยนแปลง
ข้า ทสึรุ.. ในตอนนี้กำลังหาอาหารอยู่ ตั้งแต่มาอยู่ในที่แห่งนี้ก็ผ่านมาสักสิบวันเห็นจะได้แล้วละมั้ง
แม้เลทิเซียจะกินไม่ได้เพราะกำลังพักผ่อนอยู่ แต่ข้าเองก็ต้องกินเหมือนกันนี่น่า.. แต่วันนี้อากาศเหมือนจะไม่ดีข้าเลยต้องให้เลทิเซียนอนอยู่บ้าน
ยังไงซะตอนนี้ก็มีบ้านแล้วพวกสัตว์ป่าเองก็ทำอะไรเลทิเซียยากเหมือนกัน.. อ้อ ลืมบอกว่า ดูเหมือนที่นี่จะไม่มีพวกอสูรมอนสเตอร์เลย
ในที่แห่งนี้มีเพียงแค่สัตว์หลากชนิดเท่านั้น อีกทั้งสัตว์ต่างๆ ก็มีแค่สัตว์ที่ไม่ดุร้าย ข้าเลยไม่ต้องกังวลอะไรมาก
ถ้าพามาด้วยกลัวเลทิเซียจะเป็นไข้เอาหากฝนตกลงมา.. ในตอนนี้นั้นข้ากำลังเคลื่อนที่เข้าไปในป่าลึก..
ถึงเลทิเซียจะหลับอยู่แต่ข้าก็จำเป็นต้องหาทางออก หลายวันมานี่ข้าเองก็ไปหาตรวจสอบดูหลายที่ในป่า แต่ก็ไม่มีทางออก
จะไปตรวจสอบรอบๆ หรือเกาะใกล้เคียงก็ดันบินไม่ได้ ทำให้ข้ารู้สึกอิจฉาคนที่ใช้เวทมนตร์ได้อยู่ไม่น้อย
แน่นอนว่าข้าไม่กล้าใช้แบบตอนที่ไปช่วยเลทิเซีย เพราะแม้จะไปได้แต่กลับไม่ได้ก็เท่านั้น ดังนั้นจึงล้มเลิกไป
แต่จากที่พวกเราฟื้นขึ้นมาที่ชายหาด บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับทะเลที่ล้อมเกาะแห่งนี้อยู่นั่นล่ะ บางทีทางออกอาจจะอยู่ใต้ทะเล
แต่ก็อย่างว่าข้าไม่มีเวทมนตร์เหมือนเลทิเซียหรือคนอื่น ถึงตอนนั้นจะเคยใช้ไปแล้วแต่เอาเข้าจริงมาลองใช้ใหม่ก็ไม่สำเร็จ
ดังนั้นเวทมนตร์ยังห่างไกลจากตัวข้ามาก ดังนั้นตอนนี้ก็ได้แต่ มุ่งหน้าเข้าไปในป่าลึกเพื่อตรวจสอบว่าข้างในป่าลึกมีอะไรหรือเปล่า
อันที่จริงข้าไปตรวจสอบล้อมรอบเกาะมาหมดแล้ว มันไม่มีอะไรที่เหลือก็มีแค่ข้างในป่าเท่านั้นแหละ
แต่ไม่รู้ทำไมพอข้าเข้าไปในป่าก็รู้สึกเหมือนมีมือสีดำมาผลักข้าออกไป เหมือนกับไม่ต้องการให้เข้าไป
แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นขามีแต่ต้องเข้าไปตรวจสอบดู เพราะอาจจะมีทางออกอยู่ที่นี่จริงๆ ก็ได้
ข้าใช้เวลาไม่นานหลังจากเดินทางเข้าไปในป่าลึกของเกาะ เมื่อไปถึงจุดจุดหนึ่งก็ไม่มีเสียงของสิ่งมีชีวิตอยู่เลย
ข้าสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ทันที ข้าขมวดคิ้วคิดที่นี่มันเงียบจนเกินไป เหมือนกับว่าเสียงจากรอบเกาะดังมาไม่ถึงยังไงยังงั้น
“แปลกๆ แฮะ..”
ข้าพึมพำอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเดินหน้าต่ออีกนิดหน่อยก็เจอความผิดปกติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น..
“นี่มัน…. อะไร…”
ข้ามองไปยังพื้นดินตรงหน้า พื้นดินตรงหน้าไม่ใช่สีน้ำตาลมีหญ้าสีเขียวแต่อย่างใด เพราะทุกอย่างเป็นสีดำ!
เพียงแต่ว่าพื้นดินเหมือนจะเป็นสีดำสนิทส่วนหญ้าออกเทาๆ นิดหน่อย แถมต้นไม้ยังเป็นสีดำไม่ต่างกัน
แค่นี้ยังพอว่าแต่รอบๆ กลับมีประกายแสงบางอย่างวิ่งแล่นผ่านไปทุกจุดในอาณาเขตแผ่นดินสีดำ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า
ทุกอย่างมีประกายแสงสีวิ่งผ่านไปทั่วพื้นป่า มองดีๆ แล้วมันเหมือนสายฟ้า! ข้าถึงกับอึ้งไปในทันที
“ไม่ใช่เวทมนตร์แห่งความตาย… ที่นี่มันคืออะไร?”
ข้าพึมพำ เวทมนตร์แห่งความตายคือประเภทหนึ่งของความหลากหลายในเวทมนตร์ ซึ่งเวทมนตร์แห่งความตายคือเวทมนตร์ประเภทที่ยุ่งเกี่ยวกับความตาย
เช่นคนที่เป็นเนโครแมนเซอร์อะไรแบบนั้นนั่นแหละ … ละมั้ง ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องเวทมนตร์สักเท่าไหร่ แต่ว่า…
เวทมนตร์แห่งความตายคือเวทมนตร์ทำให้ทุกอย่างสิ้นอายุขัยแก่เฒ่าตายหรือไม่ก็ชุบหลอมบางอย่างจากความตาย
แต่ที่แห่งนี้แม้จะมืดสนิทแต่กลับมีชีวิตอย่างพืชไม้ใบหญ้าอยู่ ที่น่ากลัวคือสายฟ้าเหล่านี้ที่มันวิ่งแล่นไปทั่วผืนแผ่นดิน
ข้าลังเล ไม่รู้ว่าประสิทธิภาพของสายฟ้าที่วิ่งแล่นอยู่ทั่วพื้นดินสีดำมันมีความรุนแรงขนาดไหน ทำเอาขมวดคิ้วหน่อยๆ
ข้าหยิบหินขึ้นมาก่อนหนึ่งก่อนจะโยนเข้าไปในอาณาเขตที่ว่า.. ทันทีที่มันลอยเข้าไปในเขต สายฟ้าที่วิ่งอยู่รอบๆ เหมือนกับตรวจพบเจอสิ่งที่แตกต่างจากเขตแดนสีดำนี้
“เปรี้ยง!!!”
สายฟ้ารอบด้านแตกลั่นจนน่ากลัว ในชั่วขณะที่สายตาข้าจับจ้องอยู่ที่หินก้อนนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
สาบานว่ามันชั่วพริบตาเดียวหินก้อนนั้นก็หายไป.. ถ้าจะพูดให้ถูกคือมันถูกสายฟ้าฟาดจนสลาย ข้าจินตนาการไม่ออกเลยว่าต้องมีความแรงขนาดไหน
ข้าลังเล ถึงข้าจะพอมีวิชาป้องกันตัวอยู่บ้าง แต่นั่นมันในกรณีของการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในระยะประชิด ใครจะไปคิดว่าสักวันหนึ่งอาจจะต้องมาเจอกับแผ่นดินสายฟ้า
ที่มีแต่สายฟ้าที่พร้อมจะฟาดผ่าทุกเมื่อ ข้าไม่มีวิธีป้องกันเลย เป็นอีกครั้งที่ข้ารู้สึกอิจฉาผู้ใช้เวทมนตร์
ถ้ามีเวทมนตร์ตอนนี้ข้าคงสร้างม่านพลังงานอะไรก็ช่างที่สะท้อนสายฟ้าออกไป ก็คงเดินเข้าไปได้สบายๆ แท้ๆ
และในตอนที่ข้ากลัดกลุ้มอยู่นั้นเอง ฟ้าที่มืดมาตั้งแต่หัววันก็เริ่มที่จะมีฝนโปรยปรายลงมา แม้จะไม่แรงมาก แต่อีกหน่อยคงกลายเป็นพายุฝนแน่ๆ
“งั้นกลับที่บ้านไม้ก่อนแล้วกัน ค่อยหาวิธีเข้าไปตรวจสอบใหม่”
ข้าคิดได้แบบนั้นจึงตัดสินใจ แน่นอนว่าข้าไม่มีทางที่จะยอมแพ้ในการหาทางออกแน่ๆ แต่เมื่อฝนตกแบบนี้
แถมข้ายังมองเห็นเมฆสายลมที่เริ่มที่จะพัดแรงขึ้นมา อันที่จริงมันก็พัดแรงตั้งนานแล้วแหละ เพียงแต่ที่นี่ป่าไม้มันค่อนข้างหนาทึบ
ลมพายุเลยวิ่งอยู่แค่เหนือต้นไม้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันแรงขึ้นมาก ข้าต้องกลับไปดูแลเลทิเซียที่นอนหลับอยู่
หลังจากตัดสินใจได้แบบนั้นก็หันหลังกลับและในขณะเดียวกันลมพายุเริ่มแรงขึ้นด้วย ยังดีที่บ้านไม้ข้าค่อนข้างที่จะมั่นคง
(ตอกไม้ลงพื้นค้ำบ้านลึกเกือบเมตรหนึ่ง)
เพราะกลัวว่าจะมีพายุฝนหรืออะไรที่เป็นภัยธรรมชาติ เลยเตรียมบ้านไม้หลังเล็กรับมือกับสภาพอากาศได้
ถึงไม่รู้ว่าจะได้ผลขนาดไหนก็เถอะ.. ข้าเดินทางใช้เวลาไม่นานก็ออกจากเขตป่าแล้ว อีกไม่นานคงถึงบ้านไม้แล้วฝนเองก็ตกหนักจนเสื้อผ้าข้าเปียกชุ่ม
“ไม่มีชุดเปลี่ยนนะเนี่ย”
ข้าถอนหายใจ.. พายุเองก็เริ่มเห็นว่ามีลมหมุนบังเกิดขึ้นมาแล้ว โชคดีที่มันอยู่ตรงอีกทิศของเกาะและไม่มีทีท่าว่าจะมาทางนี้เลย
ถ้าพายุระดับนั้นเข้ามาใกล้บ้านไม้สักนิดสักหน่อย คงถูกถอนรากถอนโคนกันไปในทันทีเป็นแน่ แต่ที่สำคัญตอนนี้คือชุด
“ถ้าช้าไม่สบายแล้วใครจะดูแลเลทิเซียที่ไม่ได้สติ”
พอคิดแบบนั้นก็อดที่จะเร่งความเร็วกลับไปบ้านไม้ด้วยความเร็วสูง แต่ยังไงข้าก็เปียกไปแล้ว… อันที่จริงอยากลองใส่เสื้อผืนเดียวกับเลทิเซีย
ก็..ก็มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้นี่น่า! ตอนนอนเลยต้องนอนในชุดของเลทิเซีย.. (ความคิดของทสึรุเริ่มจะหลุดสามัญ)
แต่พอมาคิดไปคิดมาเดี๋ยวเลทิเซียโกรธเอา อีกอย่างชุดเลทิเซียเล็กเกินไป เพราะเลทิเซียเป็นคนตัวเล็ก.. นึกถึงใบหน้าเลทิเซียข้าก็อดที่จะคิดถึงเสียงของเธอไม่ได้
“เลทิเซีย เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้น..”
ในขณะที่ถอนหายใจออกมาแบบนั้น คิ้วข้าก็ขมวดเป็นปม เพราะตอนนี้ก็มองเห็นบ้านไม้แล้ว
แต่ตอนนี้กำลังเห็นใครไม่รู้สองคน แต่เพราะมองงไม่เห็นหน้าเลยไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย แต่พวกมันกำลังจะเข้าไปในบ้านที่เลทิเซียนอนอยู่
ตอนนี้เลทิเซียนอนหลับอยู่ เป็นสภาพที่อ่อนแออย่างมาก…หากมีคนคิดจะทำร้ายเธออีกเหมือนตอนนั้น ตอนที่เธอถูกตัดแขนละก็…
ข้ากัดฟันด้วยความโกรธและความเลินเล่อของตัวเอง ข้าเหยียบพื้นด้วยความเร็วสูงสุด เสียงตู้มหนึ่งดังตามมาติดๆ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนสองคนนั้นจะหันหน้ามาทางนี้พอดี ข้าพุ่งเข้าใส่จับทวนที่จากไม้ด้านหลังฟาดเข้าใส่คนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ข้าที่สุดเมื่อพุ่งมา
แต่ควบคุมแรงเอาไว้เพราะกลัวจะไปทำให้บ้านไม้พัง แต่ทว่าแม้ความเร็วข้าจะเร็ว คนอีกคนที่อยู่ด้านหลัง ผลักคนที่ข้าฟาดทวนใส่จนออกด้านข้าง
แล้วเขาก็ยกดาบเล่มหนึ่งมารับหอกไม้ข้า ก็เกิดเสียงกัมปนาทขึ้นราวกับเหล็กปะทะกับเหล็ก “เคร้ง!!!”
คนคนนั้นถอยหลังลากยาวไปตามพื้นทันที ข้าจับหอกไว้แน่น …. ฟากพวกเขาคิดจะทำอันตรายต่อเลทิเซีย…
แม้จะเป็นมนุษย์… ข้าก็จะ…. ฆ่า!
…….