การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 125

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 125 – ไพ่ตาย

เหนือฟากฟ้ามีแผ่นดินแผ่นหนึ่งวางอยู่.. มันใหญ่มากจนเหมือนกับเห็นทวีปหนึ่งตั้งอยู่บนท้องฟ้าเลยล่ะ

หากจะบอกว่ามันคนสร้างทวีปขึ้นมากลางท้องฟ้า นี่ก็คงไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย

แต่ยังดีที่สายตาของเลทิเซียก็ถูกเสริมให้รับรู้มากกว่าเดิม.. เพราะสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้านี้ มันใช่แผ่นดินอะไรที่ไหนกันล่ะ

แต่มีคือหนวดปลาหมึกที่มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่เกินกว่าอาณาจักรอาเดฟรวมกันสักสามสิบครั้งซะด้วยซ้ำ.. นี่เพียงแค่หนวดเดียวเท่านั้น!!

และภายใต้หนวดก็ยังมีปุ่มเนื้อของหนวดปลาหมึกที่มีขนาดใหญ่มากและสิ่งที่เราเห็นตรงนี้คือปุ่มเนื้อปุ่มเดียวของมันเท่านั้น

แค่ปุ่มเนื้อเล็กๆ บนหนวดอันเดียวยังมองหาจุดสิ้นสุดจากสายตาเปล่าไม่ได้ ไม่ต้องคิดให้มากความเลยว่า มันมีขนาดใหญ่แค่ไหน

แถมหนวดปลาหมึกนี่มันยังไม่สนแรงระเบิดของเลทิเซียแม้แต่นิดเดียว อันที่จริงเพราะว่าหนวดนี้มันกลายเป็นวัตถุที่ ‘แข็งแกร่ง’

เลยทำให้แรงระเบิดไม่สามารถสั่นคลอนมันได้ หากเงาร่างพร่าเลือนเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีเรือนกายที่แท้จริง แรงระเบิดนี้คงไม่มีผลกับเธอเช่นกัน

แรงระเบิดจะมีผลก็ต่อเมื่อวัตถุนั้นไม่ได้มีเวทมนตร์แข็งแกร่งจนต้านทานการแทรกซึมและสั่นสะเทือนทำให้โครงสร้างพังทลายได้นั่นแหละ

เสียงคำรามจากใต้ท้องทะเลดังขึ้นมา ท้องทะเลที่ไร้จุดสิ้นสุดนี้พลันสั่นสะท้านพร้อมเพรียงกันจนทำให้โลกโกลาหล

“ในที่สุด..ข้า.. หลุด.. ออกมาแล้ว..!”

เสียงคำรามนี้ดังสนั่นกว่าเงาร่างพร่าเลือนนั้นซะอีก ถ้าจะให้พูดคืออาจจะเพราะตัวมันใหญ่มากเกินไปนั่นแหละ

เสียงคำรามของมันดังสนั่นแปดทิศ ทสึรุสีหน้าเปลี่ยนสีรีบวิ่งมาหยุดอยู่ข้างๆ เลทิเซียทันที

อันที่จริงเสียงคำรามมันดังออกไปนอกมิติจำเพาะแห่งนี้ จนทำให้ผู้คนภายในชิ้นส่วนเวหาต่างพากันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

แม้แต่โลกด้านนอกยังสั่นสะเทือน รอยปริแตกของท้องฟ้ายิ่งฉีกกว้างพังทลายลงมากกว่าเดิมเลทิเซียปวดหัว

เธอรู้ว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้คือสิ่งที่แสงนั้นเคยพูดกับเธอไว้ มันถูกผนึกไว้ตั้งแต่โบราณ แน่นอนว่าสำหรับเลทิเซียที่เป็นคนระวัง

เธอไม่ต้องการที่จะจับเอาของสิ่งนี้แน่ๆ แต่มันก็พุ่งมาหาเธอ เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าดาบเล่มนี้คือดาบที่ผนึกหมึกยักษ์ตัวนี้ไว้

หาไม่แล้วเธอคงไม่มีทางจับมันแน่ๆ หรืออาจจะถึงขั้นเอาไปปักกลัวคืนที่เดิม แถมตอนนี้ตัวเองยังมีศึกพัวพันกับเงาร่างพร่าเลือนนี้อีก

เลทิเซียมองไปที่เงาร่างพร่าเลือนซึ่งตอนนี้กำลังหันมองแผ่นดินสีดำที่เป็นหนวดของหมึกยักษ์บนฟากฟ้า

แต่เหมือนเธอจะไม่หลงเหลือความทรงจำ ทำให้ไม่สนใจหนวดเลยแม้แต่น้อย แม้ตอนแรกดูเหมือนว่าจะสามารถดึงดูดเสี้ยวความคิดไปแล้วก็ตามที

แต่มันกลับหายไปในแทบจะเสี้ยววินาทีเดียว ร่างนั้นก็พุ่งดิ่งเข้าใส่เลทิเซียโดยไม่สนใจฟ้าดินอะไรทั้งสิ้น

แม้ร่างจะเริ่มพร่าเลือนลงไปแล้วก็ตาม อันที่จริงทุกครั้งที่ปะทะร่างของอีกฝ่ายก็พร่าเลือนลงเรื่อยๆ เพียงแต่ว่ามันน้อยมาก

ดังนั้นเลทิเซียจึงต้องโรมรันกับอีกฝ่ายเพื่อตรวจสอบดูว่าอีกฝ่ายอ่อนลงทุกการโจมตีที่ปะทะจริงหรือไม่

“เจ้า… เองก็ยังไม่ตายสินะ..”

แทบจะวินาทีเดียวที่เงาร่างพร่าเลือนพุ่งเข้ามา เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้งส่งผลให้น้ำสั่นสะเทือนและหนวดข้างบนก็ง้างขึ้นและตบลงมา

แม้ขนาดมันจะใหญ่แต่ความเร็วมันกับเร็วมา เป้าหมายมันคือเงาร่างพร่าเลือนแต่ว่า.. ขนาดมันใหญ่เกินไปต่อให้เลทิเซียหลบออกจากที่นี่ไปสักร้อยกิโลเมตร

ก็คงถูกตบตายไม่ต่างกัน แต่ว่าเงาร่างพร่าเลือนกับพริ้วไหวกว่า เพราะแทบจะทันทีมันก็ฉวยโอกาสแทงดาบใส่หัวใจเลทิเซีย

แต่ทสึรุเองก็อยู่ด้วย เธอใช้ปลายหอกหนานั้นฟาดใส่ดาบของอีกฝ่ายด้วยวิชาทวน แต่เพราะหอกไม่มีคมฟันเหมือนทวนจึงเป็นการกระแทก

เลทิเซียเองก็ตอบสนองผสานการโจมตีโดยไม่ต้องบอกกันเธอเบี่ยงตัวออกไปด้านขวาและฟันใส่ขาอีกฝ่ายจนเสียหลักในพริบตาต่อมา

หอกที่พึ่งตบใส่ดาบอีกฝ่ายจนหลุดจากวิถีก็ถูกดึงรั้งกลับมาอย่างผิดปกติราวกับไร้แรงเฉื่อยก่อนจะจ้วงแทงออกไปใส่หน้าอกเงาร่างที่เสียหลักก็โดนหอกปักเข้ากลางอกอย่างพอดีจนกลายเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่

เงาร่างของเธอพร่าเลือนลงอีกไปมากกว่าเดิมนัก แต่ทว่าเงาร่างพร่าเลือนนั่นก็จับหอกที่ปักอยู่กลางอก สีหน้าทสึรุเปลี่ยนสีเพราะดึงออกมาไม่ได้

ราวกับถูกคีมเหล็กหนีบไว้อยู่ และแทบจะวินาทีเดียว ร่างนั้นก็ดึงหอกออกจากอกและโยนขึ้นไปบนฟ้า

ทสึรุที่ว่าร่างกายสุดแกร่งก็หน้าเปลี่ยนสีถูกโยนขึ้นฟ้าไปตามหอกราวกับดาวตกสวนทางขึ้นฟ้า

และเงาร่างที่มีรูกลางอกซึ่งกำลังรักษารูกลางอกโดยแลกกับการที่เงาร่างของมันหม่นมัวลงกว่าเดิม ก็หันมาเตะใส่เอวเลทิเซียด้วยความเร็วเหนือกว่า

แต่เลทิเซียคำนวณการตอบกลับเช่นนี้ไว้แล้วจึงยกคมดาบตั้งฉากใส่เท้าอีกฝ่ายที่เตะมา ก็พลันถูกแยกจนขาดครึ่งทันที

แต่ก็ยังเหลือแรงปะทะ เลทิเซียถูกซัดกระเด็นปลิวทันที… แต่ในตอนนั้นเองเสียงทสึรุพลันดังขึ้น

“เลทิเซีย!!”

ทสึรุมองไปยังเลทิเซียด้วยความเป็นห่วง แต่พอเลทิเซียหันหน้ากลับไปก็พบว่าด้านหลังทสึรุมีแผ่นดินใหญ่ตบลงมาเกือบจะถูกร่างทสึรุแล้ว

“ไม่!!! ทสึรุหลบ!”

เลทิเซียตะโกนก้องและรีบดีดตัวพุ่งขึ้นไปหาทสึรุ ทำให้ทสึรุหันกลับไปด้านหลังพบว่าร่างตัวเองกำลังจะพุ่งปะทะเข้ากับแผ่นดินบนฟ้าแล้ว

แต่เพราะถูกเหวี่ยงขึ้นมา ทำให้ไม่มีแรงต้านทานใดๆ เธอเชื่อว่าด้วยความเร็วที่หมึกยักษ์ตบลงมาเธอต้องแตกสลายในชั่วพริบตาแน่

เลทิเซียเข้าใจถึงจุดนี้จึงพุ่งขึ้นไปหาทสึรุอย่างร้อนรน แม้จะใช้เวลาต่อสู้กันหลายท่าไปแล้วก็ตาม แต่มันเกิดขึ้นเร็วกว่าคนธรรมดาจะมองเห็นหลายเท่าเช่นกัน

ดังนั้นแทบจะชั่วพริบตาที่เลทิเซียพุ่งขึ้นไป เงาร่างพร่าเลือนก็พุ่งเข้ามาปะทะกับเลทิเซียจังๆ “ปัง!!!”

ร่างเลทิเซียก็ถูกผลักตกลงบนพื้น กระอักเลือดออกมาคำโต แต่ทว่าสภาพของเธอในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากปีศาจมากนักเพราะเธอไม่สนใจว่าบาดแผลจะฟื้นหรือยัง

เพราะทันทีที่กระแทกพื้นเจ้าตัวก็ดีดตัวขึ้นเสริมพลังอีกนับสิบเท่าจนผิวหนังทั่วร่างฉีกขาดกัน ความเจ็บปวดที่เหนือคำบรรยายกัดแทะผิวหนังเธอ

แทบเป็นความเจ็บปวดทางร่างกายที่ทรมานที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลย แม้ก่อนหน้าจะถูกเป่าหัวกระจุยแต่เพราะว่าประสาทรับรู้มันพังไปพร้อมกัน

ทำให้เลทิเซียยังไม่เจ็บเลยด้วยซ้ำ … ตรงกันข้ามกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง!

แต่เหมือนเงาร่างนั้นจะไม่ยอมแพ้พุ่งดิ่งลงมา เลทิเซียตอนนี้ไม่สนฝนสนฟ้า เพราะเธอไม่ต้องการเห็นคนที่มอบความอบอุ่นให้ต้องจบชีวิตลงที่นี่

เธอไม่อยากเจ็บปวด ไม่อยากโดดเดี่ยว ไม่อยากถูกทิ้งและไม่อยากทรมาน ดังนั้นเมื่อเงาร่างพร่าเลือนมาบดบังสายตาเลทิเซียจากร่างทสึรุ

เหมือนเห็นม่านตาสีดำได้รางๆ และพลังเวทที่แข็งแกร่งก็ระเบิดออก.. ด้านนอกชิ้นส่วนเวหาเองก็มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปฉับพลัน

แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงนี่เกิดขึ้นรวดเร็วและหายไปทันทีทำให้ไม่มีใครสัมผัสถึง และภายใต้เสียงคำรามลั่นของเลทิเซีย

“ไสหัวไป!!!”

มือมองไม่เห็นก็พุ่งมาจากทุกทิศทางจับเอาร่างของเงาพร่าเลือนสะบัดออกปลิวไปจนหายลับไปจากสายตาแทบจะทันที

ก่อนที่มือที่มองไม่เห็นนั้นจะพุ่งขึ้นไปจับคว้าเอาร่างทสึรุดิ่งลงมาหาเลทิเซีย แต่วิกฤตยังไม่หมัดเพราะหนวดนั้นเหยียบย่างเข้ามาเยือนถึงที่แล้ว!

ตอนนี้ความเป็นห่วงของเลทิเซียหายไปแล้ว ดังนั้นจึงยกมือขึ้น….ก่อนที่บนนิ้วทั้งห้าจะมีเงาเหมือนเส้นเอ็นปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน

และแทบจะวินาทีเดียวกัน ทั่วทั้งเกาะก็มีเส้นเอ็นที่เหมือนจะไม่ใช่เส้นเอ็นปรากฏขึ้นราวกับว่าทั่วทุกพื้นที่ได้ถูกปกคลุมด้วยของเหล่านี้

และพอหนวดนั่นตบลงมาก็ถูกของเหล่านี้ตัดทะลวง ยังไม่พอเอ็นเหล่านี้พอเจอกับหนวดที่มีพลังเวทอยู่ภายในซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะของทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้

เอ็นก็พุ่งทะลวงผ่านหนวดของหมึกราวกับต้องการจะตัดแยกอนุภาคเวทมนตร์ทุกส่วนให้กระจายออกจากกัน..

จนพริบตาต่อมาหนวดที่อยู่เหนือเกาะก็กลายเป็นรูโบ๋เผยให้เห็นท้องฟ้าเบื้องบน… นี่ต่างหากล่ะ.. คือไพ่ตายของเลทิเซีย

ไพ่ตายที่แท้จริงของเธอ

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท