บทที่ 151 – คำสารภาพของพี่น้อง
บนหอนาฬิกาในตอนเย็นของวันหนึ่งมีคนยืนอยู่บนนั้นสองคน ทั้งสองดูอายุไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
แม้คนหนึ่งจะมีผมสีขาวแต่คนหนึ่งก็มีผมสีดำสนิท แม้ยากจะเชื่อแต่ทั้งสองคือพี่น้องกัน เพียงแต่เป็นพี่น้องที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน
แน่นอนว่าทั้งสองคนนี้คือเลวิเนียกับเลทิเซีย เลทิเซียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลวิเนียตอนนี้มีท่าทางที่แตกต่างไปจากปกติซึ่งเลวิเนียเห็นก็ทราบทันที
แต่ว่าเลทิเซียเองก็เหมือนจะมีท่าทีกังวลไม่ต่างกันมาก ดูเหมือนว่าแม้แต่สิ่งนั้นที่ควบคุมร่างเลทิเซียอยู่ก็ยังได้รับอิทธิพลจากความหวั่นไหวจองเลทิเซีย
เกรงว่าหากเจ้าตัวมาเองคงได้แต่วิ่งหนีเลยแหละ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะมีลมหนาวเสียงหวีดหวิวพัดมา
“เอ่อ.. คือ!”
“เอ่อคือ..”
ทั้งสองพูดพร้อมกันแบบไม่ทันคาดคิดจนทำให้สะดุ้ง เลวิเนียรีบพูดทันทีว่า
“ท่านพี่พูดก่อนเลย..”
“ไม่.. เจ้าพู—”
ขณะที่เลทิเซียกำลังจะตอบโต้แต่ก็ต้องหยุดชะงัก ไม่ได้ๆ เลทิเซียลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองมาเพื่อแก้ปัญหา
ถ้าหากโยนไปโยนมาจะไม่จบไม่สิ้นเอา เธอสูดลมหายใจเบาๆ ครั้งหนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้น ดวงตาเคร่งขรึมต่างจากเลทิเซียตอนปกติ
“ข้าพูดก่อนก็ได้.. เลวี่ สำหรับข้าแล้วเจ้าน่ะ…”
“พวกเราไม่ใช่พี่น้องกัน. สิ่งที่ท่านพี่จะบอกคือสิ่งนี้ใช่ไหม?”
“….?”
ก่อนที่เลทิเซียจะได้พูดจบเลวิเนียก็พูดขึ้นทำให้เลทิเซียงงงวยไปพักหนึ่ง แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรทสึรุก็รีบพูดขึ้น
“แต่ว่านั่นยังไม่ใช่เรื่องที่แน่นอนสักหน่อย! ข้าจะต้องสืบหาความจริงให้ได้..เพราะงั้น..ได้โปรดอย่าทองข้ามข้าเลยนะ…”
“….”
“ข้าน่ะ.. ตลอดมา.. ตลอดมาเดินตามท่านพี่มาตลอด ท่านพี่คือคนที่ข้าชื่นชมและนับถือมากที่สุด สำหรับข้าแล้วท่านพี่คือคนที่สำคัญที่สุด หากโดนท่านพี่เมินใส่แบบนั้น… ข้า.. ข้าคง…”
“….”
ดวงตาของเลทิเซียมองไปที่เลวิเนีย สีหน้าที่เจ็บปวดของเลวิเนียนั้นทำเอาเลทิเซียรู้สึกเจ็บปวด
เธอกลัว กลัวที่จะหายไปจากสายตาของพี่สาวหากพูดความจริงออกไป เธอจึงไม่กล้าที่จะได้รับคำตอบ
ภายในห้วงลึกของดวงตาของเลทิเซียจ้องไปยังเลวิเนียทำกำลังพูดอยู่เบื้องหน้า อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นคนที่ขี้กลัวกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา
เธอเลยสัมผัสได้ถึงความกลัวของน้องสาวคนนี้ เธอกลัวว่าคนที่สว่างไสวตรงหน้าที่เดินตามมาตลอดจะหายไป
หากเธอพูดความจริงออกไป…เลทิเซียนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เธอน่ะต้องการอะไรกันแน่… เลวิเนียไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริง?
เรื่องนั้นเธอรู้อยู่แล้วแต่แรกไม่ใช่เหรอ แต่ทั้งที่รู้ก็ยังคงคิดว่าเธอเป็นน้องสาวที่ต้องปกป้องไม่ใช่เหรอ
เธอไม่ได้เป็นเด็กทั่วไป เพราะทันทีที่เธอตื่นขึ้นมาบนโลกนี้เธอก็มีสำนึกจิตใจในตัวตั้งแต่แรก ใช่แล้วเพราะเลทิเซียคือผู้เกิดใหม่จากต่างโลก
และเธอถูกแม่ของเลวิเนียเก็บมาเลี้ยงเพียงเท่านั้น เธอทราบเรื่องนั้นดีดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่พี่น้องกับเลวิเนียตั้งแต่แรก
ใช่ เธออาจจะกำลังหลอกตัวเอง.. หลอกคนอื่น หลอกทุกคนอยู่เพื่อให้ตัวเองสบายใจ แต่ว่าตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมามันไม่ได้โกหก
เธอเต็มใจที่จะอยู่เคียงข้างเลวิเนียในฐานะพี่สาวของเลวิเนีย ตอนนี้ที่เลทิเซียกลัวนะมีเพียงคำพูดและท่าทางที่ดูห่างเหินของเลวิเนียไม่ใช่เหรอ
ส่วนเหตุผลที่ว่าพอมีทสึรุแล้วจึงเลือกทิ้งไปนั้นเธอก็แค่รู้สึกแดกดันตัวเองเท่านั้น สิ่งที่เธอกลัวมีเพียง.. การถูกน้องสาวปฏิเสธ
แต่ตอนนี้เธอกำลังเห็นน้องสาวกลัวที่จะถูกเธอปฏิเสธ..
“เธอเอง… ก็กลัวสินะ…”
“..ข้า.. กลัว.. กลัว…ท่านพี่จะรังเกียจข้า… ข้า…”
มือของเลทิเซียสั่นเบาๆ เธออาจจะกำลังเข้าใจผิด ตอนนี้.. เธออาจจะกำลังเข้าใจผิดโลกใบนี้อยู่ก็ได้
ไม่สิ.. อย่างน้อยๆ เธอก็กำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวของเลวิเนียอย่างแน่นอน เลวิเนียก็กลัวเหมือนกับเธอ
เธอก็กลัวเหมือนกับเลวิเนีย.. ใช่ เธอลืมไปได้ยังไงตั้งแต่โลกเดิมแล้ว ลูเซียก็ชอบบอกบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอไงว่า…
“ถ้ามีอะไรต้องพูดออกมา.. ฉันเป็นน้องสาวสุดน่ารักของพี่เชียวนะ อย่ามองแค่พี่เอลน่าคนเดียวจะได้ไหม” น่ะ…
ยังไม่ได้พูดคุยยังไม่ได้อธิบายกันเลยไม่ใช่เหรอ.. เลทิเซียดวงตาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเป็นดวงตาที่สดใสเหมือนเดิมแต่กลัยเต็มไปด้วยความอ่อนต่อโลก
ก่อนที่ดวงตาที่แปลกจากเลทิเซียปกติจะหายไปเธอได้ทิ้งท้ายไว้เบาๆ ว่า
“อะไรกัน… ไม่ต้องให้ข้าช่วยเลยไม่ใช่หรือไง..”
“ฉันขอโทษ…”
เลทิเซียพูดขึ้นมาเบาๆ ขอโทษที่ทำแบบนั้นใส่ ขอโทษที่ไม่พูดสิ่งที่คิดออกไป ขอโทษที่ตีตัวออกห่าง…
พอได้ยินคำพูดของเลทิเซีย เลวิเนียก็รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอเธอถอยหลังไปก้มหน้าลงน้ำตาไหลออกมาจากแก้มไม่หยุด
แต่เธอก็ยังคงส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึก
“ท่านพี่ไม่ได้ผิดอะไร คนที่ผิดคือข้า.. ข้าผิดตั้งแต่เกิดมาแล้วล่ะ.. ข้าน่ะ.. ข้าน่ะ…”
“เธอไม่ได้ผิดอะไรหรอก”
สายตาของเลทิเซียจ้องไปที่เลวิเนีย.. มันราวกับสะท้อนให้เห็นภาพความเจ็บปวดของน้องสาวในอดีต
ภาพที่ลูเซียร้องไห้อยู่ต่อหน้าเขาและมองไปที่เธอ..มันอาจจะไม่เหมือนกันแต่มันก็คงไม่ต่างกันมาก
เป็นอีกครั้งที่เธอมองข้ามน้องสาว และคิดถึงแต่ตัวเอง.. อันที่จริงหากเลทิเซียไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเธอคงไม่รู้จะปฏิบัติยังไง
เพราะในหัวใจของเธอตอนนี้มีเพียงความเจ็บปวด.. สิ่งที่เธอทำคงมีเพียงหลบหนี.. แต่ว่าความเจ็บปวดนี้กลับไม่ได้ไร้ทางบรรเทา
คนที่สอนเรื่องนี้คือทสึรุ เลทิเซียมองข้ามเลวิเนียไป ไม่ว่าจะเป็นตอนที่กลัวที่จะมองหน้ากับเลวิเนียจนเผลอทำเรื่องแบบนั้นลงไป
แต่ในเวลาต่อมามันก็ราวกับมีคนมาตบหน้าเธอด้วยคำพูดที่บอกว่า ‘ได้ของเก่าและทิ้งของใหม่’ เธอจึงปฏิเสธสิ่งนั้น
แต่มันก็แทรกเข้าไปในจิตใจของเธอและฝังลึกไปโดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะถูกคนที่เหมือนน้องสาวในชาติก่อนมาทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น
ตัวเธอที่ไม่คู่ควรมีชีวิตอยู่.. เธอคิดแบบนั้นแต่เพราะคิดแบบนั้นน้องสาวลูเซียจึงได้เจ็บปวด..เธอรู้สึกขัดแย้งและหวาดกลัวต่อความจริง
ความคิดมากมายที่ถาโถมเข้ามามันทำให้เธอทรมานเจียนตาย แต่เธอก็ยังคงต้องยืนหยัดขึ้นมาบนโลกใบนี้.. เธอจะไม่เป็นคนขี้แพ้อีก
ไม่อีกแล้ว.. แต่ความเครียดสะสมภายในก็ถูกระเบิดออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ใส่ชาร์ล็อต มันถูกระบายออกมาผ่านการกระทำและคำพูด
เธอแค่กลัวเท่านั้น เธอแค่กลัวคนบนโลกนี้ทุกคนคิดร้ายกับตัวเองและเธอก็ดำเนินชีวิตโดยเชื่อแบบนั้นตลอดมา แน่นอนว่ามีทสึรุกับเลวิเนียที่ไม่ใช่
แต่ในตอนนั้นเธอกับเลวิเนียทะเลาะกันอยู่นี่.. แถมเรื่องแบบนี้ใครมันจะไปปรึกษาทสึรุที่เป็นเหมือนคนที่ทำให้เลวิเนียออกไปจากสายตาเลทิเซีย
เธอจะไปบอกแบบนั้นกับทสึรุได้ยังไง ในตอนนั้นสำหรับเธอโลกคงมืดสนิท.. อยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิต พอชาร์ล็อตพูดขึ้นเธอถึงได้ระเบิดออกมา
มันควบคุมไม่ได้มันหยุดอารมณ์ไม่อยู่มีเพียงความโกรธที่อยากจะหายๆ ไปซะให้หมด ทุกๆ อย่างมันบัดซบไปหมดทั้งโลกทั้งชีวิต…
แต่แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาจากความโกรธที่ถูกอารมณ์ครอบงำ สายตาของชาร์ล็อตที่มองมานั้นมีเพียงความกลัว..กลัวราวกับเห็นเธอเป็นปีศาจร้าย
เธอเข้าใจสายตานั้นดี.. โลกใบนี้ที่มืดมิดของเธอนั้นจึงแทบเปลี่ยนเป็นโลกที่ซึ่งไม่มีที่ที่สำหรับเธออีกแล้ว.. มันไม่มีใครต้องการเธอที่พอถูกทุกอย่างรุมเร้า
ก็ระเบิดอารมณ์ออกมาจนแทบฆ่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนๆ ทั้งๆ ที่ชาร์ล็อตซึ่งไม่ใช่อันน่าเกือบตายไปด้วย (ในสายตาของเลทิเซียชาร์ล็อตคือส่วนดีอันน่าคือส่วนร้าย)
เธอจึงปล่อยวางทุกอย่าง โยนทุกอย่างลงข้างๆ แล้วปล่อยให้คนอื่นจัดการ ยังไงซะโลกใบนี้ก็คงไม่มีใครต้องการเธอ
หากทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้เป็นละครในทีวีหรือเนื้อเรื่องในเกมที่เลทิเซียรู้จัก เธอเองก็คงเกลียดตัวละครตัวนี้เช่นกัน
บางทีอาจจะรู้สึกถึงขั้นอยากให้หายๆ ไปซะ… ไอ้ตัวตนที่เอาแต่ใจใช้อารมณ์นี้ เธอจึงตอบกลับความต้องการนั้นออกไปว่า เธอสมควรที่จะหายไปซะ…
…………